เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 737 เกิดจิตสังหาร + ตอนที่ 738 ขอความช่วยเหลือที่สำนักศึกษา
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 737 เกิดจิตสังหาร + ตอนที่ 738 ขอความช่วยเหลือที่สำนักศึกษา
ตอนที่ 737 เกิดจิตสังหาร + ตอนที่ 738 ขอความช่วยเหลือที่สำนักศึกษา
ตอนที่ 737 เกิดจิตสังหาร
เลือดพลันไหลทะลักจากลำคอ ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นเบิกตาพลางเตะเท้า ร่างกายแข็งทื่อ คอหักไปข้างๆ และสิ้นลมหายใจไป
ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังโดนเฟิ่งจิ่วปาดคออย่างเงียบเชียบเช่นนี้ โดยไม่ส่งเสียงเคลื่อนไหวสักนิด
เธอหยิบแหวนมิติบนมือเขาไปอย่างรวดเร็ว ขยับมือโปรยพวกผงยาลงบนศพนั้น อาศัยตอนที่กลิ่นคาวเลือดยังไม่ถูกลมพัดไปไกลถอยกลับโดยเร็ว แล้วเข้าไปซ่อนภายในป่าทึบอีกครั้ง
ไม่นานนักผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังอีกคนที่ออกตามหาในพื้นที่นี้ก็ไล่ตามกลิ่นคาวเลือดมา ย่อลงตรวจดูเพื่อนที่ถูกฆ่า เห็นทั้งร่างมีเพียงบาดแผลปลิดชีพตรงคอ หนำซ้ำแหวนมิติบนมือยังถูกเก็บไป
ทันใดนั้นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณในทิศทางนี้ก็เข้ามา ครั้นเห็นคนที่ตายไปบนพื้น แววตาก็หรี่ลงเล็กน้อย เอ่ยถามด้วยเสียงทุ้มเข้มว่า “เขาตายได้อย่างไร?”
“ปลิดชีพในหนึ่งมีด คมมีดปาดขึ้น เฟิ่งจิ่วคนนั้นคงโถมตัวลงมาจากบนต้นไม้ อาศัยตอนที่คนของเราไม่ได้เตรียมตัวปาด…”
ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นยังเอ่ยไม่ทันจบก็เห็นสีหน้าเปลี่ยนไป มุมปากมีเลือดไหล แทบไม่มีแม้แต่เวลาจะตอบโต้ ก่อนล้มลงไปทั้งตัว
ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นเห็นเช่นนี้ ม่านตาก็หดลงเล็กน้อยพลางก้าวถอยหลังไป ฝ่ามือใต้แขนเสื้อกำขึ้นแน่น “เจ้าเฟิ่งจิ่ว!”
ยังไม่ทันเห็นร่างนางก็เสียผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังไปสองคนแล้ว มิน่าเบื้องบนถึงส่งผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณเช่นพวกเขาสี่คนมา ใช่ หากเป็นคนทั่วไปจะอยู่ในสายตาท่านผู้นั้นได้อย่างไร?
นึกถึงตรงนี้เขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆ น้ำเสียงชั่วร้ายเปล่งออกจากปากพร้อมด้วยกลิ่นอายพลังวิญญาณ “ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังตายไปสองคน ทุกคนต้องระวังตัวมากขึ้น จับกลุ่มสองคนอย่าเดินไปลำพัง ระวังนางจะใช้ยาพิษ!”
เสียงเขากระเพื่อมไปกลางอากาศดุจลายน้ำ แรงกดดันกับกลิ่นอายพลังวิญญาณผู้แข็งแกร่งกระจายไปอย่างเด่นชัด กึกก้องอยู่ภายในป่าทึบแห่งนี้ทีละรอบๆ เพื่อเตือนให้คนอื่นที่นี่ระวังตัวมากขึ้น
ทว่าแม้มีคำเตือนจากผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณ ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังบางคนยังไม่ค่อยเชื่อนัก ถึงอย่างไรเฟิ่งจิ่วก็เป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับยอดปรมาจารย์พลังวิญญาณ จะสังหารผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังได้อย่างไร? ตามความคิดพวกเขา สองคนนั้นคงประมาทเกินไปถึงทำให้เฟิ่งจิ่วมีโอกาสได้
แม้ในใจไม่ค่อยเชื่อเท่าไร แต่คนที่อยู่พื้นทีเดียวกันก็ยังคงรีบมาอยู่ด้วยกัน สองผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังจึงรวมกันกลายเป็นกลุ่มเล็กๆ เข้าไปตามหา
ภายในป่าแห่งนี้ เฟิ่งจิ่วที่ได้ยินคำพูดที่ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณคนนั้นกล่าวไปเช่นกัน ยามนี้สายตากำลังเพ่งเล็งผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังที่อยู่ลำพัง
เธอพุ่งไปจากด้านหลังอย่างไร้เสียง ขณะที่เตรียมตัวจะมือ ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นที่ดูเหมือนสัมผัสไม่ได้กลับหันมาทันที ในเวลาเดียวกัน ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังอีกคนก็ปรากฏตัวจากมุมมืด สองคนล้อมเฟิ่งจิ่วไว้ทั้งหน้าหลัง
“ข้าขอดูสิว่าครั้งนี้เจ้าจะหนีไปไหน!”
แววตาเฟิ่งจิ่วสั่นไหว คิ้วเลิกขึ้นเบาๆ “หนี? ข้าไม่ได้คิดหนีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว! สิ่งที่ข้าต้องการคือชีวิตพวกเจ้า!” กริชในมือเธอถูกเก็บไป กระบี่คมพยับที่ไม่ได้เห็นเลือดมานานปรากฏในมือ
เมื่อกระบี่คมพยับปรากฏ ไอสังหารกระหายเลือดก็ทะลักออกมาจากตัวกระบี่ พลังกระบี่ที่ไหลพล่านบนตัวกระบี่พร้อมด้วยประกายสีดำเย็นเยียบ พลันแปรเปลี่ยนเป็นกลิ่นอายกลางอากาศ
ไอหนาวกระจายออกไป ไอสังหารเอ่อล้นพุ่งพล่าน ร่างสีแดงพุ่งไปทันทีโดยไม่ให้โอกาสผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสองคนนั้นตะลึงและได้สติกลับมา ท่วงท่าราวภูตผีพร้อมไอสังหารดุดันโจมตีไปทางผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนหนึ่งในนั้นด้วยความเร็วปานสายฟ้า…
………………………………………………….
ตอนที่ 738 ขอความช่วยเหลือที่สำนักศึกษา
“คมพยับ กระบี่เทวะในตำนาน!”
สองผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังเห็นกระบี่เล่มนั้น ดวงตาเอ่อล้นด้วยความบ้าคลั่ง ความคิดบ้าๆ ที่อยากจะครอบครองมันไว้เสียเองทำให้พวกเขายกกระบี่ขึ้นรับทันควัน จะอาศัยตอนที่พวกผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณยังไม่มาถึงชิงกระบี่เล่มนี้มาจากมือนางซะ เช่นนั้นกระบี่ก็เป็นของพวกเขาแล้ว!
แรงกดดันผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังทั้งหมดแผ่ออกมาในชั่วครู่ บนร่างทั้งสองพลันมีกระแสลมพลังวิญญาณสูงสิบจั้งก่อตัว ใบไม้ร่วงในป่าถูกกระแสลมนั้นม้วนขึ้นมา ฝุ่นผงปลิวไปทั่วท้องฟ้าท่ามกลางกระแสลมหมุน
เฟิ่งจิ่วไม่ได้สนใจคนที่จู่โจมมาด้านหลัง ยามนี้แค่อยากฟันฆ่าไปสักคนหนึ่งก่อนแล้วค่อยสู้กับอีกคน ด้วยเหตุนี้ขณะที่คนด้านหลังปล่อยแรงกดดันระดับหลอมแก่นพลังโจมตีมา กลิ่นอายพลังวิญญาณบนร่างก็ไหลเวียนขึ้นมาโดยเร็ว
คมพยับในมือเปล่งประกายสีดำ พลังกระบี่ที่พุ่งพล่านด้วยเสียงโหยหวนรวบกระแสลมรอบๆ เข้าสู่ตัวกระบี่ กระบี่คมพยับในมือเธอยกขึ้นตัดไปข้างหน้าอย่างโหดเหี้ยมพร้อมกับไอสังหารดุร้ายกระหายเลือด เวลานี้คมพยับเหมือนจะขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่าในทันที แค่ตัดลงไปก็ฟันกระบี่ในมือของผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นหักเสียดื้อๆ
“แกร๊ง!”
เสียงคมกระบี่แตกหักดังกังวานกลางกระแสลม สองตาของผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นเบิกกว้างอย่างตื่นตกใจ ขณะที่ก้าวเท้าถอยหลังไปด้วยความรวดเร็ว กลับเห็นกระบี่เล่มนั้นฟันตรงลงมาจากเหนือศีรษะเขาราวกับตกจากฟากฟ้า ลมหายใจเขาหยุดนิ่งเพียงกรีดร้องได้ทัน
“อ๊าก!”
“อั่ก! ฟิ้ว!”
เมื่อคมพยับตัดลงไปก็ฟันผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นออกเป็นสองซีกเสียดื้อๆ ขณะที่ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังแหลกสลายยังโดนระเบิดออกจนเลือดกระเซ็นลงพื้น แต่เฟิ่งจิ่วไม่ได้หยุดมือ หลังจากกระบี่คมพยับฟันสังหารผู้ฝึกตนเบื้องหน้า มือยังหมุนคมพยับกวาดกลับไปยังคนที่โจมตีมาด้านหลัง
“วูบ! ฟิ้ว!”
พลังกระบี่มหาศาลกวาดผ่านไป กลืนกินกระแสลมที่จู่โจมมาจากกระบี่คมในมือเขา สองกระแสลมปะทะเข้าหากัน พลังที่อ่อนแอถูกกลืนกินพลังที่แข็งแกร่งยังคงอยู่! ยืนไปไม่ทันไรเขาก็ถูกฟันเข้ากลางเอวในทันที และตัดผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังที่ไม่ทันตอบโต้กลับมาออกเป็นสองส่วน!
“ฟิ้ว!”
ไม่ได้อุทานหรือกรีดร้อง หลังจากเลือดกระเซ็นออกมามีเพียงร่างครึ่งบนที่กระเด็นไปไกลมากกว่าสามจั้ง ก่อนจะกลิ้งหล่นลงพื้นสาดเลือดไปทั่ว เฟิ่งจิ่วหยิบแหวนมิติบนตัวเขามา จากนั้นวิ่งหนีไปที่อื่นอย่างรวดเร็วโดยไม่คิดจะหยุดอยู่ต่อ…
เมื่อผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณละแวกใกล้ๆ มาถึง และเห็นภาพที่ทั้งนองเลือดทารุณ สองมือก็กำหมัดพลางแหงนหน้าคำรามอย่างเกรี้ยวกราด “เฟิ่งจิ่ว! กล้าก็ออกมาสิ! ออกมา! ออกมาซะ!”
“ตู้มๆๆ…”
คำว่าออกมาทั้งสามเสียงยิ่งดังขึ้นแต่ละเสียง แรงกดดันทรงพลังก็บีบคั้นออกไป ระหว่างที่กระแสลมพุ่งทะยานขึ้นมายังส่งเสียงดังสนั่นไปรอบๆ เขา ทั้งผืนป่าทึบถูกสะเทือนจนสั่นไหวเล็กน้อย
ขณะเดียวกันนี้ เยี่ยจิงที่เร่งร้อนกลับสำนักศึกษามาขอความช่วยเหลือร่นเวลาที่เดิมต้องใช้หนึ่งชั่วยามถึงจะบินกลับถึงสำนักศึกษา เหลือแค่ประมาณครึ่งชั่วยามก็กลับไปถึงแล้ว นางที่มาถึงประตูด้านข้างสำนักพลังวิญญาณ ทั่วร่างเหงื่อออกเปียกชุ่ม หอบหายใจไม่หยุด
เพื่อซื้อเวลาให้มากโดยเร็วที่สุด นางใช้พลังวิญญาณฝืนเร่งความเร็วพาหนะเหาะเหิน เพียงเพื่อจะเร่งกลับมาเร็วหน่อยให้เฟิ่งจิ่วมีโอกาสรอดมากขึ้น
“เยี่ยจิง? เจ้าเป็นอะไรไป?” อาจารย์หลี่ว์ผ่านทางมาพอดี เห็นท่าทางนางใช้พลังวิญญาณมากเกินไปและหอบหายใจไม่หยุดก็ตกใจยิ่ง จึงรีบเร่งเข้าไปประคองนางไว้
“ฟะ เฟิ่งจิ่วกำลังลำบาก ระ รีบพาข้าไปพบเจ้าสำนัก…เร็วเจ้าค่ะ!”
เยี่ยจิงเกาะแขนอาจารย์หลี่ว์ไว้เพื่อประคองสองขาที่อ่อนแรง นางที่ในใจทั้งหวาดกลัวและกังวลร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่ไหว กลัวว่าตนเองขอความช่วยเหลือช้าไป กลับไปจะเห็นแค่ศพเฟิ่งจิ่ว…
………………………………………………….