เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 755 กลับสำนักศึกษา + ตอนที่ 756 คนคนนั้นคือนาง
ตอนที่ 755 กลับสำนักศึกษา + ตอนที่ 756 คนคนนั้นคือนาง
ตอนที่ 755 กลับสำนักศึกษา
ประตูทางเข้าสำนักศึกษา เยี่ยจิงรออย่างกังวลอยู่ตรงนั้น เดิมจะตามไปกับพวกเจ้าสำนัก แต่หลังจากพวกเขาไปยังถนนใหญ่ในเมืองพร้อมกัน พวกชาวบ้านก็บอกว่าคนพวกนั้นมุ่งหน้าไปทางป่าทึบ
นางคิดจะตามไปทว่าถูกรองเจ้าสำนักสั่งให้กลับมา เพราะวรยุทธ์นางอ่อนแอที่สุดในหมู่ทุกคน กลัวว่าไปแล้วจะต้องดูแลนางอีก ด้วยเหตุนี้จึงได้แต่กลับมารอก่อนเพื่อไม่ให้เป็นตัวถ่วง
แต่กลับมารอที่นี่ตั้งนานเพียงนี้กลับยังคงไม่เห็นพวกเขากลับมา เวลายิ่งผ่านไปเนิ่นนาน ในใจนางยิ่งไม่สงบ
“ไม่รู้พวกเขาจะช่วยเฟิ่งจิ่วกลับมาได้หรือไม่ ภายใต้เงื้อมมือของผู้แข็งแกร่งพวกนั้น เฟิ่งจิ่วจะยื้อไว้จนพวกเจ้าสำนักไปถึงไหมนะ?”
นางกระซิบกระซาบพลางเดินกลับไปกลับไปมาอย่างไม่สงบใจ เงยหน้ามองไปยังท้องฟ้าฝั่งตะวันออกบ่อยครั้ง หวังว่าจะเห็นพวกเขาขี่กระบี่กลับมา ทว่ากระทั่งผ่านไปเนิ่นนานแล้วถึงจะเห็นบนท้องฟ้ามีร่างเหินกระบี่มา
นางดีใจทันที มองอย่างละเอียดก็เห็นเป็นคุณชายโม่เฉินท่านนั้น ส่วนคนที่เขาอุ้มไว้ในอ้อมแขนคือเฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงขาดวิ่น เส้นผมสีหมึกปล่อยสยาย
“เฟิ่งจิ่ว!”
นางขานเรียกด้วยความยินดี เห็นคุณชายโม่เฉินอุ้มเฟิ่งจิ่วร่อนกระบี่มุ่งตรงไปด้านในสำนักศึกษาโดยไม่คิดหยุด จึงหยิบพาหนะเหาะเหินออกมาและตามไปด้วยความรวดเร็วทันที
ด้านหลังนั้นเอง เนี่ยเถิงกับกวนสีหลิ่นสองคนตามมาติดๆ สายตาของสองคนจ้องโม่เฉินที่อุ้มเฟิ่งจิ่วไว้ เห็นเขาพาเฟิ่งจิ่วไปยอดเขาหลัก ก็ตามไปยอดเขาหลักด้วย
หลังจากวางเฟิ่งจิ่วไว้ห้องข้างๆ ห้องปีกของเขา โม่เฉินดูบาดแผลบนร่างนางคร่าวๆ เพราะบนร่างมีบาดแผลมากมาย จะถอดเสื้อผ้านางตรวจดูคงไม่ดีนัก ดังนั้นจึงถอยออกมา
“นี่เป็นยาทาแผล เจ้าเข้าไปช่วยนางทำแผลที” เขาบอกกับเยี่ยจิงที่ตามมาติดๆ ขณะเดียวกันก็ยื่นยาขวดหนึ่งให้
“ได้” เยี่ยจิงขานรับ หลังรับยามาก็เข้าไปข้างในโดยเร็ว
เนี่ยเถิงกับกวนสีหลิ่นสองคนก็ตามลงมาในเรือนเช่นกัน เห็นโม่เฉินนั่งอยู่ในลานบ้าน สองคนกำลังคิดจะเข้าไปดูเสียหน่อยก็ได้ยินเสียงเขาดังมา
“นักเรียนหญิงคนหนึ่งกำลังช่วยนางพันแผล”
ฝีเท้าชะงักลงเมื่อได้ยินเช่นนี้ นึกถึงว่าบนร่างนางมีบาดแผลเต็มไปหมดจึงไม่ได้เข้าไปด้วย แต่ถอยมาในลานบ้าน มองชายราวเทพจุติคนนั้นที่นั่งตรงโต๊ะหินโดยไม่พูดอะไร
เจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนักตามมาถึง สองคนก็นั่งลงในลานบ้านเช่นกัน ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม รอจนประตูเรือนเปิดออก เยี่ยจิงถึงจะเดินออกมาจากด้านใน
“เยี่ยจิง เสี่ยวจิ่วเป็นอย่างไรบ้าง?” กวนสีหลิ่นเข้าไปถาม
สายตาของคนอื่นๆ หยุดลงที่นาง
“ยังดีอยู่ บาดแผลตรงไหล่ค่อนข้างรุนแรง แต่พันแผลไว้แล้ว นางหลับไปสักพักก็ตื่นขึ้นมากินยาเอง จากนั้นค่อยหลับไป” เห็นว่าเฟิ่งจิ่วยังรอดชีวิตได้ นางก็รู้สึกดีใจมากแล้ว
ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ว่าใครจะมีชีวิตรอดได้ภายใต้การไล่ล่าของผู้แข็งแกร่งเช่นนั้น
“ข้าจะเข้าไปดูหน่อย”
กวนสีหลินเอ่ยขึ้น สาวก้าวจะเดินไปด้านใน ทว่าขณะกำลังจะผลักประตูเรือนออกก็หยุดฝีเท้าลง แล้วขมวดคิ้วมองเนี่ยเถิงที่ตามมาข้างๆ
“เจ้าจะตามมาทำไม?”
เนี่ยเถิงเหลือบมองเขา กล่าวเสียงเข้มว่า “หลบไป”
“หึ! หลบไป? เจ้าคิดจะเข้าไป? เจ้าเป็นใครกัน?” กวนสีหลิ่นหลุดหัวเราะ ขวางประตูไม่ให้เขาเข้าไป
เนี่ยเถิงได้ยินเช่นนี้ แววตาคร่ำเครียดเล็กน้อย พลังวิญญาณบนร่างพุ่งพล่าน ขณะจะลงไม้ลงมือก็ได้ยินเสียงของรองเจ้าสำนักลอยมา
“เอาละๆ พวกเจ้าสองคนอย่าสร้างปัญหาที่นี่เลย”
รองเจ้าสำนักเข้าขวางระหว่างสองคนไว้ ขมวดคิ้วว่า “หากนางรู้ว่าพวกเจ้าสู้กันที่นี่ นางจะพักฟื้นดีๆ ได้อย่างไร?”
………………………………………………….
ตอนที่ 756 คนคนนั้นคือนาง
ทั้งสองได้ยินเช่นนี้ถึงค่อยหยุดมือ
เจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนักมองหน้ากัน จากนั้นเดินไปด้านในด้วยฝีเท้าเบาๆ ด้านหลังมีโม่เฉินตามเข้าไปด้วย กวนสีหลิ่น เนี่ยเถิง รวมถึงเยี่ยจิงก็ตามเข้าไปเช่นกัน
ไม่นานพวกเขาก็ยืนล้อมรอบเตียง ส่วนเฟิ่งจิ่วบนเตียงหลับไปแล้ว แม้สีหน้าซีดเซียว แต่กลิ่นอายกลับไม่มีวี่แววว่าจะอ่อนแรงหรือปั่นป่วน ทำให้พวกเขาวางใจลงได้
เห็นนางไม่ได้เป็นถึงอันตรายถึงชีวิต พวกเขาถึงจะเดินออกไปพร้อมกัน
“ไม่เป็นไรก็ดี ที่นี่ยกให้พวกเขาไป ข้าจะไปดูพวกอาจารย์ที่บาดเจ็บเสียหน่อย” เจ้าสำนักกล่าวจบก็สาวก้าวเดินออกไป
เนี่ยเถิงชะงักพักหนึ่ง ก่อนจะเดินออกไปเช่นกัน
ส่วนกวนสีหลิ่นก็อยู่ต่อไม่ไปไหน บอกว่า “ข้าจะรอเฟิ่งจิ่วตื่น ยังต้องพานางกลับไปอาศรมอีก”
รองเจ้าสำนักมองพวกคนในเรือนแวบหนึ่ง กระแอมไอเบาๆ เอ่ยว่า “ข้าจะไปสั่งฝ่ายครัวต้มพวกข้าวต้มยาให้นางกิน แผลจะได้หายเร็วหน่อย” พูดจบก็จากไป
ภายในเขตเรือนเหลือเพียงกวนสีหลิ่นกับเยี่ยจิง รวมถึงโม่เฉิน สามคนไม่ได้พูดอะไรกัน บรรยากาศแปลกไปบ้างอย่างชัดเจน
ผ่านไปนาน เยี่ยจิงมองยังกวนสีหลิ่นพลางกล่าวว่า “บนตัวเจ้ามีแผล ข้าจะช่วยพันแผลให้แล้วกัน”
“ไม่เป็นไร แค่แผลถากๆ เท่านั้น”
เขาชำเลืองมองบาดแผลเล็กๆ บนแขนตนเองอย่างไม่ใส่ใจนัก ส่วนแผลภายในที่บาดเจ็บจากกระแสลม ระหว่างทางกลับมาเขากินยาอายุวัฒนะไปแล้ว ค่อยยังชั่วขึ้นมาเยอะ ด้วยเหตุนี้จึงไม่เป็นไร
เวลาประมาณช่วงเย็น เซียวอี้หานซึ่งช่วยพวกอาจารย์ที่บาดเจ็บพันแผลหลังจากกลับสำนักก็มาเยือน เห็นเทพจุติชุดขาวในเรือนนั่งไม่ขยับเขยื้อน จึงลากกวนสีหลิ่นมาข้างๆ แล้วกดเสียงถาม “เฟิ่งจิ่วรู้จักเขาหรือ?”
“ก็อาจจะกระมัง!” กวนสีหลิ่นบอก ตนเองก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโม่เฉินมากนัก
“ข้าได้ยินเจ้าสำนักบอกว่าเฟิ่งจิ่วไม่มีปัญหาใหญ่อะไร ถึงตอนนี้นางยังไม่ตื่นอีกหรือ?” เขามองประตูเรือนที่ปิดสนิทนั้นพลางถามไถ่
“เพิ่งตื่นมาไม่นาน เยี่ยจิงช่วยนางเปลี่ยนยาอยู่ด้านใน”
เขาได้ยินเช่นนี้ก็ยิ้มๆ เห็นบรรยากาศที่นี่ตึงเครียดไปบ้าง จึงบอกว่า “ในเมื่อไม่เป็นไร เช่นนั้นข้าจะกลับไปก่อน รอนางกลับถึงอาศรมข้าค่อยไปเยี่ยมนางอีกที”
กวนสีหลิ่นขานรับ หลังจากมองส่งเขาออกไปถึงดึงสายตากลับ แล้วมองยังโม่เฉินที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ ผ่านไปสักพักค่อยสะลายตา
ประตูเรือนถูกเปิดออก เยี่ยจิงเดินออกมาจากด้านใน “เฟิ่งจิ่วบอกว่าจะกลับไปพักฟื้นที่อาศรม”
กวนสีหลิ่นได้ยินเช่นนี้ก็หันกายเดินเข้าไป “ข้าจะพานางกลับไปเอง”
ตรงโต๊ะหิน โม่เฉินแววตาสั่นไหวเล็กน้อย แต่กลับไม่พูดอะไร เพียงนั่งไปเงียบๆ
ไม่นานนักกวนสีหลิ่นก็แบกเฟิ่งจิ่วเดินออกมา นางที่เปลี่ยนมาสวมชุดสำนักศึกษาขาดการขับเน้นของชุดสีแดง สีหน้าจึงยิ่งซีดเผือดอย่างชัดเจน ทว่ายังรู้สึกตัวอยู่
“ขอบคุณมาก”
เมื่อกวนสีหลิ่นแบกเธอเดินผ่านข้างกายโม่เฉิน ปากเธอเปล่งเสียงคำขอบคุณออกมา
เยี่ยจิงคอยประคองข้างๆ และออกไปพร้อมกับพวกเขา
รอจนพวกเขาออกไปแล้ว โม่เฉินถึงค่อยวางหนังสือในมือลง เงยหน้ามองไปแล้วครุ่นคิดเสียเนิ่นนาน
“เป็นนาง? คนที่เจ้าต้องตามหาคือนางหรือ”
เจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนักเดินเข้ามา มองคนที่นั่งอึ้งตกใจอยู่ตรงโต๊ะพลางเอ่ยปากถาม อันที่จริงในใจของทั้งสองต่างรู้แล้วว่าคนคนนั้นที่เขาต้องการตามหาคงเป็นเฟิ่งจิ่วนี่เอง
หากมองไปทั่วสำนักศึกษา มีเพียงนางที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้ และมีเพียงนางที่สามารถทำให้โม่เฉินผู้ไม่เคยเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตาเกิดจิตสังหาร สองมือเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดได้
โม่เฉินมองพวกเขา หลังผ่านไปนานก็เพียงบอกว่า “รอแผลนางหายดีแล้ว ข้าจะต้องกลับไป”
………………………………………………….