เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 817 ชดใช้ข้าด้วยยาทิพย์ + ตอนที่ 818 เสียใจไปก็ไม่มีประโยชน์
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 817 ชดใช้ข้าด้วยยาทิพย์ + ตอนที่ 818 เสียใจไปก็ไม่มีประโยชน์
ตอนที่ 817 ชดใช้ข้าด้วยยาทิพย์ + ตอนที่ 818 เสียใจไปก็ไม่มีประโยชน์
ตอนที่ 817 ชดใช้ข้าด้วยยาทิพย์
“ท่านเจ้าสำนัก ท่านดูข้าสิ ท่านดูข้า ตอนนี้เฟิ่งจิ่วทำร้ายข้าเช่นนี้ ท่านเจ้าสำนัก นี่เป็นยาอายุวัฒนะที่เขาหลอมกลั่น เขาต้องมีวิธีกลั่นยาแก้ออกมาได้แน่ๆ ท่านเจ้าสำนัก…” อาจารย์โอสถหวงก้าวไปตรงหน้าเจ้าสำนัก ดึงอีกฝ่ายไว้หวังว่าเขาจะสั่งให้เฟิ่งจิ่วกลั่นยาแก้
เจ้าสำนักถูกดึงเช่นนี้ ครั้นชำเลืองมองเรือนร่างที่คนไม่อาจมองตรงๆ นั้นอีก ผิวหน้าก็สั่นกระเพื่อมโดยพลัน เขาไอเบาๆ สะบัดแขนเหวี่ยงอีกฝ่ายออกไป จากนั้นมองเฟิ่งจิ่ว ยามกำลังจะเอ่ยปากก็ได้ยินเสียงของเฟิ่งจิ่วดังมา
“ท่านเจ้าสำนัก ท่านเป็นเจ้าสำนักศึกษาหมอกดารา ยาอายุวัฒนะเม็ดหนึ่งที่ข้ากลั่นออกมาอย่างยากเย็นถูกคนใต้อาณัติท่านกินไปแล้ว ท่านควรชดใช้ข้าด้วยยาทิพย์ใช่หรือไม่?” เฟิ่งจิ่วมองเขา หยีตายิ้มพลางเอ่ยถาม
เจ้าสำนักได้ยินเช่นนี้ก็ถลึงตา “ข้าเห็นว่าเจ้ายัดยานั่นใส่ปากเขา ทำไมกลับมาถามหายาทิพย์กับข้า?”
“นั่นเป็นยาอายุวัฒนะระดับห้า กลั่นจากยาทิพย์ล้ำค่าไม่ต่ำกว่าร้อยชนิด ระหว่างนี้เสียหายสิ้นเปลืองไปเท่าไรข้าจะไม่พูด กลั่นสำเร็จได้ไม่ง่าย อาจารย์โอสถใต้อาณัติท่านไม่เพียงหยิบจากมือข้าไปโดยไม่สนใจอะไร ซ้ำยังกำไว้แน่นไม่ให้ข้า ยาอายุวัฒนะเม็ดนั้นข้าว่าจะส่งให้คนอื่น ก็ไม่รู้ว่าหลังทำธุระส่วนตัวเขาล้างมือสะอาดหรือไม่ ถูกเขาแตะต้องเช่นนั้น ยาอายุวัฒนะข้าจะยังใช้ได้หรือ ไม่ให้เขาจะให้ใคร หรือว่าท่านเจ้าสำนักยังต้องการ?”
เธอเลิกคิ้วขึ้น คำพูดแฝงนัยหยอกล้อบางส่วน ทำเอาเจ้าสำนักโกรธจัดจนตาโตหนวดสะบัด
เมื่อมองสภาพอาจารย์โอสถที่ตอนนี้ไม่ใช่ทั้งชายทั้งหญิงอีกครั้ง เจ้าสำนักก็ตัวสั่น บอกว่า “เจ้าให้ยาแก้เขาไปซะ ขาดยาอะไรบ้าง? กลับไปจะให้รองเจ้าสำนักพาเจ้าไปหยิบ”
“เรื่องนี้ไม่มีทางแก้ขอรับ”
เฟิ่งจิ่วกางสองแขนออก “ข้ากลั่นยาแก้ไม่เป็น และกลั่นออกมาไม่ได้ด้วย เรื่องนี้ให้อาจารย์โอสถหวงไปศึกษาด้วยตนเองเสียหน่อย แล้วค่อยกลั่นยาแก้แล้วกัน! อย่างไรเสียความสนใจที่เขามีต่อยาอายุวัฒนะเม็ดนั้นก็ลึกซึ้งนัก เช่นนี้พอดีเลย ได้ทดสอบด้วยตัวเองแล้ว ไม่มีใครเข้าใจผลลัพธ์ของยาบำรุงโฉมเม็ดนี้ดีไปยิ่งกว่าเขา”
“เฟิ่งจิ่ว จะ เจ้าไม่กลัวถูกไล่ออกจากสำนักศึกษาหรือ!”
ยามนี้ในที่สุดอาจารย์โอสถหวงก็เกิดความหวาดหวั่น เห็นท่าทีเฟิ่งจิ่วคล้ายว่าจะไม่ยอมกลั่นยาแก้ให้จริงๆ ให้เขากลั่นยาแก้ด้วยตัวเองหรือ จะกลั่นออกมาได้หรือไร? แน่นอนว่าเขาไม่มีความมั่นใจที่จะทำสิ่งนี้
เฟิ่งจิ่วได้ยินคำพูดเขา แววตาก็เย็นชาเล็กน้อย แค่นเสียงหยันพลางยิ้มเย็น “เจ้าสำนัก นอกจากต้องชดใช้ข้าด้วยยาทิพย์ ข้าหวังว่าท่านเจ้าสำนักจะกำชับให้ข้าด้วย อาจารย์โอสถผู้ทรงเกียรติแย่งยาอายุวัฒนะข้าไป พฤติกรรมเช่นนี้หากไม่ลงโทษ อีกหน่อยข้าจะกล้ากลั่นยาที่นี่ได้อย่างไร? ครั้งหน้าจะมีใครโผล่มาฉวยยาอายุวัฒนะที่ข้าพากเพียรกลั่นอีกหรือไม่?”
นักเรียนโดยรอบได้ยินเช่นนี้ แต่ละคนก็พูดคุยกันเสียงเบา พร้อมชี้มือชี้ไม้ไปทางอาจารย์โอสถหวง คำพูดคำจาแฝงความดูแคลน
เจ้าสำนักเห็นดังนี้ก็ถอนหายใจกล่าว “อาจารย์โอสถหวง พฤติกรรมของเจ้าในวันนี้ขาดจรรยาบรรณครู ว่ากันตามเหตุผลเดิมทีควรไล่เจ้าออกจากสำนักศึกษา แต่นึกถึงว่าหลายปีมานี้เจ้าสร้างคุณงามความดีให้สำนักศึกษาไว้ไม่น้อย ยามนี้จึงจะปลดเจ้าจากตำแหน่งผู้ดูแลสำนักยาเซียน และลงโทษกักบริเวณเจ้าสามปี ไปศึกษาแก้ฤทธิ์ยาในร่างด้วยตนเองเสีย ไม่ต้องออกมาข้างนอก”
“ท่านเจ้าสำนัก…”
เขาเพียงรู้สึกว่าท้องฟ้าพลันทลายลงมาในพริบตา ทั้งร่างทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างอ่อนปวกเปียก หากรู้ตั้งแต่แรก รู้ตั้งแต่แรกเขาคงไม่เกิดความโลภชั่ววูบ…
“เฟิ่งจิ่ว เจ้าก็เพลาๆ เสียบ้าง อย่าสร้างปัญหาอีก” เจ้าสำนักมองเฟิ่งจิ่วอย่างค่อนข้างปวดหัวพลางกำชับเสียงเข้ม
………………………………………………….
ตอนที่ 818 เสียใจไปก็ไม่มีประโยชน์
“ข้าก่อเรื่องเสียที่ไหน ชัดเจนว่าเขามาหาเรื่องข้า” เฟิ่งจิ่วเบ้ปาก มองรองเจ้าสำนักข้างๆ พลางยิ้มเอ่ยว่า “ท่านรองเจ้าสำนัก พวกเราจะไปเอายากันตอนนี้เลยหรือไม่?”
รองเจ้าสำนักเหลือบมองไปทางเจ้าสำนัก เห็นฝ่ายนั้นพยักหน้า จึงค่อยบอกเธอว่า “ไปกันเถอะ!”
ทุกคนรอบข้างเห็นเช่นนั้น สายตาของแต่ละคนหยุดมองร่างอาจารย์โอสถหวงที่นั่งนิ่งอยู่บนพื้น หลังจากพินิจมองร่างเขาหัวจรดเท้า แต่ละคนก็เม้มปากยิ้มพลางออกไป
เจ้าสำนักมองอาจารย์โอสถหวงที่สภาพร่างกายเปลี่ยนไป ถอนใจกล่าวว่า “เจ้าจะให้ข้าพูดอย่างไรกับเจ้าดีเล่า สำนักศึกษามีคนตั้งมากมายเพียงนี้เจ้าไม่สนใจ ดันไปหาเรื่องเขา? รีบกลับไปคิดหาวิธีรักษาเถอะ! สภาพเจ้าตอนนี้ ออกมาเดินเหินน้อยๆ หน่อยจะดีที่สุด ช่าง…”
เขาพูดไม่ออกอยู่บ้าง หากเป็นคนที่ไม่รู้ยังดี ให้เปลี่ยนเสื้อผ้าก็ดูเหมือนผู้หญิงจริงๆ แต่พวกเขาที่คุ้นเคยและรู้จักกันเห็นอาจารย์โอสถหวงในตอนนี้ กลับรู้สึกแต่ว่าขัดตาระคนหมดคำพูด
มองไปมากเข้ายังรู้สึกรับไม่ได้ ทำให้เขาไม่รู้จะพูดอะไรดีจริงๆ
เมื่อเจ้าสำนักส่ายหน้าสะบัดแขนเสื้อจากไป รอบๆ ก็เหลือเพียงกวนสีหลิ่นกับเยี่ยจิงสองคนที่มายังข้างกายสามสัตว์อสูร รวมถึงอาจารย์โอสถหวงที่นั่งนิ่งอย่างทำอะไรไม่ถูก…
ส่วนอีกด้านหนึ่ง รองเจ้าสำนักที่พาเฟิ่งจิ่วไปเก็บยาทิพย์ก็กลับยอดเขาหลักหลังผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เขามายังเบื้องหน้าเจ้าสำนักพลางปาดๆ เหงื่ออย่างอดไม่ได้
“กลับมาเร็วเพียงนี้เชียว? เฟิ่งจิ่วเลือกยาเรียบร้อยแล้วหรือ?” เจ้าสำนักกำลังเล่นหมากรุกกับโม่เฉิน เห็นเขากลับมาจึงเอ่ยถาม
รองเจ้าสำนักมองๆ อีกฝ่าย อ้าปากพะงาบๆ กลับไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากอย่างไรดี
“ทำไมรึ มีอะไรก็พูดมา อย่าอ้ำๆ อึ้งๆ” เจ้าสำนักมองสีหน้าของรองเจ้าสำนักอย่างตลกขบขัน พลางวางหมากลง บอกโม่เฉินว่า “ตาเจ้าแล้ว”
รองเจ้าสำนักเห็นเช่นนี้ก็ลังเลสักพัก แล้วถึงจะหยิบกระดาษจากในแขนเสื้อยื่นไปให้ “นะ นี่คือรายการยาทิพย์ที่นางเอาไปขอรับ”
เจ้าสำนักมองเขาแวบหนึ่งแล้วรับมาอ่าน อ่านคราวนี้ก็อดถลึงตาไม่ได้ “เจ้าโจรนี่! ยามีอายุตั้งมากมายเพียงนี้ ยังจะเก็บไปหมดสองชุด? ทำไมนางไม่ปล้นไปเสียเลยเล่า!”
เขาทำหน้าเจ็บเข้าเนื้อ จับกระดาษที่บันทึกชื่อยาทิพย์เต็มไปหมดไว้แน่น ในใจตะโกนด่าว่าเจ้าเด็กจอมล้างผลาญนี่ หากมาอีกสองสามครั้ง ยาทิพย์ล้ำค่าพวกนั้นภายในสำนักศึกษาต้องโดนนางเก็บไปหมดแน่!
โม่เฉินเห็นแล้ว ก็ยื่นสองนิ้วไปหยิบกระดาษนั้นมากวาดมองคร่าวๆ น้ำเสียงไม่เร่งไม่ช้าที่มีความอ่อนโยนเปล่งออกจากปาก “นางก็เลือกของเก่งนัก มียาทิพย์มากมายเพียงนี้ ยาอายุวัฒนะเม็ดนั้นเดาว่านางคงเก็บกลับไปทั้งต้นทุนและดอกเบี้ย”
“ข้ารู้อยู่แล้วเชียว ว่าเจอนางต้องไม่มีเรื่องดี” เจ้าสำนักส่ายหน้า ก่อนดื่มชาสงบจิตใจ
“ท่านเจ้าสำนัก อาจารย์โอสถหวงคนนั้นจะปล่อยเขาไปเช่นนั้นหรือ?”
รองเจ้าสำนักเอ่ยถาม สายตากลับมองไปยังโม่เฉินที่อยู่ข้างๆ เขาก็เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุเช่นกัน หนำซ้ำยังเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่ระดับไม่ได้ต่ำ อาจจะแก้ฤทธิ์ยาอายุวัฒนะเม็ดนั้นได้ ทว่าหากคิดจะขอให้เขาลงแรง เกรงว่าคงไม่ง่ายนัก
“ผลที่ตามมาจากการหาเรื่องใส่ตัวเอง ก็ให้เขาแบกรับด้วยตัวเอง อย่าไปยุ่งกับเขาชั่วคราว ตัวเขาเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ ซ้ำยังเป็นอาจารย์ผู้สอน หากแก้ฤทธิ์ยาอายุวัฒนะนั้นไม่ได้ ก็ได้แต่ปล่อยเขาเป็นเช่นนั้นตลอดไป” เมื่อนึกถึงว่าต้องสูญเสียยาทิพย์ล้ำค่าไปมากมายเพียงนั้นเพราะเขา เจ้าสำนักก็เจ็บปวดใจ แน่นอนว่าไม่ได้รู้สึกดีนักกับอาจารย์โอสถหวงคนนั้น ถึงไม่คิดไปยุ่งว่าอีกฝ่ายจะใช้ชีวิตด้วยร่างกายเฉกเช่นสตรีหรือไม่
โม่เฉินวางหมากลง เอ่ยปากโดยไม่เงยหน้าว่า “เรื่องที่ตนเองทำ ต้องยอมรับผลตามมา เสียใจไปก็ไม่มีประโยชน์”
………………………………………………….