เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 823 ยมราชน้อย + ตอนที่ 824 พักห้องเดียวกับเจ้า
ตอนที่ 823 ยมราชน้อย + ตอนที่ 824 พักห้องเดียวกับเจ้า
ตอนที่ 823 ยมราชน้อย
สองคนที่เฝ้าประตูอยู่อีกด้านเอี้ยวหูฟังตลอด เมื่อได้ยินคำพูดที่ว่า สีหน้าก็แปลกพิลึก เมื่อมองเฟิ่งจิ่วในชุดสีแดง แววตายิ่งมีความแปลกใหม่และประหลาด ไม่นึกว่าหนุ่มน้อยหน้าตาหล่อเหลาท่าทางโดดเด่นเพียงนี้จะชอบผู้ชายด้วยกัน?
หลังจากเฟิ่งจิ่วได้ยินคำพูดฮุยหลางก็เหลือบมองเขา แล้วกวาดมองเด็กน้อยข้างๆ ถามว่า “เช่นนั้นเขาเป็นใคร เจ้าพาเขามาที่นี่ทำไม?”
“เขาเป็น…” เสียงฮุยหลางหยุดไป มองเธอพลางฉีกยิ้ม “นายท่านให้ข้าพาเขาเข้ามาส่งให้ท่าน บอกว่าขอให้ท่านปกป้องเขาดีๆ”
เธอได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้ว “สถานการณ์เขาแย่มากรึ? เวลาปีกว่านี้เขายังแก้ปัญหาไม่ได้หรือ?”
“ไหนเลยจะง่ายดายเพียงนั้น เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีนัก ไม่มีเวลามาดูแลเขา ดังนั้นจึงสั่งข้าพาเขามาส่งให้ท่าน บอกว่าพาไปไว้ไหนก็ไม่สบายใจ มีแต่ต้องให้เขาติดตามข้างกายท่านถึงจะวางใจได้ มิเช่นนั้นข้าคงไม่พาเขามาส่งไกลขนาดนี้”
ฮุยหลางปั้นหน้ายิ้มเอ่ยพลางเช็ดๆ เหงื่อ บอกว่า “ข้าเองก็อยู่ห่างข้างกายนายท่านไปไม่ได้ เดินทางมาครั้งนี้เสียเวลาไม่น้อย ตอนนี้มาส่งคนถึงที่แล้ว ข้าต้องกลับไปก่อน”
กล่าวแล้วก็ไม่ให้โอกาสเฟิ่งจิ่วพูดอะไร เร่งฝีเท้ามายังข้างกายเด็กชายคนนั้น ก่อนบอกเขาว่า “จากนี้ไปท่านต้องติดตามนาง ข้าขอตัวไปก่อน” สิ้นเสียงก็ร่อนกระบี่บินไปทันที
เฟิ่งจิ่วอึ้งไปพักหนึ่ง เห็นเขาจากไปราวกับวิ่งหนีก็อดตะโกนด่าไม่ได้ “ฮุยหลาง! เจ้าบ้านี่! ยังไม่กลับมาพูดให้ชัดเจนอีก!”
เจ้าบ้านี่ ไม่เจอกันตั้งปีกว่าเธออยากจะถามสถานการณ์ของนายท่านเขาเสียหน่อย! นึกไม่ถึงว่าทิ้งเด็กน้อยคนนั้นไว้ให้เธอแล้วก็กลับไปเลย? ทำบ้าอะไรเนี่ย? เธออดกลั้นความโกรธในอก เมื่อเห็นเด็กน้อยคนนั้นยืนเอามือไพล่หลังเหมือนผู้ใหญ่ ซ้ำยังใช้หางตามองเธอ ก็ถลึงตาอย่างอดไม่ได้
“เจ้าหนู มานี่ซิ”
แม้จะเก็บกลั้นโทสะ แต่เห็นเด็กชายคนนั้นมีใบหน้าเหมือนโม่เจ๋อที่ตัวหดเล็กลง เธอก็โกรธไม่ลง แม้แต่ตอนพูดจาเสียงยังเบาลงเล็กน้อย ราวกับกลัวว่าจะทำให้เด็กน้อยอายุสามสี่ขวบตกใจ
เด็กน้อยคนนั้นมองเฟิ่งจิ่ว คิดๆ แล้วถึงจะก้าวเท้าเดินมายังเบื้องหน้าเธอ ครั้นเห็นว่าตนเองสูงยังไม่พอถึงเอวอีกฝ่าย ใบหน้าเล็กงดงามก็ถมึงทึงขึ้นมา
“เจ้าชื่ออะไร?” เฟิ่งจิ่วนั่งยองลง จากนั้นสบตากับเด็กน้อย
“ยมราชน้อย” เขาเอ่ยปากบอก น้ำเสียงไร้เดียงสาเสียจนทำให้คนใจอ่อน
ยามมองใบหน้าเล็กงดงามที่บึ้งตึง รวมถึงท่าทางยืนเอามือไพล่หลังอีกครั้ง เฟิ่งจิ่วก็หลุดหัวเราะทันที “ยมราชน้อย? เจ้าซนมากนักหรือถึงถูกเรียกเช่นนี้? ข้าถามว่าเจ้าชื่อจริงว่าอะไรต่างหาก ไม่ได้ถามชื่อเล่น”
เธอมองเด็กน้อยคนนี้ ภายในหัวกำลังคิดว่าถ้าเธอแต่งงานกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อ ลูกของพวกเขาหลังจากนั้นจะมีหน้าตาเช่นนี้หรือไม่? แต่เด็กน้อยที่หน้าตาเหมือนเขาอย่างกับแกะคนนี้ไม่ใช่ลูกนอกสมรสของเขาจริงหรือ?
เขาชำเลืองมองเธอ ขยับปากพูดว่า “ยมราช” เสียงใสเป็นเอกลักษณ์ของเด็กอายุสามสี่ขวบ
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็หน่ายใจ และไม่ถามอะไรอีก เดิมทีคิดจะไปตลาดมืด แต่ตอนนี้มีเด็กน้อยคนนี้เพิ่มมา ดูท่าคงไม่เหมาะจะออกไปสักเท่าไร ดังนั้นจึงยิ้มถามว่า “เช่นนั้นยมราชน้อย เจ้าหิวหรือยัง อยากกินอะไรหรือไม่?”
………………………………………………….
ตอนที่ 824 พักห้องเดียวกับเจ้า
“อืม” เขาพยักหน้าพร้อมมองเฟิ่งจิ่ว บนใบหน้าเล็กที่ละเอียดลออปรากฏสีแดงเรื่อน่าสงสัย ดวงตาฉายประกาย ก่อนจะยื่นมือออกมาหาเธอ
เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้ก็ยิ้มๆ ก้มตัวลงอุ้มเขาขึ้นมา “ให้เจ้าขี่บนม้าขาวตัวนี้เป็นอย่างไร?” ใครจะรู้ เพิ่งสิ้นเสียงเด็กน้อยที่เธอกอดไว้ในอ้อมแขนกลับโอบคอเธอไว้แน่น
“ไม่ขี่ม้า”
“ก็ได้ ข้าอุ้มเจ้าเดินไปได้สินะ?” เธอคิดว่าเด็กน้อยอายุสามสี่ขวบกลัวม้าขาวตัวใหญ่ที่ท่าทางประหลาดเช่นเหล่าไป๋
เด็กน้อยซบลงบนไหล่ของเธอ สองแขนกอดคอเธอไว้แน่น ภายในดวงตาเป็นประกายคู่นั้นฉายแววแปลกๆ รอยยิ้มคลี่ออกตรงมุมปากโดยที่ไม่มีใครสังเกต
เฟิ่งจิ่วให้เหล่าไป๋กลับไปก่อน ส่วนตนเองโยนขนนกบินออกไป และพาเด็กน้อยไปดูที่ห้องครัวเสียหน่อยว่ามีอะไรกินบ้าง หลังหยิบอาหารมาบางส่วนก็กลับอาศรม มานั่งบริเวณโต๊ะหินใต้ต้นไม้
“เอาละ นั่งลงเถอะ! กินอะไรไปก่อน จากนั้นค่อยมาคุยกับข้าดีๆ” เธออุ้มเด็กน้อยมานั่งบนโต๊ะหิน แล้วหยิบอาหารที่นำมาจากห้องครัวออกจากในห้วงมิติ วางลงบนโต๊ะ จากนั้นนั่งลงมองเด็กน้อยคนนั้น
เด็กน้อยมองเธอ ไม่พูดอะไรแต่กินอาหารก่อน
เฟิ่งจิ่วนั่งเท้าคางมองอยู่ตรงนั้น ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าลักษณะท่าทางเช่นนั้นถอดแบบมาจากเซวียนหยวนโม่เจ๋อจริงๆ แต่ถ้าบอกว่าเป็นลูกนอกสมรส เธอคิดว่าเป็นไปไม่ได้เท่าไร
ถึงอย่างไรคนสะอาดบริสุทธิ์อย่างท่านอา ตอนเจอกันครั้งแรกโดนเธอจูบโดยไม่ระวังยังเป็นลมไปเลย ที่บอกว่ามีลูกโตถึงเพียงนี้แล้วเธอก็แค่พูดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น
แต่ถ้าเป็นน้องชาย? เหอะๆ เธอไม่ค่อยเชื่อนัก หากเป็นน้องชายจริง เดาว่าฮุยหลางคงไม่จากไปราวกับวิ่งหนี ชัดเจนว่าเขากลัวเธอซักถามอะไรไม่หยุดหย่อน
“นี่ รูปหล่อตัวน้อย บอกพี่สาวหน่อย เจ้ามีความสัมพันธ์เช่นไรกับท่านอา? บอกพี่สาวซิ แล้วพี่สาวจะพาเจ้าไปซื้อลูกกวาด เป็นอย่างไร?” เฟิ่งจิ่วราวกับหมาป่าตัวโตลักพาตัวแกะน้อย ลองเกลี้ยกล่อมดูว่าเด็กน้อยจะพูดความจริงหรือไม่
ใครจะรู้ เด็กน้อยคนนั้นนิ่งสงบขนาดหนังตายังไม่ขยับ กินอาหารด้วยท่าทางสง่างาม แม้แต่ท่านั่งยังเหยียดตรงสุดๆ ทำให้เธอมองเสียจนอึ้งงัน
แอบคิดว่าสมกับเป็นคนจากแปดจักรวรรดิใหญ่จริงๆ แม้แต่เด็กน้อยอายุสามสี่ขวบยังดูภูมิฐานแล้ว อากัปกิริยาสง่างามเสียจนแม้แต่เธอก็ยังเทียบไม่ติด
ผ่านไปเนิ่นนาน เขาที่กินอาหารหมดวางตะเกียบลง หลังจากเช็ดๆ มุมปากก็มองเฟิ่งจิ่ว “น้ำ”
ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วจึงเข้าอาศรมไปรินน้ำออกมาให้เขา เห็นเขาดื่มน้ำเสร็จก็นั่งตัวตรงมองเธอราวกับเด็กที่โตเกินวัย เธอถึงกับไม่รู้จะพูดอะไรดี
ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีเด็กน้อยเช่นนี้เพิ่มมาข้างกาย เธอจะยุ่งวุ่นมากขึ้น
ครั้นเห็นสายตาเขาหยุดมองอาศรมของเธอ จึงกล่าวว่า “ข้าพาเจ้าเข้าไปดูที่พักข้าหน่อยดีไหม?”
“อืม”
เขาขานรับ ไถลตัวจากม้านั่งแล้วตามเธอเข้าอาศรมไปด้วยกัน จากนั้นมองๆ ภายในอาศรม สุดท้ายก็มายังห้องที่เฟิ่งจิ่วพัก ถึงเห็นว่าพื้นที่ภายในกว้างมาก
“ที่นี่มีข้าแค่คนเดียว เอาเช่นนี้แล้วกัน! เดี๋ยวข้าจะเก็บกวาด แล้วยกห้องหินห้องหนึ่งให้เจ้า”
“ไม่ต้อง ข้าพักห้องเดียวกับเจ้าได้”
น้ำเสียงไร้เดียงสาเอ่ย พร้อมเกร็งๆ ใบหน้าเล็กงดงาม เพียงแต่ใบหูเขากลับแดงก่ำอย่างน่าสงสัย ดวงตาก็ไม่กล้ามองไปทางเฟิ่งจิ่ว แต่จ้องมองห้องปรุงยาแทน
“พักห้องเดียวกับข้า?” เฟิ่งจิ่วตกใจ ชำเลืองมองเด็กน้อยคนนั้นด้วยสีหน้าแปลกๆ
………………………………………………….