เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 907 ค่ายกลหินวิญญาณรวมพลังวิญญาณ + ตอนที่ 908 เป็นที่ดีจริงๆ
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 907 ค่ายกลหินวิญญาณรวมพลังวิญญาณ + ตอนที่ 908 เป็นที่ดีจริงๆ
ตอนที่ 907 ค่ายกลหินวิญญาณรวมพลังวิญญาณ + ตอนที่ 908 เป็นที่ดีจริงๆ
ตอนที่ 907 ค่ายกลหินวิญญาณรวมพลังวิญญาณ
กล้ามาชิงหินวิญญาณจากเธอ? เช่นนั้นอย่าโทษว่าเธอชิงกลับแล้วกัน!
“เจ้าเข้ามาส่งถึงที่เอง เร็วเข้า ส่งหินวิญญาณมา มิเช่นนั้นข้าจะลงมือด้วยตนเอง” เธอหรี่ตาจ้องถุงใบนั้นตรงเอวเขา ดูท่าเขาจะมั่นใจในพละกำลังของตัวเองมาก!
เธอเก็บถุงหินวิญญาณไว้ในห้วงมิติ นึกไม่ถึงว่าเจ้าหมอนี่จะห้อยอวดไว้ตรงเอว จิ๊ๆ นี่ให้เธอมาชิงไปชัดๆ ไม่ใช่หรือ?
“ฮ่าๆๆ! น่าตลกเสียจริง!” เขาเงยหน้าหัวเราะลั่น ราวกับได้ยินคำพูดน่าขบขันอะไร “ถ้าเจ้ามีฝีมือก็เข้ามาแย่งสิ!” กล่าวจบร่างสีขาวก็พุ่งโฉบ จู่โจมไปเบื้องหน้าเฟิ่งจิ่ว
“เจ้าพูดเองนะ เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจล่ะ” เธอยกมุมปาก ขณะเดียวกันก็พุ่งออกไป เป้าหมายคือถุงหินวิญญาณตรงข้างเอวเขา
ลมกลางคืนพัดมา ชุดคลุมสีขาวบนร่างเธอสะบัดขึ้นเล็กน้อย เสื้อนอกถูกลมกลางคืนโบกขึ้นมา เผยให้เห็นขนนกเคลือบหลากสีตรงเอวที่ถูกเสื้อนอกปิดไว้ เมื่อเห็นขนนกเคลือบหลากสีตรงเอวของเฟิ่งจิ่ว นักเรียนคนนั้นตาเป็นประกายทันที
“ขนนกเคลือบหลากสีนี่!”
“ผัวะๆๆ!”
เมื่อสองคนต่อสู้และฝ่ามือสัมผัสกันก็เกิดเสียงปะทะรุนแรง กระแสลมกับแรงกดดันโถมเข้าหากันและกัน ฝีมือของทั้งสองรวดเร็วมาก ไม่เห็นกระบวนท่า เพียงเห็นร่างที่เร็วเสียจนจับการเคลื่อนไหวของพวกเขาไม่ได้ และได้ยินเสียงแต่กระแสลมรุนแรงวาดผ่านกลางท้องฟ้ายามราตรี
“อึก!”
นักเรียนคนนั้นโดนฝ่ามือของเฟิ่งจิ่วกระแทกออกไป ส่งเสียงร้องอู้อี้ ตอนเก็บฝ่ามือกลับ มือเฟิ่งจิ่วก็คว้าลงไปฉวยถุงหินวิญญาณตรงเอวเขามาทันที
“คืนหินวิญญาณข้ามา!” เขาตวาดโดยไม่สนใจความเจ็บปวดบนร่าง ก่อนกระโจนเข้าไปโดยพลัน
เฟิ่งจิ่วหลบได้สบายๆ พลางยิ้มเอ่ยว่า “เป็นคนอย่าโลภเกินไปนักจะดีกว่า ขนนกเคลือบหลากสีของข้าไม่ใช่ว่าใครๆ จะลอบมองได้ ส่วนหินวิญญาณสิบก้อนนี้ ข้าจะเก็บไปละ”
นักเรียนคนนั้นโกรธจัด ครั้นเห็นเฟิ่งจิ่วแวบหายพุ่งไปทางซ้าย ก็ไล่ตามไปทันที “คืนหินวิญญาณข้ามา! สมควรตาย ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปหรอก!”
หลังไล่ตามไประยะหนึ่งก็คลาดสายตา เขากัดฟันกรอดแล้วตามหาข้างหน้าต่อไป นี่ไม่ใช่แค่เรื่องหินวิญญาณสิบก้อน แต่เป็นเรื่องศักดิ์ศรีมากกว่า ผู้มีพรสวรรค์ระดับสร้างรากฐานขั้นกลางจากสำนักศึกษาสองดาราเช่นเขา ไม่นึกว่าจะโดนเจ้าเด็กจากสำนักหกดาราคนหนึ่งชิงหินวิญญาณไป? หากเรื่องนี้ลือกันออกไปภายหน้าเขาจะอยู่ในสำนักศึกษาได้อย่างไร?
ทว่าเขาไม่รู้ว่าหลังจากเฟิ่งจิ่วล่อเขาออกไป ก็วกกลับมาเส้นทางเดิมนั้น ยามมองนักเรียนชายไล่ตามไปจนลับตา เธอเผยรอยยิ้มอย่างกลั้นไม่อยู่ “ค่อยๆ ไล่ตามไปเถอะ! ข้าไม่มีเวลาอยู่เล่นเป็นเพื่อนเจ้าหรอก”
เธอโยนถุงบรรจุหินวิญญาณในมือ ครั้นเปิดออกดู ด้านในเป็นหินวิญญาณสิบก้อนดังคาด จึงเก็บเข้าห้วงมิติทันที จากนั้นตามหาสถานที่ตั้งของค่ายกลรวมพลังวิญญาณต่อไป
ประมาณครึ่งชั่วยาม เธอกลับหยุดฝีเท้าลงเมื่อมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง เพราะด้านหน้ามีค่ายกลจะวิ่งพรวดพราดเข้าไปไม่ได้ ต้องดูเสียก่อนว่าเป็นค่ายกลอะไร แล้วค่อยเข้าไปจากตรงนี้
ครั้นเดินเข้าค่ายกล เธอเฝ้าระวังตลอด หลังจากวนอยู่สองสามรอบเดินไปเกือบครึ่งชั่วยามถึงจะออกมาจากเกือบสิบค่ายกล และข้ามผ่านค่ายกลม่านหมอกด่านสุดท้ายมาถึงด้านใน เพียงแต่เมื่อมาถึง เธอกลับต้องเบิกตาโตอย่างอดไม่ได้
เห็นเพียงว่าตรงหน้าเป็นค่ายกลรวมพลังวิญญาณใหญ่ยักษ์ที่ใช้หินวิญญาณสร้างขึ้น ลวดลายผังรวมพลังวิญญาณล้วนปูจากหินวิญญาณ กลิ่นอายพลังวิญญาณเอ่อล้นจากพื้นดิน แผ่กระจายไปรอบด้าน…
……………………………………
ตอนที่ 908 เป็นที่ดีจริงๆ
“ซี๊ด! ช่างมือเติบจริงๆ! หินวิญญาณมากเพียงนี้เลย…”
เธอสูดลมหายใจเล็กน้อย น้ำเสียงทั้งประหลาดใจและตกตะลึง แต่ในดวงตากลับโลดแล่นด้วยความตื่นเต้น สถานที่นี้คือจุดศูนย์กลางของค่ายกลรวมพลังวิญญาณ หากฝึกบำเพ็ญที่นี่ ภายในเวลาครึ่งเดือนจะบรรลุขั้นได้อีกครั้งหรือไม่?
นึกถึงตรงนี้ หัวใจเธอก็คึกคักขึ้นมา ตอนนี้เธออยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด หากบรรลุขั้นอีกก็เข้าสู่ระดับหลอมแก่นพลังแล้ว แม้ระดับพลังวิญญาณไม่มีทางบรรลุขั้น ระดับพลังเร้นลับก็ยังไปต่อได้อีก!
“ที่นี่เป็นที่ที่ดีจริงๆ! แหล่งพลังมากมายเพียงนี้ คล้ายจะไม่ได้บอกว่าไม่ให้ใช้ด้วย? เช่นนั้นก็ปล่อยให้ใช้หรือ?”
เธอกระซิบกระซาบพลางนั่งยองลงจับหินวิญญาณที่เหยียบอยู่ใต้เท้า แล้วมองหินวิญญาณผืนใหญ่นี้อีกที ว่าด้วยจุดศูนย์กลางแล้ว ภายในระยะสามสิบจั้งโดยรอบน่าจะเป็นค่ายกลรวมพลังวิญญาณที่ปูจากหินวิญญาณทั้งหมด มิน่าเธอเข้ามาในนี้ถึงต้องเดินกว่าครึ่งชั่วยาม
“อืม ต้องฝึกบำเพ็ญ สถานที่ที่ดีเพียงนี้ ไม่ฝึกบำเพ็ญก็เสียของไปหน่อย แต่ว่าก่อนหน้านั้นต้องวางค่ายกลรอบๆ ก่อน” เธอพึมพำอย่างตื่นเต้นดีใจ ฝีเท้ามุ่งไปด้านนอกโดยเร็ว คิดว่าจะเพิ่มอะไรให้ค่ายกาลรอบๆ นี้เสียหน่อย เมื่อเป็นเช่นนี้ถึงแม้มีนักเรียนหาที่นี่พบ ก็ได้แต่ฝึกบำเพ็ญด้านนอกค่ายกลโดยเข้ามารบกวนเธอไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงวางค่ายกลไว้ด้านนอกจริงๆ หลังจากเสริมความแข็งแกร่งให้ค่ายกลด้านนอกแล้วถึงกลับมาด้านใน และนั่งขัดสมาธิลงยังจุดศูนย์กลางค่ายกล
แม้เป็นกลางดึก แต่ภายใต้แสงจากหินวิญญาณระยิบระยับหลากสีสัน บริเวณโดยรอบจึงสว่างไสว กลิ่นอายพลังวิญญาณที่เข้มข้นกระจายขึ้นมาจากพื้นดินและแผ่ไปในอากาศ รอบนอกค่ายกลรวมพลังวิญญาณยักษ์ใหญ่คือหมอกหนา ดังนั้นจึงปิดกั้นสายตาจากภายนอก
เธอนั่งขัดสมาธิตรงใจกลางค่ายกล ไม่รีบร้อนฝึกบำเพ็ญ กลับหยิบยาออกมาจากในห้วงมิติ “สิ่งนี้เหมาะจะกินเพื่อบรรลุขั้น เจ้านี่มีฤทธิ์ลดอานุภาพของสายฟ้า เจ้านี่บำรุงร่างกายได้ ส่วนนี่…”
เธอวางยาและยาอายุวัฒนะหลายขวดเรียงไว้ตรงหน้า วางแผนจะใช้ของพวกนี้ช่วยบรรลุขั้น ที่นี่มีกลิ่นอายพลังวิญญาณหนาแน่น เป็นสถานที่บรรลุขั้นพลังที่ดีที่สุด ทั้งยังมีค่ายกลรวมพลังวิญญาณคุ้มกัน ยิ่งไม่ต้องเป็นห่วงว่าพลังวิญญาณจะไม่พอ
เธอตัดสินใจและเริ่มฝึกบำเพ็ญทันที เมื่อวิชายุทธ์ต้นกำเนิดไหลเวียน กลิ่นอายพลังวิญญาณที่กระจายอยู่รอบด้านราวกับโดนปั่นป่วน กลิ่นอายพลังวิญญาณที่เดิมทีไหลพล่านแผ่ออกไปหมุนเวียนกลางอากาศ ก่อนจะแทรกเข้าสู่ร่างของเธอทีละน้อย…
หนึ่งวันสองวันผ่านไป นอกจากเธอแล้ว คนอื่นยังมาไม่ถึงที่นี่ ทว่าเจอกันและต่อสู้อยู่ในป่า สำหรับคนต่างสำนักศึกษาที่บังเอิญพบกัน ต่างฝ่ายล้วนตัดสินใจจะชิงหินวิญญาณมา บางคนเห็นว่าหาจุดศูนย์กลางของค่ายกลรวมพลังวิญญาณไม่เจอจึงหาสถานที่ห่างไกลนั่งขัดสมาธิฝึกบำเพ็ญเช่นกัน
คิดว่าอย่างไรก็เข้ามาแล้ว อย่าได้ถึงเวลานั้นหินวิญญาณก็ชิงมาไม่ได้ ฝึกบำเพ็ญก็ไม่ก้าวหน้า และเสียโอกาสฝึกบำเพ็ญที่ดีเพียงนี้ไปเปล่าๆ
ช่วงเย็นวันที่สอง ในที่สุดก็มีนักเรียนมาถึงนอกค่ายกลรวมพลังวิญญาณ เหรียญตราของนักเรียนคนนั้นคือสองดารา เป็นนักเรียนจากสำนักศึกษาสองดารานั่นเอง หลังมาถึงภายนอกค่ายกลก็พยายามบุกผ่านเข้าไปยังจุดศูนย์กลาง เพียงแต่ค่ายกลในนี้เปลี่ยนแปลงไร้จุดสิ้นสุด ไม่ใช่ค่ายกลที่เขาจะทำลายได้เลย
ลองไปประมาณหนึ่งชั่วยามก็ยังคงหาวิธีทำลายค่ายกลไม่ได้ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เขาจึงนั่งลงขัดสมาธิ ไม่ว่าอย่างไรกลิ่นอายพลังวิญญาณที่นี่ก็เข้มข้นกว่าที่อื่นๆ
………………………………………………….