เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 909 ไสหัวไปไกลๆ หน่อย + ตอนที่ 910 ผลไข่วิญญาณ
ตอนที่ 909 ไสหัวไปไกลๆ หน่อย + ตอนที่ 910 ผลไข่วิญญาณ
ตอนที่ 909 ไสหัวไปไกลๆ หน่อย
ช่วงกลางคืนมีคนทยอยมาถึงเช่นกัน ไม่พูดไม่จาก็เข้าปะทะกันทันทีเพื่อแย่งชิงหินวิญญาณและแหล่งพลัง อย่างไรเสีย ถึงแม้ที่นี่จะเป็นรอบนอกค่ายกลรวมพลังวิญญาณ แต่คนฝึกบำเพ็ญตรงนี้มีมากนัก กลิ่นอายพลังวิญญาณแถบนี้ย่อมถูกกระจายและดูดซับ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่ยอมให้ใครมาแย่งไป
สำหรับการแย่งชิงด้านนอก เฟิ่งจิ่วได้ยินรางๆ ทว่าไม่ไปสนใจ ยามนี้เธอกำลังโคจรพลังภายในต้นกำเนิดดูดซับกลิ่นอายพลังวิญญาณโดยรอบ พลังวิญญาณในค่ายกลรวมพลังวิญญาณถูกเธอดูดซับและหลอมละลายเข้าสู่ร่าง
หากเป็นคนอื่น ดูดกลิ่นอายพลังวิญญาณมากมายเพียงนี้เข้าไปคงรับไม่ไหว แต่เธอต่างออกไป ต้องแบ่งกลิ่นอายพลังวิญญาณส่วนหนึ่งมาหล่อเลี้ยงเม็ดบัวเขียวตรงจุดตันเถียนด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่มีกลิ่นอายพลังวิญญาณมากเช่นนี้มาหล่อเลี้ยงมัน
นอกจากหล่อเลี้ยงเม็ดบัวเขียว เธอยังขยายเส้นลมปราณในร่าง เก็บรวบรวมพลังวิญญาณไว้ตรงจุดตันเถียน คิดจะบรรลุไปถึงระดับหลอมแก่นพลังภายใต้การช่วยเหลือจากยาอายุวัฒนะและยา ขอแค่ทะลวงระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุดเข้าสู่ระดับหลอมแก่นพลัง ไม่ว่าไปถึงขั้นสูงสุดได้หรือไม่ก็ล้วนเป็นเรื่องดีสำหรับเธอ
เมื่อฟ้าสว่าง วันที่สามมาถึง เนี่ยเถิงกับโอวหยางซิวรวมถึงเซียวอี้หานสามคนก็หาค่ายกลรวมพลังวิญญาณพบเช่นกัน เห็นนักเรียนพวกนั้นนั่งฝึกบำเพ็ญอยู่รอบๆ จึงคิดจะหาที่นั่งลงฝึกบ้าง ถึงอย่างไรเทียบกับเรื่องยกเว้นการประลองอะไรนั่นแล้ว พวกเขาหวังให้พลังรุดหน้าเสียมากกว่า
ทว่า สามคนต่างหาที่กำลังจะนั่งลง นักเรียนสำนักศึกษาสองดาราที่หลับตาฝึกบำเพ็ญทางนั้นก็ลืมตาขึ้นตะโกนเสียงเข้ม “ไสหัวไปไกลๆ หน่อย!”
‘ไสหัว’ คำนี้ คนทั้งสามล้วนได้ยินน้อยครั้งนัก เนี่ยเถิงกับโอวหยางซิวในกลุ่มนั้นต่างเป็นรัชทายาทแคว้นระดับหก หนึ่งคนอยู่เหนือนับหมื่นคน ตั้งแต่เล็กมาฐานะก็สูงศักดิ์ ใครเล่าจะกล้าล่วงเกิน?
ส่วนเซียวอี้หานแม้ชาติกำเนิดไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ แต่ก็มาจากตระกูลชั้นสูง ปกติไม่มีใครกล้าพูดจากับเขาเช่นนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนสำนักศึกษาสองดาราเลย ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ สีหน้าทั้งสามจึงบึ้งตึง
“เจ้าว่าอะไรนะ? พูดอีกทีซิ” โอวหยางซิวจ้องนักเรียนสำนักศึกษาสองดาราด้วยใบหน้าหล่อเหลาเย็นชา มือข้างหนึ่งคว้ากระบี่ตรงเอว
“ข้าให้พวกเจ้าไสหัวไป!” ชายคนนั้นลุกขึ้นมา เป็นผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด เชื่อมั่นในตนเองว่าพลังโดดเด่น ย่อมไม่เห็นพวกเขาสามคนในสายตาเป็นธรรมดา
“หึ! ช่างน่าขันจริงๆ!” เซียวอี้หานหัวเราะเยาะ ต่อมาร่างก็พุ่งโจมตีไปทางฝ่ายตรงข้ามทันที ฝ่ามือสะบัดขึ้นพร้อมด้วยฝ่ามือลมรุนแรง ส่งเสียงดังราวกับพลันเปลี่ยนเป็นใบมีดดุดันในพริบตา
“ไม่รู้จักเจียมตัว!”
คนคนนั้นแค่นเสียงเย็นและเข้าไปรับหน้า พอจะสู้ก็ใช้กระบี่ ไม่เหมือนเซียวอี้หานที่สู้มือเปล่าเช่นนั้น กระบี่คมดุดันรุนแรงฟันผ่านไป กรีดทำลายเสื้อผ้าบนร่างเซียวอี้หานด้วยความว่องไวนัก จนมีเลือดไหลซิบออกมา
เนี่ยเถิงเห็นภาพเช่นนี้ ในดวงตาก็ฉายประกายหนาวเยือก ขณะโอวหยางซิวจะลงมือก็แวบร่างโฉบไปข้างหน้า ทั้งสองฝ่ายเป็นผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุดเช่นเดียวกัน ต่างเคยให้ความสนใจและประเมินกำลังของศัตรู กล่าวได้ว่านักเรียนสำนักศึกษาสองดาราเห็นเนี่ยเถิงเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง ส่วนเนี่ยเถิงก็มองเขาเป็นคู่ต่อสู้
ส่วนเฟิ่งจิ่ว เนี่ยเถิงไม่คิดจะเอาชนะนาง แน่นอนว่าต้องไม่เห็นนางเป็นคู่แข่ง
ผู้ฝึกตนคนอื่นๆ เห็นทั้งสองต่อสู้กัน ก็เพียงเหลือบมองแวบหนึ่ง ไม่ไปร่วมด้วย แต่ทำเวลาฝึกบำเพ็ญ ถึงอย่างไรก็ผ่านไปสามวันแล้ว เวลาของพวกเขามีจำกัด การต่อสู้ที่แท้จริงน่าจะเป็นภายในสองวันสุดท้าย
………………………………………………….
ตอนที่ 910 ผลไข่วิญญาณ
ผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุดสองคนต่อสู้กัน กระแสลมปั่นป่วนทำให้คนอื่นโดยรอบต่างได้รับผลกระทบ โอวหยางซิวกับเซียวอี้หานเห็นเนี่ยเถิงไม่เสียเปรียบอะไร จึงแยกออกไปเสียเอง และหาที่นั่งลงขัดสมาธิฝึกบำเพ็ญ
สองคนทางนั้นสู้กันสองสามรอบ เห็นว่าพลังค่อนข้างยากจะแยกแยะแพ้ชนะ หลังผ่านไปสองสามรอบทั้งสองจึงวางมือไป
“สู้ต่อไปก็ไม่รู้แพ้ชนะ การประลองระหว่างข้ากับเจ้า รอเวลาแข่งขันรอบเดี่ยวค่อยมาสู้กัน!” นักเรียนสำนักศึกษาสองดารากล่าวเสียงเย็น พร้อมชำเลืองมองเนี่ยเถิงอย่างเย็นชา จากนั้นหาที่นั่งใหม่อีกครั้ง
เนี่ยเถิงเห็นเช่นนั้นก็หันไปหาที่นั่งลงฝึกบำเพ็ญ อันที่จริง หากเขาเสียเวลาในนี้ไปกับการต่อสู้ เช่นนั้นก็เสียโอกาสครั้งนี้ไปเปล่าเปลี้ยโดยแท้
เพียงแต่…
เขามองไปรอบข้าง บริเวณรอบๆ นี้มีผู้ฝึกตนกำลังฝึกบำเพ็ญดูดซับกลิ่นอายพลังวิญญาณประมาณยี่สิบกว่าคน นักเรียนแต่ละสำนักศึกษาล้วนมีสองสามคน ในหมู่นั้นสำนักศึกษาสองดารามีมากที่สุด ละแวกนี้มีอยู่ห้าคน
ทว่ารอบๆ นี้เขาไม่เห็นร่างเฟิ่งจิ่วเลย หรือว่าจะหาที่นี่ไม่เจอ?
เขาทิ้งความคิดในหัวไป หลับตาลงใช้วิชายุทธ์ในร่างดูดซับกลิ่นอายพลังวิญญาณ ไม่ไปคิดถึงปัญหาข้อนั้นชั่วคราว
เวลาผ่านไปแต่ละวัน ทุกคนในนี้ล้วนฝึกบำเพ็ญอย่างบ้าคลั่งทั้งวันทั้งคืน แต่คนข้างนอกฝึกบำเพ็ญไปสองสามวัน กลับพบว่ากลิ่นอายพลังวิญญาณในอากาศเหมือนจะค่อยๆ น้อยลง ความคืบหน้าของวิชายุทธ์ที่เคยบำเพ็ญช้าลง ร่างกายอยากจะดูดซับกลิ่นอายพลังวิญญาณ ก็ราวกับกำลังฉุดกระชากแย่งชิงกับใคร ไม่นึกเลยว่าจะยากเย็นเช่นนั้น
“น่าแปลก? เกิดอะไรขึ้น ทำไมพลังวิญญาณน้อยลง?”
“ข้าก็รู้สึกว่าพลังวิญญาณลดลง เหมือนกลิ่นอายพลังวิญญาณในอากาศทั้งหมดกำลังหลั่งไหลไปทางค่ายกลรวมพลังวิญญาณด้านหลัง”
“นี่ไม่ค่อยปกติเท่าไร! ค่ายกลรวมพลังวิญญาณได้พวกท่านเจ้าสำนักศึกษาวางค่ายกลไว้ หนำซ้ำยังไม่ใช่แค่ค่ายกลด่านสองด่าน แม้เหล่าอาจารย์อยากเข้าไปเกรงว่าก็ยังยาก ยิ่งไปกว่านั้น กลิ่นอายพลังวิญญาณที่ค่ายกลรวมขึ้นมาจะเอ่อล้นกระจายออกมาจากด้านในตลอด ทำไมพลังวิญญาณรอบๆ ถึงโดนดูดไปตรงกลางหมด?”
แต่ละคนด้านนอกกำลังวิพากษ์วิจารณ์ แม้แต่เนี่ยเถิงกับโอวหยางซิวรวมถึงเซียวอี้หานสามคนยังมองกลิ่นอายพลังวิญญาณในอากาศไหลไปตรงกลางอย่างแปลกใจเล็กน้อย แต่ปรากฏการณ์เช่นนี้คงอยู่เพียงครึ่งชั่วยาม ผ่านไปครึ่งชั่วยามกลิ่นอายพลังวิญญาณที่หลั่งไหลไปตรงใจกลางก็หยุดลง
แต่ว่า กลิ่นอายพลังวิญญาณในอากาศยังคงเบาบาง
“พวกเราทุกคนฝึกบำเพ็ญเร็วเกินไปหรือไม่ กลิ่นอายพลังวิญญาณที่ถูกดูดกลืนมากเกินไป กลิ่นอายพลังวิญญาณในแถบนี้เลยส่งออกมาไม่ทัน?” มีคนถามขึ้น
“หากเป็นเช่นนี้ก็ต้องรอวันพรุ่งนี้แล้ว ข้าได้ยินท่านอาจารย์เคยบอกว่ากลิ่นอายพลังวิญญาณในนี้จะเติบโตด้วยตนเอง ค่ายกลรวมพลังวิญญาณกับหินวิญญาณประสานกันและกัน แม้กลิ่นอายพลังวิญญาณละแวกนี้ส่งออกมาไม่ทัน ขอแค่ผ่อนลงสักพักก็จะฟื้นฟูได้”
ดังนั้นทุกคนจึงอาศัยเวลานี้ลุกขึ้นออกกำลังแขนขา บางคนหยิบอาหารแห้งออกมาเติมพลังกาย บางคนกำลังครุ่นคิดว่าจะแย่งชิงหินวิญญาณจากคนข้างๆ…
ภายในค่ายกลรวมพลังวิญญาณ ยามนี้เฟิ่งจิ่วที่นั่งขัดสมาธิกำลังกัดผลไข่วิญญาณลูกหนึ่ง นี่เป็นผลไม้วิญญาณที่ได้มาตอนสมัชชาใหญ่วิเคราะห์ยาเซียน ผลไม้วิญญาณทั้งลูกเป็นเช่นไข่ไก่ใบใหญ่ ขาวๆ และมีรูปทรงไข่ห่าน ด้านบนมีใบไม้เล็กๆ ใบหนึ่ง เมื่อกัดลงไปล้วนเต็มไปด้วยน้ำผลไม้ อีกทั้งความหอมหวานอร่อยยังแล่นไปในร่างกายพร้อมกลิ่นอายพลังวิญญาณที่เข้มข้น
………………………………