เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 915 เจ้าบ้าคนไหน! + ตอนที่ 916 เรื่องใหญ่แล้ว
ตอนที่ 915 เจ้าบ้าคนไหน! + ตอนที่ 916 เรื่องใหญ่แล้ว
ตอนที่ 915 เจ้าบ้าคนไหน!
ไล่ตามกระแสลมที่ไหลผ่านนั้นไป มองชั้นเมฆที่ม้วนตลบบนท้องฟ้า แม้ในนี้จะขี่กระบี่บินไปไม่ได้ พวกเขาก็มาถึงรอบนอกค่ายกลรวมพลังวิญญาณได้เร็วมาก ที่นี่พวกนักเรียนแต่ละสำนักศึกษาแทบจะมารวมตัวกันหมดแล้ว แต่ละคนมองชั้นเมฆที่ปั่นป่วนอย่างตาค้าง พลางฟังเสียงฟ้าร้องอื้ออึงแต่ละเสียงนั้น
“บัดซบ! เป็นเจ้าบ้าคนไหนกันแน่?”
“สมควรตาย! เขาวิ่งเข้าไปข้างในได้อย่างไร?”
“บ้าเอ๊ย! ต้นไม้รอบๆ นี้เหี่ยวเฉาหมดแล้ว!”
“เปรี้ยง!”
ขณะที่ทุกคนด่าทอ บนท้องฟ้ามีสายฟ้าผ่าลงมาเสียงดัง อานุภาพยิ่งใหญ่และกระแสลมรุนแรงนั้นทำให้ทุกคนตกใจจนเหงื่อออกท่วมกายเสียดื้อๆ
“เจ้าบ้า! นะ นี่ไม่ใช่ระดับสร้างรากฐาน! นี่เป็นระดับหลอมแก่นพลัง! มีคนหลอมแก่นพลังทองอยู่ด้านใน!”
ครั้นเอ่ยคำพูดนี้ไป ทุกคนโดยรอบพากันสูดลมหายใจ
หลอมแก่นพลังทอง! ในหมู่พวกเขาเหล่านักเรียนมีผู้ฝึกตนที่หลอมแก่นพลังทองได้ด้วยหรือ? สายตาทุกคนมองไปทางนักเรียนสำนักศึกษาสองดาราแทบจะทันที สายตานั้นราวกับกำลังถามว่า ‘คนสำนักศึกษาสองดารากำลังบรรลุขั้นใช่หรือไม่ เป็นคนสำนักศึกษาสองดาราหรือที่หลอมแก่นพลังทองอยู่ข้างใน?’
“มองอะไรกัน ไม่เห็นหรือว่าพวกเราสิบคนล้วนอยู่ที่นี่?” นักเรียนคนหนึ่งแผดเสียงอย่างไม่ชอบใจ พร้อมมองนักเรียนเหล่านั้นอย่างเกรี้ยวกราด กัดฟันบอกว่า “หากรู้ว่าเป็นใคร ข้าต้องถลกหนังเขาแน่!”
“หึ! แค่ระดับสร้างรากฐานคนเดียว จะสู้คนบรรลุกลายเป็นระดับหลอมแก่นพลังได้หรือ?” เซียวอี้หานกอดอกหัวเราะเยาะ
นักเรียนสำนักศึกษาสองดาราคนนั้นยิ้มเย็น “หลอมแก่นพลังทอง? ฮ่าๆๆๆ! เจ้าคิดว่าหลอมแก่นพลังทองง่ายดายเพียงนั้นเชียวรึ ข้าคิดว่าคนคนนี้หลอมแก่นพลังทองไม่สำเร็จหรอก ไม่แน่ว่าระหว่างหลอมแก่นพลังทองจะรับความรุนแรงของสายฟ้าไม่ไหวจนตาย”
“เจ้าตายแต่เขายังไม่ตาย!” เซียวอี้หานกล่าว ไม่ไปสนใจอีกฝ่าย แต่จับสังเกตชั้นเมฆที่เคลื่อนไหวบนท้องฟ้า
เพราะถูกม่านหมอกขวางกั้น พวกเขาจึงไม่เห็นความเคลื่อนไหวและเหตุการณ์ตรงใจกลาง เห็นรางๆ เพียงว่ามีกระแสลมพัดกระเพื่อมออกมาจากด้านใน เวลาเดียวกันนี้ ด้านในค่ายกลมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือสองเสียงลอยมา
“ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย! ช่วยพวกเราออกไปเร็วเข้า!”
ที่แท้นักเรียนสองคนที่บุกเข้าค่ายกลไปและติดอยู่ด้านในยังไม่ออกมา เดิมทีพวกเขาคิดว่าแม้ติดกับอยู่ด้านใน แต่รอจนถึงเวลาก็จะถูกส่งออกไปแน่นอน ด้วยเหตุนี้จึงไม่ต้องรีบร้อน เมื่อสายฟ้าแรกบนท้องฟ้าผ่าลงมา แรงกดดันและกระแสลมที่มาจากสายฟ้าล้วนเป็นกลิ่นอายของระดับหลอมแก่นพลัง ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะรับได้ไหว
ด้วยเหตุนี้ สองคนนั้นจึงเริ่มตื่นตระหนกและร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ว่าใครก็ไม่เข้าไปช่วยพวกเขา เพราะไม่มั่นใจว่าเข้าไปข้างในค่ายกลแล้วจะออกมาได้อีกหรือไม่ นับประสาอะไรกับเมื่อสองคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรกับพวกเขา คุ้มที่จะเสี่ยงอันตรายหรือ?
“ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย อ๊าก…”
ในเสียงร้องขอความช่วยเหลือปะปนด้วยเสียงกรีดร้อง ราวกับว่ากระแสลมทำให้บาดเจ็บ ซ้ำยังถูกแรงกดดันโจมตี แต่อย่างไรเสียนักเรียนข้างนอกก็มองไม่เห็น ช่วยเหลือไม่ได้
“เปรี้ยง!”
สายฟ้าที่สองผ่าตามลงมา แรงสั่นสะเทือนมากมายเสียจนพื้นดินทั้งหมดสั่นไหว สายฟ้าผ่าลงมา กลิ่นอายพลังวิญญาณและพลังชีวิตยังคงหลั่งไหลไปยังจุดศูนย์กลาง สองคนที่ถูกขังอยู่ในค่ายกลยิ่งกรีดร้องมากขึ้นเรื่อยๆ
ครั้นได้ยินสายฟ้าที่สองผ่าลงมา นอกจากเนี่ยเถิงกับเซียวอี้หาน คนอื่นๆ ตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว สายฟ้าที่สองผ่าลงมา นั่นหมายความว่าคนที่บรรลุขั้นด้านในยังรับไหว? และมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะหลอมแก่นพลังทองสำเร็จไม่ใช่หรือ?
………………………………………………….
ตอนที่ 916 เรื่องใหญ่แล้ว
อานุภาพของสายฟ้าที่สองทรงพลังกว่าครั้งแรก แทบทันทีที่กระแสลมและแรงกดดันจากสายฟ้าที่สองกวาดออกไป นักเรียนผู้น่าอนาถที่ติดอยู่ในค่ายกลสองคนนั้นก็บาดเจ็บจนหมดสติไปแล้ว
ยามนี้ ทุกคนด้านนอกต่างกลั้นหายใจ จับจ้องชั้นเมฆที่ป่วนปั่นบนท้องฟ้า คาดเดาว่าสายฟ้าที่สามจะผ่าลงมาหรือไม่? หากสายฟ้าที่สามผ่าลงมา เช่นนั้น…
นึกถึงตรงนี้กแล้ว หัวใจทุกคนต่างหวั่นๆ ขึ้นมา หรือว่าในหมู่พวกเขาจะมีผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังถือกำเนิดขึ้นจริงๆ? สิ่งที่น่ารังเกียจที่สุดคือ จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าเป็นนักเรียนของสำนักศึกษาใด และไม่รู้ว่าคนในนั้นเป็นใครกันแน่?
ทว่ารอบนี้ สายฟ้าที่สามไม่ได้เกิดขึ้นหลังจากนั้นครู่หนึ่ง คนข้างนอกรอคอยและกลั้นหายใจมองอยู่ตลอด เมื่อท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ค่ำคืนมาเยือน ไม่มีใครจากไป ทุกคนลืมแล้วว่าจะแย่งชิงหินวิญญาณของคนข้างๆ แต่ละคนจ้องมองท้องฟ้า อยากรู้ว่าเจ้าบ้าในนั้นจะหลอมแก่นพลังทองสำเร็จหรือไม่กันแน่?
รอไปเช่นนี้ ตั้งแต่กลางคืนจนถึงยามฟ้าสว่าง ไม่ใช่แค่คนที่รอด้านนอกจะอึดอัด แม้แต่เฟิ่งจิ่วด้านในค่ายกลรวมพลังวิญญาณยามนี้ก็เช่นกัน เส้นลมปราณโลหิตในร่างกายถูกกลิ่นอายพลังวิญญาณที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างบ้าคลั่งขยายจนมีความรู้สึกว่าจะฉีกขาดรางๆ เธอถึงกับได้ยินเสียงแกรกดังมาจากเส้นเอ็นโลหิตและกระดูก ความรู้สึกเช่นนั้นทำให้เธอรู้สึกเจียนตาย เหมือนว่าหากก้าวผ่านด่านนี้ไม่ได้ เช่นนั้นก็ต้องตาย!
แต่ยามนี้ ยาอายุวัฒนะใดๆ ล้วนช่วยเธอไม่ได้อีกแล้ว สิ่งที่ช่วยได้มีแต่ตนเองต้องผ่านพ้นด่านนี้เอง มีแค่การข้ามพ้นด่านนี้ไปถึงจะก้าวเข้าสู่อีกระดับหนึ่งได้
เธอกัดฟัน พลังทั่วร่างพุ่งขึ้นสูง กลิ่นอายพลังวิญญาณที่พุ่งขึ้นมาพลันทะยานสูงสามสี่สิบจั้ง ขณะนั้นเอง กลิ่นอายพลังวิญญาณบนร่างเธอก็เปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงดังพรึ่บ เปลวไฟโหมแรงล้อมแผดเผาร่างกาย แทบทันทีที่เปลวไฟลุกโชน ก็เผาเสื้อผ้าบนร่างเธอจนกลายเป็นเถ้าไปหมด
เธอที่ทั่วร่างเปลือยเปล่านั่งขัดสมาธิอยู่ตรงกลางค่ายกลรวมพลังวิญญาณ หลับตาลงแน่น กลางหว่างคิ้วปรากฏเม็ดบัวเขียวรางๆ ประกายสีเขียวเล็กๆ พร้อมแสงสีทองต่างโลดแล่น เม็ดบัวเขียวนั้นคล้ายจะเบ่งบาน เดี๋ยวเลือนรางเดี๋ยวปรากฏ
เส้นผมสีหมึกปลิวสะบัดท่ามกลางกระแสลมและเปลวไฟ เปลวไฟลุกไหม้ราวกับหล่อหลอมร่างกายของเธอ เกิดเป็นเสียงกระแสลม ในยามนี้เอง กลางท้องฟ้ามีเสียงฟ้าร้องครั้งหนึ่ง จากนั้นสายฟ้าที่ทรงพลังกว่าสองครั้งก่อนหน้าหลายเท่าก็ผ่าลงมาจากกลางอากาศ
“เปรี้ยง!”
ทันใดนั้น ทั้งพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์แดนลับราวกับเกิดแผ่นดินไหว เหล่านักเรียนที่ยืนอยู่นอกค่ายกลรวมพลังวิญญาณเพียงรู้สึกว่าพื้นดินพลันสั่นไหว แม้แต่พวกเขาอยากจะยืนให้มั่นก็ยังทำไม่ได้ แผ่นดินไหวกะทันหันทำให้พวกเขาเวียนหัว และต่างพากันทรุดนั่งลงกับพื้นไม่อาจลุกขึ้นได้
“เฮือก! มาดูเร็วเข้า!”
มีคนสูดลมหายใจ รู้สึกแค่ว่าอากาศทั้งหมดบิดเบี้ยวผิดรูป มองไปรอบข้างต้นไม้วัชพืชต่างเหี่ยวเฉา แม้แต่บริเวณห่างไกลยังร่วงโรยด้วยความเร็วที่เห็นได้สะดุดตา ทั่วพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์แดนลับอันเขียวขจีเหมือนถูกดึงพลังชีวิตไปจนเหือดแห้งทันใด กลายเป็นผืนป่าไม้แห้งเหี่ยว…
การเคลื่อนไหวใหญ่โตภายในไม่เพียงทำให้เหล่านักเรียนในนี้ตื่นตกใจ แต่ยิ่งแตกตื่นไปถึงเจ้าสำนักและเหล่าผู้อาวุโสสำนักศึกษาสองดาราด้านนอก เดิมทีทุกคนกำลังเตรียมพานักเรียนในแดนลับออกมา กลับไม่นึกว่าจู่ๆ ทั้งสำนักศึกษาจะปั่นป่วนไปหมด…
………………………………………………….