เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 925 กลุ่มอำนาจเบื้องหลังยิ่งใหญ่เกินไป + ตอนที่ 926 ข้ารับงานนี้
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 925 กลุ่มอำนาจเบื้องหลังยิ่งใหญ่เกินไป + ตอนที่ 926 ข้ารับงานนี้
ตอนที่ 925 กลุ่มอำนาจเบื้องหลังยิ่งใหญ่เกินไป + ตอนที่ 926 ข้ารับงานนี้
ตอนที่ 925 กลุ่มอำนาจเบื้องหลังยิ่งใหญ่เกินไป
“ไม่เป็นไร ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้ แต่ก่อนหน้านั้นยังมีเรื่องหนึ่งต้องให้อาจารย์อย่างเจ้าไปทำ” สายตาของเจ้าสำนักมองเฟิ่งจิ่วที่นั่งอยู่ด้านล่างอย่างกระตือรือร้น ในดวงตามีความปลาบปลื้มที่ยากจะปิดบังอยู่รางๆ
เฟิ่งจิ่วเห็นก็รู้สึกแปลกโดยทันที ถามว่า “เรื่องอะไรขอรับ?”
“เรื่องเป็นเช่นนี้ เจ้าดูสิ ตอนนี้เดือนห้าแล้ว เปิดเรียนมาครึ่งปีกว่า แต่นักเรียนบางคนยังไม่กลับมา ดังนั้น…” เขามองเฟิ่งจิ่วด้วยแววตาจริงใจ ความหมายชัดเจนยิ่ง
“ดังนั้น?”
เฟิ่งจิ่วกลับไม่เข้าใจสักเท่าไร มองเจ้าสำนักและถามเขา “นักเรียนไม่กลับสำนักศึกษามาฝึกบำเพ็ญ ต้องไปตามถึงบ้านหรือไร? หากต้องไปจริงๆ นี่ตั้งครึ่งปีกว่าแล้ว ทำไมพวกอาจารย์ยังไม่ไปอีก รอจนตอนนี้ถึงจะพูด?”
“ข้าเพิ่งบอกไม่ใช่หรือ สำนักศึกษานี้นักเรียนบางคนมีฐานะตำแหน่งไม่ธรรมดา ซ้ำยังได้รับความโปรดปรานในตระกูล ครอบครัวของนักเรียนเหล่านั้นเกลี้ยกล่อมก็ไม่ฟัง เรื่องนี้จึงยกให้สำนักศึกษาเราจัดการ บอกว่าสำนักศึกษาเป็นสถานที่อบรมนักเรียน ทุกปีต้องจ่ายค่าเล่าเรียนมากมายเพียงนั้น ดังนั้นเรื่องนี้ก็ควรให้พวกเราจัดการ”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จะไล่พวกเขาออกก็ได้ไม่ใช่หรือ? ให้พวกเขาไปหาสำนักศึกษาอื่น มิเช่นนั้นก็ให้ตระกูลพวกเขาสอนสั่งเสียเอง ตนเองไม่อยากเรียนเช่นนี้ก็เหมือนฝืนกดหัววัวให้กินน้ำ เปล่าประโยชน์”
“เฮ้อ!” เจ้าสำนักถอนหายใจเบาๆ ส่ายหน้าไม่พูดไม่จา
ผู้อาวุโสข้างๆ กันเอ่ยปากคลายความสงสัย “เฟิ่งจิ่ว เรื่องนี้เจ้าไม่รู้ สำนักศึกษาของเรามีการคัดเลือกนักเรียน มีสิทธิ์ตัดสินว่าจะให้นักเรียนเข้ามาฝึกบำเพ็ญหรือไม่เป็นเรื่องไม่ผิด แต่ก็มีข้อยกเว้น”
เขาลูบหนวดเคราพลางกล่าว “เจ้าอาจไม่เคยได้ยินเรื่องแปดจักรวรรดิใหญ่ ภายใต้สิ่งนี้ มีสายเลือดบรรพบุรุษที่เป็นราชวงศ์และตระกูลบางส่วนอยู่ในแปดจักรวรรดิใหญ่ กลุ่มอำนาจและตระกูลที่ลงหลักปักฐานในแปดจักรวรรดิใหญ่ได้ล้วนเป็นตัวตนที่ทรงอำนาจยิ่ง แม้แต่พวกเราก็จะไม่ระวังไม่ได้ อีกอย่างนักเรียนพวกนี้ ตระกูลของพวกเขาคาดหวังกับพวกเราไว้มากนัก เพียงแต่เพราะชาติกำเนิดไม่ธรรมดา พฤติกรรมและท่าทางจึง…อะแฮ่ม มีปัญหาอยู่บ้าง ทว่าเพราะพวกเขาต้องมีพลังในระดับหนึ่ง ถึงจะผ่านการคัดเลือกของสำนักในแปดจักรวรรดิเบื้องบนเข้าไปในแปดจักรวรรดิใหญ่ได้ ด้วยเหตุนี้ครอบครัวพวกเขาจึงจำต้องส่งพวกเขามาที่สำนักศึกษา”
“เจ้าอย่ามองว่าพวกเขาเป็นคนแคว้นระดับสอง อันที่จริงกลุ่มอำนาจตระกูลและฐานะบรรพบุรุษของพวกเขา แม้แต่คนแคว้นระดับหนึ่งยังต้องไว้หน้าให้ ไม่กล้าล่วงเกินซึ่งๆ หน้า”
“กล่าวเช่นนี้ ตัวแสบพวกนั้นที่พวกท่านพูดถึงก่อนหน้าก็คือคนพวกนี้หรือ?” เฟิ่งจิ่วพูดอะไรไม่ออก เธอเพิ่งได้ยินเรื่องพวกนี้เป็นครั้งแรก ที่แท้ตระกูลและกลุ่มอำนาจเบื้องล่างก็มีคนจากแปดจักรวรรดิเบื้องบนคอยคุ้มหัว มิน่าแม้แต่พวกเจ้าสำนักศึกษาสองดารายังจนปัญญากับนักเรียนพวกนั้น
เจ้าสำนักพยักหน้า “ใช่ ถูกต้อง เป็นพวกเขานั่นแหละ อันที่จริงก็ไม่มาก แค่สี่คนเท่านั้น เพียงแต่สี่คนนี้ล้วนรับมือยากเหลือเกิน”
เพราะรับมือยากเกินไป หนำซ้ำยังสร้างปัญหาเก่งไม่น้อย ด้วยเหตุนี้เมื่อเห็นเฟิ่งจิ่วคนนี้เข้าไปในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์แดนลับครึ่งเดือนก็ทำให้พลังชีวิตด้านในไม่มีเหลือ พวกเขารู้ทันทีว่าเขากับสี่คนนั้นมีศีลเสมอกัน
แค่กๆ คำพูดนี้เอ่ยออกมาไม่ได้แน่นอน ตนเองรู้ไว้เป็นพอ ปัญหาคือขอแค่เขาสามารถจัดการ กำราบสี่คนนั้นได้ เช่นนั้นจะช่วยพวกเขาได้มากจริงๆ
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็ลูบๆ คางพลางขบคิด ว่ากันตามตรง ฟังแล้วน่าสนใจไม่น้อยเลยจริงๆ
………………………………………………….
ตอนที่ 926 ข้ารับงานนี้
ผ่านไปเนิ่นนาน เธอลุกขึ้นบอกว่า “เอาเถอะ! ข้าจะรับงานนี้ กลับไปท่านค่อยสั่งให้คนนำเอกสารข้อมูลของพวกเขาสี่คนมาให้ข้า ข้าจะกลับไปพักผ่อนฟื้นฟูจิตใจเสียก่อน”
อยู่ในแดนลับครึ่งเดือนไม่ได้อาบแม้แต่น้ำ ซ้ำยังไม่ได้พักผ่อนอะไร ยามนี้เพียงอยากจะกลับไปอาบน้ำกินข้าวและพักผ่อนให้เต็มอิ่ม
“ได้ๆ เจ้ากลับไปก่อนเถอะ! ข้าจะสั่งคนนำข้อมูลไปให้เจ้าทีหลัง พรุ่งนี้ค่อยสั่งคนจัดเตรียมที่พักให้เจ้าใหม่อีกที” เจ้าสำนักเผยรอยยิ้มพลางเอ่ย ก่อนจะออกไปส่งเฟิ่งจิ่วพร้อมผู้อาวุโส เห็นร่างอีกฝ่ายหายลับไปด้านนอก สองคนก็ถอนหายใจ
“เรื่องนี้หากเขารับไว้ น่าจะสำเร็จได้กระมัง?” เจ้าสำนักกล่าว มีความคาดหวังส่วนหนึ่ง กระวนกระวายส่วนหนึ่ง
“ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังที่อายุสิบเจ็ดสิบแปด พรสวรรค์ของเขาช่างหาได้ยากยิ่งจริงๆ หนำซ้ำนิสัยคนผู้นี้รักอิสระไม่เกรงสิ่งใด คล้ายคลึงคนพวกนั้นอยู่บ้าง ข้าคิดว่าคงสำเร็จได้” ผู้อาวุโสลูบหนวดพลางเอ่ย
“หากสำเร็จได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าเฟิ่งจิ่วคนนี้ใช้พลังวิญญาณในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์จนหมดเลย แม้มาอีกสองสามครั้งข้าก็ยินดี!” เจ้าสำนักถอนใจกล่าว สำหรับสี่คนนั้นรวมถึงตระกูลเบื้องหลังพวกเขา เพียงคิดว่าหากสี่คนนั้นฝึกบำเพ็ญบรรลุขั้น เข้าร่วมการคัดเลือกของสำนักหมอกดารา และออกจากที่นี่ไปยังแปดจักรวรรดิใหญ่ได้โดยเร็ว พวกเขาก็โล่งใจแต่เนิ่นๆ ได้แล้ว
“ใช่! เด็กสี่คนนั้นไม่เหมือนคนอื่นเสียได้ นักเรียนคนอื่นขยันฝึกบำเพ็ญ พยายามจะเข้าไปสำนักศึกษาหนึ่งดาราให้ได้ เฝ้าทำให้พละกำลังของตนเองก้าวหน้า ส่วนพวกเขาที่ไหนได้เล่นสนุกก็ไปที่นั่น ใครพูดอะไรไม่ฟัง เป็นตัวปัญหาจริงๆ” ผู้อาวุโสทอดถอนใจเช่นกัน “ปีก่อนไม่รู้พาผู้หญิงสองสามคนจากไหนไปยัดเยียดไว้ในเรือนของข้า ข้าตกใจเสียจนอกสั่นขวัญแขวนนอนไม่หลับไปช่วงหนึ่ง”
คนพวกนั้นบอกว่าไม่มีฝีมือ กลับสามารถสิ่งที่คนทั่วไปทำไม่ได้ ฝีมือและอุบายมากมายจนคนยากจะป้องกันไว้ก่อน หากเฟิ่งจิ่วกำราบสี่คนนั้นได้จริง คาดว่าพวกเขาคงนอนหลับฝันดีได้
อีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วกลับถึงเรือนเตรียมจะอาบน้ำพักผ่อน ก็เห็นภายในลานบ้านเต็มไปด้วยคนรอบล้อม ครั้นเห็นเธอเข้ามา แต่ละคนต่างมองมาทางเธอ
“เฟิ่งจิ่ว เจ้ากลับมาแล้วหรือ เป็นอย่างไรบ้าง พวกเขาไม่ได้ทำให้เจ้าลำบากใจกระมัง?” เยี่ยจิงเอ่ยถาม หลังจากรู้เรื่องราวด้านใน นางทำได้เพียงอุทานว่าเหลือเชื่อ ไม่รู้เลยว่าข้างในเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น
เฟิ่งจิ่วยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไร แค่ตามข้าไปคุย ทำไมพวกเจ้ามาอยู่ที่นี่กันหมด? อยู่ข้างในตั้งสิบกว่าวันไม่เหนื่อยหรือ ไม่กลับไปพักผ่อนเล่า?”
“เจ้ายังไม่กลับมา ทุกคนล้วนไม่วางใจกัน” เซียวอี้หานยิ้มบอก เข้าไปถามว่า “เป็นอย่างไร? ตอนเจ้าสำนักกับสองผู้อาวุโสกลับไปสีหน้าไม่ค่อยดีเลย พวกเขาไม่ได้ทำให้เจ้าลำบากใจจริงๆ หรือ?”
“ท่านดูท่าทางข้า เหมือนมีเรื่องอะไรหรือ?” เธอเลิกคิ้วขึ้น ชายตามองเขาแวบหนึ่ง
“ไม่ค่อยเหมือนเท่าไร” เขาฉีกยิ้มกว้าง เอ่ยว่า “เยี่ยมมาก! ออกมาก็กลายเป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลัง ความเร็วของการบรรลุขั้นจะผิดแปลกเกินไปแล้ว”
“เฟิ่งจิ่ว เจ้าเป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังแล้วจริงหรือ?”
“เจ้าบรรลุขั้นข้างในสำเร็จได้อย่างไร?”
“ล้วนบอกกันว่าระดับหลอมแก่นพลังทะลวงถึงยาก เจ้าหลอมแก่นพลังทองภายในเวลาสั้นๆ เพียงนั้นได้อย่างไร?”
“ใช่ บอกพวกเราหน่อยเถอะ!”
เหล่านักเรียนสำนักศึกษาหกดาราแต่ละคนมองเฟิ่งจิ่วอย่างใจจดใจจ่อ ตั้งตารอจะได้ประสบการณ์จากเธอบ้าง สำหรับเฟิ่งจิ่วคนนี้ที่เข้าสำนักศึกษาพวกเขามาไม่นานก็ไปถึงระดับสร้างรากฐาน ยามนี้ยังกลายเป็นผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังอีก จากที่ไม่ยอมรับในตอนแรกสุด ถึงตอนนี้พวกเขายอมรับทั้งปากและใจแล้ว
………………………………………………….