เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 981 ปรากฏตัว + ตอนที่ 982 จอมเจ้าชู้ ซ่งหมิง
ตอนที่ 981 ปรากฏตัว + ตอนที่ 982 จอมเจ้าชู้ ซ่งหมิง
ตอนที่ 981 ปรากฏตัว
“ไม่ต้องการ? ถึงไม่อยากก็ต้องไป” ผู้ดูแลให้สัญญาณ สั่งคนคุมตัวหนิงหลางไปข้างหน้า ส่วนตนเองเช็ดเหงื่ออยู่ด้านหลัง ถึงจะรีบเร่งตามไป
“ไม่เอา ข้าไม่อยากโดนขายไปโรงค้าเด็กหนุ่ม ข้าจะกลับบ้าน ข้าจะกลับบ้าน…” หนิงหลางดิ้นรนพลางตะโกนเสียงดัง แต่ไม่กินอะไรมาสองสามวัน วรยุทธ์ยังถูกผนึก ร่างกายดูไร้เรี่ยวแรง เพียงถูกผู้ฝึกตนสองคนคุมตัวไปข้างหน้า
มาถึงสถานที่ด้านหน้าก็โดนขังเข้าในกรงอีกครั้ง กรงขังนี้นอกจากเขาแล้ว ยังมีเด็กหนุ่มอายุสิบห้าสิบหกอีกห้าหกคน รูปโฉมโดดเด่นกว่าเด็กหนุ่มทั่วไป หนำซ้ำยังแต่งตัวกันมาหมด แต่ละคนสวมเสื้อผ้าใหม่เรียบร้อย
เขามองหนุ่มน้อยสองสามคนนั้น สีหน้าเศร้าใจในทันที หรือว่าต้องโดนขายไปสถานที่พวกนั้นจริงๆ?
ขณะที่ในใจเขากำลังไม่สงบ พลันเห็นสองร่างที่คุ้นเคย หนิงหลางเห็นพวกเขา ทันใดนั้นนัยน์ตาก็พุ่งพล่านด้วยความประหลาดใจ สองมือจับประตูกรงขังไว้แน่น พร้อมตะโกนไปข้างนอก “เฟิ่งจิ่ว! เฟิ่งจิ่ว! ต้วนเยี่ย ต้วนเยี่ย ช่วยข้า ช่วยข้าด้วย! ข้าอยู่นี่ อยู่ตรงนี้!”
สองคนที่คุยกันไปพลางๆ คล้ายจะได้ยินโดยไม่ตั้งใจ หันกลับไปมอง เมื่อสายตาสบเข้ากับร่างที่โดนขังไว้ในกรง ต้วนเยี่ยก็ก้าวยาวเข้าไป ส่วนเฟิ่งจิ่วชะลอฝีเท้าเล็กน้อย
“เจ้าอ้วน? ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่?” ต้วนเยี่ยมองคนที่ถูกขังในกรงด้วยสีหน้าแปลกใจ ราวกับไม่รู้เรื่องอะไรเลย พร้อมเอ่ยถามอย่างสงสัยและตกตะลึง
“ฮือ… ต้วนเยี่ย ข้าโดนขายแล้ว”
เบ้าตาเขาแดงก่ำ มองไปยังเฟิ่งจิ่วที่เดินนวยนาดมา “เฟิ่งจิ่ว ข้าไม่ควรแอบหนีเลย คนพวกนี้ล้วนไม่ใช่คนดี พวกเขาไม่ให้ข้ากินข้าว ซ้ำยังให้ทำงานหนักๆ เจ้าดูมือข้าสิพุพองไปหมด”
เฟิ่งจิ่วมาหยุดฝีเท้าลงตรงหน้ากรงขัง มองเด็กหนุ่มที่ผอมแห้งอย่างเห็นได้ชัดในเวลาไม่กี่วันพลางยิ้มถาม “ทำไมไม่บอกพวกเขาว่าเจ้ามีเงิน ให้พวกเขาปล่อยเจ้าเสียเล่า?”
“ข้าบอกแล้ว พวกเขาไม่เชื่อ” เขากล่าวอย่างน้อยใจ
“เจ้ามีวรยุทธ์มั่นคงไว้ป้องกันตัวไม่ใช่หรือ? ทำไมไม่หนีไป?”
“หนีไม่ได้ วรยุทธ์ข้าถูกปิดผนึกไว้” เห็นชัดๆ ว่าเขากำลังยิ้ม แต่นัยน์ตากลับไม่มีรอยยิ้ม เห็นเฟิ่งจิ่วไม่บอกว่าจะช่วยเขาออกมา ในใจหวั่นกลัวในทันที
“เฟิ่งจิ่ว เจ้าจะช่วยข้าหรือเปล่า?”
“ตั้งแต่เจ้าหนีไป อันที่จริงข้ากับเจ้าก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว เจ้าอาจอาศัยฝีมือของตนเองหนีออกมาได้”
“ไม่เลย ขะ ข้าออกไปไม่ได้” เขาก้มหน้าเล็กน้อย ไม่กล้าสบตาเฟิ่งจิ่วสักเท่าไร “เจ้าช่วยข้าออกไปเถอะ! แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ภายหน้าข้าจะไม่หวังพึ่งคนอื่นมาช่วยอีกแล้ว จะขยันฝึกบำเพ็ญ และพยายามแข็งแกร่งขึ้น”
“จะเชื่อฟังแล้วหรือ?” เธอเลิกคิ้วเอ่ยถาม
“อืม ฟัง จะเชื่อฟังแน่นอน” เขารีบพยักหน้า
“ไม่หนีแล้ว?” เธอถามอีก
“ไม่หนี เจ้าให้ข้าไปไหน ข้าจะไปที่นั่น” เขารับประกัน
เธอได้ยินเช่นนี้ก็ยกมุมปาก “รอไปเถอะ!” แล้วหมุนตัวออกไป ทิ้งไว้เพียงต้วนเยี่ยอยู่ตรงนั้น
“ทำไมพวกเจ้ายังอยู่ที่นี่? กำลังตามหาข้าหรือ?” หนิงหลางมองต้วนเยี่ยที่ยืนข้างนอกพลางเอ่ยถาม
ต้วนเยี่ยเหลือบมองเขา บอกว่า “เปล่า เฟิ่งจิ่วบอกว่าเจ้าไปก็ไม่ต้องตามหา วันนี้แค่ได้ยินว่าที่นี่มีตลาดใต้ดิน ถึงจะเข้ามาดูสักหน่อย”
หนิงหลางเงียบไป พร้อมก้มหน้าลงต่ำ
ไม่นานนักหนิงหลางเพียงเห็นผู้ดูแลที่ผอมอย่างกับลิงวิ่งเหยาะๆ โค้งเอวตามมาข้างกายเฟิ่งจิ่วด้วยสีหน้าประจบประแจง เห็นท่าทางที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ในใจก็ทอดถอนใจเล็กน้อย
นี่หรือคือการปฏิบัติที่แตกต่างของพละกำลัง? สองสามวันนี้เขาเห็นมาไม่น้อยเลยจริงๆ
………………………………………………….
ตอนที่ 982 จอมเจ้าชู้ ซ่งหมิง
พาคนไปยังร้านเหล้า สั่งอาหารสิบสองอย่าง อาหารพวกนั้นยังมาไม่ครบก็เห็นท่าทางหนิงหลางหลังจากนั่งลงก็หิวจะแย่แล้ว จึงตักข้าวเริ่มกินคำใหญ่ โดยไม่แม้แต่จะสนใจคุยกับทั้งสอง
เฟิ่งจิ่วกับต้วนเยี่ยมองหน้ากัน นั่งลงตรงโต๊ะ ทั้งสองเพียงดื่มเหล้าไม่กินอะไร กระทั่งผ่านไปครึ่งชั่วยาม หนิงหลางค่อยยังชั่วแล้ว ในที่สุดก็วางตะเกียบลง
“กินอิ่มแล้วหรือ?” เฟิ่งจิ่วยิ้มถาม
“อิ่มแล้ว”
เขาลูบๆ ท้อง ก่อนจะเรอและเอ่ยว่า “นี่เป็นมื้อที่ข้ากินอิ่มและหอมที่สุดเลย” กล่าวจบก็ชะงักไปเล็กน้อย มองยังสองคนพลางบอกว่า “ข้านึกว่าพวกเจ้าไปกันแล้ว และคิดว่าจะโดนขายไปโรงค้าเด็กหนุ่มจริงๆ! คนพวกนั้น ข้าบอกพวกเขาว่าตนเองเป็นคนของตระกูลหนิง บอกว่าตระกูลข้าร่ำรวยเทียบเท่าแคว้นหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะไม่เชื่อ”
เขากล่าวและปั้นหน้าเศร้า “สิ่งของติดตัวข้าโดนคนพวกนั้นขโมยไปหมด”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็ชายตามองเขา ถึงจะโยนถุงฟ้าดินให้ไป “ของเจ้าทั้งหมดอยู่ตรงนี้ เอาล่ะ กินอิ่มก็ไปกันเถอะ! ชักช้าอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว”
หนิงหลางตกใจ เพียงเปิดออกดูก็ตะลึงโดยฉับพลัน “เป็นสมบัติของข้าจริงๆ ด้วย ทำไมมาอยู่ที่เจ้า…”
เขาคิดจะถามก็เห็นเฟิ่งจิ่วกับต้วนเยี่ยออกไปกันแล้ว แม้แต่สัตว์เลี้ยงตัวขาวกลมยังตามไปด้วย ทันใดนั้นหลังจากเร่งรีบเก็บถุงฟ้าดินก็ตามลงไป
หลังทั้งสามพ้นประตูเมืองไป ก็โยนพาหนะเหาะเหินออกไปทันที มุ่งไปยังแคว้นระดับสอง ผ่านไปประมาณสองวันก็มาถึงเมืองหนึ่งของอีกแคว้นถัดจากแคว้นกาฬ
“จะไปเทือกเขาอเวจีไม่ใช่หรือ? มาที่นี่ทำไมกัน?” หนิงหลางตามไปข้างกายเฟิ่งจิ่ว มองเขาที่สวมชุดแดงฝีเท้าสบายๆ ก็ไม่เข้าใจสักเท่าไร
สองวันนี้ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกไม่ถูกต้องเท่าไร ซ้ำยังคิดไม่ออกว่าผิดปกติตรงไหน เฟิ่งจิ่วช่วยเขาไม่ผิดแน่ แต่ทำไมของเขาถึงอยู่ที่เฟิ่งจิ่ว?
พวกเขาไปถึงโรงเตี๊ยมพร้อมกัน รู้ว่าตอนนั้นเฟิ่งจิ่วกับต้วนเยี่ยไม่ได้ออกไปไหน ไม่น่าจะตามไปจัดการเขาได้ในเวลาชั่วขณะนั้นแน่ๆ แต่คิดไปคิดมา ยังคงมีความรู้สึกว่าโดนเฟิ่งจิ่วซ้อนแผน
แต่เพราะความเย็นชาของเขา หนิงหลางกลับไม่กล้าถามถึงเรื่องนี้อีก
“เรามาตามหาคนหนึ่งที่นี่ ซ่งหมิง” เฟิ่งจิ่วเอ่ย พร้อมเข้าไปในเมืองพร้อมพวกเขา เห็นความคึกคักรุ่งเรืองในเมืองนี้ แล้วสายตาเธอก็หยุดลงบนร้านน้ำชาข้างหน้า
“ไปดื่มชากันก่อนเถอะ!”
สองคนข้างกายตามไป อสูรกลืนเมฆายังตามหลังเธอไปอย่างเชื่องๆ มาถึงบริเวณร้านน้ำชา นอกจากน้ำชาแล้ว ยังมีของว่างให้กินด้วย
“ทำไมต้องตามหาซ่งหมิง? เขาเป็นจอมเจ้าชู้ วันๆ ชื่นชอบหญิงงามโดยไม่ทำงานการ” หนิงหลางเบ้ปาก ซ่งหมิงคนนี้เขาไม่เคยสนิทด้วย กลับเคยได้ยินกิตติศัพท์ของเขา พูดได้ว่าเป็นนังเลงไร้อนาคตที่เกิดในตระกูลมั่งคั่ง
ต้วนเยี่ยรู้สถานะอาจารย์ของเฟิ่งจิ่ว เรื่องมาตามหาซ่งหมิงก็รู้ตั้งแต่แรก ด้วยเหตุนี้จึงไม่รู้สึกอะไร เขาก็ไม่เคยสนิทกับซ่งหมิง แต่เมื่อก่อนตอนอยู่ในสำนักศึกษาจะได้ยินชื่อเสียงความเจ้าชู้ของเขาบ่อยๆ เคยสังเกตเห็นเขา เพียงเพราะสำนักศึกษาสองดาราจัดเขา หนิงหลาง ซ่งหมิงรวมถึงลั่วเฟยสี่คนเป็นสี่ตัวแสบของสำนักศึกษา ไม่มีอาจารย์คนไหนกล้าสั่งสอนพวกเขา และไม่มีใครกล้าขัดใจ
ด้วยเหตุนี้เขาให้คนไปตรวจสอบ จึงรู้ว่าคนอื่นสามคนก็เหมือนตระกูลต้วนของเขา นอกจากจะมีกลุ่มอำนาจแข็งแกร่งที่นี่ ในแปดจักรวรรดิใหญ่ยังมีตระกูลอยู่ด้วย
………………………………………………….