เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 989 สามวันต้องตาย + ตอนที่ 990 ทางรอดเดียว
ตอนที่ 989 สามวันต้องตาย + ตอนที่ 990 ทางรอดเดียว
ตอนที่ 989 สามวันต้องตาย
“นี่เป็นความคิดของผู้นำตระกูลซ่งหรือ?” เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้ว จ้องมองผู้ฝึกตนที่โดนอสูรกลืนเมฆากดไว้บนพื้นแม้แต่หายใจยังลำบากพลางเอ่ยถาม
ผู้ฝึกตนคนนั้นสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ไม่มีแรงจะตะเกียดตะกาย ไม่พูดอะไรเพียงมองหนุ่มน้อยชุดดำตรงหน้าอย่างหวาดผวา
“ไม่พูดรึ? ไม่เป็นไร ข้าพาพวกเจ้ากลับไปถามให้ชัดเจนถึงบ้านตระกูลซ่งก็ได้ อย่าได้คิดตาย เจ้าตายไปข้าจะใช้เจ้ามาให้อสูรน้อยของข้ากิน”
เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่เร่งไม่ช้า ชายตามองคนบนพื้นและไม่กลัวว่าเขาจะฆ่าตัวตาย เพราะเธอมองออกแต่แรกว่าคนคนนี้รักตัวกลัวตาย มิเช่นนั้นยามที่โดนจับคงฆ่าตัวตายไปเสียเนิ่นๆ จะไม่รอถึงตอนนี้
“คอยดูพวกเขา” เฟิ่งจิ่วสั่งอสูรกลืนเมฆาคอยเฝ้าทั้งสองไว้ ส่วนตนเองเดินไปข้างนอก มายังในห้องต้วนเยี่ยก่อน แล้วตรวจดูอาการของเขา
“เจ้าโง่” เธอด่าเบาๆ อย่างกลั้นไม่ไหว ติดกับจริงๆ เสียด้วย
ทันใดนั้นเธอหยิบเข็มเงินมาฝังตรงจุดลมปราณของต้วนเยี่ย ทำให้เขาตื่นขึ้นมาเสียก่อน ใครจะรู้ว่าเขาแค่ตื่นมาก็เหวี่ยงหมัดที่แฝงด้วยพลังลึกลับรุนแรงมายังหน้าเธอ เธอรีบร้อนต้านไว้ ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “นี่ข้าเอง”
ได้สติกลับมา ต้วนเยี่ยได้ยินเสียงเฟิ่งจิ่วก็แปลกใจ “ทำไมเจ้าอยู่ตรงนี้?” เอ่ยพลางเร่งรีบลุกขึ้นมานั่ง รู้สึกว่าร่างกายไม่มีอะไรผิดปกติ จึงถอนหายใจในทันที “ยังดีไม่เป็นอะไร ข้านึกว่าจะติดกับเสียแล้ว!”
“ไม่เป็นอะไร?” เฟิ่งจิ่วชายตามองเขาด้วยท่าทีแปลกไป ลุกขึ้นมาปัดๆ ชุดคลุม “เจ้าคิดว่าไม่เป็นไรหรือ?”
ต้วนเยี่ยได้ยินคำพูดนี้ ในใจคร่ำเครียดเล็กน้อย มีลางสังหรณ์ไม่ดี กล่าวว่า “ตอนนั้นข้าเหมือนได้กลิ่นอะไรก็สลบไป ตอนนี้ตื่นมาร่างกายไม่เป็นอะไรจริงๆ หรือว่าไม่ใช่?”
“ไปห้องข้างๆ ดูหนิงหลางเสียก่อน” เธอพูดจบก็หมุนตัวเดินออกไป ต้วนเยี่ยด้านหลังรีบตามไป เมื่อมาถึงห้องข้างๆ พร้อมกัน เห็นหนิงหลางบนเตียงยังหลับสนิท
เขาเห็นเฟิ่งจิ่วเดินเข้าไป หลังจากจับชีพจรของหนิงหลาง ก็ใช้เข็มเงินฝังตรงจุดลมปราณทำให้เขาฟื้นมา
“หือ?”
หนิงหลางลืมตาขึ้นช้าๆ เมื่อเห็นเฟิ่งจิ่วที่นั่งข้างเตียงก็ตกใจ “เฟิ่งจิ่ว? ทำไมเจ้าวิ่งมาห้องข้า?” เขาลุกขึ้นมานั่ง เห็นต้วนเยี่ยอยู่ด้วยเช่นกัน จึงโล่งอกทันควัน “อยู่กันหมดเลย! เช่นนั้นก็ดี ข้าจะบอกพวกเจ้า ว่าข้านอนอยู่ได้ยินการเคลื่อนไหว พวกเจ้าได้ยินหรือไม่? เดาว่าคงเป็นคนที่ตระกูลซ่งส่งมา”
“ในเมื่อรู้กันหมดยังปล่อยให้ตนเองติดกับ และตกอยู่ในอันตราย? พวกเจ้าอยากตายนักหรือไร? ทำไมไม่รู้จักตอบโต้ตั้งแต่แรก?” เธอมองทั้งสอง น้ำเสียงเฉยชาและมีความดุดัน
สองคนครุ่นคิดสักพัก มองหน้ากันและมองยังเฟิ่งจิ่วรอเขาพูดอะไรต่อ ตั้งแต่ตื่นมาก็เห็นใบหน้าเขามีความโกรธเคือง ผิดปกติไปบ้างอย่างเห็นได้ชัด
“โดนพิษแล้ว เป็นพิษแรงเรื้อรัง จะตายภายในสามวัน คนคนนี้โหดเหี้ยมนัก กลางวันแค่โดนซ้อม นึกไม่ถึงว่ากลางคืนจะส่งคนเข้ามาเอาชีวิตพวกเจ้า” สองแขนเธอกอดอกเอนพิงข้างเตียง ท่าทางงดงามมีความเย็นชา นัยน์ตาฉายแววหนาวเหน็บเย็นเยียบ
สำหรับคนที่จิตใจชั่วร้ายและจะคร่าชีวิตใครง่ายๆ เช่นนี้ เธอพลันรู้สึกคันไม้คันมือ
ต้วนเยี่ยได้ยินคำพูดของเขา สีหน้ายิ่งเคร่งเครียด จิตสังหารกระหายเลือดแผ่ไปทั่วร่าง ส่วนหนิงหลางก็เบิกตาโตอย่างตะลึงและตกใจ สีหน้าเหลือเชื่อ
“ไม่ใช่กระมัง? ส่งคนเข้ามาวางยาพวกเรา? ซ้ำยังใช้วิธีร้ายกาจเช่นนี้? คิดว่าผ่านไปสามวันจะให้พวกเราตายไปเงียบๆ และหาไม่ได้ว่าใครวางยา? เรื่องโหดร้ายเลวทรามเพียงนี้เป็นฝีมือใครกัน?”
………………………………………………….
ตอนที่ 990 ทางรอดเดียว
“ข้าก็อยากรู้ว่าใครทำ” น้ำเสียงต้วนเยี่ยมีจิตสังหารเย็นเยือก ใบหน้าอ่อนวัยเต็มไปด้วยท่าทีดุร้ายกระหายเลือด
สายตาเฟิ่งจิ่วมองผ่านบนร่างทั้งสอง กล่าวว่า “ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสองคนยังอยู่ในห้องข้า ไปกันเถอะ! เข้าไปถามเสียหน่อย” เธอพูดจบก็หมุนตัวเดินไปข้างนอก มุ่งไปยังห้องที่เธอพัก
ทั้งสองได้ยินคำพูดนี้ก็ตกใจ ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสองคนพ่ายแพ้ในเงื้อมมือเขา? ในใจนึกสงสัย แล้วเดินตามออกไป มาถึงในห้องของเขา เมื่อเข้าประตูไปก็ตกใจสะดุ้งพร้อมกัน แทบจะร้องอุทานเสียงหลง
ภายในห้อง สัตว์ร้ายรูปร่างใหญ่โตปล่อยแรงกดดันทรงพลังไปทั่วร่าง ทั้งเหมือนเสือและคล้ายสิงโต ทำให้ฝีเท้าพวกเขาที่ย่างเข้าไปก้าวต่อไม่ได้เสียเนิ่นนาน
นั่นเป็นสัตว์เทวะ! นึกไม่ถึงว่าเป็นสัตว์เทวะ! จากบนร่างสัตว์เทวะที่แข็งแกร่งน่าสะพรึง พวกเขายังเห็นกลิ่นอายของอสูรกลืนเมฆาตัวน้อย ดวงตาอสูรคู่นั้นน่ากลัวยิ่งกว่าอสูรกลืนเมฆายามที่ตัวหดเล็ก ดวงตาดุร้ายกระหายเลือดปรากฏจิตสังหารแสนสะพรึง แต่แวบเดียวยังทำให้ทั้งสองตื่นตระหนกเป็นที่สุด
โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าใต้อุ้งเท้าสัตว์เทวะ มีผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังที่ถูกมันเหยียบเสียจนหายใจแผ่วๆ นอนอยู่ตรงนั้น คล้ายจะขาดใจ สีหน้าขาวซีด กลิ่นอายอ่อนแอเล็กน้อย ราวกับจะตายไปได้ทุกเมื่อ
ส่วนอีกด้านหนึ่งก็หมดสติล้มลงบนพื้น ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสองคนถูกเฝ้าไว้โดยสัตว์เทวะ อย่าบอกว่าแค่สองคน แม้มาอีกสองคนก็ไปไหนไม่ได้
“คนอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าสอบสวนเถอะ!” เธอให้สัญญาณโดยไม่ได้เข้าไป แต่มานั่งลงตรงโต๊ะและรินน้ำชาดื่ม
เรื่องเกี่ยวกับชีวิตตนเอง ต้วนเยี่ยกับหนิงหลางสองคนมองหน้ากัน เดินเข้าไปข้างหน้า มองผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังที่โดนอสูรกลืนเมฆาเหยียบไว้ พร้อมเอ่ยถามเสียงเย็น “ใครสั่งให้พวกเจ้าใช้วิธีชั่วร้ายเพียงนี้?”
ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังคนนั้นหอบหายใจ เหมือนจะหายใจไม่ได้ แล้วมองพวกเขาสองคนโดยไม่ปริปาก
อสูรกลืนเมฆาเห็นทั้งสองอยู่ตรงนี้ ดังนั้นจึงถอยออกไป ขณะเดียวกันยังหดกลับไปตัวกลมเล็กๆ เป็นเช่นสัตว์เลี้ยงที่ไม่สามารถต่อสู้ได้ ก่อนจะมาหมอบนั่งยังข้างกายเฟิ่งจิ่ว
“ไม่พูดรึ?”
ต้วนเยี่ยเผยกระบี่ยาวออกมา กระบี่ยาวชี้ไป ปลายกระบี่ที่ฉายประกายหนาวเย็นแหลมคมชี้ตรงยังเป้ากางเกง “ว่ามา หรือจะไม่พูด?” เสียงเปล่งออกไป กระบี่ยาวขยับลึกเข้าไปข้างในอีกนิด แค่กรีดไปเบาๆ กางเกงก็โดนกรีดขาดเป็นช่อง
ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังที่เดิมทีสีหน้าซีดขาวเพราะถูกอสูรกลืนเมฆากดไว้บนพื้นเห็นเช่นนี้ ในดวงตาเผยความตื่นตระหนกและตึงเครียด “ยะ อย่า ข้าจะพูดๆ”
เทียบกับการเก็บความลับ ผู้ฝึกตนที่รักตัวกลัวตายย่อมกลัวว่าตนเองจะเปลี่ยนไปเป็นคนไม่ชายไม่หญิงอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยเหตุนี้ทันทีที่รู้สึกถึงอันตราย เมื่อรู้สึกเย็นๆ ตรงเป้าและเหงื่อออกไปทั้งร่างก็เลือกจะบอกคนสั่งการ
“ปะ เป็นฮูหยินรอง พวกเราเป็นคนของฮูหยินรอง คุณชายสามโดนพวกเจ้าซ้อม ผู้นำตระกูลกำลังจัดการเรื่องของคุณชายใหญ่จึงแค่กำชับไม่ให้คุณชายก่อเรื่อง คุณชายสามกลืนแค้นนี้ไม่ลง ไปขอร้องยังฮูหยินรองที่นั่น ฮูหยินรองจึงสั่งพวกเรามาวางยา เพราะไม่อยากให้คนอื่นสงสัยตระกูลซ่ง สิ่งที่นางให้พวกเราใช้เป็นพิษร้ายแรงเรื้อรัง ต้องรอผ่านไปสามวันถึงจะออกฤทธิ์ ถึงเวลานั้นแม้พวกเจ้าตายไปจะไม่มีใครสงสัยตระกูลซ่ง นี่คือเรื่องที่พวกเรารู้มา ข้าบอกไปหมดแล้ว ขอพวกเจ้าให้ทางรอดแก่ข้าด้วยเถอะ!”
ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังรีบเร่งบอกเรื่องที่ตนเองรู้ทั้งหมดออกมา เพียงเพื่อแลกกับโอกาสรอดชีวิต
………………………………………………….
นิยายเรื่องนี้เข้าร่วมโปรโมชั่น
อัปเพิ่มต่อ +1
เพิ่มตอนจากปกติ เวลา 18.00 น. ตลอดช่วงแคมเปญ
17-30 พ.ย. 64 เท่านั้น!
ฝากติดตามกันด้วยนะคะ
Ink Stone