A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 111
ตอนมื้อกลางวันแม็กซ์ทำโร่วเจียหมัวสองอันให้กับยาเบะมิยะ ส่วนอาหารกลางวันของเขาก็เหมือนกับเอมี่ – ข้าวผัดหนึ่งจานและโร่วเจียหมัวหนึ่งอัน
“ลองดูสิพี่สาวมิยะ มันอร่อยมากเลยนะ” เอมี่พูดในขณะที่เธอกินข้าวผัดและมองดูพนักงานเสิร์ฟสาวที่กำลังถือโร่วเจียหมัวเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง
ยาเบะมิยะพยักหน้า “โอเค” เธอมองโร่วเจียหมัวด้วยดวงตาที่เปล่งประกายความตื่นเต้น เธอกลืนน้ำลายไปหลายครั้งในขณะที่มองดูลูกค้ากินอาหารเช้า หลังจากช่วงเช้าที่วุ่นวายได้จบลงในที่สุดเธอก็ได้เพลิดเพลินกับโร่วเจียหมัวของเธอ เธอกัดมันอย่างจริงจังด้วยความรู้สึกคาดหวัง
“มันอร่อยมาก !” ยาเบะมิยะอุทานออกมาอย่างมีความสุข
ขนมปังนั้นมีรสหวานและข้างในของมันก็มีเนื้อนุ่มๆ ในขณะที่เธอกัดมันน้ำของเนื้อแสนอร่อยก็ถูกปล่อยออกมา ราวกับว่าต่อมรับรสทั้งหมดของเธอนั้นกำลังส่งเสียงเชียร์และเต้นรำ รสชาติของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าข้าวผัดหยางโจวเลย เธอหลับตาลงแล้วกลืนมันลงไป รสชาติของเนื้อยังคงตกค้างอยู่ภายในปากของเธอ
หลังจากที่เธอกลืนลงไปมันก็แสดงผลออกมาอย่างรุนแรงในทันที มันกลายเป็นกระแสความร้อนและเข้าไปกระตุ้นการไหลเวียนเลือดของเธอ ใบหน้าของเธอแดงขึ้นมาในทันทีและเธอรู้สึกเหมือนกับว่ามีบางอย่างที่พยายามจะออกมาจากร่างกายของเธอ เธอลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและส่งเสียงคำรามออกมา
มีกระดุมเม็ดหนึ่งของเธอหลุดออกและหน้าอกของเธอก็โผล่ออกมา จากนั้นหางที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีทองของเธอก็โผล่ออกมาจากใต้ชุดของเธอและกระแทกเก้าอี้ของเธอจนล้ม
แม็กซ์กับเอมี่เงยหน้าขึ้นมาและกลืนข้าวเข้าไปด้วยความตกใจในเวลาเดียวกัน
แม็กซ์ยกคิ้ว เธอระเบิดเสื้อผ้าของเธอด้วย ! การระเบิดพลังนี่มันอะไรกัน ? เขาเห็นหน้าอกสีขาวของเธอและรอยแยก ว้าว เป็นวิวที่ดีมาก จากนั้นเขาก็มองไปที่หางของเธอ
เกล็ดสีทองที่มีขนาดใหญ่พอๆกับข้อนิ้วก้อยปกคลุมไปทั่วทั้งหางของเธอและเปล่งประกายราวกับทอง เธอส่ายหางของเธอไปมาอย่างไม่สบายใจ ถ้าเธอกลายเป็นมังกรสักวันเธอก็คงจะกลายเป็นมังกรทอง
“ว้าว หางมังกร !” เอมี่อุทานในขณะที่เธอมองไปที่ยาเบะมิยะ
ลูกเป็ดขี้เหร่เองก็มองเห็นหางเช่นกัน ดูเหมือนว่ามันจะไม่กลัวเลย แต่มันก็แยกเขี้ยวแล้วยกอุ้งเท้าของมันขึ้นมาราวกับว่ามันกำลังอยู่ต่อหน้าศัตรู
แม็กซ์ขมวดคิ้ว ฉันหวังว่าเธอจะโอเคนะ…ยาเบะมิยะน่าจะมีความสุขถ้าเธอสามารถกลายเป็นมังกรได้ ยังไงซะมังกรก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในทวีปนี้
เสียงคำรามของยาเบะมิยะหยุดลง เธอลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ แสงสีทองจากตาข้างซ้ายของเธอจางหายไป ใบหน้าของเธอเป็นสีแดง คิ้วของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อและดวงตาของเธอก็ดูชวนฝัน เธอรู้สึกว่าตอนนี้สัตว์ร้ายในตัวของเธอเพิ่งจะถูกปลดปล่อยออกมา ขาของเธออ่อนลงด้วยความอ่อนเพลีย
จากนั้นเธอก็รู้สึกถึงความอบอุ่นภายในร่างกายของเธอ มันเหมือนกับว่าพลังเวทมนต์กำลังปลอบประโลมเซลล์ทุกเซลล์ของเธอ เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เธอรู้สึกดีมากและส่งเสียงครางออกมาอย่างมีความสุข จากนั้นเธอก็มองเห็นแม็กซ์และเอมี่ที่กำลังมองมาที่เธอพร้อมกับมือที่ถือช้อนของพวกเขาแข็งค้างไปด้วยความประหลาดใจ
เธอก้มหน้าลงและมองเห็นหน้าอกของเธอเอง ใบหน้าของเธอที่แดงอยู่แล้วก็ยิ่งแดงมากขึ้น เธอยืดตัวตรงและพยายามปิดบังพวกมันด้วยมือของเธอ
ด้วยความประหม่าหางของเธอจึงกระแทกไปที่เก้าอี้จนล้มไปอีกตัว เธอมองกลับหลังไปและเห็นอวัยวะส่วนใหม่ของเธอ “อะไร…นี่มันอะไรกัน ?!” เธอร้องไห้ออกมาพร้อมกับใบหน้าที่ซีดลง
แม็กซ์ค่อยๆวางมือลงบนไหล่ของเธอ “ใจเย็นๆมิยะ เธอเป็นลูกครึ่งมังกร โร่วเจียหมัวนี่ทำให้เธอได้รับการสืบทอดหรือไม่ก็การวิวัฒนาการ ตอนนี้เธอดูเหมือนมังกรมาก เธอควรจะมีความสุขนะ” เขาพูดเบาๆและมองเข้าไปในตาของเธอ
เธอเพิ่งจะอายุ 17 เท่านั้นและผ่านอะไรมามากจนรู้สึกไม่ปลอดภัย นอกจากนี้หางมังกรก็แปลกมากเกินไปจนยากที่จะสงบสติได้
สายตาที่อ่อนโยนของแม็กซ์ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของเธอลง “แต่…แต่ฉันไม่อยากมีหาง ฉันไม่อยากเห็นสีหน้าของพวกเขาเมื่อเห็นมันเลย แค่เขาคู่นี้ก็ทำให้ฉันดูแปลกแล้ว ฉันไม่อยากคิดเลยว่าพวกเขาจะมองฉันยังไรถ้าพวกเขาเห็นว่าฉันมีหาง…”
แม็กซ์ส่ายหัวและยิ้ม “ฉันไม่คิดว่าเธอแปลกนะ ฉันคิดว่าเธอน่ารัก” เขาพูดพร้อมกับมองเธอด้วยความห่วงใย
“ใช่แล้ว หางของคุณดูน่ารักมากเลยพี่สาวมิยะ ถ้าคุณกลายเป็นมังกรคุณก็จะสามารถพาฉันและลูกเป็ดขี้เหร่ไปบินเล่นได้” เอมี่พูดอย่างจริงจังและพยักหน้า
“แต่ฉันแค่อยากจะเป็นคนปกติ ฉันอยากทำงานที่นี่ แต่ตอนนี้…” เธอพูดอย่างกังวล มือบนไหล่ของเธอทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและคำพูดของแม็กซ์และเอมี่ก็ทำให้เธอคลายความกังวลลง แต่มันก็ไม่สามารถทำอะไรกับหางสีทองนี้ได้เลย
แม็กซ์มองยาเบะมิยะและรู้สึกเสียใจแทนเธอ โดยปกติแล้วไม่ว่าใครก็ตามคงจะรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้กลายเป็นมังกร
ตอนนี้เธอมีโอกาสที่จะกลายเป็นมังกรที่ทรงพลังที่คนอื่นได้แต่เงยหน้ามองและมีโอกาสเอาคืนผู้คนที่เคยทำร้ายเธอ
แต่เธอกลับไม่ต้องการมัน เธอกังวลว่าหางนี้จะทำให้เธอเสียงานไป ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้เกลียดเจ้านายเก่าของเธอและคนที่ทำไม่ดีกับเธอ เธอแค่ต้องการจะมีชีวิตที่สงบสุข
“ไม่ต้องกังวล ยังไงเธอก็เป็นพนักงานเสิร์ฟของฉันไม่ว่าเธอจะมีหางหรือไม่มีหาง” แม็กซ์พูดอย่างจริงจัง
“หัวหน้า…” ยาเบะมิยะเงยหน้าขึ้นมามองแม็กซ์ด้วยดวงตาแดงๆและน้ำตา
แม็กซ์ดึงมือของเขากลับมา “และบางทีเธออาจจะเก็บหางของเธอได้” แม็กซ์พูดด้วยรอยยิ้ม ยาเบะมิยะไม่ใช่คนแรกที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังจากที่กินโร่วเจียหมัว ทั้งเอมี่และซาเจราสก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นและระบบสัญญาว่าจะไม่มีผลข้างเคียงที่ไม่ดี ดังนั้นเธออาจจะควบคุมการเปลี่ยนแปลงนี้ได้
ดวงตาของยาเบะมิยะเป็นประกายขึ้นมาในทันที “เก็บมันเหรอ ?” เธอหลับตาและกำมือแน่น ไม่นานหลังจากนั้นก็มีแสงสีทองปรากฏขึ้นมาอย่างฉับพลันและหางของเธอก็หายไป
เอมี่มองลงไป “มันหายไปแล้ว” เธอพูดด้วยความแปลกใจ
ใบหน้าของยาเบะมิยะสดใสขึ้นใสในทันที “มันหายไปแล้วจริงๆ !” เธอหมุนตัวไปรอบๆและทำให้ชุดของเธอพลิ้วไหวไปเล็กน้อย หางหายไปแล้ว “หัวหน้าคะ ฉันทำให้มันหายไปได้จริงๆ !” เธอพูดกับแม็กซ์ด้วยความตื่นเต้น
แม็กซ์เองก็รู้สึกโล่งใจเช่นกัน ระบบมีความน่าเชื่อถือ จากนั้นเขาก็ถามด้วยความอยากรู้ว่า “ดีแล้วล่ะ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นอีกมั้ย ?”
เธอกำมือของเธอแน่น “ฉันรู้สึกว่าฉันมีพลังที่ไม่จำกัด ฉันคิดว่าฉันสามารถทำงานได้ทั้งวันโดยที่ไม่เหนื่อยเลย” เธอพูดและรู้สึกแปลกใจ
แม็กซ์พยักหน้ายิ้ม “นั่นเป็นสิ่งที่ดี” เขามองไปที่โร่วเจียหมัวบนโต๊ะ “เธอยังอยากได้มันอีกมั้ย ?”