A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 139
“เอ่อ…” แม็กซ์ก็รู้สึกเสียใจแทนเขาจิรงๆ ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถควบคุมของในกางเกงของเขาได้ แต่เขาเป็นแบบนี้เพราะภรรยาของเขามีความต้องการสูง
ยาเบะมิยะไม่เข้าใจ “คุณหมายความว่าไง ? เราไม่ได้ขายยาที่นี่” เธอพูดอย่างจริงจัง
เธอไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงคุกเข่าให้แม็กซ์ แต่เธอไม่ยอมให้ใครมาพูดถึงร้านอาหารของพวกเขาในทางที่ไม่ดี
แม็กซ์และวิเซนนิโอ้หันไปมองหญิงสาวผู้ไร้เดียงสาก่อนที่จะแลกเปลี่ยนสายตากัน พวกเขาไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องนี้ให้เธอฟังได้ยังไง
แม็กซ์ยื่นมือออกมา “ให้ฉันช่วยคุณลุกขึ้นก่อนนะ ฉันไม่ได้ใส่ยาอะไรลงไปในอาหาร ฉันสาบานด้วยร้านอาหารของฉันเลย” เขาพูดอย่างจริงจัง “แต่อาหารแต่ละอย่างของเราจะมีผลพิเศษและโร่วเจียหมัวจะทำให้เลือดของคุณสูบฉีด มีอะดรีนาลีนหลั่งออกมาและเพิ่มพลังให้คุณพร้อมสำหรับการทำงาน”
แต่ภรรยาของเขาไม่จำเป็นต้องทำงาน เธอต้องเผาผลาญพลังงานของเธอผ่านการมีอะไรกัน
คำอธิบายของแม็กซ์ค่อนข้างน่าเชื่อถือ ท้ายที่สุดก็เคยมีผู้คนจำนวนมากที่กินโร่วเจียหมัวและมีท่าทีปกติ แม้แต่ปีศาจลาวาทั้งสามก็ไม่รู้สึกว่าถูกกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ
ดูเหมือนว่าครั้งหน้าฉันจะไม่สามารถปล่อยให้เธอกินโร่วเจียหมัวบนเตียงได้อีก วิเซนนิโอ้ถอนหายใจ จากนั้นเขาก็มองไปที่แม็กซ์หลังจากที่เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง “คุณบอกว่าอาหารแต่ละอย่างจะมีผลพิเศษของมัน แล้วผลพิเศษของข้าวผัดหยางโจวและเมนูใหม่คืออะไร ?”
“ข้าวผัดหยางโจวสามารถช่วยบรรเทากล้ามเนื้อและบำรุงร่างกายของคุณได้” แม็กซ์พูดแล้วก็หยุด จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “เมนูใหม่พุดดิ้งเต้าหู้นั้นดีต่อผิว ฉันคิดว่าลูกค้าผู้หญิงน่าจะชอบมัน”
วิเซนนิโอ้รู้สึกอายขึ้นมาด้วยการหยุดเพียงเล็กน้อยของแม็กซ์แต่เขาก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน
เขากำลังมองหายาบำรุงเพื่อปรับปรุงสุขภาพของเขา แต่ของพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลย เขากลายมาเป็นแบบนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะยาชูกำลัง
นี่เป็นข่าวที่น่าทึ่งมาก ! เขาคิดกับตัวเอง เขาได้แต่มองดูภรรยาของเขากินโร่วเจียหมัวทั้งสองอัน เธอไม่ยอมให้เขากินแม้แต่คำเดียว
เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเธอน่าจะชอบพุดดิ้งเต้าหู้นี้ เธอใช้ผงไข่มุกเพื่อทาผิวของเธอทุกวัน เขาหวังว่าพุดดิ้งเต้าหู้นี้จะเบี่ยงเบนความสนใจของเธอจากโร่วเจียหมัวได้ ชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับมัน
“คุณ ถ้าคุณต้องการกินอาหาร ตอนกลางวันคุณก็ต้องมาเร็วหน่อยนะ” แม็กซ์ดึงมือของเขากลับมา เขารู้สึกเสียใจกับวิเซนนิโอ้แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่หวังว่าข้าวผัดหยางโจวจะช่วยเขาได้
“คุณช่วยทำข้าวผัดหยางโจวให้ฉันได้มั้ย ? ฉันเกือบจะไม่สามารถเดินได้แล้วในตอนนี้” วิเซนนิโอ้พูดกับแม็กซ์ด้วยท่าทางน่าสงสารพร้อมกับนำมือมาเท้ากรอบประตูไว้เพื่อพยุงตัวไม้ให้ล้มลง
แม็กซ์ส่ายหัว “ขอโทษด้วย เราเสิร์ฟอาหารในเวลาทำการเท่านั้น”
“เงินไม่ใช่ปัญหา ฉันจะจ่ายสองเท่า ไม่สิ เพิ่มเป็นสามเท่าเลย ! ฉันจะจ่ายเงิน 18 เหรียญทองสำหรับข้าวผัดหยางโจวหนึ่งจาน” วิเซนนิโอ้หยิบกระเป๋าเงินของเขาออกมา
แม็กซ์ปฏิเสธในทันที “กฎก็คือกฎ ฉันจะไม่ทำมันถึงแม้ว่าคุณจะยอมจ่ายเงินเป็นสิบเท่า” เขาพูด “เดินไปทางนั้นประมาณ 50 เมตรแล้วคุณจะเจอกับร้านลาเมียน” แม็กซ์บอก “คุณสามารถหาของกินได้ที่นั่น ข้าวผัดหยางโจวไม่ใช่ของวิเศษ แค่จานเดียวมันไม่ได้ช่วยเรื่องสุขภาพของคุณมากนักหรอก”
“เอาล่ะ ฉันจะกลับมาตอนอาหารกลางวัน ฉันคงต้องหาร้านน้ำชาเพื่อนั่งรอ” วิเซนนิโอ้พูดอย่างทำอะไรไม่ได้
“ลาก่อนนะคุณกะปลกกะเปลี้ย เดินดีๆล่ะ ถ้าคุณล้มคุณอาจจะคลานกลับมาไม่ทันเวลาอาหารกลางวันก็ได้” เอมี่พูดอย่างจริงจังพร้อมกับโบกมือให้วิเซนนิโอh
วิเซนนิโอ้ที่อ่อนแรงยกคิ้ว ทำไมคำพูดห่วงใยของเธอถึงฟังดูแปลกๆ ?
จากนั้นเขาก็ตระหนักถึงส่วนที่แปลก เธอเรียกใครว่าคุณกะปลกกะเปลี้ย ? ฉัน ? ฉันคือคุณกะปลกกะเปลี้ย ?! วิเซนนิโอ้หันกลับมามองเอมี่แต่เมื่อเขาพบกับดวงตาที่ดูห่วงใยของเธอสีหน้าของเขาก็อ่อนลง เขาไม่มีทางเลือกนอกจากให้อภัยเธอ
เขาอยากมีลูกมาตลอดแต่ภรรยาของเขาไม่ชอบเด็ก พวกเขาแต่งงานกันมาห้าปีแล้ว เขาเหลือบมองแม็กซ์ครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าและเดินออกไปอย่างช้าๆ
“พ่อ พ่อคิดว่าคุณกะปลกกะเปลี้ยจะกลับมาที่นี่อีกมั้ย ?” เอมี่ถามด้วยความกังวลในขณะที่มองดูการเดินของวิเซนนิโอ้
“อาจจะนะ” แม็กซ์ตอบในขณะที่วิเซนนิโอ้เดินสะดุดและเกือบจะล้ม จากนั้นเขาหันไปมองหน้าเอมี่ “หนูบอกว่าหนูอยากเรียนเพลงที่สองใช่มั้ย ? มาเถอะ” เขาพูดพร้อมกับลูบหัวเธอ
เอมี่ปรบมือเล็กๆของเธออย่างมีความสุข “ใช่ค่ะ ! ขอบคุณค่ะพ่อ !” ใบหน้าของลูกเป็ดขี้เหร่ตกอยู่ในสภาพย่ำแย่แต่มันก็ไม่กล้าที่จะร้องออกมา มันได้แต่เงยหน้าขึ้นมองเพดาน
ยาเบะมิยะเองรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเช่นกัน เอมี่จะได้เรียนเพลงใหม่เหรอ ? เธอชอบเอลฟ์ตัวน้อยคนนั้นจริงๆและเธอก็ร้องเพลงได้ดีมาก
แม็กซ์ปิดประตูจากนั้นก็เดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วหยิบกล่องเพลงออกมา เขาปิดการเล่นซ้ำแล้วกดปุ่มเพื่อเลื่อนไปเพลงถัดไปอย่างคาดหวัง เพลงที่จะเล่นออกมาจะเป็นเพลงอะไร ?
ไฟสีสันต่างๆเริ่มกะพริบ เอลฟ์ตัวน้อยเริ่มเต้นอย่างหนักแน่นพร้อมกับเสียงกีตาร์ไฟฟ้าและกลองที่ดังขึ้น มันเป็นจังหวะที่รวดเร็วและฟังดู…คุ้นเคยเล็กน้อย !
ดวงตาของแม็กซ์เบิกกว้าง “ระบบ ‘โกคุราคุ โจโด (Gokuraku Jodo)1’ นี่เป็นเพลงสำหรับเด็กเหรอ ?!” เขาพูดในหัวเสียงดัง
……….
- 1. โกคุราคุ โจโด / Gokuraku Jodo : เป็นเพลงเต้นยอดนิยมที่มีชื่อเป็นภาษาไทยว่า ‘ดินแดนสุขาวดี’ เป็นเพลงของวงแนวป๊อปร๊อค ‘GARNiDELiA’ ซึ่งเป็นยูนิตสองคนที่มี ‘ไม มิซุฮาชิ (Mai Mizuhashi)’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘MariA’ เป็นนักร้อง และมี ‘โยชิโนริ อาเบะ (Yoshinori Abe)’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘Toku Toku’ เป็นนักแต่งเพลง