A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 190
Chapter 190 : เราควรบังคับพาเธอกลับไปมั้ย?
“ฉันไม่อยากขายด้วยราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด มันน่าเกลียดและไม่ดีต่อตลาด” ระบบพูดอย่างเคร่งขรึม
“โอ้ นายช่างมีเกียรติจริง ๆ!” แม็กซ์มองไปรอบ ๆ “งั้นฉันไปซื้อจากโมไบก็แล้วกัน”
“รอเดี๋ยว! ฉันจะให้ส่วนลดกับคุณ!” ระบบพูดอย่างเร่งรีบ
แม็กซ์หยุด “ฉันรอฟังอยู่”
“2%” ระบบพูดอย่างไม่เต็มใจ
แม็กซ์เริ่มเดินไปที่โรงตีเหล็กของโมไบอีกครั้ง
ระบบพูดเสียงดังขึ้น “5%!”
แม็กซ์ยังคงไม่หยุดเดิน
“10% เอาหรือไม่เอา” ระบบพูดราวกับว่ามันกำลังคิดหนัก
“ตกลง ฉันจะซื้อมันเมื่อฉันมีเงิน” แม็กซ์ไม่มีเงิน 100 เหรียญทองในตอนนี้ เขาเดินกลับไปที่ร้าน
ยาเบะมิยะกำลังเช็ดโต๊ะอยู่เมื่อแม็กซ์เดินเข้ามา เธอพยายามที่จะไม่หัวเราะเมื่อเธอมองเห็นผมบนหัวของเขา เธอทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นเธอก็สังเกตเห็นความแตกต่างที่เกิดขึ้น เขาไม่ได้ดูอ่อนล้าอีกต่อไปแล้ว ดวงตาสีเข้มของเขาโตขึ้นและน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น ฉันคิดว่าฉันอาจจะตกหลุมรักเขาถ้าฉันยังคงมองเขาอยู่
แม็กซ์ยิ้มตอบแล้วขึ้นไปชั้นบนเพื่อสระผม เมื่อเขาเดินผ่านเคาน์เตอร์ลูกเป็ดขี้เหร่ตื่นขึ้นมา มันมองไปรอบ ๆ และร้องเรียกแม็กซ์หลังจากที่มันพบว่าไม่มีทางลงจากตะกร้า
“แกกล้าเรียกตัวเองว่าแมวได้ยังไงในเมื่อแกไม่สามารถกระโดดออกจากจักรยานได้?” แม็กซ์พูดด้วยสายตาดูถูก “กระโดดขึ้นไปบนเคาน์เตอร์แล้วฉันจะพาแกลง”
มันส่ายหัวอย่างหมดหวังหลังจากที่มันมองไปที่เคาน์เตอร์ “เหมียว”
“จะกระโดดหรืออยู่ในตะกร้านั่นต่อ” ฉันอาจจะต้องใช้มันให้คอยดูแลเอมี่ในสักวันหนึ่ง แต่มันจะไม่สามารถทำได้ถ้ามันขี้ขลาด
ฉันไม่สนใจว่ามันจะเป็นแมวหรืออะไร แต่ฉันไม่ต้องการให้มันกลายเป็นไอ้อ้วนไร้ประโยชน์
ลูกเป็ดขี้เหร่รวบรวมความกล้าทั้งหมดและจ้องไปที่เคาน์เตอร์อย่างจริงจัง มันย่อเข่าลงและกระโดด
“ปัง!”
มันตบขาขวาลงที่เคาน์เตอร์แล้วหล่นลงไปที่พื้นในทันที มันนอนอยู่ตรงนั้นอย่างนิ่งเงียบและบูดบึ้ง
“อย่างน้อยแกก็ลงมาได้แล้ว ยินดีด้วย” แม็กซ์พูด
ลูกเป็ดขี้เหร่ยกอุ้งเท้าหน้าทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหู
แม็กซ์ยักไหล่แล้วขึ้นไปชั้นบน
หลังจากที่เขาอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะอาดแล้วเขาก็รู้สึกสดชื่นและกระชุ่มกระชวย เขาพบว่าทุกสิ่งดูสวยงาม
ไม่มีลูกค้า ร้านอาหารเองก็สะอาดและเงียบสงบ มีแสงแดดส่องมาผ่านทางหน้าต่าง ลูกเป็ดขี้เหร่กำลังอาบแดดอยู่และกลิ้งไปมา จากนั้นเขาก็มองไปที่ประตูราวกับว่ากำลังให้รอเอมี่กลับมา
ยาเบะมิยะนั่งอยู่ที่โต๊ะข้างหน้าต่างและเท้าคางของเธอเอาไว้ด้วยมือสองทั้งข้าง
“มิยะ เธออยากเต้นมั้ย?” แม็กซ์ถามด้วยรอยยิ้มในขณะที่เขาวางกล่องเพลงลงบนโต๊ะ
“ขอบคุณค่ะหัวหน้า!” เธอตอบด้วยความยินดี
แม็กซ์เปิดมันจากนั้นก็พูด “ฉันจะอยู่ในครัวนะ ฉันกลัวว่าตอนกลางวันเราจะยุ่งมาก”
ฉันน่าจะทำภารกิจได้สำเร็จเมื่อมีลูกค้าครบ 1,000 คนหลังจากมื้อกลางวันและฉันจะได้รับสูตรข้าวไก่ตุ๋น
ฉันแทบจะอดใจรอไม่ไหวแล้วที่จะได้กินอะไรใหม่ ๆ บ้าง ฉันแน่ใจว่าเอมี่ก็น่าจะชอบมันเช่นกัน
ในตอนนี้การนวดแป้งนั้นง่ายขึ้นมากเพราะว่าเขาแข็งแกร่งขึ้น เขาใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นในการนวดแป้งจากที่เคยต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงและเขาไม่รู้สึกเหนื่อยเลยดังนั้นเขาจึงนวดแป้งเพิ่มอีก
เขายิ้มเมื่อเขามองเห็นการเต้นอย่างช้า ๆ แต่กระตือรือร้นของยาเบะมิยะ เขาวางแป้งโดว์ไว้ข้าง ๆ “ตอนนี้ฉันทำงานได้มากขึ้นแล้ว ฉันต้องจ้างพนักงานเสิร์ฟมาเพิ่มเพื่อช่วยเธอ”
…
ในซอยไม่ไกลจากโรงแรมเกย่า เอลฟ์ชรากำลังใช้กล้องส่องทางไกลเพื่อเฝ้าดูแซลลี่ที่กำลังเอาผ้าห่มของโรงแรมออกมาตาก ผมของเขาเป็นสีเทาแต่ดวงตาของเขาดูลึกล้ำและเต็มไปด้วยปัญญา
“ท่านอิงวี่ นั่นคือเลดี้แซลลี่ใช่มั้ยครับ?” เอียวินถามเบา ๆ ด้วยความตื่นเต้น ข้อมูลนี้เพียงอย่างเดียวก็อาจจะทำให้เขาได้รับรางวัลจำนวนมหาศาลและเขาอาจจะถูกโอนย้ายกลับไปยังป่าแห่งสายลม
เอลฟ์ชราพยักหน้าและลดกล้องโทรทรรศน์ลงเมื่อแซลลี่กลับเข้าไปในโรงแรม “ใช่ ฉันเคยเห็นเธอใกล้ ๆ เมื่อสองปีก่อน”
“แล้วทำไมเธอถึงมาทำงานในโรงแรมล่ะ?”
เขาตามเธอมาที่นี่หลังจากที่เขาเห็นเธอโดยบังเอิญในร้านอาหารมามี่ เขาคิดว่าเธอน่าจะซ่อนตัวอยู่แถวนี้
ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงแบบเธอจะมาทำงานอยู่ในโรงแรมที่มีมนุษย์เป็นเจ้าของ? เอียวินคิดกับตัวเอง
“อย่าบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายเข้าใจมั้ย?” อิงวี่เตือนพร้อมกับมองไปที่ดวงตาของเอียวิน
“ครับท่านอิงวี่!” เขารีบตอบอย่างรวดเร็ว อิงวี่เป็นทูตอยู่ที่นี่ เขารับผิดชอบเอลฟ์ทุกคนในเมืองเคออสและเป็นนักเวทยระดับ 7 หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาถามว่า“ เราควรพาเธอกลับไปโดยการบังคับมั้ยขอรับท่านอิงวี่?”