A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 331
Chapter 331 : พ่อเก่งที่สุดเลย!
“เดี๋ยวจะพ่อไปทําอาหารเช้า พวกลูกเล่นกันไปก่อนเลยนะ” แม็กซ์พูดพร้อมกับยิ้ม เขาเดินไปทางห้องครัวและคิดว่ามันตลกมาที่ลูกเป็ดขี้เหร่กลัวความสูง โชคดีที่มันไม่ใช่นก ไม่งั้นมันจะเป็นเรื่องที่กังวลมาก
มีลูกค้าบางคนมาที่ร้านอาหารแต่พวกเขาก็ต้องถอนหายใจด้วยความผิดหวังเมื่อพวกเขาพบว่าร้านไม่เปิด
บรรดาลูกค้าต่างก็เริ่มเข้าใจนิสัยของแม็กซ์มากขึ้น เขาเป็นคนที่เรียบง่ายและใจดีแต่กฎของร้านอาหารที่เขาตั้งขึ้นนั้นเข้มงวดเป็นอย่างมาก ถ้ามีใครฝ่าฝืนกฎคน ๆ นั้นจะถูกเขาขึ้นบัญชีดําในทันที
หลังจากที่กินอาหารเช้าง่าย ๆ เสร็จมันก็เป็นเวลา 9 โมงแล้ว ดวงอาทิตย์ขึ้นสู่จุดที่เหมาะสมและเงื่อนไขต่าง ๆ ก็ครบถ้วนสําหรับการเล่นว่าว
“เราไปเล่นว่าวกันเถอะ!” เอมีกระโดดออกจากร้านอาหารพร้อมกับลูกเป็ดขี้เหร่ที่กําลังวิ่งตามหลังเธอไป แม็กซ์เดินออกมาจากร้านอาหารพร้อมกับว่าวที่อยู่ในมือของเขา
ถึงแม้ว่าจะไม่นับหางของมันว่าวนี้ก็ยังใหญ่มากและสูงพอ ๆ กับผู้ใหญ่ มันมีจุดสีเงินแวววาวสลับกับพื้นผิวสีม่วงที่ดูสดใส โทนสีที่มีชีวิตชีวานี้ทําให้ดูเหมือนว่ามันมีขนอยู่จริง ๆ
ถึงแม้ว่าว่าวจะใหญ่แต่มันก็เบามากราวกับว่ามันไร้น้ําหนัก โครงของมันแข็งมากแต่ก็เบาราวราวกับว่ามันจะลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที่ที่แม็กซ์ขว้างมันออกไป เขามีความสุขมากกับคุณภาพของมันและอดที่จะชื่นชมระบบไม่ได้
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถพูดออกมาได้ ถ้าเขาชมมันระบบคงจะลอยขึ้นฟ้าไปก่อนว่าวซะอีก
“ว้าว เป็นว่าวที่สวยมาก! เอมีน้อยกําลังจะออกไปเล่นว่าวกับแม็กซ์เหรอ?” ดวงตาของฉีฉีที่กําลังให้อาหารถ่านดําและถั่วลันเตาอยู่ที่หน้าทางเข้าร้านน้ํายาเวทมนตร์เป็นประกายขึ้นมาในทันที่เมื่อเธอได้เห็นว่าวสีม่วงตัวใหญ่นี้
“ใช่ค่ะ! พ่อทําว่าวตัวนี้ให้หนู พี่สาวฉีฉี พี่อยากไปกับพวกเรามั้ย?” เอมีภูมิใจในตัว พ่อของเธอมาก
ฉีฉีหันไปมองร้านน้ํายาเวทมนตร์ก่อนที่จะส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “พี่ก็อยากไปเล่นว่าวกับหนูนะแต่พี่ยังต้องทํางาน หนูไปเล่นกับพ่อให้สนุกเถอะ”
“งั้นเหรอคะ” เอมีพยักหน้าก่อนจะหันไปหาถ่านดําและถั่วลันเตาและถาม “ถั่วลันเตา ถ่านดําอยากไปเล่นด้วยกันมั้ย?”
“ไม่!” ถ่านดําปฏิเสธในทันที มันมองเอมี่ด้วยความกลัว
“ฉันก็ไม่อยากไปเหมือนกัน” ถั่วลันเตาส่ายหัว มันใช้ปากสีแดงของมันทําความสะอาดขนของตัวเองและพูดต่อ “ฉันบินได้ด้วยตัวเองดังนั้นฉันจึงไม่ชอบเล่นว่าว”
“ไม่ต้องห่วงนะถ่านดํา ฉันจะไม่ใช้แกเป็นหนูทดลองเพลิงเยือกแข็งของฉันอีกแล้ว” เอมีปลอบอีกา
อย่างไรก็ตามก่อนที่ถ่านดําจะได้ถอนหายใจอย่างโล่งอกเธอก็พูดต่ออย่างจริงจัง “ฉันจะรอจนกว่าอาจารย์เต่าสอนคาถาที่สองให้กับฉัน”
“ผู้มีเกียรติ…ไม่สิ ฟามา โอดิน เบนผู้ต่ําต้อยกราบขออภัย! กรุณายกโทษให้ฉันเถอะ ฉันจะทําตามทุกอย่างที่เธอพูด ได้โปรดอย่าแช่แข็งฉันอีกเลย มันหนาวมาก!” ดวงตาที่น่าสงสารของถ่านดําเอ่อคลอไปด้วยน้ําตาในขณะที่มันอ้อนวอนเอม
เอมมองไปที่ถ่านดําและคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะพยักหน้ารับ “เอาล่ะ ครั้งหน้าฉันจะไม่แช่แข็งแกแล้ว”
“ขอบคุณ! จากนี้ไปดําน้อยจะเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์ที่สุดของเธอ เธอจะบอกให้ฉันทําอะไรก็ได้” ถ่านดําร่าเริงมากจนเสียงของมันสั่นเล็กน้อย
“ถ้าอย่างนั้น…” เอมี่มองลูกเป็ดขี้เหร่ที่กําลังเล็งผีเสื้ออยู่
“เหมียว-” ดูเหมือนว่าลูกเป็ดขี้เหร่จะรู้สึกได้ถึงสายตาของเอมี่ ร่างกายของมันแข็งที่อไปในทันที มันเพิ่งจะฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บจากการถูกแช่แข็งเช่นกันและส่ายหัวอย่างเอาเป็นเอาตาย
“พวกแกทั้งสองตัวกําลังทําสิ่งที่ผิดนะ! แล้วฉันจะลองใช้เวทมนตร์กับใครได้ล่ะ? เอมี่ทําหน้า
“เอมี หนูไม่ควรบังคับให้ลูกเป็ดขี้เหร่และถ่านดําเป็นหนูทดลองของหนูนะ ไม่ว่าหนูจะทําอะไรหนูก็ต้องคิดถึงความรู้สึกของคนอื่นด้วย ถ้าพวกเขาเป็นเพื่อนของหนูหนูก็ไม่ควรบังคับให้พวกเขาทําในสิ่งที่พวกเขาไม่อยากทํา” แม็กซ์มองเอมีด้วยสีหน้าจริงจัง
“จริงเหรอคะ?” เอมเงยหน้าขึ้นมามองแม็กซ์พร้อมกับความขัดแย้งและความสับสนในแววตาของเธอ
แม็กซ์พยักหน้า เขาอธิบายด้วยน้ําเสียงอ่อนโยน “ใช่แล้วล่ะ ลูกเป็ดขี้เหร่ไม่อยากถูกเวทมนตร์ของหนูแช่แข็งมันจึงมีความกลัว นั่นเป็นอารมณ์เชิงลบ หมายความว่ามันไม่มีความสุข เราควรทําให้เพื่อนของเรามีความสุขเหมือนกับที่หนูพยายามทําให้เจสสิก้ามีความสุขอยู่เสมอ”
ด้วยอายุของเอมี่เธอยังไม่ได้พัฒนาแนวคิดของสิ่งที่ถูกและผิด ดังนั้นเธอจึงจําเป็นต้องมีคําแนะนําจากผู้ปกครองเพื่อให้เธอเดินไปให้ถูกทาง
“ทํากับพวกมันเหมือนกับที่หนูทํากับเจสสิก้า” ดวงตาของเอมค่อย ๆ สดใสขึ้นมา เธอพยักหน้าอย่างจริงจังในขณะที่เธอพูด “หนูเข้าใจแล้วค่ะพ่อ”
“เด็กดี” รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแม็กซ์
เอมมองดูลูกเป็ดขี้เหร่ด้วยรอยยิ้มและพูดกับมัน “ลูกเป็ดขี้เหร่ ฉันจะไม่ใช้เพลิงเยือกแข็งกับแกแล้ว”
“เหมียว” ลูกเป็ดขี้เหร่มีความสุขมากและถูไถหัวของมันกับตัวของเอมีเพื่อแสดงออกว่ามันมีความสุข
“ยังไงก็ตาม เจสสิก้าไม่เคยขอให้ฉันอุ้มเธอ ดังนั้นฉันจะไม่อุ้มแกอีก ตอนนี้แกเองก็ตัวค่อนข้างใหญ่แล้วดังนั้นแกควรหัดเดินด้วยตัวเอง” เอมี่เสริมด้วยน้ําเสียงที่หนักแน่น
“เหมียว” ท่าทางร่าเริงของลูกเป็ดขี้เหร่หายไปในทันที มันเงยหน้ามองเอมี่และยกขาหน้าทั้งสองข้างขึ้นราวกับว่ามันพยายามขอให้เธอกอดมันไว้ในอ้อมแขนของเธอ
“ไม่ พ่อบอกฉันว่าฉันต้องทํากับแกเหมือนกับที่ฉันทํากับเจสสิก้า ถ้าฉันอุ้มแกฉันก็ต้องอุ้มเจสสิก้า แต่เธอหนักเกินไปที่ฉันจะอุ้มได้ ดังนั้นมันจะไม่ยุติธรรมสําหรับเธอ” เอมีส่ายหัวและโบกมือให้กับฉีฉีก่อนที่จะเดินข้ามไปที่ลานเอเดนจัตุรัสที่ตอนนี้มีว่าวลอยอยู่บนฟ้าหลายตัว
ลูกเป็ดขี้เหร่รู้สึกหดหูและเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นแม็กซ์อย่างไม่เต็มใจ
“มือฉันเต็มแล้ว ดังนั้นแกจะต้องเดินด้วยตัวเอง” แม็กซ์ยักไหล่พร้อมกับยกว่าวในมือและม้ว นเส้นเอ็นขึ้นมาแล้วเดินตามเอมไป เขาตามใจลูกเป็ดขี้เหร่เป็นไปไม่ได้ จะเป็นยังไงถ้ามันโตขึ้นเป็นแมวอ้วน
“เหมียว!” ลูกเป็ดขี้เหร่ร้องออกมาด้วยความไม่พอใจก่อนที่มันจะวิ่งเหยาะ ๆ ตามหลังพวกเขาไปการเคลื่อนไหวของมันช้าเล็กน้อยแต่ก็ยังติดตามได้
ในลานเอเดนมีพ่อแม่หลายคนที่ออกมาเล่นว่าวกับลูก ๆ มีลานวงกลมขนาดใหญ่อยู่ที่ใจกลางลานเอเดนและถูกปูเอาไว้ด้วยหินบลูสโตนเพื่อสร้างพื้นผิวที่ดี มันสมบูรณ์แบบสําหรับการเล่นว่าว
เด็กทุกคนกําลังแข่งกันว่าว่าวของใครสวยกว่ากันและพ่อของพวกเขาทําให้ว่าวลอยสูงได้แค่ไหน
“พ่อเก่งที่สุดเลย! ว่าวของเราบินได้สูงที่สุด แถมยังใหญ่ที่สุดและสวยที่สุดด้วย!” เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่มัดผมเอาไว้เป็นมวยปรบมือเล็ก ๆ ของเธอ เธอกําลังวิ่งตามชายในชุดหมีสีดําและใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น