A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 342
Chapter 342 : สมาคมอาหารและสมาคมการจัดเลี้ยง
“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ มันแค่ว่าร้านอาหารของเราเข้าร่วมการแข่งขันอาหารของลานเอเดน แต่วันนี้มันกลับถูกลบออกจากการจัดอันดับอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย” แม็กซ์ตกใจมากกับการตอบสนองที่รุนแรงของครัสซูและรีบอธิบาย ถ้าครัสซูบุกไปที่นั่นจริง ๆ และเผาทุกคนในสมาคมจัดเลี้ยงให้ตายเขากับเอมี่คงต้องหนีออกจากเมืองนี้
“เข้าใจล่ะ เมื่อฉันมีเวลาว่างฉันจะไปหาไมเคิลเพื่อคุยเรื่องนี้ เขาน่าจะช่วยนายได้” ครัสซูพยักหน้าก่อนที่จะหันไปหาเอมีด้วยรอยยิ้มและพูดต่อ “เอมี่น้อย วัสดุถูกส่งมาจากเมืองโรดูแล้ว และพวกมันน่าจะมาถึงเมืองเคออสในไม่ช้า เมื่อพวกมันมาถึงฉันจะสร้างป้อมเวทย์มนตร์ส่วนตัวให้หนู อย่างไรก็ตามตาแก่พวกนั้นได้ยินว่าฉันรับลูกศิษย์พวกเขาจึงส่งลูกศิษย์สามคนของพวกเขามาเพื่อแสดงความยินดีกับฉัน พวกเขาไม่ได้มาดีอย่างแน่นอน ดังนั้นฉันจะสอนคาถาที่ใช้ได้ดีให้กับหนูในช่วงไม่กี่วันต่อจากนี้เพื่อให้หนูใช้มันสอนบทเรียนให้กับพวกเขา”
ดูเหมือนว่าฉันจะต้องจัดการปัญหานี้ด้วยตัวเอง หลังจากออกจากโรงเรียนมาแม็กซ์ก็ขี่จักรยานไปที่สํานักงานนักสืบเชอร์ล็อค สําหรับผู้มีอํานาจอย่างครัสซูการจัดอันดับร้านอาหารนั้นไม่สําคัญเลย ความสําคัญของมันเทียบไม่ได้กับการสอนเวทย์มนตร์ให้กับเอมี่
เราต้องรู้จักตัวเองและศัตรูของเราเพื่อที่จะได้รับชัยชนะในการต่อสู้ ฉันต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับสมาคมจัดเลี้ยงแล้วไปเยี่ยมปราสาทเจ้าเมือง หลังจากออกมาจากสํานักงานนักสืบเชอร์ล็อคเขาก็วางซองเอกสารสีเหลืองลงในตะกร้าจักรยานของเขาแล้วขี่กลับไปที่ร้านอาหาร
หลังจากที่แม็กซ์เดินเข้ามาในร้านอาหารยาเบะมิยะก็เข้ามาหาเขาด้วยสีหน้ากังวล “หัวหน้าคะ ตอนนี้เราควรทํายังไงดีคะ? ร้านอาหารของเราถูกลบออกจากการจัดอันดับแล้ว พวกเรายังต้องลงคะแนนอยู่มั้ยคะ?”
“เรายังมีบัตรลงคะแนนพอสําหรับอีกสองวัน” แซลลี่เองก็โกรธมากแต่เธอก็สงบนิ่งกว่ายาเบะ
แม็กซ์จอดจักรยานแล้วหันไปยิ้มให้กับทั้งสองคน “ลงคะแนนต่อไป บางทีเราอาจจะมีโอกาสกลับเข้าไปอีกครั้ง เลิกสนใจเรื่องนี้ไปก่อน อย่าปล่อยให้อารมณ์ด้านลบของพวกเธอส่งผลกับการบริการลูกค้า”
“หัวหน้าโอเคมั้ยคะ?” ยาเบะมิยะยังกังวลเกี่ยวกับแม็กซ์อยู่เล็กน้อย ขนาดตัวเธอเองยังโกรธ เขาก็คงจะไม่ต่างกันแต่เขาก็ยังพูดกับพวกเธอด้วยรอยยิ้ม
แซลลี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเธอเห็นแม็กซ์ยังคงยิ้มได้
“แน่นอน ฉันสบายดี การจัดอันดับยังไม่สิ้นสุดใช่มั้ยล่ะ?” แม็กส่ายหัวด้วยรอยยิ้มในขณะที่เขาโยนเอกสารที่อยู่ในตะกร้าจักรยานลงในลิ้นชัก จากนั้นเขาก็หันไปหาพวกเธอทั้งสองคนแล้ว ถามขึ้น “พวกเธออยากกินอะไรเป็นอาหารเช้า? เดี๋ยวฉันไปทําให้ เอ้อ คืนนี้ฉันจะออกเมนูใหม่นะ เราจะลองกินกันตอนเที่ยง
“เมนูใหม่เหรอคะ?” ดวงตาของยาเบะมิยะเป็นประกายขึ้นมาในทันทีที่ได้ยินและความไม่พอใจของเธอก็บรรเทาลงอย่างมีนัยสําคัญ เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ฉันอยากได้พุดดิ้งเต้าหู แบบหวานกับโร่วเจียหมัวค่ะ คราวนี้เมนูใหม่คืออะไรเหรอคะ?”
“ฉันอยากได้ข้าวผัดหยางโจวค่ะ” แซลลี่พูดต่อ เธอมองแม็กซ์ด้วยสีหน้าแปลกใจ ข้าวไก่ตุ้น เพิ่งจะออกกมาได้ไม่นาน ดังนั้นเธอจึงแปลกใจที่แม็กซ์กําลังจะออกเมนูใหม่
“พอถึงตอนเที่ยงเดี่ยวพวกเธอก็รู้เองล่ะ นั่งพักก่อนเถอะ ฉันจะไปทําอาหารเช้าให้” แม็กซ์เลือกที่จะไม่ตอบแต่เขากลับยิมอย่างมีลับลมคมนับให้กับทั้งสองก่อนที่จะเดินไปทางห้องครัว
ฉันสงสัยจริง ๆ ว่ามันจะอร่อยขนาดไหน ยาเบะมิยะเต็มไปด้วยความคาดหวัง
‘ไม่ยอมแพ้แม้จะเผชิญกับความยากลําบาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมเขาถึงคิดและทําอาหารอร่อย ๆ ออกมาได้ตลอดเวลา’ แซลลี่คิดกับตัวเอง
นอกจากอาหารแสนอร่อยของแม็กซ์ที่ทําให้เธอยอมรับแล้วก็เป็นเสน่ห์เฉพาะตัว ความใจดี และความสงบของเขาที่ค่อย ๆ เอาชนะใจเธอ
ทําไมผู้ชายอย่างเขาถึงมาที่เมืองเคออสกับลูกสาวเพื่อเปิดร้านอาหารและเอลฟ์คนไหนที่เป็นแม่ของเอมี่? ทําไมแม็กซ์ถึงไม่พูดถึงเธอเลยและทําไมพวกเธอถึงไม่เคยเห็นเธอ? แซลลี่มีคําถามมากมายในใจ แต่เธอก็ไม่กล้าถามอะไรออกมา
หลังจากที่แซลลี่และยาเบะมิยะกินมื้อเช้าเสร็จมันก็ถึงเวลาเปิดร้าน พวกเขาเปิดประตูร้านอาหารด้วยรอยยิ้มและปล่อยให้ลูกค้าทุกคนเข้ามา
ยาเบะมิยะยังคงยิ้มตามปกติ ในขณะที่แซลลี่ยังคงทําสีหน้าเย็นชาที่สง่างามแต่ไม่หยิ่งผยองของเธออยู่ตลอดเวลา
ลูกค้าต่างก็อารมณ์เสียเนื่องจากร้านอาหารมามีถูกลบออกจากการจัดอันดับและพวกเขาคิดว่าบรรยากาศในร้านอาหารคงจะค่อนข้างมืดหม่นเช่นกัน ยังไงซะเจ้าของร้านอาหารคงจะไม่พอใจที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามอารมณ์เชิงลบของพวกเขาถูกลบล้างออกไปทันทีด้วยรอยยิ้มของแม็กซ์และยาเบะมิยะ มันยังคงเป็นร้านอาหารที่สดใสและมีความสุขเหมือนเดิม แม้กระทั่งความขัดแย้งระหว่างกลุ่มที่ชอบแบบหวานและแบบคาวก็กลายเป็นกิจวัตรประจําวันที่เหล่าลูกค้าต่างก็เพลิดเพลินไปกับมัน
“ยินดีต้อนรับ ฉันหวังว่าทุกคนจะมีความสุขในเช้าวันนี้” แม็กซ์ทักทายด้วยรอยยิ้ม จากนั้น เขาก็หันไปพยักหน้าให้กับยาเบะมิยะและแซลลี่ก่อนที่จะเดินไปที่ห้องครัว
ลูกค้าเป็นรากฐานของร้านอาหาร เขาอาจจะทําภารกิจล้มเหลว แต่เขาไม่อยากทําให้มันส่งผลต่ออารมณ์ของลูกค้า นั่นไม่ใช่สิ่งที่ร้านอาหารดี ๆ ควรจะทํา
ในที่สุดช่วงเวลาอาหารเช้าที่วุ่นวายก็จบลง แม็กซ์ถอดผ้ากันเปื้อนก่อนจะขึ้นไปชั้นบนพร้อมกับเอกสารที่เขาได้มาจากสํานักงานนักสืบ ยังมีเวลาก่อนที่เขาจะต้องไปเตรียมปลาย่างรสเผ็ดดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะศึกษาข้อมูลของสมาคมจัดเลี้ยงก่อน
เอกสารมีข้อมูลเกี่ยวกับสมาคมจัดเลี้ยงไม่มากนักดังนั้นแม็กซ์จึงอ่านทั้งหมดจบภายใน 20 นาที
พูดง่าย ๆ ก็คือมันเป็นสมาคมส่วนตัวที่ถูกตั้งขึ้นมาโดยผู้มีอํานาจ ดังนั้นมันจึงถือว่าเป็นองค์กรอย่างเป็นทางการ แต่มันก็ยังดําเนินการในฐานะหน่วยงานเอกชนและไม่ได้รับการดูแลจากทางการ
ประมาณสี่สิบปีก่อนมีชายวัยกลางคนคนหนึ่งเริ่มรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหารทั้งหมดในลานเอเดน จากนั้นเขาก็ทําการสํารวจเพื่อหาร้านอาหารยอดนิยม จากผลการสํารวจนั้นเขาได้ทําการจัดอันดับร้านอาหารขึ้นมา ชายคนนั้นเป็นผู้ก่อตั้งสมาคมจัดเลี้ยง เขามีชื่อว่า ลอร์รี่
การจัดอันดับร้านอาหารที่เขาสร้างขึ้นนั้นค่อย ๆ ได้รับการรับรองจากลูกค้ามากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมันทําให้การหาอาหารอร่อย ๆ ทําได้สะดวกมากขึ้น ในขณะเดียวกันนักชิมตัวยงก็เริ่มเข้าร่วมกับเขาและพวกเขาก็ก่อตั้งสมาคมอาหารขึ้นมาด้วยกัน
หลังจากพัฒนามานานกว่า 20 ปี สมาคมอาหารได้รับการยอมรับเป็นอย่างยิ่งและการแข่งขัน อาหารที่มีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อย ๆ มันกลายเป็นสิ่งที่คนต้องดูเมื่อพวกเขามาหาอาหารอร่อย ๆ ที่ลานเอเดน ร้านอาหารทั้งหมดที่ปรากฏขึ้นบนกระดานการจัดอันดับถือว่าได้รับการรับรองจากลูกค้าทุกคน
หลังจากนั้นลอร์รี่ก็เกษียณและส่งต่อสมาคมอาหารของเขาให้กับชายหนุ่มชื่อว่าวอร์เรน
วอร์เรนเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง หลังจากเข้ารับตําแหน่งไม่นานเขาก็ปรับเปลี่ยนวิธีการให้คะแนนของการแข่งขันอาหาร ในอดีตสมาชิกของสมาคมจะไปชิมอาหารที่ร้านอาหารแต่ละแห่งเพื่อพิจารณาอันดับด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามเขาเปลี่ยนให้มันเป็นการโหวตของลูกค้า
สมาคมอาหารเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการพัฒนาอย่างรวดเร็วและการแข่งขันอาหารก็ยิ่งได้รับการยอมรับมากขึ้น ภายใต้ระบบการลงคะแนนแบบใหม่ความเห็นส่วนตัวจึงถูกลดทอนลงดังนั้นอาหารที่ได้รับการจัดอันดับจึงได้รับความรักอย่างกว้างขวางจากลูกค้าทุกคน ด้วยเหตุนี้มันจึงกลายเป็นพลังที่มีอิทธิพลอย่างมากและการจัดอันดับร้านอาหารในการแข่งขันอาหารก็จะตัดสินได้ว่า พวกเขาจะขายดีมากแค่ไหน
หลังจากนั้นสมาคมอาหารก็ได้รับการรับรองจากปราสาทเจ้าเมืองและเปลี่ยนชื่อเป็นสมาคมจัดเลี้ยง พวกเขาได้รับตราประจําสมาคมอย่างเป็นทางการและนั่นคือช่วงที่ผลกําไรของสมาคมเริ่มพุ่งสูงขึ้น
“ถ้าเขาไม่ทําตัวเองให้เป็นคนหลอกลวงที่รับสินบนและโกงการจัดอันดับเขาก็คงจะเป็นอัจฉริยะจริง ๆ” แม็กซ์วางเอกสารในมือลง เสียงของเขาเต็มไปด้วยความนับถือ