A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 369
Chapter 369 : ทุกอย่างเพื่ออาหาร!
สาขาหลักของสมาคมจัดเลี้ยงเพิ่งจะได้รับการปรับปรุงเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาให้กลายเป็นอาคารที่ยิ่งใหญ่และหรูหรา อย่างไรก็ตามตอนนี้บรรยากาศภายในอาคารค่อนข้างตึงเครียดพนักงานที่สวมเครื่องแบบของสมาคมจัดเลี้ยงมองกลุ่มคนจากปราสาทเจ้าเมืองที่บุกเข้ามาในอาคารด้วยความสับสนและตื่นตระหนก ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ถูกควบคุมตัวแต่พวกเขาก็ถูกห้ามไม่ให้ออกไปจากอาคาร
ตอนนี้วอร์เรนกําลังยืนอยู่บนชั้นสอง รูปลักษณ์ของเขาดูเหมือนจะมีอายุมากกว่าเดิมนับ 10 ปีโรเบิร์ตยืนข้าง ๆ เขาและถามขึ้น “คุณเคยคิดมั้ยว่าวันนี้จะมาถึง?”
“ฉันเคยคิดถึงความเป็นไปได้นี้เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน แต่หลายปีที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้นดังนั้นฉันจึงรู้สึกพึงพอใจ ใครจะคิดว่าวันนี้จะมาถึงจริง ๆ” วอร์เรนจับราวบันไดเอาไว้ในขณะที่เขามองดูเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่กําลังหวาดกลัว เขามองสํารวจอาคารสมาคมจัดเลี้ยงที่ได้รับการปรับปรุงและกลายเป็นอาคารอย่างที่เขาจินตนาการไว้
โรเบิร์ตเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะถามต่อ “คุณเสียใจในสิ่งที่คุณทํามั้ย?”
“ทําไมฉันต้องเสียใจล่ะ?” วอร์เรนยืดตัวตรงและกางแขนออกอย่างภาคภูมิใจในขณะที่เขาตอบ “ดูอาคารอันรุ่งโรจน์นี่สิ ดูพนักงานพวกนั้นและดูรูปปั้นภายนอกอาคาร ฉันสร้างทั้งหมดนี้นมายังมีลูกค้านับไม่ถ้วนที่ค้นหาร้านอาหารจากกระดานจัดอันดับอาหารของฉันในทุก ๆวัน แล้วฉันจะต้องเสียใจเรื่องอะไร? ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากปราสาทเจ้าเมืองแต่ฉันก็ยังทําสิ่งเหล่านี้ได้ภายในห้าปี”
โรเบิร์ตเงียบไปอีกครั้งก่อนที่จะถามต่อ “คุณคิดว่าประธานคนก่อนจะเห็นด้วยกับสมาคมอาหารในตอนนี้มั้ย?”
“บางที…” สีหน้าของวอร์เรนแข็งที่อไปในขณะที่เขาหันไปมองโรเบิร์ต ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกราวกับว่าใบหน้าของโรเบิร์ตนั้นค่อนข้างคุ้นเคย เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะถาม “นายเป็นใครกันแน่?”
โรเบิร์ตมองเข้าไปในดวงตาของวอร์เรนก่อนที่จะตอบ “ประธานคนก่อน ลอร์รี่ เขาเป็นปู่ของผม ผมจําได้ว่าผมเคยพบคุณครั้งหนึ่งตอนที่ผมยังเด็ก”
“ปะ…เป็นไปได้ยังไง?!” วอร์เรนมองที่โรเบิร์ตอย่างไม่อยากเชื่อ ราวกับว่าเขากําลังได้ยินอะไรบางอย่างที่ไร้สาระเป็นอย่างมาก
“ย้อนกลับไปตอนที่ปูของผมก่อตั้งสมาคมอาหารขึ้นมาพ่อของผมไม่สนใจในความพยายามของเขาและเขาก็ไม่อนุญาตให้ผมเข้ามายุ่งกับมันด้วย หลังจากนั้นปูของผมก็ส่งต่อสมาคมอาหารให้คุณและจากไปในปีต่อมา ครอบครัวของเราไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับสมาคมอาหารหลังจากนั้น แต่ปูของผมขอให้ผมคอยเฝ้าดูสมาคมอาหารก่อนที่เขาจะจากไปดังนั้นผมจึงเฝ้าดูมันอยู่เสมอ
“ท่านประธาน คุณเป็นอัจฉริยะจริง ๆ สมาคมจัดเลี้ยงพัฒนาขึ้นและเติบโตได้เร็วกว่าที่ใคร ๆจะจินตนาการได้ แม้แต่ปูของผมก็คงจะคิดไม่ถึงว่าสมาคมที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อนําทางผู้คนไปยังอาหารอร่อย ๆ จะกลายเป็นองค์กรที่ทรงพลังขนาดนี้ อย่างไรก็ตามเขาต้องไม่อยากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับการแข่งขันอาหารของลานเอเดนในปัจจุบันแน่ การแข่งขันอาหารในปัจจุบันเบี่ยงเบนไปจากวิสัยทัศน์ของเขาอย่างสมบูรณ์และมันก็ไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง”
วอร์เรนกําหมัดแน่น “เมื่อปีก่อนที่นายเลือกมาที่สมาคมจัดเลี้ยงก็เพราะว่านายตั้งใจจะมาเขียฉันลงจากตําแหน่งอย่างในวันนี้เหรอ?”
“ไม่ครับ นั่นไม่ใช่ความตั้งใจของผม ผมแนะนําหลายครั้งแล้วว่าคุณควรจะเปลี่ยนวิธีการผมเองก็ไม่อยากจะทําแบบนี้ สมาคมอาหารเป็นเลือดเนื้อ หยาดเหงื่อและน้ําตาของปูของผมแต่คุณเองก็มีส่วนร่วมในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นคุณได้นําสมาคมจัดเลี้ยงไปสู่ความยิ่งใหญ่และทําให้มันเติบโตขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว นี่คือรางวัลที่ผมไม่สามารถพรากไปจากคุณได้” โรเบิร์ตส่ายหัวและมองวอร์เรนด้วยสีหน้าจริงจังขึ้น “แต่คุณไม่เคยฟังในสิ่งที่ผมพูด คําขวัญของสมาคมจัดเลี้ยงของเรา ทุกอย่างเพื่ออาหาร!” นั้นถูกจารึกเอาไว้บนรูปปั้นที่อยู่ด้านนอกสมาคมจัดเลี้ยงของ เรา”
“คุณไม่พบคิดว่ามันเหมือนกับการประชุดชั้นเหรอ? คุณยังจําคําสัญญาที่คุณให้ไว้กับปูของผมได้มั้ย? คุณยังจําสิ่งที่คุณตั้งใจจะทําได้มั้ย? คุณยังจําสัญญาที่คุณทําไว้กับปราสาทเจ้าเมืองได้มั้ย?คุณเอาแต่ทําอะไรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คุณกําลังผลักดันสมาคมจัดเลี้ยงให้ก้าวเข้าไปสู่ขุมนรกและหน้าที่ของผมคือการแก้ไขความผิดพลาดของคุณ”
วอร์เรนมองดูสีหน้ามั่นคงของโรเบิร์ต มือที่กําแน่นของเขาค่อย ๆ คลายออก ราวกับว่าพลังงานทั้งหมดภายในร่างกายของเขาได้หายไป เขาใช้ราวบันไดเพื่อค้ํายันร่างกายของตัวเองเอาไว้เขามองออกไปไกลด้วยดวงตาที่เหม่อลอยและรู้สึกราวกับว่าอาคารที่หรูหรารอบตัวเขากําลังจะพังทลาย ราวกับว่าพวกมันกําลังจะพังลงมากอย่างช้า อาณาจักรที่เขาใช้เวลาในชีวิตไปหลายปีเพื่อสร้างมันขึ้นมาเริ่มที่จะพังทลายในสายตาของเขา
“จริง ๆ แล้วฉันเองก็ไม่อยากให้เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้…” เขายิ้มอย่างสมเพชตัวเองก่อนที่จะมองไปที่รูปปั้นด้านนอกอาคารแล้วพูดต่อ “ตอนแรกฉันแค่อยากจะสร้างสาขาหลักสําหรับสมาคมจัดเลี้ยงแต่ฉันก็ไม่มีเงิน ดังนั้นฉันจึงคิดว่าฉันจะหาเงินจํานวนมากมาได้ยังไง สุดท้ายการขายบัตรลงคะแนนก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดี หลังจากนั้นก็มีร้านอาหารบางแห่งพยายามติดสินบนฉันให้มอบอันดับให้พวกเขาแต่ฉันก็ปฏิเสธพวกเขาไปเพราะว่าฉันไม่อยากทําให้การแข่งขันอาหารของลานเอเดนแปดเปื้อน”
“อย่างไรก็ตามวันหนึ่งฉันก็พบว่าไม่มีใครรู้ในสิ่งที่ฉันทําหรอก ฉันแค่ต้องเปลี่ยนอันดับสักอันดับหนึ่งและมันทําให้ฉันได้เงินมากกว่าที่ฉันขายบัตรลงคะแนนซะอีก ส่วนหนึ่งฉันก็นํามาเป็นรายได้ของสมาคมในขณะที่อีกส่วนหนึ่งฉันก็แบ่งเป็นกําไรให้ตัวเอง ฉันตัดสินใจได้ว่าจะให้เท่าไรและเก็บเอาไว้เท่าไหร่และความรู้สึกในการเป็นผู้ควบคุมความมั่งคั่งนั้นน่าดึงดูดมาก หลังจากนั้นหอการค้าก็เข้ามาหาฉัน ประธานเจฟฟรีคนนั้นเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวจริงและเขาก็รู้กฏในการทําธุรกิจดีเขาแบ่งการจัดอันดับของเราเป็นกลุ่ม ๆ ตามความเหมาะสม และถึงแม้ว่าเงินที่ฉันได้รับในแต่ละครั้งจะลดลงเล็กน้อยแต่มันก็เป็นความสัมพันธ์ที่ปลอดภัยและพึ่งพาอาศัยกัน”
“หลังจากนั้นไซริลก็เข้ามารับตําแหน่งฝ่ายจัดเลี้ยงของหอการค้า เขากระเป๋าหนักยิ่งกว่าเจฟฟรี อย่างไรก็ตามเขามีความทะเยอทะยานมากและเข้ายึดอันดับเกือบทั้งหมด ฉันรู้ว่ามันมีความเสี่ยงแต่เมื่อเหรียญมังกรเป็นหีบ ๆ ถูกส่งมาที่สํานักงานของฉันฉันก็ไม่สามารถทนที่จะส่งพวกมันกลับไปได้ ดังนั้นการแข่งขันอาหารของลานเอเดนจึงกลายเป็นเรือที่แล่นเร็วจนหลุดออกจากการควบคุมของฉัน ฉันไม่สามารถควบคุมทิศทางความเร็วหรือตั้งกฏได้อีกต่อไป”
“ฉันยังคงเป็นประธานของสมาคมจัดเลี้ยง แต่ฉันรู้ดีว่าฉันเป็นเพียงแค่หุ่นเชิดที่ถูกควบคุมด้วยเงิน ถ้าพวกเขาต้องการให้ฉันทําอะไรบางอย่างสิ่งเดียวที่พวกเขาต้องทําก็คือส่งเงินมาที่สํานักงานของฉัน ฉันปฏิเสธไม่ได้ ฉันไม่สามารถทําได้และฉันก็ไม่กล้าเช่นกัน เมื่อเทียบกับหอการค้าสมาคมจัดเลี้ยงของเราเป็นเหมือนกับคนที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ หลังจากที่ให้พวกเขาเข้ามาพวกเราก็ป้องกันตัวเองไม่ได้โดยสมบูรณ์ ฉันทําได้แค่ทิ้งความรู้สึกผิด ฉันพยายามไม่มองคําขวัญที่สลักเอาไว้บนรูปปั้นและบอกกับตัวเองว่าฉันสมควรได้รับสิ่งเหล่านี้แล้ว”
“ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันทํามันผิด แต่เมื่อทุกอยากมันถูกเริ่มไปแล้วฉันก็ไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีก” วอร์เรนถอนหายใจขณะที่เขาหันไปมองโรเบิร์ต เขาตบไหล่โรเบิร์ตด้วยสีหน้าจริงจัง “ตอนนี้ฉันจํานายได้แล้ว นายเป็นเด็กที่ชอบตามท่านประธานคนก่อนมาและไม่อยากเช็ดปากหลังจากที่กินเนื้อย่างถ้านายกําลังจะนําสมาคมจัดเลี้ยงไปสู่เส้นทางที่ถูกต้องฉันก็หวังว่านาย จะให้ทุกคนจําคําขวัญที่สลักเอาไว้บนรูปปั้นให้ขึ้นใจ”