A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 402
Chapter 402 : คำเชิญ
“ใช่แล้วเจสสิก้า วันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อเชิญเธอไปงานปาร์ตี้อาหารกลางวัน พ่อกำลังจะทำอาหารอร่อย ๆ มากมายสำหรับพวกเรา” เอมพยักหน้าในขณะที่เธอพูด “เปิดของขวัญดูสิ ฉันคิดว่าเธอจะชอบมันมากแน่ ๆ”
“งานปาร์ตี้เหรอ?” ตาของเจสสิก้าเป็นประกายขึ้นมาในทันที เธอมองถุงในมือด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความคาดหวัง เธอรีบหันไปถามรีเบคก้า “แม่คะ หนูเปิดเลยได้มั้ยคะ?”
“แน่นอน หนูเปิดได้เลย” รีเบคก้าพยักหน้าให้กำลังใจ
เจสสิก้าเดินไปที่เตียงก่อนที่จะแกะโบว์ที่เอมผูกไว้กับถุงอย่างระมัดระวัง เมื่อเธอหยิบของในถึงออกมาเธอก็พบกับชุดเดรสสีเหลืองที่มีผีเสื้อที่เต็มไปด้วยสีสันประดับอยู่บริเวณหน้าอกของชุด ปีกของมันก็กางออกกว้างราวกับว่ามันกำลังจะบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
“ว้าว! นี่เป็นชุดที่สวยมาก!” เจสสิก้าอ้าปากค้างในขณะที่เธอมองดูชุดที่วางอยู่บนเตียง เธออึ้งไปสองถึงสามวินาทีก่อนที่จะหันกลับมากอดเองเอาไว้
เอมีรู้สึกประหม่าเล็กน้อยในขณะที่เธอถาม “เจสสิก้า เธอชอบมันมั้ย?”
“ชอบสิ! ฉันรักมันเลยล่ะ! ตอนนี้ฉันมีชุดเป็นของของตัวเองแล้วและมันยังเป็นชุดเดรสสีเหลืองที่สวยสุดๆ ไปเลย ขอบคุณนะเอมี!” เจสสิก้าที่ดวงตามีน้ำตาคลอพยักหน้าและจับมือเอมี่แน่น
รีเบคก้ารีบหันหลังไปเช็ดน้ำตาที่หางตาก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมองเพดานและกระพริบตาเพื่อกลั้นน้ำตาเอาไว้
ท่ามกลางความเงียบ ทันใดนั้นเอมี่ก็พูดขึ้น “ถ้างั้น…เธอปล่อยฉันก่อนได้มั้ย? ฉันคิดว่าลูกเป็ดขี้เหร่กำลังจะหายใจไม่ออก…”
“เหมียว” ลูกเป็ดขี้เหร่ร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง
“ขอโทษทีนะลูกเป็ดขี้เหร่ ฉันลืมแกไปเลย” เจสสิก้าถอยหลังไปในทันทีและลูบหัวลูกเป็ดขี้เหร่ด้วยสีหน้าขอโทษ
“ไม่เป็นไรหรอก หัวมันแข็งมาก” เอมส่ายหัวด้วยสีหน้าเฉยเมย
“เหมียว” ลูกเป็ดขี้เหร่ส่งเสียงประท้วงเอม
“ฉันจะใส่ชุดนี้ไปงานปาร์ตี้อาหารกลางวัน มันสวยมากจริง ๆ ฉันไม่เคยได้รับของขวัญที่สวยขนาดนี้มาก่อนเลย” เจสสิก้ารู้สึกดีใจมาก
“โอ้ ถ้าเธอติดกิ๊บผีเสื้อด้วยเธอจะดูดีมากเลยล่ะ” เอมี่พยักหน้าด้วยความตื่นเต้น
แม็กซ์มองไปที่สาวน้อยที่กำลังตื่นเต้นทั้งสองด้วยรอยยิ้ม เมื่อไหร่ที่เขามีเรื่องที่ไม่พอใจสาวน้อยของเขาก็ทำให้เขาร่าเริงได้เสมอ
หลังจากเล่นด้วยกันอยู่ครู่หนึ่งเอมและแม็กซ์ก็เตรียมตัวกลับไปที่ร้านอาหารเพื่อเตรียมงานปาร์ตี้อาหารกลางวัน
“ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าจะตอบแทนคุณได้ยังไง” ในขณะที่บอกลากันรีเบคก้าก็พูดขึ้นด้วยความกตัญญ
“ถ้าคุณอยากขอบคุณผมคุณก็ให้เจสสิก้ามาเล่นกับเอมีให้มากกว่านี้เถอะ เอมน่าจะอยากมีเพื่อนคู่หูมาเล่นด้วยในวันหยุดของเธอ” แม็กซ์ยิ้มในขณะที่เขาโบกมือลาเจสสิก้าและรีเบคก้าก่อนที่เขาจะเป็นจักรยานของเขาออกไปโดยมีเอมี่นั่งอยู่บนที่นั่งเล็ก ๆ ของเธอ
ความเจ็บปวดของทุกคนในพื้นที่นี้จบไปแล้วแต่มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นสำหรับวิหารสีเทาและปราสาทเจ้าเมืองพวกเขาต้องทำความสะอาดศพในที่เกิดเหตุและทำการสอบสวนอย่างละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ชาวบ้านทุกคนมองส่งแม็กซ์และเอมี่ด้วยความขอบคุณในขณะที่พวกเขาเดินจากไป ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พูดอะไรแต่พวกเขาก็รู้สึกขอบคุณทั้งคู่มากเช่นกัน
เอมี่ยิ้มและพูดขึ้น “พ่อคะ พวกเขาทุกคนรู้สึกขอบคุณพ่อมาก”
“พวกเขาก็ต้องขอบคุณหนูด้วยนะ ถ้าไม่ใช่เพราะหนูอยากเชิญเจสสิก้ามางานปาร์ตี้ของหนูเราคงไม่ได้มาที่นี่” แม็กซ์ยิ้มก่อนที่จะขึ้นคร่อมจักรยานแล้วขี่มันกลับไปที่ร้านอาหาร
สายลมของฤดูใบไม้ร่วงที่พัดผ่านและแสงแดดที่ส่องลงมาทำให้ร่างกายของพวกเขาอบอุ่นขึ้น
บรรยากาศภายในห้องประชุมของปราสาทเจ้าเมืองนั้นน่ากลัวมากในตอนนี้
สีหน้าของเจ้าหน้าทกคนในห้องมีหลากหลายแตกต่างกันไป บ้างก็เดือดดาล บ้างก็กังวลและบางคนก็หวาดกลัว
แบรนลี่วางกระดาษในมือลง มีน้ำตาคลออยู่ในดวงตาของเขาแต่เขาก็บังคับไม่ให้พวกมันไหลออกมา
ไมเคิลที่นั่งฟังเงียบ ๆ พูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา
“นับจากนี้ไปอัลวาจะถูกปลดออกจากตำแหน่งและจะมีการสอบสวนเขาเพื่อหาว่าเงินชดเชยสำหรับครอบครัวของคนงานเหมืองที่เสียชีวิตหายไปไหน เรื่องนี้จะต้องถูกเก็บเป็นความลับและฉันจะขอความช่วยเหลือจากวิหารสีเทาเพื่อสอบสวนผู้ว่าการทุกคนในเมืองเคออส คนที่บิดเบือนกฎหมายและใช้มันกับประชาชนในเมืองจะต้องได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง! เพิ่มเงินชดเชยที่เราต้องมอบให้กับครอบครัวของคนงานเหมืองและทหารที่เสียชีวิต จัดตั้งแผนกขึ้นมาเพื่อจัดการปัญหานี้โดยเฉพาะ อย่าปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกดขึ้นอีก! ฉันขอย้ำอีกครั้งนะ กฎของเมืองเคออสมีไว้เพื่อช่วยให้ผู้คนดำเนินชีวิตได้อย่างมีอิสระและปลอดภัย ถ้าใครกล้าที่จะใช้พวกมันอย่างผิด ๆ กับผู้คนในเมืองเคออส ฉันจะตามหาคนพวกนั้นและทำให้พวกมันประสบกับชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตายไม่ว่าพวกมันจะเป็นใคร!”
สายตาที่แหลมคมของไมเคิลมองผ่านเจ้าหน้าที่ทุกคน
เจ้าหน้าที่ร่างอ้วนคนหนึ่งหวาดกลัวจนหน้าซีดและรู้สึกอ่อนแรงจนตกเก้าอี้ไปแต่ก็ไม่มีใครกล้าช่วยเขา
“ท่านเจ้าเมืองครับ ผมขอตัวไปรายงานเรื่องนี้ให้เบื้องบนทราบก่อนนะครับ!” แบรนลี่ทำความเคารพไมเคิลก่อนที่จะจากไปอย่างรวดเร็ว
“ถ้าคนที่ปฏิบัติตามกฎหมายและคำสั่งต่าง ๆ นั่งอยู่ร่วมโต๊ะกันกับคนที่ตั้งใจจะทำลายกฎหมายและความสงบเรียบร้อยคนที่ควรได้รับการปกป้องก็จะเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บ นี่เป็นสิ่งที่โนแวนบอกฉันเมื่อเขาปฏิเสธข้อเสนอของฉันตอนที่ฉันชวนเขาเข้ามาทำงานที่ปราสาทเจ้าเมือง ในตอนนั้นฉันยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาจะสื่อ แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว การทุจริตที่มากที่สุดนั้นมาจากภายในเสมอ” ไมเคิลเหลือบมองอัลวาด้วยรอยยิ้มหยัน
ในขณที่แม็กซ์ขี่จักรยานกลับไปที่ร้านอาหารและผ่านร้านน้ำยาเวทมนตร์เอมี่ก็ถามขึ้น “พ่อคะ หนูขอเชิญพี่สาวฉีฉีกับคุณหมีใหญ่ด้วยได้มั้ยคะ?”
แม็กซ์จอดจักรยานและยิ้มในขณะที่เขาตอบ “ได้สิ แต่ต้องดูก่อนนะว่าพวกเขาว่างมั้ย?”
“หนูจะเข้าไปถามพวกพี่เขา” เอมีปืนลงจากจักรยานด้วยตัวเองและทักทายถ่านดำและถั่วเขียวก่อนที่จะเดินเข้าไปในร้านน้ำยาเวทมนตร์
“เจ้าแมวอ้วนโง่ แกเมาจักรยานอีกแล้วเหรอ? ดูแกสิ นอนเหม่ออย่างกับแมวปัญญาอ่อน กักกกกกกก…” ถ่านดำโผล่หัวออกมาจากกรงแล้วหัวเราะเยาะลูกเป็ดขี้เหร่ที่นอนหน้าซีดอยู่ในตะกร้า
“เหมียว!” ลูกเป็ดขี้เหร่ร้องอย่างไม่พอใจ แต่ในขณะที่มันจะยื่นเท้าไปตบถ่านดำมันก็สูญเสียการควบคุมร่างกายและล้มหงายท้องลงไปมองท้องฟ้าด้วยท่าทีอยากตาย เมื่อถ่านดำเห็นแบบนั้นมันก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอีกครั้ง แม้แต่แม็กซ์เองก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“หนูชวนฉันไปงานปาร์ตี้เหรอ?” ภายในร้าน ฉีฉีที่กำลังถือขวดน้ำยาเวทมนตร์สองขวดเอาไว้ในมือมองเอมและถามด้วยสีหน้าร่าเริง
“ใช่ค่ะ คุณหมีใหญ่เองก็ไม่ได้เหมือนกันนะ พ่อจะเตรียมอาหารอร่อย ๆ ไว้เยอะเลยล่ะค่ะ” เอมีพยักหน้าก่อนที่จะพูดต่อ “พ่อจะทำไก่ตุ้นที่พี่ชอบด้วยนะ”
“ฉันจะไป!” ดวงตาของฉีฉีเป็นประกายขึ้นมาในทันทีในขณะที่เธอยกมือขึ้น แต่แล้วเธอก็ค่อย ๆ ลดมือลงด้วยท่าที่ลังเลในขณะที่เธอพูด “แต่อาจารย์อเรี่ยนออกไปตั้งแต่เช้าและร้านต้องมีคนคอยดูแล”
“งั้นพี่ก็ปิดมันสิคะ ร้านนี้แทบจะไม่มีลูกค้าเลย” เอมียักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ