A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 90
Chapter 90 : ฉันจะเรียกมันว่ากองทัพเพลิงโลกันต์
แม็กซ์พยักหน้า “ได้เลย รอสักเดี๋ยวนะ” เขาเดินกลับไปที่ห้องครัว
เขาเห็นการขยิบตาของแฮร์ริสัน แต่มันไม่ได้ขัดกับกฎของเขาดังนั้นเขาจึงไม่ได้พูดอะไร มันเป็นเรื่องธรรมดาระหว่างเพื่อนและเขาเองก็เข้าใจ
หลังจากแม็กซ์เดินกลับเข้าไปในครัวแฮร์ริสันก็ยิ้มให้กับเพื่อนของเขา “พาเมอร์และพาเบอร์ก็ชอบข้าวผัดหยางโจวใช่มั้ย ?” เขาถาม
“ใช่ พวกเขาชอบมันมาก แม้แต่แองกัสเองก็อยากลอง แต่ฟันของเขาเพิ่งจะเริ่มขึ้นดังนั้นเขาจึงกินได้แค่ไข่เท่านั้น” การพูดถึงลูกๆของเขาทำให้จอร์จยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
แฮร์ริสันพยักหน้ายิ้ม “งั้นก็เอาของฉันไปให้พวกเขา ฝากทักทายหลานๆให้ฉันด้วย แล้วบอกพวกเขาว่าฉันอาจจะพาพวกเขาไปเล่นที่ฟาร์มม้า”
จอร์จพยักหน้า “ขอบคุณ ฉันจะบอกให้ พวกเขามักจะพูดถึงม้าสีขาวสองตัวของนายตลอดเลย” จากนั้นพวกเขาเปลี่ยนไปพูดเกี่ยวกับฟาร์มม้า ครอบครัวของแฮร์ริสันได้ลงทุนไปกับฟาร์มม้าและเขาได้ชวนจอร์จมาร่วมลงทุนเพื่อซื้อม้าเพิ่มและขยายฟาร์ม เขาต้องการทำให้มันมีขนาดใหญ่พอสำหรับการแข่งม้าเหมือนกับที่มีในเมืองโรดู
ครัสซูกินข้าวผัดอยู่เงียบๆจนหมด เขารู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อย เขาคิดวิธีที่จะทำให้แม็กซ์เปลี่ยนใจไม่ได้เลย
เขามีเพื่อนเก่าอยู่ในเมืองเคออสนี้ แต่เขาไม่ต้องการทำให้พวกนั้นมีปัญหา
นอกจากนี้เพื่อนๆของเขาอาจจะใช้การข่มขู่และของมีค่าในการชักชวนแม็กซ์ เขาไม่ต้องการให้ลูกศิษย์ที่มีค่าของเขาต้องมาเรียนรู้อย่างไม่เต็มใจเพราะเขารู้ดีว่าการเรียนเวทมนต์เป็นการเรียนที่น่าเบื่อถึงแม้ว่าจะมีความกระตือรือร้นก็ตาม
“คุณปู่เคราครึ่งไม่ต้องเศร้านะ หนูไม่สามารถไปที่ไกลๆกับคุณเพื่อสอนเวทย์ลูกไฟได้ แต่หนูสามารถสอนคุณที่นี่ได้นะ คุณสามารถจากไปได้เมื่อคุณเชี่ยวชาญมัน” เอมี่พูดกับครัสซูอย่างจริงจัง ตอนนี้คุณปู่เคราขาวดูน่าสงสารมาก เคราของเขาถูกไฟของฉันเผา แถมเขายังต้องใช้ไม้เท้าเพื่อช่วยเดินและเวทมนต์ของเขาก็แย่มาก ฉันรู้สึกเป็นห่วงเขา
ตาของครัสซูเป็นประกายขึ้นมาในทันทีที่เอมี่มองมาที่เขาด้วยความสงสาร เขามีประกายความคิดบางอย่างขึ้นมา ฉันไม่ต้องสอนเธอที่หอคอยก็ได้นี่ ครั้งนี้แม็กซ์อาจจะตอบตกลงก็ได้
แต่ฉันต้องเปลี่ยนแผน ฉันจะให้พวกเขาส่งอุปกรณ์บางอย่างจากเมืองโรดูมาให้ฉัน
ความคิดนี้ทำให้ใบหน้าของเขากลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง “สาวน้อยคิดเงินให้ฉันหน่อยได้มั้ย ?” เขาหยิบเหรียญมังกรสองเหรียญออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้ววางลงบนโต๊ะเบาๆ
“ได้เลยค่ะ ทั้งหมด 12 เหรียญทอง” เอมี่หยิบเหรียญมังกรสองเหรียญขึ้นมาแล้วส่งเหรียญทองแปดเหรียญให้กับครัสซู “นี่แปดเหรียญทองค่ะ” เธอมองเขาด้วยความประหลาดใจ เขารู้สึกมีความสุขมากเพราะว่าเขาสามารถมาเรียนกับฉันได้ ?
“ไปก่อนนะสาวน้อย” ครัสซูรับเหรียญมาแล้วเดินไปที่ประตูพร้อมกับไม้เท้าและยิ้ม
ด้วยวิธีนี้มันอาจจะเป็นเรื่องยากเล็กน้อยแต่ฉันไม่ต้องการอยู่ในหอคอยนั่นอีกแล้ว ฉันอยู่ที่นั่นมาทั้งชีวิตและมันไม่ใช่สถานที่ที่ดีเลย เขาเคยเรียกมันว่าหอคอยโลงศพ ครัสซูคิด
อย่างไรก็ตามที่นี่ฉันสามารถได้กลิ่นของอิสรภาพในอากาศ ที่สำคัญคือฉันสามารถกินอาหารดีๆและได้พบกับลูกศิษย์ที่มีค่าได้ มันเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยที่ฉันจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ที่นี่
ลูกค้าคนอื่นๆต่างก็มองครัสซูที่กำลังเดินออกไปด้วยความสงสัย ทำไมอยู่ๆเขาถึงมองโลกในแง่ดี ?
ซาเจราสนั่งก้มหน้าและไม่กล้าสบตาครัสซู เขาคิดว่าชายชราจะด่าเขา แต่ชายชราทำเพียงแค่เหลือบตามองและจากไปโดยไม่พูดอะไร
ซาเจราสถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขามองกลับหลังไปและเห็นด้านหลังของชายชรา จากนั้นเขาก็กลับมาสนใจโร่วเจียหมัวของเขา
เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเลือดของเขากำลังเดือดพล่านและพยายามที่จะทะลวงผ่านคอขวดที่กีดขวางอยู่ ผลของมันยังไม่มากนักแต่ก็มากพอที่จะจุดประกายความหวังของเขา ความเป็นไปได้ที่เขาจะไปถึงอีกระดับด้วยการกินโร่วเจียหมัวทำให้เขารู้สึกมึนเมา
ถ้ามันใช้ได้จริงงั้นฉันก็ควรจะบอกมันกับนักรบปีศาจลาวาทุกคน พวกเขาส่วนใหญ่ยังไม่ผ่านคอขวดที่สองดังนั้นผลของมันที่มีกับพวกเขาก็ควรจะมากขึ้น ฉันว่าฉันควรจะกลับไปที่บ้านแล้วพาพวกเขามาที่นี่เพื่อกินโร่วเจียหมัวนี่ จากนั้นเราก็จะจัดตั้งกลุ่มและทำภารกิจที่ยากขึ้นเพื่อหาเงินมาซื้อโร่วเจียหมัว ซาเจราสพยักหน้า พวกเราตกต่ำกันมาหลายปีแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราจะแสดงให้พวกเขาเห็น เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพึมพำกับตัวเอง “ฉันคิดว่าฉันจะเรียกมันว่า ‘กองทัพเพลิงโลกันต์’ (Burning Legion)”
แม็กซ์ยุ่งอยู่ตลอดช่วงมื้อเย็น เขาหยุดรับออเดอร์หลัง 21.00 น. หลังจากที่ลูกค้าอีกไม่กี่คนทานอาหารเสร็จและออกไปแม็กซ์ก็หมุนป้ายจาก ‘เปิด’ เป็น ‘ปิด’ แล้วปิดประตู เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขารู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยหลังจากทำงานมาเป็นเวลาสี่ชั่วโมง เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้กับประตูและเตรียมที่จะพักสักครู่หนึ่งก่อนที่จะทำความสะอาด
เอมี่เดินมาหาเขาและวางลูกแมวไว้บนพื้น “พ่อ วันนี้เราขายโร่วเจียหมัวไปได้ 305 อันและข้าวผัดสายรุ้ง 76 จาน ทั้งหมดเป็นเงิน 1,371 เหรียญทอง” เธอพูดในขณะที่เธอเขย่งเท้าขึ้นเพื่อทุบหลังให้แม็กซ์
ดวงตาของแม็กซ์เป็นประกายขึ้นมาในทันที “โอ้ รายรับของเราเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเลย” เขาพูดอย่างมีความสุข เมื่อหักค่าใช้จ่ายสำหรับวัตถุดิบเราจะได้เงินมากกว่า 900 เหรียญทอง การตัดสินใจทำโร่วเจียหมัวเพิ่มนั้นเป็นตัวเลือกที่ดี
มื้อเย็นนี้มีลูกค้าใหม่เข้ามากว่า 50 คน คนส่วนใหญ่มาเพราะคำแนะนำของลูกค้าประจำ ส่วนคนอื่นๆเข้ามาเพราะบรรยากาศที่วุ่นวายภายในร้าน ตอนนี้เขามีลูกค้าทั้งหมด 260 คนแล้ว ด้วยความเร็วระดับนี้เขาควรจะทำภารกิจให้สำเร็จได้
เขาขายโร่วเจียหมัวไปมากกว่า 400 อันแล้วและต้องใช้เวลาอีกแค่สองวันเท่านั้นเพื่อทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ จากนั้นเขาก็จะปลดล็อคพุดดิ้งเต้าหู้ได้
เมื่อคิดถึงพุดดิ้งเต้าหู้มันก็ทำให้เขายิ้มออกมา
“พ่อ พวกเรากินโร่วเจียหมัวมาหลายวันแล้ว พ่อจะทำอาหารแบบใหม่ออกมาเมื่อไหร่เหรอคะ ?” เอมี่ถามอย่างคาดหวังในขณะที่เธอทุบหลังของแม็กซ์
“อืมม พ่อจะทำเมนูใหม่ให้หนูในอีกสองวัน” แม็กซ์ตอบด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบหัวเอมี่ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามอย่างจริงจัง “เอมี่ หนูต้องการเรียนเวทมนต์มั้ย ?”
“ใช่ค่ะ หนูต้องการเรียนเวทมนต์ที่ทรงพลัง หนูต้องการปกป้องพ่อในกรณีที่พวกเขาวางแผนที่จะทำร้ายพ่อ” เอมี่พูดอย่างจริงจังและพยักหน้า เธอเอื้อมมือมาจับนิ้วของแม็กซ์ “ไม่ต้องห่วงนะคะพ่อ หนูจะแข็งแกร่งขึ้น”