A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 100
Chapter 100 : ร้านเนื้อย่าง
แม็กซ์พยักหน้า เขาขอปากกาและกระดาษเพื่อเอามาเขียนตารางสูตรคูณลงไปและใช้อธิบาย จากนั้นก็เขียนคำศัพท์ต่างๆลงไปและอธิบายระบบทศนิยมโดยละเอียด
ผู้คนในโลกนี้ใช้ระบบเลขฐานหกสิบและมันมีข้อกำหนดมากกว่า 1,700 อย่าง ดังนั้นการคูณและการหารของตัวเลขสองหลักหรือมากกว่านั้นจึงมีความซับซ้อนมาก คนที่จะถูกนับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญทางคณิตศาสตร์ของโลกนี้ได้จะต้องเป็นคนที่สามารถหารเลขสามหลักหรือมากกว่านั้นได้
ดังนั้นการเผยแพร่ตารางสูตรคูณนี้ออกไปจะทำให้ระบบที่ซับซ้อนนี้ถูกแทนที่ ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าระบบทศนิยมที่คิดค้นโดยปราชญ์ชาวจีนนั้นเป็นระบบที่เรียบง่ายและเป็นสากลมากที่สุด แค่มีระบบนี้และตารางสูตรคูณก็เพียงพอแล้วที่จะแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ส่วนใหญ่ในชีวิต มันเป็นยุคที่คนจีนโบราณครองโลกด้วยคณิตศาสตร์
ลูน่ายืนมองอยู่ข้างๆแม็กซ์ด้วยดวงตาที่เป็นประกายและอ้าปากค้าง เธอเป็นครูคณิตศาสตร์และเติบโตขึ้นมาในครอบครัวคณิตศาสตร์ เธอสามารถมองเห็นในสิ่งที่เอมี่มองไม่เห็นได้
แม้ว่าเธอจะไม่ได้เข้าใจระบบทศนิยมโดยสมบูรณ์แต่คำอธิบายที่ง่ายและชาญฉลาดของแม็กซ์ก็ช่วยให้เธอเห็นความเป็นเลิศของระบบนี้ เธอเห็นความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดในระบบนี้และตารางสูตรคูณ
“แม็กซ์ ฉันไม่รู้ว่าระบบของคุณเป็นสากลรึเปล่า แต่คุณเป็นอัจฉริยะอย่างไม่ต้องสงสัยเลย” ลูน่าพูดอย่างจริงจังเมื่อเธอเห็นแม็กซ์วางปากกา
แม็กซ์ยิ้มและส่ายหัว “ฉันไม่ใช่อัจฉริยะ ฉันรู้อะไรน้อยกว่าคุณมาก” เขาไม่รู้ว่าภูมิปัญญาของปราชญ์โบราณจะมีผลยังไงต่อโลกใบนี้
“ฉันจะส่งมันไปที่เมืองโรดูให้เร็วที่สุด ฉันไม่มีความสามารถในการตรวจสอบหรือประเมินคุณค่าของมัน แต่ฉันมั่นใจว่ามันจะทำให้เกิดความปั่นป่วนในโลกคณิตศาสตร์อย่างแน่นอน และคำว่า ‘มามี่’ จะไม่มีวันถูกลืม” ลูน่าพบว่าแม็กซ์ถ่อมตัวและสุภาพมาก เขาเป็นพ่อครัวที่ยอดเยี่ยมและเป็นอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์ เขาจะใช้คำว่า ‘มามี่’ เพื่อลงชื่อในการค้นพบที่ยอดเยี่ยมนี้
เป็นคนที่น่าสนใจและลึกลับจริงๆ ! มีอะไรที่เขาทำไม่ได้มั้ยเนี่ย ?
เอมี่มองมาที่แม็กซ์ด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย แม้แต่คุณครูลูน่าก็บอกว่าพ่อเป็นอัจฉริยะ พ่อนี่น่าทึ่งจริงๆ
แม็กซ์พยักหน้ายิ้ม ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะมีแนวคิดเกี่ยวกับวิทยานิพนธ์หรือสิทธิบัตรในโลกนี้และฉันไม่ได้วางแผนที่จะใช้สิ่งนี้เพื่อทำเงิน มันจะเป็นการโฆษณาที่ยอดเยี่ยมของเรา
เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อสอนตารางสูตรคุณ เขาจำได้ว่าเขามาที่นี่เพื่อหาอาจารย์สอนเวทมนต์ให้กับเอมี่ “มิสฟิลด์ ฉันมาที่นี่กับเอมี่เพื่อเยี่ยมคุณและฉันบางอย่างที่อยากจะถาม ครูสอนเวทมนต์ที่นี่สามารถสอนนักเรียนนอกเวลาเรียนได้มั้ย ? เอมี่สนใจเกี่ยวกับเรื่องเวทมนตร์แต่เธอยังไม่โตพอที่จะลงทะเบียนดังนั้นฉันจึงต้องการจ้างครูเพื่อสอนความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเวทมนต์ให้กับเธอ”
ลูน่าส่ายหัวอย่างเสียใจ “ฉันคิดว่าคุณคงไม่มีหวัง ที่นี่ไม่อนุญาตให้ครูออกไปสอนนอกโรงเรียนไม่งั้นพวกเขาจะถูกไล่ออก” จากนั้นเธอก็มองไปที่เอมี่แล้วพูดเสริมว่า “เอมี่สามารถเข้าเรียนที่นี่ได้ในปีหน้า แต่เธอคงไม่สามารถเข้าถึงความรู้เกี่ยวกับเวทมนต์ได้จนกว่าเธอจะโตขึ้น หลังจากที่พรสวรรค์ทางเวทมนต์ของเธอได้รับการยืนยันจากคุณครูที่สอนเวทมนต์เธอก็จะได้รับการสอนไปพร้อมกับเด็กคนอื่นๆ”
ไม่เคยคิดเลยว่าแม็กซ์จะมาที่นี่ด้วยตัวเองเพื่อหาครูสอนเวทมนต์ส่วนตัวให้กับเอมี่ ลูน่าคิด
“ผมเข้าใจแล้ว ขอบคุณครับมิสฟิลด์” แม็กซ์รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาไม่มีอำนาจพอที่จะแหกกฎ แผนการของเขาล้มเหลว ตอนนี้เขาต้องหาวิธีอื่น
“เอมี่ยังเด็ก ยังไม่จำเป็นต้องรีบเรียนเวทมนต์หรอก มันน่าเบื่อมาก” ลูน่าพูดพร้อมกับยิ้มให้กับเอมี่
เอมี่ส่ายหัว “คุณครูลูน่า หนูรักเวทย์มนตร์ หนูคิดว่ามันน่าสนใจมาก”
แม็กซ์และเอมี่อยู่ในห้องทำงานของลูน่าอีกครู่หนึ่งก่อนที่พวกเขาจะจากไป เมื่อพวกเขาเดินผ่านประตูชายชราและออร์คก็อ้าปากค้างด้วยความสับสน พวกเขาไม่รู้ว่าทั้งคู่เข้าไปข้างในตั้งแต่เมื่อไหร่
ฉันต้องรีบส่งมันให้กับปู่ของฉันเดี๋ยวนี้เลย มันอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญและช่วยเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ เขาน่าจะสนใจมาก ลูน่ามองแม็กซ์ที่เดินออกไปผ่านทางหน้าต่างด้วยความตื่นเต้น จากนั้นเธอเดินไปที่โต๊ะแล้วหยิบกระดาษทั้งสองแผ่นมาใส่ไว้ในกระเป๋าของเธออย่างระมัดระวังแล้วเดินออกไป
“พ่อ เราจะกลับบ้านแล้วเหรอ ?” เอมี่ถามพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองแม็กซ์ในขณะที่เธอจับนิ้วของเขาเอาไว้ วันนี้เธออารมณ์ดีมาก เพลงของเธอได้รับการชื่นชมจากเพื่อนๆและเธอก็เอาชนะพาเมอร์ได้ด้วยสูตรคูณที่พ่อของเธอสอน เธอไม่รู้สึกว่าเธอด้อยกว่าพวกเขาอีกต่อไปแล้ว
แม็กซ์ส่ายหัว “ไม่ล่ะ ไหนๆเราก็ออกมาข้างนอกแล้วเราก็ไปหาอะไรทำกันดีกว่า ไปหาข้าวเที่ยงกินกันเถอะ” การต้องอยู่ที่ร้านทุกวันนั้นน่าเบื่อเกินไปและนี่มันเพิ่งจะเป็นเวลาอาหารกลางวันเท่านั้น ดังนั้นเขากับเอมี่จึงเดินไปที่ร้านเนื้อย่างที่ดูค่อนข้างคึกคัก ขอฉันลองดูหน่อยซิว่าร้านนี้เป็นยังไง
ลูกเป็ดขี้เหร่กำลังนอนหลับอยู่และแม็กซ์ก็ได้เอาผ้าขนหนูขึ้นมาคลุมมันเอาไว้ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรอยู่ในตะกร้ายกเว้นว่ามันจะร้องออกมา
กลิ่นหอมของเนื้อย่างลอยมาเตะจมูกของพวกเขาในขณะที่พวกเขาเดินเข้ามาในร้าน แต่แม็กซ์กลับขมวดคิ้ว มีกลิ่นของเนื้อแกะอยู่ในกลิ่นนี้ กลิ่นของเครื่องเทศฉุนเกินไป มันมีกลิ่นแรงยิ่งกว่าพริกไทยซะอีก
“พ่อ เรากำลังจะกินเนื้อย่างเหรอคะ ?” ดวงตาของเอมี่เป็นประกายขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เธอไม่เคยทานเนื้อย่างมาก่อน
แม็กซ์กำลังลังเลอยู่ว่าจะกินหรือไม่กินดี เขามองไปที่สีหน้าของเอมี่และมันทำให้เขาตัดสินใจได้ เขาพยักหน้า “ใช่แล้วล่ะ” พวกเขานั่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง
ร้านนี้เป็นร้านที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในลานเอเดน มันเกือบจะนิยมพอๆกับร้านคนทอดปลา (Fryer Tavern) ผู้คนมักจะมาต่อคิวเพื่อกินอาหารที่นี่ตอนมื้อเย็น แม้แต่ช่วงอาหารกลางวัน 20 โต๊ะที่มีในร้านก็เกือบจะเต็ม
แม็กซ์มองไปที่จานอาหารบนโต๊ะใกล้ๆ เนื้อแกะถูกหั่นเป็นชิ้นๆและมีสีดำเล็กน้อย บนผิวของมันมีซอสสีดำและเครื่องปรุงรสอยู่ ลูกค้าสองคนกำลังเพลิดเพลินไปกับเนื้อของพวกเขาพร้อมกับพูดคุยและหัวเราะอย่างสนุกสนาน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพอใจกับอาหารมาก
ซอสไม่ได้ปกคลุมไปทั่วทั้งเนื้อ เวลาในการปรุงรสก็ผิด อุณหภูมิของไฟก็สูงเกินไป เนื้อสุกเกินไป ผู้ช่วยเป็นคนทำอาหารงั้นเหรอ ? เมื่อแม็กซ์มองไปที่จานนั้นเพียงแค่ครั้งเดียวแม็กซ์ก็วิจารณ์มันด้วยความคิดในทันที
ยิ้มเข้าไว้ ตอนนี้ฉันเป็นเจ้าของร้านอาหารแล้ว ถ้าฉันไม่สามารถควบคุมลิ้นที่ชั่วร้ายของฉันได้ฉันอาจจะถูกจำได้และพวกเขาอาจจะคิดว่าฉันมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา แม็กซ์สงบใจลงจากนั้นก็เปิดเมนูแล้วสั่งเนื้อแกะและเนื้อวัวอย่างละหนึ่งจาน ทั้งสองอย่างนี้มีราคาแพงที่สุดในเมนูแล้ว แต่ละจานมีราคา 88 เหรียญทองแดง
แม็กซ์ยกคิ้ว ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมหน้าตาของพวกเขาเมื่อพวกเขาเห็นเมนูของเราถึงเป็นแบบนั้น เมนูที่มีราคาถูกที่สุดคือชุดอาหารสำหรับเด็กที่มีราคา 20 เหรียญทองแดง ราคาถูกกว่าไข่ของเขาซะอีก !