A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 129
“ไม่น่าเชื่อ !”
กลุ่มคนดูตะโกนขึ้นมาหลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง พวกเขาพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่ามนุษย์ตัวเล็กๆสามารถทุบมังกรน้ำแข็งได้
“ว้าว ! คุณปู่เคราครึ่งน่าทึ่งอัศจรรย์มาก !” เอมี่อุทานพร้อมกับปรบมือเล็กๆของเธอและเบิกตากว้าง เธอมองไปที่ไม้เท้าของเขา ดวงตาสีฟ้าเป่งประกายด้วยความตื่นเต้น ไม้เท้าของเขาทรงพลังมาก ! ถ้าฉันมีมัน…
แม็กซ์เองก็รู้สึกตกใจเช่นกัน เขามีอายุมากกว่า 120 ปีแล้ว แน่นอนว่าเขาไม่ได้ทำลายมังกรด้วยพละกำลังของเขาเอง การใช้งานและการควบคุมเวทมนต์ของเขานั้นสมบูรณ์แบบจนน่าประหลาดใจ
“เป็นชายชราที่น่ากลัวมาก !” ลูกทีมทั้งสองของซาเจราสพูดด้วยความกลัว พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าชายชราจะสามารถเอาชนะมังกรที่ทำให้พวกเขากลัวได้ด้วยไม้เท้าแค่อันเดียวที่แกว่งไปมา พลังของชายชราทำให้พวกเขาตกใจ ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยคิดว่าคำว่า ‘มนุษย์’ นั้นเป็นคำที่อ่อนแอ แต่ตอนนี้พวกเขาพบว่ามนุษย์มีพลังและน่ากลัว
ซาเจราสยังคงใจเย็นเพราะว่าเขาเคยเห็นชายชราทุบมังกรตัวจริงด้วยไม้เท้าของเขามาแล้ว “แต่เคราของเขาถูกเผาโดยลูกสาวของเจ้าของร้าน” เขาบอก
“มันเป็นไปไม่ได้ !” ปีศาจตัวผอมสูงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วดึงเสื้อของซาเจราส “เราไปกินอาหารที่ร้านอื่นกันมั้ย ? เราไม่จำเป็นต้องกินที่นี่ก็ได้”
ปีศาจตัวอ้วนเตี้ยพยักหน้าเห็นด้วย “จริงด้วยหัวหน้า เราไม่ได้เจอคุณมานานหลายสิบปีแล้ว เรามาที่นี่ทันทีที่เราได้รับข้อความของคุณ พี่น้องอีกหลายคนยังคงอยู่ระหว่างทาง มอนด์และผมวางแผนว่าจะไปดื่มกับคุณ แต่ผมไม่คิดว่าร้านอาหารนี้จะมีนะ”
ซาเจราสส่ายหัว “พวกเขาไม่เสิร์ฟเครื่องดื่มที่นี่ นอกจากนี้ฉันก็ไม่ได้พาพวกนายมาที่นี่เพื่อดื่ม ฉันอยากให้พวกนายลองกินโร่วเจียหมัว แล้วนายจะรู้ว่าทำไมฉันถึงอยากให้พวกนายมาที่นี่เมื่อพวกนายสามารถมาได้” ซาเจราสพูดทิ้งท้ายไว้ให้พวกเขารู้สึกสงสัย
ปีศาจทั้งสองแลกเปลี่ยนสายตากัน พวกเขารู้ดีว่าซาเจราสจะไม่เปลี่ยนใจดังนั้นพวกเขาจึงไม่พูดอะไรอีก
ซาเจราสเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ปีศาจลาวา เขานำคนของเขาต่อสู้กับปีศาจร้ายหลายต่อหลายครั้ง
เมื่อ 50 ปีก่อนเขาออกมาจากหมู่เกาะปีศาจเพื่อหาหนทางไปสู่อีกระดับหนึ่งและฟื้นฟูความรุ่งเรืองของปีศาจลาวา และไม่เคยมีใครได้ยินข่าวคราวของเขามาตั้งแต่ตอนนั้น
…จนกระทั่งหลายวันก่อน นกฟลามิงโก้มาที่เผ่าของพวกเขาพร้อมกับจดหมายที่บอกว่าเขาพบหนทางและเขาต้องการให้เพื่อนๆของเขามาที่เมืองเคออส
ปีศาจลาวามีช่วงเวลาที่ยากลำบากมาหลายปีแล้ว หลายคนหลงทางอยู่ในทวีปนี้ มีเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่มาที่นี่และอีกหลายคนที่กำลังเดินทาง น่าจะนะ
ชื่อ ซาเจราส ได้กลายเป็นคำแห่งความหวังในหมู่ปีศาจลาวา พวกเขาคิดว่าเขาตายไปแล้วเพราะว่าพวกเขาไม่เคยได้ยินข่าวคราวของเขามาหลายปี ดังนั้นเมื่อหัวหน้าของพวกเขาได้รับจดหมายเขาจึงคิดว่ามันเป็นกับดักของปีศาจเผ่าอื่น
เมื่อปีศาจทั้งสองได้พบกับซาเจราสที่เมืองเคออสพวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นมาก ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เจอผู้นำของพวกเขามาเป็นเวลากว่า 50 ปีแล้วก็ตาม ปีศาจลาวาจะไม่ถูกเผ่าอื่นกดดันอีกต่อไป ! พวกเขาคิด
…
“แกช้าลงกว่าเมื่อก่อน คุณแก่ขึ้นมาก” อูเรี่ยนถอนหายใจพร้อมกับมองไปที่ครัสซูด้วยดวงตาล้ำลึก
“อายุขัยของฉันมีจำกัด ถ้านายต้องการให้เอมี่เป็นลูกศิษย์ของนายนายจะต้องฆ่าฉันซะก่อน” ครัสซูพูดพร้อมกับกระชับไม้เท้าในมือ เปลวไฟลุกขึ้นมาจากไม้เท้าและครอบคลุมไปทั่วทั้งร่างกายของเขา เขามองเห็นได้ชัดเจนมากท่ามกลางหิมะ
อูเรี่ยนขมวดคิ้วแล้วเงียบไปครู่หนึ่ง “มีคนแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ผ่านสงครามนั้นมาแล้วยังคงมีชีวิตอยู่ พวกเรามีอายุยืนกว่าพวกเขาทั้งหมด ใครจะไปคิดล่ะจริงมั้ย ?” เขาพูดเสียงแหบ
“ความตายรอพวกเราทุกคนอยู่และพวกเราใช้ชีวิตอยู่มานานพอแล้ว” ครัสซูพูดเบาๆพร้อมกับมองไปที่อูเรี่ยนที่แก่พอๆกับเขาและหลังค่อมราวกับว่าเขาแบกกระดองเต่าไว้บนหลัง จริงๆ มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ผ่านสงครามนั้นมาแล้วยังมีชีวิตอยู่
อูเรี่ยนโน้มหัวของเขามาด้านหน้า “ใช่ ดังนั้นทำไมแกไม่ตายไปซะล่ะ ? ฉันไม่คิดมากถ้าฉันจะมีชีวิตอยู่นานกว่าแกซักเล็กน้อย” เขายิ้มกว้างและโบกไม้กายสิทธิ์ของเขา ลิ่มน้ำแข็งปรากฏขึ้นมาจากพื้นดินรอบๆตัวครัสซูและพวกมันขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
หัวใจของผู้ชมแทบจะกระโจนออกมาทางปาก มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ชายชราจะหลบการโจมตีครั้งนี้ !
ครัสซูยิ้ม “แน่นอน แต่ไม่ใช่ก่อนที่ฉันจะได้เห็นศพของนาย” เขายกไม้เท้าขึ้นแล้วเหวี่ยงมันลงอย่างรุนแรง จากนั้นเปลวไฟพุ่งออกมาและกลายเป็นกำแพงล้อมรอบตัวชายชรา ลิ่มน้ำแข็งแตกออกและระเหิดไปเมื่อเจอไฟ ครัสซูทำลายการโจมตีนี้ได้อย่างง่ายดาย
ครัสซูพุ่งเข้าไปหาอูเรี่ยนในทันทีและทำลายน้ำแข็งทุกก้อนที่ปรากฏขึ้นมาขวางทางของเขา ไม่มีอะไรสามารถหยุดเขาได้
ไม่นานครัสซูก็มาถึงตรงหน้าอูเรี่ยน เขาเหวี่ยงไม้เท้าไปที่หัวของอูเรี่ยนอย่างไม่ลังเล ทันใดนั้นร่างกายของอูเรี่ยนก็แตกออกเป็นน้ำแข็งหลายร้อยชิ้น !
“ครัสซู ฉันอยู่ที่นี่…” อูเรี่ยนพูดพร้อมกับปรากฏตัวขึ้นข้างหลังครัสซู ครัสซูหันหลังกลับไปและพบว่ามีร่างของอูเรี่ยนอยู่เป็นจำนวนมาก ทุกร่างต่างก็เหมือนกันและรอยยิ้มของทุกร่างต่างก็เย็นชาในขณะที่เขามองมาที่ครัสซู
“มีคุณปู่เต่าอยู่เต็มไปหมดเลย ! คนไหนคือตัวจริงล่ะ ?” เอมี่พูดในขณะที่เธอมองไปรอบๆด้วยความอยากรู้อยากเห็นและพยายามหาอูเรี่ยนตัวจริง แต่พวกเขาเหมือนกันไปหมด
ครัสซูขมวดคิ้วในขณะที่เขามองดูอูเรี่ยนจำนวนมากนี้ “อูเรี่ยน นายก็รู้แต่วิธีซ่อนตัวเหมือนเมื่อก่อน นายเป็นนักเวทย์หรือว่าคนขี้ขลาดกันแน่ ?”
“แกคือคนที่ทำให้นักเวทย์หลายคนหลงทาง” อูเรี่ยนตอบด้วยความโกรธ “พวกเขาต้องการที่จะเป็นเวทย์ระยะประชิดอย่างแก แต่พวกเขาก็พ่ายแพ้ต่ออัศวิน นักเวทย์จะสามารถจัดการกับศัตรูของพวกเขาได้ง่ายๆถ้าพวกเขาต่อสู้แบบนักเวทย์ มีแค่อัศวินโง่ๆเท่านั้นแหละที่ชอบต่อสู้ระยะประชิด” เขายกมือขึ้นและเตรียมที่จะโจมตีอีกครั้ง
“หยุดสู้กันได้แล้ว ! พวกคุณจะทำลายร้านอาหารของเรา ! หนูเองก็สามารถใช้เวทย์ลูกไฟได้เหมือนกันนะ อย่าทำให้หนูต้องเผาพวกคุณ !” เอมี่พูดอย่างโมโห