A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 130
ลมพัดหิมะมากระทบเข้ากับใบหน้าของทุกคนแล้วไปกระทบที่หน้าต่างของร้านอาหารมามี่ราวกับว่าพยายามที่จะทำลายมัน มันรุนแรงมากจนบังคับให้ฝูงชนถอยออกไปและหาที่หลบภัย
เอมี่หรี่ตาลงด้วยความโกรธเล็กน้อย จากนั้นก็มีเกล็ดหิมะตกลงมาบนใบหน้าของเธอ เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเลียที่มุมปากของเธอ ดวงตาของเธอเป็นประกายขึ้นมาในทันที “มันเย็นและอร่อย !” เธอพูด
ทันใดนั้นสายลมก็สงบลงและเปลวไฟของครัสซูก็ลดขนาดลง พวกเขาได้ยินสิ่งที่เธอพูด
จริงๆแล้วการต่อสู้นี้เกิดขึ้นเพราะเอมี่ พุดดิ้งเต้าหู้เป็นแค่ตัวเร่งปฏิกิริยาเท่านั้น ชายชราทั้งสองคนรู้ดีว่าพวกเขาต้องอยู่ข้างเดียวกับเอมี่เพื่อทำให้เธอยอมเป็นลูกศิษย์
พวกเขาเป็นคู่ต่อสู่ที่เท่าเทียมกันดังนั้นพวกเขาจึงต้องใช้ทุกอย่างที่พวกเขามี แต่การทำแบบนี้จะไม่สามารถรับประกันได้ว่าเวทมนต์ของพวกเขาจะไม่ส่งผลกระทบกับผู้คนรอบข้าง
พวกเขามองหน้ากันอย่างลังเล ในขณะเดียวกันก็ยังไม่มีใครเคลื่อนไหว
ลานเอเดนวุ่นวายมากในตอนเช้า ตอนนี้ผู้ชมหลายร้อยคนกำลังมองดูอยู่ พวกเขาขยับไปข้างหน้าทีละนิดๆเพื่อที่จะได้มองการต่อสู้ได้ชัดเจนมากขึ้นโดยที่ไม่สนใจอันตรายใดๆเลย
ชายชราทั้งสองคนต้องระวังมากไม่งั้นจะมีคนตายหลายคน
การสังหารผู้คนนับเป็นอาชญากรรมร้ายแรงในเมืองเคออสแห่งนี้ พวกเขาอาจจะมีพลังมากเกินกว่าที่จะถูกจับได้ แต่มันคงจะเป็นปัญหาถ้าพวกเขาจะอยู่ที่นี่เพื่อสอนเอมี่
นอกจากนี้ถ้าเอมี่โกรธกับสิ่งที่เกิดขึ้น โอกาสในการเป็นอาจารย์ของเธอก็จะลดน้อยลง
ครัสซูลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะดึงไม้เท้าของเขากลับมา เขาหันไปหาเอมี่แล้วถามเธอว่า “พุดดิ้งเต้าหู้แบบหวานอร่อยที่สุดใช่มั้ยเอมี่ ?”
“ไม่ ! แบบคาวสิอร่อยที่สุด !” อูเรี่ยนประท้วงด้วยน้ำเสียงแหบสากในขณะที่ร่างแยกเวทมนต์ของเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ
ฝูงชนพากันขยับถอยไปอย่างรวดเร็วแล้วมองไปที่เอมี่พร้อมกับสงสัยว่าทำไมนักเวทย์ที่ทรงพลังทั้งสองคนจึงหยุดต่อสู้กันทันทีเพราะคำพูดของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง พวกเขาคาดหวังว่าจะได้เห็นการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่
“พวกมันทั้งคู่อร่อยมาก แบบคาวไปได้ดีกับโร่วเจียหมัวและแบบหวานรสชาติดีมากเมื่อกินเป็นของหวาน ทำไมพวกคุณถึงต้องหาว่ารสชาติไหนดีกว่ากันล่ะ ?” เอมี่พูดพร้อมกับมองไปที่ชายชราทั้งสองคน เธอไม่เข้าใจ
“หนูชอบทั้งคู่เหรอ !” ครัสซูและอูเรี่ยนอุทาน พวกเขาพยายามหาคำพูดมากมายเพื่อมาตอบโต้กัน แต่ตอนนี้พวกเขาได้แต่กลืนมันลงไป พวกเขามองไปที่เอมี่อย่างหมดคำพูด
พวกเขากำลังต่อสู้กันเพื่ออาหารใช่มั้ย ?! ฝูงชนคิดอย่างประหลาดใจ จากนั้นพวกเขาก็มองเห็นร้านอาหารมามี่ ทันใดนั้นใบหน้าของพวกเขาก็สว่างขึ้น เป็นร้านอาหารที่น่าทึ่งมาก ! มันอาจจะเป็นร้านอาหารที่สวยที่สุดในลานเอเดน มันเปิดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?
มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเมนูนี้ที่ทำให้นักเวทย์ที่ทรงพลังทั้งสองคนต่อสู้กันเพื่อมัน ? การต่อสู้ของพวกเขาดูสมจริงเกินกว่าจะเป็นแค่การโฆษณา นอกจากนี้พวกเขาก็ไม่สามารถจ้างทั้งคู่เพื่อมาโฆษณาร้านอาหารของพวกเขาได้
พวกเขารู้สึกแปลกใจมากขึ้นเมื่อพบว่าเด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์คนนั้นไม่ใช่เด็กผู้หญิงธรรมดาเนื่องจากชายชราที่กำลังโกรธทั้งสองคนหยุดต่อสู้กันทันทีเพราะเธอ
บาร์เซลนิ่งอึ้งไปในทันที มันจบแล้ว ? มันเกิดขึ้นเร็วมากจนเขากับลูกน้องอีกสองคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นตกตะลึง เขาคิดว่าสถานการณ์อาจจะรุนแรงขึ้นและอาคารที่อยู่ใกล้เคียงก็อาจจะถูกทำลาย
เอมี่มองไปที่นักเวทย์ทั้งสองคนแล้วพยักหน้า “ใช่ค่ะ ทั้งแบบคาวและแบบหวานต่างก็อร่อย หนูรักการทำอาหารของพ่อ” จากนั้นเธอก็กำกำปั้นเล็กๆของเธอ “ไปสู้กันไกลๆร้านอาหารของเรา ! ไม่งั้นหนูจะโกรธแล้วจุดไฟเผาพวกคุณ ! คุณปู่เคราครึ่ง หนูไม่อยากเรียกคุณว่าคุณปู่เคราหายนะ”
ครัสซูเอามือปิดเคราของเขาอย่างลืมตัว เขาไว้มันมานานกว่า 30 ปีแล้ว แต่เอมี่ได้เผามันไปบางส่วนเมื่อวันก่อน ตอนนี้เธอขู่เขาว่าจะเผาเคราอันล้ำค่าของเขาดังนั้นเขาจึงรู้สึกกังวลเล็กน้อยแต่เขาก็ต้องยิ้มให้กับเอมี่ “เอมี่ หนูเห็นมั้ยว่าฉันสามารถทุบทำลายมังกรน้ำแข็งได้ ? มันเป็นวิธีใหม่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้เวทมนต์ หนูจะแข็งแกร่งและรวดเร็วกว่าอัศวินและทำได้แม้กระทั่งบินถ้าหนูเรียนกับฉัน”
อูเรี่ยนหัวเราะหึ “แกไม่สามารถบินได้ด้วยตัวเอง” จากนั้นเขาก็หันไปหาเอมี่แล้วพูดว่า “สาวน้อย ถ้าหนูมาเรียนกับฉันหนูจะสามารถเรียกมังกรน้ำแข็งได้เช่นกัน นอกจากนี้หนูยังสามารถทำให้หิมะตกได้เมื่อไหร่ก็ตามที่หนูต้องการและสร้างร่างแยกเวทมนต์ของตัวหนูเองได้ มันไม่น่าสนใจเหรอ ?”
สายตาของฝูงชนเบิกกว้างขึ้น พวกเขารู้สึกสับสน – พวกเขาไม่คิดว่านักเวทย์ที่ทรงพลังทั้งสองคนจะพูดอย่างเป็นกันเองและเริ่มขายตัวเอง
มันยากเกินไปที่จะเลือก พวกเขาคิด การต่อสู้ค่อนข้างสั้นแต่ก็พอให้ได้เห็นพลังพิเศษของพวกเขา พวกเขาเป็นเหมือนกับอาหารสองอย่างที่แตกต่างกันมากและทั้งคู่ก็อร่อยมาก
“หนูเรียนกับพวกคุณทั้งคู่เลยได้มั้ย ?” เอมี่ถามและกระพริบตาของเธอในขณะที่มองพวกเขาอย่างคาดหวัง