A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 147
“ฉันสามารถช่วยคุณเพิ่มอุปกรณ์ทำลายตัวเองลงไปในอาหารได้ถ้าหากว่าคุณต้องการ พวกเขาจะปกป้องความลับของคุณ” ระบบพูดขึ้นมาในทันที
“เท่าไหร่ ?” แม็กซ์รู้สึกทึ่งเล็กน้อย
“10 เหรียญทองต่อชิ้น”
“ไม่เป็นไร ขอบคุณ !”
มันแพงกว่าโร่วเจียหมัวซะอีก ! แม็กซ์คิด
…
“ข้าวผัดหยางโจวของคุณค่ะ” ยาเบะมิยะพูดด้วยรอยยิ้มในขณะที่เธอวางจานลงตรงหน้าวิเซนนิโอ้ เมื่อตอนเช้าที่เขาคุกเข่าต่อหน้าแม็กซ์เขาดูซีดเซียวมาก เขาจะต้องหิวโหยมากแน่ๆ
“ขอบคุณ” วิเซนนิโอ้พูดโดยไม่ได้ยกศีรษะขึ้นมา ความสนใจของเขาถูกดึงดูดไปที่อาหารโดยสมบูรณ์ เขาเห็นคนอื่นกินเมนูนี้ในตอนเช้า แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก ตอนนี้จานที่มีสีสันสดใสนี้มาอยู่ตรงหน้าเขาและกลิ่นหอมแสนเย้ายวนของมันก็ทำให้เขาต้องกลืนน้ำลาย
กลิ่นหอมที่น่าพึงพอใจนี้ดึงดูดความสนใจของคนอื่นเช่นเดียวกัน บรรดาเจ้าของร้านอาหารต่างก็พากันจับจ้องไปที่ข้าวผัด
แอนดรูขมวดคิ้ว นี่มันคืออะไร ? ทำไมเขาถึงต้องหั่นทุกอย่างให้เป็นชิ้นเล็กๆแบบนี้ด้วย ? รสชาติและสัมผัสของพวกมันจะถูกทำลาย ! สเต็กหมูของเขาเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของขนาดที่ใหญ่และเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดลำดับที่ 18 ของลานเอเดน เขาชอบที่จะเห็นคนอื่นกินสเต็กหมูของเขาอย่างตะกละตะกราม
กลิ่นของไข่ผสมผสานกับกลิ่นของวัตถุดิบอื่นๆอย่างสมบูรณ์แบบและกลายเป็นกลิ่นหอมที่ยอดเยี่ยม อะไรอยู่ข้างในไข่ ? ข้าว ? แต่เม็ดข้าวมีขนาดเล็กมาก เขาทำได้ยังไง ? เบอร์นิคสงสัย
อาหารของเธอมีความประณีตมาก เมนูพิเศษของเธออยู่ในอันดับที่ 13 ของอาหารที่อร่อยที่สุด เธอเก่งที่สุดในการจัดการกับวัตถุดิบและเธอก็ตระหนักดีถึงทักษะที่จำเป็นในการหั่นทุกอย่างให้มีขนาดเท่ากับเม็ดข้าว
วัตถุดิบดูมีคุณภาพสูงแต่เขากลับปรุงพวกมันทั้งหมดด้วยน้ำมันและเครื่องปรุง ? ฉันสงสัยว่ามันจะมีรสชาติเป็นยังไง นอกจากนี้ผู้คนต่างก็ชอบอาหารที่แตกต่างกัน ฉันไม่คิดว่าทุกคนจะคิดว่าอาหารจานนี้อร่อย ไมล์คิดและขมวดคิ้ว
ร้านอาหารของเขามีการจัดเตรียมอาหารเอาไว้เพื่อรองรับความชอบของลูกค้าทุกรูปแบบและนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงมีงานประจำจำนวนมากทั้งๆที่เขายังขาดความเชี่ยวชาญ
พวกเขาตั้งคำถามและรู้สึกสงสัยในการตรวจสอบนี้ พวกเขาไม่ได้วางแผนที่จะมาสร้างปัญหาใดๆที่นี่
วิเซนนิโอ้รู้สึกได้ถึงสายตาของพวกเขา เขาเงยหน้าขึ้นมองพวกเขา “สหาย อย่าจ้องฉันแบบนั้นสิ คุณทำให้ฉันรู้สึกประหม่า” เขาพูดพร้อมกับขยับจานเข้ามาใกล้ตัว
แอนดรูยิ้ม “ขอโทษที ไม่ต้องกังวล เราแค่อยากดูเฉยๆ”
“โอเค…” วิเซนนิโอ้กลับไปมองอาหารของเขา เห็นได้ชัดว่าคำพูดของคนขายเนื้อที่แข็งแกร่งไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น เสียงท้องร้องของเขาดังขึ้น เขาตักข้าวขึ้นมาด้วยช้อนของเขาแล้วเอามันเข้าปาก
มันดีมาก !
ใบหน้าของวิเซนนิโอ้สดใสขึ้นมาในทันที รสชาติของวัตถุดิบที่แตกต่างกันแพร่กระจายอยู่ภายในปากของเขา มันอร่อยและทำให้รู้สึกมึนเมา
เมื่อเขากลืนมันลงไปอาหารก็ไหลลงไปตามลำคอเหมือนกับกระแสน้ำอุ่น เซลล์ที่เซื่องซึมของเขาเริ่มฟื้นสภาพเหมือนกับทุ่งนาที่แห้งแล้งแต่หลังจากนั้นก็ได้พบกับฝนตก เขารู้สึกดีมาก ความเหนื่อยล้าส่วนใหญ่ของเขาหายไป เขาไม่ได้หน้าซีดเหมือนกับก่อนหน้านี้อีกแล้วและเขาก็รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของเขาที่กลับคืนมา
ดวงตาของวิเซนนิโอ้เบิกกว้าง เขามองข้าวผัดด้วยสีหน้าประหลาดใจ มันได้ผล ! มันดีกว่ายาเม็ดพวกนั้นและมันก็อร่อยมาก ไม่แปลกใจที่ภรรยาของฉันชอบมัน เขากินอีกคำแล้วก็อีกคำ เขายิ้มและหลงใหลไปกับอาหารโดยสมบูรณ์
เจ้าของร้านทั้งเจ็ดพากันกลืนน้ำลาย
มันดีจริงๆเหรอ ?
พวกเขาทุกคนต่างก็มีคำถามเดียวกันในใจ พวกเขาเฝ้าดูวิเซนนิโอ้ที่กินข้าวผัดอย่างตะกละตะกรามแล้วพยายามนึกถึงรสชาติของมันว่าจะเป็นยังไง
ลูกค้าบางคนเริ่มกระสับกระส่ายเล็กน้อยหลังจากที่รอคอยอยู่สักพักเพราะกลิ่นหอมของโร่วเจียหมัวและข้าวผัดหยางโจวที่ลอยอยู่ในอากาศ
พนักงานเสิร์ฟลูกครึ่งมังกรกำลังรับออเดอร์และเสิร์ฟอาหาร เธอไม่เคยทำผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียวและยังยิ้มอยู่ตลอดเวลาดังนั้นลูกค้าที่รออยู่จึงไม่ได้รู้สึกปวดท้องมากจนเกินไป
จากนั้นเจ้าของร้านอาหารทั้งเจ็ดก็มองเห็นโร่วเจียหมัว “นั่นคืออะไร ?”
“ขนมปังก้อนหนึ่งยัดไส้ด้วยเนื้อสับ มันจะอร่อยสักแค่ไหนกันเชยว ?” แอนดรูพูด ตอนนี้เขารู้สึกสับสนมากยิ่งขึ้น ทำไมพวกเขาถึงเสิร์ฟเนื้อกับขนมปัง ?
“คุณได้กลิ่นนั่นมั้ย ? คุณไม่คิดว่ามันแตกต่างกันมากเหรอ ?” เบอร์นิคกล่าว เห็นได้ชัดว่ามันเป็นกลิ่นที่รุนแรงกว่าครั้งแรกและมันทำให้เธอรู้สึกหิวกระหายในทันที
พวกเขาเป็นพ่อครัวและเจ้าของร้านอาหารดังนั้นพวกเขาจึงมีความสนใจในการหาวิธีการทำอาหารใหม่ๆ
“ใช่ สเต็กหมูทอดไม่ได้มีกลิ่นแบบนี้” แอนดรูว์พูดพร้อมกับส่ายหัว
“และมันก็ไม่มีกลินย่าง” หญิงชราพูดต่อ
ไมล์ขมวดคิ้ว “ฉันไม่คิดว่าเขาจะต้มเนื้อในน้ำ”
“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเขาทำอาหารด้วยวิธีที่แตกต่างกับพวกเราอย่างสิ้นเชิง ? เขาคิดค้นอาหารทั้งหมดนี้ด้วยตัวเองเหรอ ?” ชายหัวล้านถาม
“เหอะ นักประดิษฐ์เหรอ ?” บิชอปหัวเราะเยาะ “มีร้านอาหารหลายร้านที่ต้องการคิดค้นอาหารใหม่ๆและสุดท้ายพวกเขาก็ปิดตัวลง ลูกค้าพวกนี้แค่พบกับอาหารใหม่ๆที่น่าสนใจที่นี่และฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะให้ความสนใจเป็นเวลานาน”
ลูกค้าที่อยู่ใกล้ๆได้ยินบทสนทนาเล็กๆของพวกเขา เขามองไปที่บิชอปแล้วพูดว่า “ฉันไม่เห็นด้วยนะปู่” เขาพูดพร้อมกับเบ้ปาก “แพนเค้กต้นหอมของคุณไม่มีทางสู้กับโร่วเจียหมัวได้หรอก”