A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 162
Chapter 162 : ต่อเลย ไม่ต้องสนใจเรา
คนอื่น ๆ พากันมองมาที่หญิงสาวทั้งสองคนและพวกเขาก็ชอบสิ่งที่พวกเขาเห็น
ลูน่าอยู่ในชุดเดรสผ้าลินินสีเทาอ่อน มีผมสีดำยาวสวยและมีดอกลิลลี่แสนสวยปักอยู่บนผ้าพันคอของเธอ
แซลลี่สวมชุดเดรสสีเงินที่มีชายกระโปรงสีทอง ตัวสูงและผอมเพรียว เธอมีกระดูกคอและน่องที่สวยงาม ใบหน้าของเธอถูกปกปิดเอาไว้ แต่ใคร ๆ ก็สามารถบอกได้จากดวงตาและหูของเธอว่าเธอเป็นเอลฟ์ที่น่ารัก
พวกเขาสงสัยว่าหญิงสาวทั้งสองคนจะเลือกแถวไหน
ลูน่าและแซลลี่แลกเปลี่ยนสายตากันอย่างสับสน พวกเธอไม่เข้าใจ
“คุณหมายถึงอะไร? ฉันมาที่นี่เพื่อกิน” ลูน่าพูด เธอวางแผนว่าจะกินข้าวผัดหยางโจวที่นี่จากนั้นก็สั่งโร่วเจียหมัวไปกินที่ห้องของเธอที่ไม่มีใครเห็น
แซลลี่เองก็รู้สึกสับสนแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร เธอไม่อยากเป็นที่สนใจโดยไม่จำเป็น มีผู้คนมากมายที่นี่มันจึงมีโอกาสสูงที่เธอจะถูกจำได้ซึ่งมันเป็นสิ่งสุดท้ายที่เธอต้องการ
“โอ้ คุณไม่รู้เหรอ?” ชายหนุ่มพูด “พวกเขากำลังจะขายเมนูใหม่คืนนี้ มันคือพุดดิ้งเต้าหู้และมันมีสองรสชาติ แบบหวานและแบบคาว เห็นนักเวททั้งสองคนที่อยู่ที่หัวแถวนั่นมั้ย? พวกเขาต่อสู้กันเมื่อเช้าเกี่ยวกับรสชาติของมัน”
ตอนนี้พวกเธอเข้าใจแล้วว่าทำไมมันถึงมีสองอยู่สองแถว
ลูน่าจำชายชราผมขาวที่สวมเสื้อคลุมสีขาวได้ ท่านครัสซู! ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่? ปู่ของเธอไปเยี่ยมครัสซูทุกปีและเขาก็พาเธอไปกับเขาด้วยเมื่อเธอยังเด็ก
แซลลี่มองเห็นนกเพลิงและดอกไม้น้ำแข็งและสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าเกรงขามของชายชราทั้งสองคน เป็นพลังเวทที่แข็งแกร่งมาก! ฉันไม่คิดว่าพ่อมีพลังมากเท่าพวกเขา
เธอไม่เคยเจอคนที่ทรงพลังมาก ๆ มาก่อนนอกจากราชินีเอลฟ์
“ฉันไม่รู้ว่าพุดดิ้งเต้าหู้คืออะไร แต่ฉันคิดว่าฉันจะเลือกแบบคาว” ลูน่าพยักหน้าให้แซลลี่แล้วเดินไปที่แถวของเธอ
เห็นได้ชัดว่าแซลลี่ชอบแบบหวานเธอจึงเลือกอีกแถวหนึ่ง
แม็กซ์เป็นพ่อครัวที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ลูน่าคิดในขณะที่เธอมองดูแถวทั้งสองแถวที่กำลังยาวขึ้นเรื่อย ๆ เธอยิ้ม เธอไม่ใส่ใจเรื่องที่จะต้องแบ่งโต๊ะกับเผ่าพันธุ์อื่น
เธอเป็นครูและครูต้องปฏิบัติกับนักเรียนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์อะไร โนแวนไม่อนุญาตให้มีอคติใด ๆ ทั้งสิ้นในโรงเรียนของเขา
ครั้งหนึ่งเคยมีครูถูกไล่ออกเพราะว่าเธอเรียกนักเรียนคนแคระคนหนึ่งว่า ‘เตี้ย’ เธอเป็นหลานสาวของเจ้าหน้าที่ที่มีตำแหน่งสูงในวิหารสีเทา ต่อมาเจ้าหน้าที่คนนี้ได้มาที่ห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่เพื่อกดดันให้เขารับหลานสาวของเขากลับมาทำงานอีกครั้ง
จากนั้นห้องทำงานก็ระเบิด! คนจากวิหารสีเทามาและพบกับเจ้าหน้าที่คนนั้นในซากปรักหักพัง พวกเขาแบกชายคนนั้นกลับไปและเขาไม่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงพบปะอีกเลย เขายังคงโกรธหรือบางทีเขาอาจจะกลัว
โรงเรียนเคออสดำเนินการไปได้อย่างราบรื่นและส่วนใหญ่เป็นเพราะโนแวนที่เข้มงวดกับครูและใจดีกับนักเรียนเสมอมา
นั่นเป็นสาเหตุที่ลูน่าเลือกที่จะมาสอนที่โรงเรียนนี้ตั้งแต่แรก เธอชอบที่นี่ เธอชอบที่เด็ก ๆ หลายเผ่าพันธุ์และหลากชนชั้นนั่งอยู่ในห้องเรียนเดียวกัน เธอรักเสียงหัวเราะที่ไร้เดียงสาและรอยยิ้มที่ไร้ความกังวลของพวกเขา
เธออยากจะเห็นโรงเรียนแบบนี้เติบโตขึ้นทุกที่ เธอยินดีที่จะอุทิศชีวิตของเธอเพื่อให้มันเกิดขึ้น
…
คนในแถวรอกำลังพูดคุยกันเนื่องจากไม่มีอะไรที่ทำได้ดีไปกว่านี้แล้ว การพูดคุยนั้นเป็นมิตรระหว่างผู้คนในแถวเดียวกันแต่ไม่เป็นมิตรกับอีกแถวหนึ่ง
“ทำไมนายถึงชอบแบบหวานล่ะแอนเดรียส? มีแค่เด็ก ๆ เท่านั้นแหละที่ชอบแบบหวาน” โมโยชิพูดพร้อมยิ้มหยัน
ทันใดนั้นเขารู้สึกถึงสายตามากมายที่มองมาที่เขา แม้แต่ครัสซูเองก็หันมามองเขาอย่างเย็นชา
“ขอโทษครับ…” โมโยชิถอนกรูดด้วยความตกใจ เขาแค่อยากจะหยอกล้อเพื่อนของเขาเท่านั้น แต่เรื่องตลกของเขาทำให้เขาต้องรับแรงกดดันจากทุกคนในอีกแถวหนึ่ง สายตาของครัสซูทำให้เขาตกใจกลัวมาก
“พูดได้ดี! กินหวานมากเกินไปมันจะทำให้คุณอ้วน”
“ใช่แล้ว ความเค็มนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คุณไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากเกลือ”
อีกหลายเสียงพูดแสดงความคิดเห็นของพวกเขาขึ้นมา คนที่เลือกพุดดิ้งเต้าหู้แบบคาวกำลังมองมาที่โมโยชิด้วยความชื่นชม
“ความหวานทำให้คุณรู้สึกมีความสุข ส่วนความเค็มนั้น…ฉันแน่ใจว่าคุณน่าจะรู้จักสำนวน ‘เอาเกลือถูในแผล’” ชายวัยกลางคนพูดขึ้น เขาสวมชุดคลุมยาวสีดำและดูเหมือนพนักงานบัญชี
“ใช่!”
“คนชอบกินหวานคือคนที่ได้รับพร!”
“พุดดิ้งเต้าหู้เค็ม? ยี๊!”
บรรยากาศตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพวกเขาทะเลาะกัน
“ติ๊ง!”
เสียงกระดิ่งดังขึ้นเหนือประตู
พวกเขาเงียบลงและมองไปที่ประตูด้วยความสงสัย พวกเราเสียงดังเกินไปรึเปล่า? หรือว่าเย็นนี้พวกเขาจะเปิดเร็วขึ้น?
มีเก้าอี้ตัวเล็กโผล่ออกมาจากประตูก่อนแล้วพวกเขาก็มองเห็นเอมี่และลูกเป็ดขี้เหร่
พวกเขามองไปที่เจ้าตัวเล็กทั้งสองด้วยความงงงวย
เอมี่วางเก้าอี้แล้วนั่งลงพร้อมกับลูกแมวในอ้อมแขนของเธอแล้วเงยหน้าขึ้นมามองผู้คนทั้งสองแถว
เธอนิ่งค้างไปชั่วครู่เมื่อเธอเห็นว่ามีคนมากมายกำลังมองมาที่เธอ “ต่อเลยค่ะ ไม่ต้องสนใจพวกเรา พวกเรามาที่นี่เพื่อดูเท่านั้น” เธอพูดพร้อมกับโบกมือให้พวกเขาทะเลาะกันต่อ