A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 368
Chapter 368 : ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
“ท่านประธานครับ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อเกือบ 20 วันก่อนวู้ดเนียและ…” มาร์ไม่กล้าชักช้าและเล่าให้เจฟฟรีฟังว่ากู้ดเนียและดีโว่พยายามสร้างปัญหาให้กับร้านอาหารมามี จากนั้นพวกเขาก็เข้าไปมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระดับ 4 เพราะความสัมพันธ์ของดีโว่และกาเบรียลที่เป็นลูกน้องของเขา ไซริลยอมรับเงินจากทั้งสองและพยายามทําทุกอย่างเท่าที่เขาจะทําได้เพื่อรวบรวมข้อมูลและประกันตัวทั้งสอง นั่นจึงนําไปสู่สถานการณ์ในปัจจุบัน
เจฟฟรีเงียบไปครู่หนึ่งหลังจากที่ได้ยินคําพูดของมาร์ จากนั้นเขาก็มองมาร์ด้วยสีหน้าจริงจัง “มาร์นายรับใช้ฉันมานานแค่ไหนแล้ว?”
“23 ปีแล้วครับท่านประธาน” มาร์ก้มหน้าลง ตอนนี้เขาไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเจฟฟรี
จากนั้นเจฟฟรีก็ถามต่อ “นายรับใช้ฉันมาตลอดตั้งแต่ที่แจ็คเริ่มแก่และจากไป พ่อของนายและนายรับใช้ฉันมาหลายสิบปีแล้ว ฉันดูแลพวกนายเป็นยังไง?”
“ย้อนกลับไปตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่เขามักจะชื่นชมท่านอยู่เสมอครับ เขาเริ่มต้นในฐานะคนรับใช้ที่ต่ําต้อยและรู้สึกขอบคุณท่านที่เลื่อนตําแหน่งให้เขาอยู่เสมอ ในช่วง 23 ปีที่ผ่านมาท่านปฏิบัติต่อผมเหมือนกับคนในครอบครัว” ยิ่งตอบมาร์ก็ยิ่งก้มหน้าลงยิ่งกว่าเดิม
“ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วทําไมนายถึงอยากเลือกข้างในขณะที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ล่ะ? จําเอาไว้นะ ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตนั่นก็ถือว่าฉันยังเป็นผู้นําของตระกูลมอร์ตันและประธานของหอการค้า” เจฟฟรียิ้มเยาะ
“ครับท่าน. ใช่ครับ…” มาร์ก้มหน้าลงจนคางแตะกับหน้าอกพร้อมกับเหงื่อที่ไหลออกมาเป็นจํานวนมาก ถึงแม้ว่าเขาจะรับใช้เจฟฟรีมานานกว่า 20 ปีแล้วแต่ทุกครั้งที่เขาเห็นเจฟฟรีเขาก็มักจะนึกถึงครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน ตอนนั้นเจฟฟรีด่าทอพ่อของเขาไม่หยุด
เขาเป็นเหมือนกับสิงโตที่แข็งแกร่ง เขาทําให้ผู้อื่นรู้สึกหวาดกลัวและเลื่อมใสในขณะที่เขาพักผ่อน และเมื่อเขาลุกขึ้นยืนและส่งเสียงคํารามอย่างเดือดดาลทุกคนก็ต้องก้มหัวลงและยอมศิโรราบ
เขาเป็นเจ้าปาของปานี้ ปาที่รู้จักกันดีในชื่อ “หอการค้า
“ให้เจ้าโง่นั่นมาหาฉัน” เจฟฟรีละสายตาไปจากมาร์และพูดกับเขาด้วยน้ําเสียงไม่แยแส “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปอย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก เลือกหนึ่งในธุรกิจที่อยู่ห่างไหลจากที่นี่มากที่สุดแล้วไปซะ”
“ท่านประธ..” สีหน้าของมาร์เปลี่ยนในทันทีเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมา เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็กลืนคําพูดของเขาลงไปในที่สุด ไม่มีใครเปลี่ยนการตัดสินใจของเจฟฟรีได้
“ดูแลตัวเองด้วยนะครับท่าน” มาร์โค้งคํานับให้ต่ําที่สุดเพื่อแสดงความเคารพก่อนที่เขาจะเดินออกไปด้วยสีหน้าเศร้าสลด ในขณะที่เขาเดินออกไปเขาก็หันมองชายชราที่ยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวภายในสวนและจําคําพูดก่อนจากไปของพ่อได้ “จําเอาไว้นะ ท่านประธานมีแค่คนเดียวในโลกและสิ่งที่ถูกต้องทํานั่นก็คือมอบความภักดีของลูกให้กับเขานั่นคือทั้งหมดที่ลูกต้องทํา”
พ่อ ผมควรจะเชื่อฟังพ่อ มาร์กําหมัดแน่นในขณะที่เขาหันหน้ากลับและเดินจากไป เขารู้ว่าเขาจะไม่ได้กลับมาที่คฤหาสน์หลังนี้อีกและเขารู้สึกราวกับว่าส่วนหนึ่งในหัวใจของเขาขาดหายไป
เขาได้เห็นคฤหาสน์หลังนี้ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะเดียวกันท่านประธานก็ค่อย ๆ โตขึ้นแสงของดวงอาทิตย์ที่กําลังสาดส่องเข้ามาในลานแต่มันกลับให้ความรู้สึกเหมือนกับแสงที่เหลืออยู่ของพระอาทิตย์ที่กําลังจะตกดินซึ่งบ่งบอกว่าจุดจบใกล้จะมาถึงแล้ว
ถ้านายน้อยคนโตไม่ได้เลือกที่จะไปเป็นครูคฤหาสน์หลังนี้ก็คงจะเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อย ๆอย่างน้อยมันก็จะไม่ล้มลงในเร็ว ๆ นี้มาร์คิดกับตัวเอง แต่เขายิ้มออกมาอย่างรวดเร็วแล้วส่ายหัวเขานึกย้อนกลับไปถึงความยินดีที่นายน้อยคนโตมีเมื่อเขาได้รับการว่าจ้างจากโรงเรียนเคออสนั่นน่าจะเป็นชีวิตที่เขาต้องการ ถึงแม้ว่าจะไม่ร่ํารวยแต่เขาก็ยังรู้สึกพอใจตราบใดที่เขามีเด็ก ๆ อยู่รอบ ๆ ตัว
“พ่อครับ ให้ผมอธิบายก่อน ผม ” ใบหน้าของไซริลซีดลงเมื่อเขาเดินมาถึงสวน มาร์เพิ่งจะบอกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและบอกลาเขาในเวลาเดียวกัน
มาร์เป็นลูกน้องที่พ่อของเขาไว้ใจที่สุด ถึงแม้ว่าเขาจะทําหน้าที่เป็นโฆษกอยู่เกือบตลอดเวลาแต่เขาก็เป็นคนที่รู้จักประธานเจฟฟรีดีที่สุดและมีตําแหน่งพิเศษในหอการค้า
อย่างไรก็ตามเขาถูกไล่ออกและจะไม่ได้ทํางานในหอการค้าอีกต่อไป เขาถูกเนรเทศไปยังหนึ่งในธุรกิจในเครือของตระกูลมอร์ตันและกลายเป็นคนที่ไม่มีความสําคัญอะไรอีก
ไซริลไม่ได้โง่ เขารู้ว่าเจฟฟรีโกรธมาก
“เพี้ยะ!!”
ก่อนที่ไซริลจะมีโอกาสพูดจนจบประโยคเจฟฟรีก็หันกลับมาและตบหน้าเขาอย่างรุนแรงเสียงตบที่ดังลั่นทําให้นกในสวนตื่นตกใจ
“ปีก!”
ไซริลทรุดลงคุกเข่าและกุมแก้มซ้ายที่บวมขึ้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองเจฟฟรีด้วยความตก ใจและหวาดกลัว ตัวของเขาสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ในขณะที่เขาพูด “พ่อครับผมขอโทษ ผมผิด…”
“แกทําผิดอะไร?” มือของเจฟฟรีสั่นเล็กน้อยเมื่อเขามองไปที่ไซริล เขาพูดเสียงดังขึ้นราวกับคําราม “บอกฉันมาว่าแกทําผิดอะไร!”
“ผม…” ไซริลอ้าปากแต่เขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะตอบว่ายังไง เขาพยายามจะพูดแต่สุดท้ายเขาก็พูดอะไรไม่ออก
“เอาล่ะ ในเมื่อแกโง่เกินกว่าที่แกจะรู้ความผิดฉันจะบอกแกเองว่าแกทําอะไรผิดไป” เจฟฟรีดูถูกไซริลด้วยสีหน้าเยาะเย้ยราวกับว่าเขากําลังมองดูตัวตลกอยู่ “อย่างแรก แกไม่ควรพยายามบ่อนทําลายฉัน มาร์และพ่อของเขารับใช้ฉันมาหลายสิบปี ความภักดีคือสิ่งสําคัญที่คนรับใช้ต้องมีแต่แกกลับบังคับให้มาร์รับใช้แก”
“อย่างที่สอง แกไม่ควรเปลี่ยนแปลงกฎของฉัน ย้อนกลับไปตอนที่ฉันตั้งกฏว่าเราจะยุ่งแค่ 50% ของการจัดอันดับในการแข่งขันอาหารของลานเอเดน มันเป็นเพราะว่าถ้าร้านอาหารระดับกลางมีมากเกินเพราะการซื้ออันดับลูกค้าจะจับผิดได้และคัดค้านการจัดอันดับ แต่ดูซิว่าแกทําอะไรลงไป แกกลับทําการประมูลอันดับกว่า 90% แกเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลมอร์ตันแกขาดเงินเหรอ?”
“เงินเป็นสิ่งเดียวที่แกเห็นใช่มั้ย? แกรู้มั้ยว่ากฎพวกนี้มีไว้ทําไม? ตระกูลมอร์ตันของเราเติบโตมาขนาดนี้ได้ก็เพราะกฏพวกนี้ ถึงแม้ว่าเราจะเป็นคนที่สร้างกฏพวกนี้ขึ้นมาแต่เราก็ต้องปฏิบัติตามและสนับสนุนมัน มีแค่ตลาดที่มีอิสระเท่านั้นที่จะเติบโตได้อย่างยั่งยืนแต่แกกลับฆ่าอิสระทั้งหมดในตลาด อะไรคือจุดสิ้นสุดของตลาดที่ถูกควบคุมมันคือการไม่มีศักยภาพในการเติบโตยังไงล่ะ”
“อย่างที่สาม แกไม่ควรยุ่งกับคนที่แกไม่สามารถยุ่งได้ นักธุรกิจอย่างเรามีพลังมากแต่เราก็ต้องระมัดระวังให้ดีถ้าเรายังอยากจะอยู่รอดในโลกของธุรกิจ นักธุรกิจที่แท้จริงจะรู้ถึงความกลัวและรู้จักวิธีป้องกันตัวเอง พวกเขาจะรู้ว่ามีอะไรบ้างที่พวกเขาไม่สามารถทําได้ถ้าพวกเขายังอยากมีความปลอดภัยอยู่ แต่แกกลับเข้าไปยุ่งกับคุกบาสเทียและเอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับเหตุการณ์ระ ดับ 4 เพียงเพราะว่าผลกําไร แกรู้มั้ยว่าเหตุการณ์ระดับ 4 รุนแรงแค่ไหน? มันรุนแรงถึงขั้นว่าถึง แม้ว่าแกจะเป็นลูกชายของเจ้าเมืองแต่แกก็จะถูกขังไว้ตลอดชีวิตในคุกบาสเทีย แต่แกกลับบ้าจี้เข้า ไปยุ่งกับเหตุการณ์ระดับ 4 แกคิดว่าแกเป็นใคร? แกพยายามที่จะประกันตัวคนสองคนออกมา จากคุก? ถ้าแกถูกโยนเข้าคุกเพราะเรื่องนี้ฉันจะไม่ช่วยแกอย่างแน่นอน”
“พ่อครับ ผมขอโทษ ผมขอโทษ ผมขอโทษ” ใบหน้าของไซริลซีดลงในขณะที่เขาคลานเข่าเข้าไปและพยายามกอดขาของเจฟฟรีเอาไว้
“อย่าคิดว่าแกจะทําอะไรก็ได้ที่แกต้องการเพราะว่าแกเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของ ตระกูลมอร์ตัน เจฟฟรีเตะเขาด้วยท่าที่เหยียดหยามและพูดอย่างเย็นชา “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปกลอเรียจะเป็นหนึ่งในคนที่มีสิทธิ์เป็นผู้สืบทอดของตระกูลมอร์ตัน เธอมีสิทธิ์ที่จะได้รับมรดกของฉันด้วย”
“นี่!” คําพูดทั้งหมดมีผลกระทบอย่างหนักต่อไซริลที่กําลังทรุดตัวอยู่ที่พื้น เขาเงยหน้าขึ้นมามองเจฟฟรีด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ