A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 396
Chapter 396 : ก้อนหิน
ดวงตาของวอร์ริคเบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อ พละกําลังของเขาเริ่มหดหายไปทําให้เขาไม่สามารถถือดาบยาวเอาไว้ได้ หลังจากที่ดาบตกกระทบพื้นเขาก็กระอักเลือดออกมาแล้วลงไปนอนกองกับพื้น หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หมดลมหายใจ ดวงตาของเขายังคงเบิกกว้างแม้ว่าเขาจะตายไปแล้วก็ตาม
เลือดไหลออกมาจากร่างกายของเขาอย่างช้า ๆ ทําให้พื้นดินรอบ ๆ นองไปด้วยเลือด
กลิ่นเลือดในอากาศทําให้แม็กซ์ขมวดคิ้วและโบกมือเล็กน้อย ยังไงซะการฆ่าคนก็ไม่ใช่เรื่องดี
อย่างไรก็ตามแม็กซ์ไม่เสียใจเลยที่ฆ่าวอร์ริค
เขาสมควรที่จะตายเพราะความผิดของเขาแล้ว นอกจากนี้เขาก็ข่มขู่เอมีซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของแม็กซ์
นับตั้งแต่วินาทีที่เขาแสดงท่าทีว่าเขาต้องการเอมีเขาก็ได้ตายไปแล้ว
ในฐานะพ่อเขายอมสปอยลูกสาวของตัวเองดีกว่าปล่อยให้เธอไปเจอกับคนที่น่ารังเกียจแบบนี้
“ พ่อแข็งแกร่งมาก!!” เอมี่ยังคงหลับตาแต่เธอก็ปรบมือเล็ก ๆ ของเธอด้วยความอิ่มเอมใจ
“ใช่! คนเลวตายไปแล้ว! แม่คะ เรารอดแล้ว!” เจสสิก้าเองก็คว้ามือของรีเบคก้าด้วยความดีใจ
รีเบคก้าลืมตาขึ้นมาเมื่อเธอได้ยินแบบนั้น เธอได้รับการต้อนรับจากสายตาของแม็กซ์ที่ยืนอยู่เหนือศพของวอร์ริค เธอตกตะลึงไปชั่วขณะราวกับว่าเธอไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่เธอเห็นได้ก่อนที่น้ําตาแห่งความปีติจะไหลออกมาจากดวงตาของเธอ
“หะ-หัวหน้าตายแล้ว!”
ลูกน้องที่ถูกแม็กซ์เตะก่อนหน้านี้กรีดร้องราวกับหมูที่ถูกเชือดก่อนที่จะรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีไป
“วิ่งเร็ว! ผู้ชายคนนี้ฆ่าคนตาย!”
คนอื่น ๆ เองก็พยายามลุกขึ้นยืนแม้ว่าพวกเขาจะเจ็บปวดมากแค่ไหนก็ตาม
ในใจพวกเขาวอร์ริคเป็นคนที่อยู่ยงคงกระพัน แต่เขากลับถูกฆ่าตายในพริบตา ด้วยกิ่งไม้
พวกเขาไม่เห็นด้วยซ้ําว่าวอร์ริคถูกโจมตียังไงก่อนที่จะตาย ชายคนนี้แข็งแกร่งขนาดไหนกัน?
จิตใจของพวกเขาแตกสลายด้วยความกลัว สิ่งเดียวที่พวกเขาคิดได้คือการหนีไปให้ไกลจากผู้ชายนี้เท่าที่จะไกลได้
แม็กซ์มองไปที่กลุ่มลูกน้องที่กําลังจะหนีไปและถามด้วยน้ําเสียงเย็นชา “ฉันบอกให้พวกแกไปได้แล้วเหรอ?”
บรรดาลูกน้องหยุดชะงักไปในทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น
แม้แต่วอร์ริคก็ไม่อาจเทียบได้กับชายคนนี้ พวกเขาไม่กล้าวิ่งหนีโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขา!
“ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะครับ! พวกเราทุกคนเป็นคนดีแต่วอร์ริคบังคับให้พวกเราทํา! ทั้งหมดเป็นความผิดของวอร์ริค!”
“ปล่อยพวกเราไปเถอะครับ! พวกเราจะไม่ทําแบบนี้อีกแล้ว! พวกเราสัญญาว่าต่อจากนี้พวกเราจะเป็นคนดี”
หลังจากนั้นชายคนหนึ่งก็คุกเข่าลงและเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น
พวกเขาเริ่มอธิบายประสบการณ์ที่น่าเศร้าของพวกเขาโดยบอกว่าพวกเขาถูกบังคับให้ต้องทําตามคําสั่งของวอร์ริคแม้ว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจก็ตาม
“ฉันเชื่อว่าพวกแกทุกคนถูกวอร์ริคบังคับ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกแกทุกคนเป็นคนดีโทษทีนะแต่ฉันไม่ใช่คนโง่” แม็กซ์เยาะเย้ยคนที่ร้องไห้สะอึกสะอื้น
เขาจะไม่ฆ่าคนพวกนี้เพราะคนพวกนี้ไม่ได้ลงมือต่อสู้ดังนั้นการฆ่าพวกเขาจึงเป็นเรื่องผิดกฎหมายอย่างไรก็ตามเขาจะไม่ปล่อยคนพวกนี้ไปเพราะความผิดที่พวกเขาก่อขึ้นนั้นมีโทษถึงตายวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการคือปล่อยให้วิหารสีเทาหรือปราสาทเจ้าเมืองจัดการกับเรื่องนี้ อ่านนิยายได้ที่ wwwcat2auto.com
“ท่านแบรนลี่ครับ มีบางอย่างเกิดขึ้นตรงนั้น เราควรไปดูมั้ยครับ?” บนถนนใกล้กับที่อยู่อาศัยของคนงานเหมืองสมาชิกของวิหารสีเทากําลังตรวจสอบหลุมที่มีรอยไหม้ เมื่อเขาได้ยินเสียงอีกทึกครึกโครมอยู่ใกล้ ๆ เขาก็หันไปถามแบรนลี่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
แบรนลี่ยืนขึ้นและถาม “เกิดอะไรขึ้นตรงนั้น?”
เขาได้รับรายงานเกี่ยวกับกระแสเวทย์มนตร์ที่ผิดปกติที่ปรากฏขึ้นที่นี่และมีบ้านถูกไฟไหม้ ดังนั้นเขาจึงมาถึงที่เกิดเหตุเมื่อไม่นานมานี้
ปรากฏว่าที่นี่ถูกทําลายด้วยเวทมนตร์ไฟที่ถูกปลดปล่อยโดยนักเวทย์ระดับ 5 โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนบ้านที่ถูกไฟไหม้ก็เป็นแค่บ้านร้างดังนั้นมันจึงนับได้ว่าเป็นเหตุการณ์ระดับ1 เท่านั้น
“ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการต่อสู้ระหว่างอัศวินสองคนครับ มันไม่ได้มีความสําคัญอะไรมากนักแต่สถานที่มันค่อนข้างแปลกประหลาด การต่อสู้นี้เกิดขึ้นในย่านที่อยู่อาศัยสําหรับครอบครัวผู้เสียชีวิตของคนงานเหมือง” เขารีบอธิบาย
“ครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่เหมือง?” แบรนลี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้า “ไปดูกันเถอะ,
“วอร์ริคตายแล้วเหรอ?” ผู้คนรอบ ๆ รู้สึกไม่อยากเชื่อ
ชายชราหลังค่อมคนหนึ่งหยิบก้อนหินขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปอย่างช้า ๆ ใบหน้าที่เที่ยวย่นของเขามีผิวสีแดงดําราวกับว่าสีของเหมืองแร่ซึมเข้าไปในผิวของเขา เขามองดูศพของวอร์ริคด้วยความเกลียดชังอย่างรุนแรงในแววตา
หลังจากนั้นก็มีคนโผล่ออกมาจากบ้านหินโดยรอบเรื่อย ๆ พวกเขาต่างก็เดินไปที่ศพ
ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุไม่ก็ผู้หญิง บางส่วนก็เป็นเด็ก ใบหน้าที่นิ่งเฉยของพวกเขาในที่สุดก็พังทลายเผยให้เห็นถึงความเกลียดชังและความแค้นที่มีอยู่ภายใน
พวกเขาทุกคนต่างก็หยิบหินที่พวกเขาหาได้ขึ้นมากําแน่นและเดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ
ร่องรอยของความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแม็กซ์ เมื่อเห็นฝูงชนที่กําลังเดินเข้า มาเขาก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะถอยกลับไปที่จักรยานของเขา
“พ่อคะ พ่อสุดยอดมากเลย พวกเขาเอาหินพวกนั้นมาทําอะไรเหรอคะ?” เอมีรู้สึกสับ สนเล็กน้อยเมื่อเห็นคนมากมายมารวมตัวกัน
“พวกเขากําลังจะแก้แค้น” แม็กซ์ปิดตาและหูของเอมีด้วยมือของเขาและมองกลุ่มคนที่เดินมาที่ศพของวอร์ริคและลูกน้องของเขาด้วยสีหน้าเงียบขรึม
“แม่คะ?” เจสสิก้าเองก็รู้สึกสับสนและเงยหน้ามองรีเบคก้า
“อย่ามองนะเจสสิก้า! หนูไม่เหมือนพวกเขา! หนูจะกลายเป็นช่างตัดเย็บที่เก่วที่สุดในเมืองเคออส หนูยังมีความหวังและความฝัน!” รีเบคก้ากอดเจสสิก้าไว้แน่นและใช้มือปิดหูของเธอไว้
“ผลัก!”
หินจํานวนมากถูกขว้างออกมาและทําให้เลือดสาดกระเซ็นไปในอากาศ
หินทั้งหมดถูกย้อมด้วยเลือดในเวลาไม่นาน
เลือดพวกนั้นมาจากศพของวอร์ริคและลูกน้องของเขา
ในที่สุดก็มีอารมณ์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขาและดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้รับการปลดปล่อยและมีความหวังที่จะมีชีวิตต่อไป
ชายชราหลังค่อมคนหนึ่งฉีกหูข้างหนึ่งของวอร์ริคด้วยฟันของเขาและเคี้ยวมันสองสามครั้งก่อนที่จะกลืนลงไปจากนั้นเขาก็ถูกฝูงชนดันออกมา หลังจากที่ถูกดันออกมาเขาก็คุกเข่าลงกับพื้นและร้องตะโกน “โซมานี่ ลูกสาวที่น่าสงสารของพ่อ พ่อล้างแค้นได้แล้วนะ! พ่อแก้แค้นให้ลูกได้แล้ว!”
เสียงตะโกนของเขาเป็นเหมือนกับโรคติดต่อ เสียงคํารามของความเจ็บปวดและความสิ้นห วังของฝูงชนดังขึ้นไม่หยุด พวกมันเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความคับข้องใจของพวกเขา
“พวกแกกําลังทําอะไร? ไปซะ! ผู้ว่าการวู้ดโรว์อยู่ที่นี่แล้ว! พวกแกทุกคนอยากโดนจับเหรอ?”
ในขณะนั้นเองเสียงตวาดก็ดังขึ้น