Advent of the Archmage - 374: ภพปริศนา
Chapter 374: ภพปริศนา
ลมจากหน้าผานั้นรุนแรงมากๆภายใต้ผลของเวทย์แสงที่ลิงค์ได้ร่ายไปนั้น พวกเขาสามารถเห็นระลอกคลื่นลมเล็กๆได้ ซึ่งลมพวกนี้ต่างก็พัดลงไปที่ด้านล่างของหน้าผา มันดูเหมือนกับกระแสน้ําวนที่ดูดพวกเขาลงไปข้างล่าง
ในตอนที่เห็นคนแคระริเอลค่อยๆตกลงไปข้างล่างและปีศาจที่กําลังตามหลังพวกเขามาลิงค์ก็กัดปากพูด “มิลด้า ไปกันเถอะ พวกเราต้องกระโดดลงไปด้วย”
ตอนที่อยู่ในเกม เขาไม่เคยมาสถานที่นี้มาก่อน แต่ว่าเขาเคยอ่านบทความที่คล้ายคลึงกันอยู่
ในกระทู้พูดคุยได้บอกว่าที่ด้านใต้ของป้อมโอริด้านั้นมีอุโมงค์ของคนแคระอยู่ ถ้าเกิดว่าคุณได้ไปตามเส้นทางเฉพาะของอุโมงค์นี้และไปจนถึงปลายสุด คุณก็จะพบกับสถานที่ที่มีชื่อว่า วังวนวายุ
วังวนนี้เป็นวังวนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ การเดินทางผ่านมันจะทําให้คุณไปถึงสถานที่ที่รู้จักกันในชื่อว่า ภพลี้ลับ
สําหรับสิ่งที่อยู่ภายในภพลี้ลับนั้น ผู้เขียนไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก จากคําอธิบาย หลังจากเข้าไปในภพลี้ลับ ผู้เล่นจะปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ สําหรับผู้เขียน เขาได้ตายกลางอากาศ เพราะว่าถูกนกที่อยู่ในภพลี้ลับฆ่า ตอนนั้นเขายังมีเลเวลแค่ 5 สิ่งเดียวที่เขารู้ก็คือ เลเวลของนกตัวนั้นขึ้นเป็นเครื่องหมายคําถาม ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกมันมีเลเวลมากกว่าเขาอย่างน้อย 3 เลเวล
เขาพยายามที่จะฟื้นคืนชีพกลับมาในภพลี้ลับ ยังไงก็ตาม เขาก็หาวังวนวายุไม่เจออีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงทําได้แค่ฟื้นขึ้นมาในสุสานเท่านั้น
หลังจากเขา ก็มีนักผจญภัยอีกหลายคนพยายามไปตามหาวังวนวายุเช่นกัน แต่ก็ไม่มีใครทําสําเร็จเลย ดังนั้นเรื่องนี้จึงกลายเป็นตํานานไป
ในกระทู้พูดคุย มีผู้เล่นใส่รูปแผนที่ลงไปด้วย ยังไงก็ตามไม่มีวังวนไหนเลยในแผนที่ที่มีขนาดใหญ่เท่ากับอันนี้
อ้างอิงจากบรรดาผู้เล่น ภายในเกม มันเป็นแค่วังวนเล็กๆ หลังจากที่กระโดดลงไป เวทย์ลอยก็จะถูกเปิดใช้งานกับร่างกายของพวกเขา และพวกเขาก็จะค่อยๆลอย เข้าไปในวังวน ส่วนในที่แห่งนี้ไม่เพียงแค่ลมจะแรงมากเท่านั้น แต่การกระโดดก็สูงมากเช่นกัน และไม่เห็นว่าจะมีเวทย์ลอยไหนปรากฏขึ้นมาเลย
เวทย์แสงได้ให้ความสว่างแก่รอบๆ ทําให้ลิงค์มองเห็นกําแพงหินที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก ภายในหลุมนั้นมันแทบจะมืดสนิท และจนถึงตอนนี้ สายลมอันรุนแรงก็พัดออกมาจากความมืดนั้นเหมือนกับจะเตือนพวกเขาว่าด้านล่าง นี้เป็นพื้นที่ว่างเปล่า
มันเป็นพื้นที่ใต้ดินส่วนอื่นอย่างแท้จริง
ลิงค์กระโดดออกไป พยายามที่จะเอื้อมไปหาราชาริเอล นานะตามหลังเขามาติดๆ ที่กลางอากาศ ลิงค์ได้โบกคทาของเขาไปทางราชาริเอลและร่ายเวทย์ “โซ่มิติ!”
ริเอลหยุดอยู่กลางอากาศชั่วขณะนึง ลิงค์จับมือของนานะและสั่งเจ้าหญิงมิลด้า “จับแน่นๆนะ!”
จากนั้นเขาก็ใช้เวทย์เขวี้ยงที่ข้างๆเขา พรึ่บ พลังงานระเบิดออกที่ด้านข้างของเขา ทําให้เขาพุ่งไปเร็วขึ้น และไปถึงตัวราชาริเอล
ภายใต้ผลการระงับของเวทย์โซมิติ ริเอลได้ติดอยู่ในท่าทางที่น่าตลกมากๆ เขาคิดว่าเขากําลังจะตายแล้ว และในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่เขาจะตายเขาก็ได้หยิบขวดเหล้าออกมา และพยายามที่จะดื่มมันให้หมดก่อนที่จะตาย เหล่านั้นยังไหลลงคอเขาอยู่เลยในตอนที่ลิงค์มาถึงตัวเขา
ลิงค์จับแขนหนาๆของเขา และโยนขวดเหล้าไปด้านข้างจากนั้นเขาก็ยกเลิกเวทย์โซ่มิติ
ริเอลมองไปที่ลิงค์และรู้สึกดีใจมากจนร้องไห้ออกมา “สือ ออ ลิงค์ มิลด้า ฮือออ พวกเจ้าเป็นมิตรแท้ของข้าจริงๆ ในตอนที่ข้าตกลงจากหน้าผา พวกเจ้าก็กระโดดลงมาตายกับข้าด้วย ฮืออออ การที่ได้มีเพื่อนที่ดีอย่างพวกเจ้า มันช่างคุ้มค่าจริงๆ ข้าใช้ชีวิตคุ้มแล้วจริงๆ!”
ลิงค์พูดไม่ออก
เจ้าหญิงมิลด้าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว “คนแคระ ไม่เคยมีนัก เวทย์คนไหนที่เคยตกหน้าผาตายหรอกนะ!”
“หืมม หะ อะไรนะ? เจ้าหมายความว่า ข้าจะไม่ตายอย่างงั้นหรอ?” อยู่ริเอลก็เข้าใจในสิ่งที่กําลังเกิดขึ้น เขาตบมือในทันที “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ข้าจะไม่ตาย! มันช่างน่ากลัวจริงๆ! เหล้าของข้าอยู่ที่ไหน ข้าจะดื่มฉลอง!”
มือของเขาคลําไปที่เข็มขัดของเขาเพื่อหาขวดเหล้า แต่ว่าเขาก็หามันไม่เจอ เพราะว่าลิงค์ได้โยนมันออกไปตั้งนานแล้ว
ลิงค์ไม่ว่างพอที่จะมาสนใจเขา หลังจากตกลงไปอีกซักพักเขาก็ตะโกน “ระวัง! พวกเราจะถึงด้านล่างสุดแล้ว!”
ข้างหน้าของพวกเขายังคงมืดสนิท เหมือนกับหลุมดําแสงจากเวทย์แสงนั้นไม่มีประโยชน์เลย ระลอกคลื่นลมยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และสายลมที่ไหลผ่าน ใบหน้าของพวกเขานั้นก็เหมือนกับมีดแหลมๆ มันเลือนลึกเข้าไปในผิวหนังของพวกเขา ลิงค์ร่ายเวทย์บาเรียป้องกันเล เวล2ใส่ทุกคนในทันที
2 วินาทีต่อมา พวกเขาทั้งสี่ก็หายเข้าไปในหลุมดํา ก่อนที่พวกเขาจะหายไป ลิงค์ก็ได้ยินเสียงมาจากข้างหลังของเขา
“อย่าหนี้นะ!”
เขาแหงนขึ้นไปและเห็นเงาสีดําอยู่เหนือศรีษะของเขา
ซวยหล่ะ นั่นซาโรวินี เธอตามเรามาทันแล้ว!
ในขณะเดียวกัน พวกเขาทั้งสี่ก็กําลังเข้าไปในหลุมดํา มันรู้สึกเหมือนกับว่าเวลาได้หยุดลงเพื่อพวกเขา
ลิงค์กอดนานะกับเจ้าหญิงมิลด้าด้วยแขนข้างนึง ในขณะที่อีกข้างจับแขนของราชาริเอลเอาไว้อย่างแน่นหนาในช่วงเวลานี้ เขารู้สึกเหมือนกับว่าจิตใจของเขาว่างเปล่า นอกจากความรู้สึกที่กําลังตกลงไปข้างล่าง เขาก็ไม่มีความรู้ สึกอื่นๆอีกเลย และเขาก็ขยับร่างกายไม่ได้ด้วย และด้วยเหตุผลบางอย่าง เวทย์แสงเองก็หายไปเช่นกัน
ความรู้สึกนี้มันเหมือนกับตอนที่โดนผีอําในขณะที่กําลัง นอนอยู่ในช่วงกลางดึก มันน่ากลัวมากๆ
คําอธิบายของผู้เล่นไม่ได้บอกว่ามันจะน่ากลัวมากถึงขนาดนี้ ใครจะไปรู้หล่ะว่าวังวนนี้จะนําพาพวกเขาไปยังภพลี้ลับแบบเดียวกับในเกมรึเปล่า
หลังจากที่ร่วงลงมานานจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว ในที่สุดพวกลิงค์ก็เจอแสงสว่างปรากฏขึ้นตรงหน้า มันค่อยๆสว่างขึ้นจนในที่สุด พวกเขาทั้งสี่ก็ปรากฏตัวขึ้นกลางท้องฟ้าสูง ด้านล่างของพวกเขาคือทะเลเมฆอันไร้ที่สิ้นสุด ในขณะที่ด้านบนของพวกเขามีดวงอาทิตย์อันเจิดจ้า นกบินผ่านก้อนเมฆราวกับปลาที่แหวกว่ายอยู่ในทะเล
มันเหมือนกับที่อธิบายเอาไว้ในเกมเป๊ะๆเลย
ลิงค์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าพวกเขาจะ เข้ามาในภพลี้ลับได้แล้ว
เขาร่ายเวทย์ลอยใส่ทุกคนในทันที ทําให้พวกเขาค่อยๆร่อนลงจากท้องฟ้าอย่างช้าๆ
“ที่นี่มันที่ไหนกัน?” ริเอลถามด้วยความประหลาดใจ
เจ้าหญิงมิลด้าคิดอยู่พักนึงก่อนที่จะพูดออกมา “ข้าคิดว่าพวกเราได้มาถึงโลกของอารากู่แล้ว!”
“อารากู่? มันคือทวีปที่สูญหายใช่ไหม?” ลิงค์ถาม เขาตกตะลึง นี่เป็นชื่อที่เขาไม่คุ้นเคยเลย ภายในเกมเขาก็ไม่รู้จักสถานที่แห่งนี้ แต่ว่าในตอนที่เขายังอยู่ที่สถาบันเวทย์มนตร์อีส โควฟ ในตอนที่เขากําลังเบื่อและหาหนังสืออ่านในห้องสมุด เขาก็ไปพบชื่อนี้เข้าโดยบังเอิญ มันอยู่ในหนังสือที่มีชื่อว่า คู่มือการผจญภัยในทวีป
ในหนังสือเล่มนั้น มันเขียนเอาไว้ว่าในสมัยก่อน ฟิรุแมน เคยใหญ่กว่าตอนนี้มาก ในตอนนั้น มีเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่ง และมีสติปัญญาที่มีชื่อว่าอารากู่ พวกเขาครอบครองดินแดนที่สวยที่สุดในฟิรุแมน สร้างอาณาจักรเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งขึ้นมาและสร้างชื่อเสียงให้กับเวทมนตร์จนโด่งดังไปทั่ว
ยังไงก็ตาม ในบรรดาผลงานเวทมนตร์พวกนั้น ก็ได้มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ในเหตุการณ์นั้นเวทมนตร์ได้สูญเสียการควบคุม และส่งผลให้เกิดระเบิดที่แยกทวีปฟิรุแมนออกเป็นส่วนเล็กๆมากมาย
หลังจากเหตุการณ์นั้น ฟิรุแมนก็ได้แยกออกเป็นหลายส่วน ทวีปฟิรุแมนที่อยู่ในตอนนี้คือส่วนที่ใหญ่ที่สุด เกาะรุ่งอรุณเองก็เป็นชิ้นส่วนเล็กๆอีกส่วนที่แยกออกมา อ้างอิง จากในตํานาน ยังมีชิ้นส่วนใหญ่อีกชิ้นอยู่ทางตะวันออก แต่เพราะคลื่นทะเลและกระแสลม ทําให้นักผจญภัยทุกคนที่เดินทางไปค้นหาทวีปนั้นได้สูญเสียชีวิตไปเป็นจํานวนมาก และในท้ายที่สุดก็ไม่มีใครหาหลักฐานที่จับต้องได้สําหรับแผ่นดินอื่นเลย
แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม หลังจากเหตุการณ์นั้น ชาวอารากู่ และอาณาจักรของพวกเขาก็ได้หายไปร่องรอยเดียวที่เหลือ ทิ้งไว้ก็คือเรื่องราวทางประวัติศาสตร์จากชนเผ่าบางกลุ่มในทวีปฟิรุแมนในปัจจุบัน
ลิงค์คิดอยู่เสมอว่าเรื่องพวกนี้เป็นตํานานและไม่ได้สนใจ มันมากนัก ยังไงก็ตาม เจ้าหญิงมิลด้านั้นเป็นไฮเอลฟ์ ซึ่งไฮเอลฟ์นั้นเป็นเผ่าพันธุ์โบราณ และเจ้าหญิงมิลด้าก็ไม่ใช่พวกที่จะพูดเรื่องไร้สาระโดยที่ไม่มีที่มา ดังนั้น ลิงค์จึงเชื่อคําพูดของเธอ
เจ้าหญิงมิลด้ามองดูรอบๆตัว เพื่อตามหาเบาะแส เธอชี้ไปที่นกที่กําลังบินอยู่ และพูดออกมา “ดูนกพวกนั้นสิพวก มันกางปีกแล้วมีขนาดยาวกว่า 30 ฟุต และจะงอยปากของพวกมันก็เป็นสีแดงยาวและคมเหมือนกับหอก ซึ่งในตอนนี้ไม่มีนกพวกนั้นอยู่ในฟิรุแมนแล้ว แต่ถึงอย่างงั้น ข้าก็เคยเห็นฟอสซิสของนกพวกนี้ในพิพิธภัณฑ์ของเกาะรุ่งอรุณอยู่ อ้างอิงจากงานวิจัยของนักประวัติศาสตร์ในชนเผ่าของข้า นกหอกแดงพวกนี้เคยมีชีวิตอยู่เมื่อ 100,000 ปีก่อน และเป็นนกนักล่าที่ดุร้ายมาก…”
“เดี๋ยวนะ เธอบอกว่ามันเป็นนกนักล่างั้นหรอ?” ลิงค์พู ดขัดขึ้นมาในทันที เขาจําเรื่องนี้ภายในเกมได้ เรื่องที่ผู้เล่นค นหนึ่งเคยโดนนกจิกจนตาย
เจ้าหญิงมิลด้าเองก็เข้าใจถึงความกังวลของลิงค์ พวกเขาอยู่ห่างจากเมฆที่ใกล้ที่สุดประมาณครึ่งไมล์ นกหอก แดงนั้นยังไม่สังเกตเห็นพวกเขา แต่ว่าดูจากอัตราการร่อนลงของพวกเขา อีกไม่นานพวกเขาจะต้องเจอกับพวกนกอย่างแน่นอน
คนแคระริเอลลูบหน้าผากของเขา “ข้าหวังว่านกพวกนี้คงไม่ต้อนรับพวกเรารุนแรงเกินไปนะ กระดูกคนแก่ของข้ารับมันไม่ไหวหรอก”
ในตอนที่ริเอลกําลังรู้สึกปวดหัว พวกเขาก็ได้ยินเสียงแหลมๆดังมาจากด้านบนของพวกเขา
“อย่าหนี้นะ! ข้าจะจัดการเจ้าให้ได้!”
ลิงค์มองขึ้นไปและเห็นซาโรวินี่อยู่เหนือหัวของพวกเขา และกําลังไล่ตามพวกเขามาอย่างรวดเร็ว สิ่งที่แย่ยิ่งกว่านั้นก็คือซาโรวินนั้นมีปีกสีม่วงงอกออกมาจากด้านหลัง ไม่ต้องบอกเลยว่า ปีกนั้นคือสิ่งที่ได้รับมาจากสายเลือดเทวดาตกสวรรค์ของพ่อเธอ
แต่โชคดีในความโชคร้ายก็คือ ซาโรวินนั้นมาแค่คนเดียว
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มากเพียงพอแล้วที่จะทําให้ลิงค์ลําบาก เขาไม่กล้าที่จะปะทะกับเธอ เขาใช้ระยะห่างของพวกเขาให้เป็นประโยชน์ เขาไม่ลังเลที่จะใช้ข้ามมิติเพื่อหนีไปให้ไกลเลย
พรึ่บ แสงสีขาวเกิดขึ้น ลิงค์และคนอื่นๆได้หายไปจากตําแหน่งเดิม พริบตาต่อมา พวกเขาก็ได้ปรากฏขึ้นใต้ก้อนเมฆ จากจุดนั้น พวกเขาสามารถมองเห็นป่าหนาทึบที่ปกคลุมพื้นดินอยู่ในเวลาเดียวกันนั้นเอง นกหอกแดงก็ได้สังเกตุเห็นพวกเขา
กา กา! ทันใดนั้นเอง นกหอกแดงก็ไล่ล่าพวกเขาในทันที
ลิงค์ไม่มีเวลามาเล่นอยู่กับพวกนก เขาร่ายเวทย์ข้ามมิติอีกกครั้งในทันทีเพื่อวาร์ปไปยังพื้นดิน
ป่านั้นแตกต่างจากที่ฟิรุแมนอย่างมาก ต้นไม้สูงและหนามากๆ ต้นไม้ทุกต้นมีความกว้างอย่างน้อย 30 ฟุต และสูงก ว่า 600 ฟุต แม้แต่หญ้ากับพืชผักอื่นๆก็ยังมีขนาดใหญ่มากๆ
ที่ๆพวกเขาลงมานั้นคือทุ่งหญ้าที่มีขนาดใบกว้างมากๆ ใบหญ้าพวกนี้ใหญ่ยิ่งกว่าใบกล้วยถึง 3 เท่า ใบของมันที่โค้งลงมานั้นทําให้มันดูเหมือนกับที่หลบภัยทางธรรมชาติเลย
“สถานที่บ้าๆนี่มันคืออะไรกันเนี่ย? ดูหนอนตัวนั้นสิ ฟันของมันสามารถกัดขาของข้าเข้าไปได้ทั้งข้างเลยนะเนี่ย!” ริเอลตะโกนดัง และใช้ค้อนสงครามของเขาทุบเข้าไปที่หนอนที่มีขนาดเท่ากับแมว
“ดูสิ ปีศาจกําลังถูกพวกนกหอกแดงนั้นโจมตีอยู่!” เจ้าหญิงมิลด้าชี้ขึ้นไปข้างบน
ลิงค์เองก็เห็นมัน ในตอนที่ซาโรวินี่ไล่ตามพวกเขาผ่านก้อนเมฆมา นกหอกแดงเองก็เห็นเธอและไล่ตามเธอ
สายตาของลิงค์นั้นดีมากๆ เขามองเห็นว่าซาโรวินี่หยิบมีดของเธอออกมาฟันนกหอกแดงยังไง ในขณะที่ใบมีดปะทะเข้ากับจะงอยปากของนก มันก็ส่งเสียงที่ดังมากๆออกมา และทําให้เกิดประกายไฟขึ้น ยังไงก็ตาม จงอยของมันก็ไม่ได้รับความเสียหายเลย หลังจากที่มันมึนอยู่พักนึง นกหอกแดงก็กลับมาไล่ตามซาโรวินต่อในทันที
ลิงค์ไม่มีเวลามาชื่นชมพลังของนักล่าพวกนี้ “นี่เป็นโอกาสที่ดี ยัยนั่นคงหนีไม่ได้อยู่ซักพักนึง พวกเราใช้โอกาสนี้หนี้กันเถอะ!”
พวกเขาทั้งสี่วิ่งเข้าไปในป่าปริศนา หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที่ ซาโรวินีก็กลายเป็นเพียงแค่จุดดําๆในท้องฟ้า มันเป็นเพราะว่ากลุ่มของลิงค์นั้นเดินทางอย่างรวดเร็วและซาโรวินี้ก็ถูกนกหอกแดง 10 ตัวกดดันให้ไปในอีกทิศทางหนึ่ง
มันเป็นสถานที่ที่น่ากลัวจริงๆ
ลิงค์ระวังตัวอยู่ตลอดเวลาและเขาก็ค่อยๆลดความเร็วลง เมื่อพวกเขาผ่านต้นไม้ต้นใหญ่อยู่ๆก็มีคน 10 คนปรากฏตัวออกมาจากต้นหญ้า
เสื้อผ้าของพวกเขานั้นขาดรุ่งริ่ง เหมือนกับว่าพวกเขากําลังสวมผ้าขี้ริ้ว พวกเขานั้นผอมแห้งและมีจมูกที่แหลม ดูเหมือนๆกับมนุษย์ แต่ว่าพวกเขามีหูที่แหลมเหมือนกับเอลฟ์ ถ้าจะบอกให้ชัดเจนก็คือพวกเขานั้นเหมือนกับเอลฟ์มากกว่ามนุษย์
หลังจากกระโดดออกมา หนึ่งในพวกเขาก็เอาหอกแหลมชี้มาที่ลิงค์ และพูดด้วยภาษาแปลกๆที่เต็มไปด้วยการตะโกน
ลิงค์ไม่เข้าใจมัน แต่ว่าระบบเกมก็ได้ช่วยเขาแปลสิ่งที่พวกเขาพูด
โดยพื้นฐานแล้ว นี่คือสิ่งที่พวกเขาพูด “แด่เพื่อนจากแดนไกล เจ้ามาจากสถานที่อันไกลโพ้นและมาพบกับพวกข้า นี่คือความเมตตาที่พระเจ้าประทานมาให้พวกข้า ข้าจะต้องรับพวกมันไว้ เพราะฉะนั้น ข้าจะใช้พลังทั้งหมดในการจัดการพวกเจ้าและเอาของทั้งหมดที่พวกเจ้ามีไป มีความสุขกับผู้หญิงของเจ้าและกระทืบเด็กตัวน้อยๆ!”
“นี่คือการปล้นใช่มั้ย?” นี่คือครั้งแรกที่ลิงค์ได้ยินประโยค
ที่เกขนาดนี้ก่อนที่จะถูกปล้น
ลิงค์เข้าใจได้ในเรื่องที่เขาพูดเกี่ยวกับผู้หญิง แต่ว่าสําหรับเด็กหล่ะ… ?
เด็กงั้นเหรอ? อย่าบอกนะว่าเขาหมายถึงริเอลหน่ะ?