Advent of the Archmage - 375: อาณาจักรอารากู่
Chapter 375: อาณาจักรอารากู่
ป่าปริศนา
คนแคระริเอลถือขวานสงครามด้วยสองมือและพูดกับลิงค์ “นี่คือเอลฟ์ที่ดูยาจกที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมาเลย มาสเตอร์ลิงค์ ท่านรู้รึเปล่าว่าพวกเขากําลังพูดอะไร?”
พวกเขานั้นดูยาจกมากจริงๆ ไม่เพียงแค่พวกเขาจะผอมเหมือนกับโครงกระดูก แต่พวกเขายังไม่มีเสื้อผ้าใส่ด้วยซ้ํา บางคนมีเพียงแค่เศษหนังสัตว์ในขณะที่บางคนพันแค่ใบไม้เอาไว้ที่รอบเอว คนที่กระโดดออกมานั้นดูดีที่สุด นอกจากหนังสัตว์แล้ว เขายังมีหอกเหล็กและปลอกคอเหล็กพังๆอยู่ที่คอด้วย
ลิงค์เปิดใช้ความพิโรธของราชามังกรเพื่อเตรียมตัว “เอาจริงๆฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นภาษาถิ่นนะ ดูเหมือนว่าพวกเขากําลังจะปล้นพวกเรา มิลด้า เธอเข้าใจมันรึเปล่า?”
มิลด้าพยักหน้าอย่างไม่คาดคิด “พวกเขาพูดด้วยภาษา เอลฟ์โบราณ โบราณมากๆ ฉันจะร่ายเวทย์ความสอดคล้องให้นะ”
ความสอดคล้อง
เวทย์ลึกลับเลเวล2
ผล: ผู้ที่ได้รับผลของเวทย์นี้จะเข้าใจภาษาเอลฟ์ในทันที
(หมายเหตุ: เป็นเวทย์เฉพาะของเอลฟ์)
เธอแตะตัวลิงค์กับริเอลเบาๆ ลูกบอลแสงขนาดเท่านิ้วโป้งทั้ง2ลูกค่อยๆละลายเข้าไปในร่างกายของพวกเขา ไม่กี่วินาทีต่อมา พวกเขาก็สามารถเข้าใจถึงการตะโกนของโจรเอลฟ์ได้
“ลูกพี่ ข้าว่าพวกมันเป็นนักเวทย์นะ!” เอลฟ์กระซิบกับหัวหน้าของเขา
“หัวหน้าของพวกมันต้องมาจากอารากู่แน่ๆ ดูจากเสื้อผ้าของพวกมัน พวกมันดูเหมือนกับชนชั้นสูงเลย” โจรอีกคนนึงพูดขึ้น
หัวหน้าโจรสูญเสียความมั่นใจ เขาโบกหอกของเขาและ พูดกับลิงค์ “เพื่อนจากแดนไกล ครั้งนี้ข้าตัดสินใจว่าจะปล่อยพวกเจ้าไปก็แล้วกัน ทิ้งของมีค่าเอาไว้แล้วไปซะ”
ลิงค์นั้นสงสัยเกี่ยวกับโลกนี้ พวกเขาทุกคนดูแข็งแกร่งมาก ยกตัวอย่างเช่น โจรพวกนี้ถึงจะดูผอมมากๆ แต่เมื่อดูจากออร่าของพวกเขา คนที่อ่อนแอที่สุดนั้นก็มีเลเวล 4 แล้ว และหัวหน้าของพวกเขายังมีเลเวล 6 ด้วยซ้ํา
ถึงมันจะไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่ว่าพวกเขาก็เป็นโจรที่มีระดับต่ำที่สุด ถ้าเกิดว่าที่นี่มีอาณาจักรเอลฟ์อยู่คนที่ แข็งแกร่งที่สุดจะต้องทรงพลังมากแน่ๆ
หัวหน้าของพวกมันหมดความอดทนแล้วแต่ก็ไม่กล้าที่จะทําอะไรรุนแรง เขาควงหอกของเขาและตะโกนเร่ง “เฮ้ย พูดอะไรบ้างสิ เจ้าจะให้หรือไม่ให้?”
ลิงค์คิดอยู่พักนึงและหยิบเหรียญออกมาจํานวนนึง เขากํามันและร่ายเวทย์เสริมพลัง ละลายเหรียญให้กลายเป็นก้อนทองที่มีขนาดเท่ากํามือ จากนั้นเขาก็ดีดนิ้วพร้อมกับร่ายเวทย์มือแห่งนักเวทย์ แล้วทองก็ค่อยๆลอยไปทางหัวหน้าโจรอย่างช้าๆ
“พวกเราเป็นแค่นักเดินทางจากสถานที่อันห่างไกล การมาที่นี่เป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น พวกเราต้องการรู้สถานการณ์ของที่นี่ ใครเป็นพระราชา? ดินแดนนี้เป็นของ ใคร? มีเมืองอยู่ใกล้ๆที่นี้มั้ย? ถ้าเกิดว่าพวกนายตอบคําถามพวกนี้ได้ ทองนี้ก็จะเป็นของพวกนาย”
ทองเองก็เป็นหน่วยเงินของโลกนี้ ในตอนที่มันปรากฏขึ้นพวกเอลฟ์ทุกคนต่างก็จ้องมันตาไม่กะพริบ ดูเหมือนว่าทองนั้นจะมีมูลค่ามาก
ในตอนที่ทองลอยไปถึงด้านข้างของหัวหน้าโจร เขาก็เอื้อมไปหยิบมัน แต่ว่ามันก็มีเสียงดังขึ้นเบาๆและทองก็หยุดขยับ ลิงค์ได้ใช้ยับยั้งมิติและเพิ่มพลังมังกรลงไป 1000 แต้ม ทําให้เกิดเป็นมิติความถี่สูง
หัวหน้าโจรจับทองและดึงมันกลับ แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามเท่าไหร่ ทองก็ไม่ขยับ มันเหมือนกับว่ามันติดอยู่ตรงนั้น เขาใช้ออร่าต่อสู้ร่างกายของเขาเปล่งแสง เขาใช้พละกําลังทั้งหมด และหน้าของเขาก็กลายเป็นสีแดง เขาตะโกนเสียงดัง แต่ทองก็ไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว เขาทุ่มน้ําหนักของเขาทั้งหมดลงไปที่ทอง แต่ว่ามันก็ไม่ขยับอยู่ดี
เทคนิคนี้น่าเหลือเชื่อและเข้าใจได้ยาก
เอลฟ์คนอื่นมองลิงค์ด้วยความหวั่นเกรง ดูเหมือนว่าหัวหน้าโจรจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง เขาตัวสันเล็กน้อยและ ล้มเลิกความพยายาม “สหาย เจ้าพูดจริงฉันหรอ?” เขาขยับเข้ามา “ถ้าข้าตอบคําถาม ทองพวกนี้จะเป็นของพวกข้าจริงๆสินะ?”
เขาไม่ได้พูดถึงการปล้นอีกต่อไปแล้ว มีเพียงแค่คนโง่เท่านั้นที่จะพยายามปล้นคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้
“แน่นอน หลังจากตอบคําถามของฉัน มันก็จะเป็นของพวกนาย
“โอเค โอเค ข้าจะบอกเจ้า พวกเราอยู่ในป่าสัตว์ยักษ์ อย่างที่เจ้าเห็นทุกๆอย่างนั้นใหญ่ไปหมด แต่ว่าพวกเราอยู่ที่สุดขอบของมัน ดังนั้นมันจึงไม่อันตรายมาก ไปทางทิศตะวันออกจากที่นี่ 30 ไมล์ จะมีเมืองเล็กๆชื่อหมู่บ้านใบไม้ผลิอยู่ ลอร์ดของที่นั่นคือคนขายเนื้อกระหายเลือด บัลล่า หมู่บ้านใบไม้ผลินั้นเป็นแค่สถานที่เล็กๆในอาณาจักรอารากู่ อ้อ ใช่ ข้าจะบอกเจ้าให้นะ ตอนนี้พวกเราอยู่ในอาณาจักรอารากู่ ที่นี่ไม่มีราชามีแต่จักรพรรดิ จักรพรรดิคาลากที่ 16 เขาอาศัยอยู่ที่เมืองแห่งทองคํา”
โจรเล่าเรื่องต่อไป กลุ่มของลิงค์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับโลกนี้มากขึ้น
“เจ้าบอกว่าชายคนนี้ดูเหมือนกับชนชั้นสูงของอารา” มิลด้าพูด “ชาวอาราคู่มีลักษณะแบบไหนหรอ?”
หัวหน้าโจรมองไปที่มิลด้าและทําหน้างงๆ ยังไงก็ตาม เขากลัวลิงค์ ดังนั้นเขาจึงรีบเบือนหน้าหนีเธอในทันที แล้วพูดอย่างเกรี้ยวกราด “อารากู่นั้นเหมือนกับพวกเราลากู แต่ว่า หูของพวกมันจะต่างกันออกไป พวกมันมีหูกลมๆเหมือนกับชายคนนี้ และพวกมันก็จับพวกเราลากเป็นทาส!”
หลังจากนั้นเขาก็หันมาพูดกับลิงค์ “นายท่าน ข้าขอเตือนท่านเลยนะว่าทาสของท่านนั้นงดงามเกินไป เหมือนกับดวงจันทร์บนท้องฟ้า ท่านจะต้องปกป้องนางให้ดี ไม่ อย่างนั้นคนอื่นจะมาเอานางไป และมันก็จะเป็นปัญหาที่ใหญ่มากๆเลยหล่ะ”
ลิงค์คิดไม่ถึงเลยว่าเอลฟ์จะถูกจับให้เป็นทาส มันช่างน่าสนใจจริงๆ
มิลด้าไม่คิดว่ามันแปลก เธอปิดหน้าของเธอด้วยผ้าคุลมหน้าและสวมหมวก ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เธอก็กระซิบกับลิงค์ “ในบันทึกประวัติศาสตร์ของพวกเรา ชาวอารากูโบราณนั้นแข็งแกร่งมากๆ พวกเขาปกครองทุกเผ่าพันธุ์ในทวีป นอกเหนือจากพวกข้าแล้ว คนแคระและยับบ้าเองต่างก็ถูกจับเป็นทาสเหมือนกัน ข้าคิดว่าพวกเราไม่ใช่แค่วาร์ปมาอย่างเดียวนะ แต่พวกเรายังเดินทางข้ามเวลามาอีกด้วย ดูเหมือนว่าพวกเราจะย้อนมาอยู่ในยุคโบราณซะแล้วหล่ะ”
ลิงค์ก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ว่ามันก็เป็นแค่ความคิดเท่านั้น เขาต้องการข้อมูลมากกว่านี้ก่อนถึงจะสามารถยืนยันได้
“ปีนี้ปีอะไร?” ลิงค์ถามต่อ
“ปี?” หัวหน้าโจรสับสน
“ยุคก็ได้ ยุคนี้คือยุคอะไร?” ลิงค์พยายามอีกครั้ง
หัวหน้าโจรยังคงสับสน เขาคิดอยู่สักพัก พร้อมกับเกาหัว และพูด “ท่านหมายถึงปฏิทินของอารากู้ใช่มั้ย? มันคือปีที่ 3162 ครับ”
ปฏิทินของอาราคู่นั้นไม่เหมือนกับปฏิทินศักดิ์สิทธิ์ สําหรับปี 3162 ตัวเลขนั้นไม่ได้อ้างอิงถึงอะไร และมันก็ไม่มีความหมายอะไร
“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาอยู่ที่โลกใบใหม่ซะแล้วสินะ” ริเอลพูดเบาๆ
“ก็เป็นหนึ่งในความเป็นไปได้หล่ะนะ พวกเราอาจจะมายังดินแดนหรือภพใหม่ก็ได้ หรือไม่พวกเราก็อาจจะเดินทางข้ามเวลามา พวกเราได้ข้อมูลจากพวกโจรมาไม่ มากซักเท่าไหร่ และพวกเราก็ไม่มีเวลาด้วยรีบไปที่หมู่บ้าน ใบไม้ผลิกันเถอะ”
มันจะเป็นการดีที่สุดถ้าพวกเขาเดินทางข้ามเวลา เพราะว่าพวกเขานั้นมีเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือน ภายในเวลา 2 เดือนนี้ พวกเขาจะต้องหากําลังเสริมและกลับไปที่ป้อมโอริด้า ให้ได้ นั่นคือภารกิจของพวกเขา
ทั้งสามคนพยักหน้าอย่างจริงจัง
ลิงค์ยกเลิกยับยั้งมิติที่ใส่เอาไว้ในก้อนทอง “มันเป็นของ พวกนายแล้ว”
ทองร่วงลงมา และหัวหน้าโจรก็รับมันไว้ด้วยสองมือ รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเขา ทองนี้มีขนาดเท่ากําปั้น ซึ่งมันมากพอที่จะทําให้พวกเขาใช้ชีวิตไปได้ถึงครึ่งปี เลยทีเดียว
กลุ่มของลิงค์เดินทางออกไปทางทิศตะวันออก
พอเห็นพวกเขาออกไป เอลฟ์คนนึงก็ถามขึ้นมาเบาๆ “ลูกพี่ พวกเราจะไม่บอกพวกเขาหน่อยหรอว่าข้างหน้ามีพวกกลุ่มโจรตาแดงอยู่?”
หัวหน้าโจรตบหัวของเขา(ลูกน้องเอลฟ์) “เงียบเถอะหน่า! ก็เขาไม่ได้ถาม ดังนั้นพวกเราก็เลยไม่พูด ทําไมพวกเราต้องหาเรื่องใส่ตัวด้วยหล่ะ? ไปกันเถอะ ไปซื้อแพะที่หมู่บ้านใบไม้ผลิกัน พวกเราจะจัดงานเลี้ยง”
“เย้!” โจรเอลฟ์อารมณ์ดีขึ้นมาในทันที พวกเขาทุกคนต่างพากันน้ําลายไหล
อีกด้านนึง
พรุ่บ! ซาโรวินี่พุ่งเข้ามาในรูต้นไม้ใหญ่ ในตอนที่เธอเข้ามาก็มีเสียงจิกดังขึ้นหลายครั้ง ฝูงนกแปลกๆได้มาถึงและเริ่มที่ จะจิกต้นไม้ โชคดีที่ต้นไม้นี้แข็งแรง แม้ว่าเศษไม้จะกระเด็นออกอย่างบ้าคลั่ง แต่มันก็ได้ปกป้องซาโรวินี่เอาไว้ข้างใน
พวกนกคลั่งวนอยู่รอบๆต้นไม้เป็นเวลาพักใหญ่ๆ มันส่งเสียงร้องอยู่เป็นชั่วโมงก่อนที่จะจากไปอย่างไม่มีความสุข
ภายในต้นไม้ ซาโรวินี่เอามือกุมหน้าอกของเธอ และยังรู้สึกใจเต้นแรงอยู่ ที่นี่คือที่ไหนกัน? มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!
พวกนกนั้นมีความแข็งแกร่งที่เลเวล8 และพวกมันก็มีจํานวนมาก ในตอนแรกมีเพียงแค่ไม่กี่ 10 ตัว และเธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก และฆ่าพวกมันไปบางส่วน แต่มันก็เหมือนกับการไปที่รังผึ้ง เพราะอยู่ๆก็มีพวกมันมาเพิ่มอีกเป็น 100 ตัว
เธอนั้นตกใจกลัวและทําได้แค่หนีเท่านั้น หลังจากหนี้มาได้ซักพัก เธอก็เจอเข้ากับต้นไม้ต้นนี้ ซึ่งเธอก็ได้วิ่ง ด้วยแรงที่เธอมีทั้งหมดเพื่อเข้ามาหลบในนี้
เธอโล่งใจแล้ว แต่ทันใดนั้นเองเธอก็ได้ยินเสียงฟอๆ เธอหันกลับไปและเห็นงูจุดดําที่ตัวหนากว่าเอวของเธออยู่ในต้นไม้ ดวงตาของมันมีสีเขียวและขนาดเท่ากับกําปั้นของ เธอ มันดูเหมือนกับลูกไฟวิญญาณ 2 ลูกเลย
เมื่อเห็นซาโรวินหันมา งูก็ส่งเสียงฟอขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็เกิดเสียงกุ้งและหมอกสีเขียวก็ถูกพ่นใส่หน้าของซาโรวินี่
เธอตอบสนองอย่างรวดเร็วและกลั้นหายใจในทันทีในขณะเดียวกันนั้นเธอก็ใช้พลังปีศาจของเธอในการป้องกันหมอกเอาไว้
แต่ว่างูเองก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วเช่นกัน ระหว่าง นั้นมันก็เลื้อยมารัดตัวซาโรวินี่ และมันก็เริ่มทําการบีบรัด ทําให้ซาโรวินหายใจไม่ออก งูนั้นแข็งแกร่งจนผิดปกติ และ เธอก็ไม่สามารถตื้นให้หลุดได้ แขนทั้งสองข้างของเธอถูกรัด และขยับไปไหนไม่ได้
ไม่นะ ข้าจะมาตายในที่แบบนี้ไม่ได้ เธอกัดฟันของเธอ และกรีดร้องออกมา พลังปีศาจระเบิดออกอย่างบ้าคลัง!
ตู้ม! ด้วยเสียงระเบิดที่เกิดขึ้น งูก็ตัวพองออกและร่วงลง จากร่างของซาโรวินี่
อุ๊บ หมอกพวกนี้มีพิษ! ซาโรวินี่เองก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีเท่าไหร่ เพื่อที่จะใช้พลังของเธอ เธอได้สูดเอาพิษเข้าไป ตอนนี้เธอรู้สึกมึนหัวและทุกอย่างก็ดูเบลอไปหมด หลังจากดิ้นรนอยู่พักนึง เธอก็หมดสติลงไปจริงๆ
ในตอนที่เธอตื่นขึ้นหลังจากที่หลับไปได้ซักพัก เธอก็พบว่าตัวเองอยู่ในกรงขังเล็กๆ มันมีปีศาจผมยาวตัวอื่นๆอยู่ด้วย และมีกรงอื่นๆอีกมากมายที่ขังปีศาจและผู้คนอื่นๆเอาไว้อยู่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเอลฟ์ แต่ว่าคนแคระก็มีเช่นกัน ตอนนี้ งูได้ถูกถลกหนังและเอาไปย่างไฟ มีมนุษย์ที่สวมชุดหนังสัตว์นั่งอยู่รอบๆกองไฟ กําลังกินเนื้องูพร้อมกับหัวเราะ
จับข้าใส่กรงเนี่ยนะ ช่างน่ารังเกียจอะไรเยี่ยงนี้ ความโกรธของซาโรวินี่กําลังจะระเบิดออก แต่เธอก็พบว่าพลังของเธอได้ถูกอะไรบางอย่างผนึกเอาไว้ เธอไม่สามารถ ควบคุมมันได้เลย มีบางอย่างเย็นๆอยู่ที่คอของเธอ เธอจับมันและพบว่ามันคือปลอกคอเหล็ก
ปลอกคอนี้มีพลังปริศนาที่ปิดผนึกพลังปีศาจทั้งหมดของเธอเอาไว้
ตอนนี้ ข้ากลายเป็นทาสงั้นหรอ? ซาโรวินี่ไม่เคยคิดว่า เธอจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้ และที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือเธอสูญเสียพลังทั้งหมดของเธอไป
พอผ่านไปซักพักหลังจากที่พวกมนุษย์กินอาหารกันเสร็จ พวกเขาคนนึงก็เดินมาทางพวกปีศาจ เขาโยนกองหญ้าแห้งให้กับพวกมัน และพวกมันก็เริ่มกินอย่างเงียบๆ
“ปล่อยข้าไป! ปล่อยข้าไปนะ!” ซาโรวินี่ตะโกน
มนุษย์ได้ยินมัน เขาเดินมาและมองมาที่ผู้หญิงผมดําที่เหมือนกับแมว เขายื่นมือเข้ามาในกรงและลูบแก้มของเธอด้วยรอยยิ้ม “สาวสวย อย่ากลัวไปเลย พอพวกเราไปถึงหมู่บ้านใบไม้ผลิ ข้าจะขายเจ้าให้กับบ้านที่ดีๆนะ เจ้าจะได้มีชีวิตที่ดียังไงหล่ะ”
ซาโรวินี่พยายามจะกัดมือของเขา แต่ว่าเธอพลาด มนุษย์ดึงมือของเขากลับด้วยความเร็วเหมือนกับสายฟ้า
“แมวน้อย เธอจะต้องทําตัวดีๆนะ ไม่อย่างนั้น ในอนาคตเธอจะต้องลําบากมากแน่ๆ” มนุษย์ยังคงยิ้มอยู่แต่ว่าไม่ได้สนใจซาโรวินี่อีกต่อไปแล้ว เขาเดินไปที่ถุงนอนของเขา ที่อยู่ข้างกองไฟและหลับไป
ซาโรวินมองไปที่เขาด้วยความตกตะลึง เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะคนขายทาสที่สวมชุดหนังหยาบๆคนนี้มีพลังถึง
โลกนี้มันช่างน่ากลัวจริงๆ!