Advent of the Archmage - 392: จําเป็นต้องมีคนยับยั้งเธอ
Advent of the Archmage Chapter 392: จําเป็นต้องมีคนยับยั้งเธอ
สามวันต่อมา
กลุ่มของลิงค์ก็มาถึงถ้ําในยอดเขาดาร์โรว, ใกล้กับเมืองอินทรีย์ดํา
พวกเขาทุกคนพร้อมที่จะออกจากอารากู่แล้ว, แม้ว่าเส้นตายจะยังไม่ครบสามเดือน แต่กองทัพปีศาจที่อยู่นอกป้อม โอริด้านั้นสูญเสียผู้บัญชาการไปแล้ว ดังนั้นการพัฒนาในอนาคตจึงไม่สามารถคาดเดาได้
อย่างไรก็ตาม, หลังจากที่พวกเขาทั้งสามมาถึงระดับตํานานแล้ว, อัตราการเติบโตของพวกเขาก็ลดลงมาอย่างมีนัยสําคัญ ดังนั้นการที่พวกเขาอยู่ที่นี่ต่อไปคงจะไม่ใช่ เรื่องดี, และพวกเขาเองก็อยากจะรีบกลับไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้
ที่ทางเข้าถ้ํา, ลิงค์มองไปที่มิลด้า “เธอมั่นใจนะ?”
มิลด้าพยักหน้า “การปล่อยให้ซาโรวินอยู่ที่นี่คนเดียวเป็นเรื่องอันตรายเกินไป อย่างน้อย, พวกเราก็ต้องให้ใครซักคนอยู่ที่นี่เพื่อคอยสกัดเธอไว้”
มันเป็นแบบนั้นจริงๆ แต่ลิงค์คงจะรับความรับผิดชอบนี้ไม่ได้ เพราะเขายังมีความรับผิดชอบอื่นอีกมากมายที่ต้องจัดการ ส่วนริเอลนั้นยิ่งไม่เหมาะสมกับหน้าที่นี้ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่มิลด้าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ในฐานะเจ้าหญิงเอลฟ์, มิลค้ามีความงดงามสูสีกับซาโรวินี่
จากระดับความแข็งแกร่งของพวกเขา, มันเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้พูดออกมาโดยไม่ได้พิจารณาก่อน และในเมื่อมิลด้าตัดสินใจได้แล้ว, การเปลี่ยนใจเธอก็คงจะเป็นเรื่องยาก
“มิลด้า, ความแข็งแกร่งของเจ้าสู้ซาโรวินี้ไม่ได้หรอกนะ, เจ้าคงจะไม่สามารถเอาชนะยัยนั่นได้” ริเอลแนะนํา เขาเองก็คิดไม่ถึงว่ามิลด้าจะเสนอตัวอยู่ที่นี่จริงๆ อันที่จริงก่อน หน้านี้ริเอลมีทัศนคติที่ไม่ค่อยดีกับเธอ เขาคิดว่าเธอเจ้าอารมณ์และใจแคบ แต่ตอนนี้, เขาได้มองเธอใหม่แล้ว
“ข้าไม่ได้อยู่คนเดียวซักหน่อย ยังมีอาร์คเมจเลเวล 19 ด้วย ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้, เขาจะต้องไม่ปล่อยให้ซาโรวินี่ยึดครองลัทธิเพลิงอย่างแน่นอน เขาจะต้องทําอะไรบางอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้ยัยนั่นเติบโตเร็วเกินไป และสําหรับข้า ข้าได้ซื้อหนังสือเวทมนตร์ระดับตํานานมาสองสามเล่ม ขอเวลาซักพักนึ่ง, ข้ามั่นใจว่าข้าเองก็สามารถเชี่ยวชาญเวทมนตร์ระดับตํานานได้เหมือนกัน”
เธอปิดเป็นความลับมาจนถึงตอนนี้, แต่พอมาถึงจุดนี้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้เก็บเป็นความลับอีกต่อไปแล้ว
แม้ว่าสิ่งที่มิลด้าพูดจะเป็นความจริง, แต่มันก็ไม่ได้ลดความอันตรายลงไปเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเริ่มต้นใน ขณะที่เธอยังอ่อนแออยู่ นอกจากนี้, มิลด้าสวยเกินไป ต่อให้เธอเข้าลัทธิไฟไปแล้ว, เธอก็ยังดึงดูดความสนใจที่ไม่จําเป็น และอาจจะพบกับจุดจบอันเลวร้ายก็ได้
โชคชะตานั้นไม่ใช่สิ่งที่สามารถคาดเดาได้ ต่อให้เราพยายามอย่างสุดความสามารถ, ผลที่ออกมาก็อาจจะไม่สวยงามก็ได้
หลังจากที่คิดอยู่ซักพักนึง, ลิงค์ก็พูดขึ้น “ก็ได้, งั้นฉันจะให้นานะอยู่ที่นี่กับเธอด้วย”
นานะเป็นนักรบไม่เหมือนกับนักเวทย์, พละกําลังของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นในทันทีเมื่อเข้าสู่ระดับตํานาน แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความสามารถรอบตัวและทักษะพิเศษแบบที่นักเวทย์มี, แต่สําหรับนานะ, ความเร็วของเธอก็ถือเป็นไพ่ตายแล้ว นอกจากนี้,เธอยังมีมีดจุดแตกหักอยู่กับตัวด้วย ลิงค์พิจารณาแล้วว่านี่คือทางเลือกที่ดีที่สุด
ลิงค์หันไปพูดกับนานะ “นานะ, มานี่หน่อยสิ”
นานะเดินมาอยู่ข้างๆลิงค์, และลิงค์ก็ยื่นมือออกมา, ซึ่งต อนนี้มันเปล่งประกายด้วยเวทมนตร์เปลี่ยนรูป เขาได้เปลี่ยนหูของนานะให้แหลมขึ้นและเปลี่ยนแปลงหน้าตาของเธอเล็กน้อย ตอนนี้, นานะดูเหมือนกับเอลฟ์เลย ซึ่งนี่เป็นการทําเพื่อป้องกันไม่ให้เธอถูกพวกลากโจมตี
หลังจากที่เขาจัดการเสร็จเรียบร้อย, เขาก็ออกคําสั่ง “ปกป้องมิลด้าให้เหมือนกับที่ปกป้องฉันนะ”
“รับทราบคะ” นานะขานรับ แล้วเธอก็เดินไปอยู่ข้างมิลด้า
ลิงค์ครุ่นคิดอยู่อีกพักนึง, จากนั้นเขาก็เอาหินเครื่องรางออกมาแล้วส่งมันให้กับมิลด้า “นี่คือหินโลโคที่ฉันเป็นคนสร้างขึ้น; มันสามารถบอกตําแหน่งของเธอให้ฉันรู้ได้ ถ้าเธอเจออันตรายอะไร, เธอก็สามารถใช้มันติดต่อฉันได้นะ, แล้วฉันจะรีบมาช่วย แต่ว่า, การเทเลพอร์ทข้ามภพมันใช้พลังงานมาก หลังจากที่ใช้มันแล้ว, ฉันจําเป็นต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวด้วย ดังนั้นมันจะดีที่สุดถ้าเธอเตือนฉันก่อนสักครู่ ถึงวันถ้าเธอรู้ว่ากําลังจะไปเจอกับสถานการณ์อันตราย”
“เข้าใจแล้ว” มิลด้าพยักหน้า เธอรับหินมาจากลิงค์อย่างจริงจัง นี่ไม่ได้เป็นแค่ไฟแห่งชัยชนะเท่านั้น แต่มันยังเป็นเส้นทางหนี้สําหรับเธอด้วย มันมีค่ามากๆ
“ถ้างั้น, พวกเราก็ไปกันเถอะ”
ลิงค์บอกให้ริเอลเตรียมพร้อมและหันไปที่ทางเข้าถ้ํา ก่อนที่เขาจะเดินออกไป, เขาก็ได้ยินเสียงจากข้างหลังของเขา และถูกโผลเข้ากอดจากด้านหลังในทันที ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, เขาก็รู้สึกว่าเธอเอาสร้อยคอมายัดใส่มือเขา
“นี่คือสร้อยคอหนาม มีแค่สมาชิกที่มีคุณสมบัติของเผ่าข้าเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาติให้สวมมัน นําสิ่งนี้ไปมอบให้กับแม่ข้าแล้วบอกเธอว่านี่คือการตัดสินใจของข้า, ไม่ต้องเป็นห่วง”
“เข้าใจแล้ว” ลิงค์ให้สัญญา
มิลด้าพูดต่ออย่างแผ่วเบา “แล้วก, ถ้าฉันตาย, ช่วยสร้างหลุมศพของฉันขึ้นที่เฟิร์ด, แล้วเขียนว่า “มิลด้า โมรานี่” โอเคไหม?”
ลิงค์ตัวสั่นขึ้นมา แล้วเขาก็หันกลับไปกอดมิลด้า “ไม่มีปัญหา!” ลิงค์ให้สัญญา
ลิงค์ก้มหัวลงแล้วจูบที่หน้าผากของมิลด้าอย่างอ่อนโยน
จากนั้น, เขาก็ปล่อยมิลด้าแล้วพูดกับริเอล, ที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยตั้งแต่ก่อนหน้านี้ “ไปกันเถอะ”
ริเอลไม่ขยับ ดูเหมือนว่าเขากําลังตัดสินใจเรื่องบางอย่างอยู่ หลังจากที่เงียบไปอีกสักพัก, เขาก็ยื่นมือเข้าไปในกําไลต่างมิติของเขาแล้วเอาคริสตัลชิ้นใหญ่ออกมา คริสตัลนี้ เปล่งประกายเป็นอย่างมาก, และสะท้อนสีอันงดงามห้าสีที่ไหลเหมือนกับสายน้ํา เขาเดินเข้ามาแล้วส่งมันให้กับมิลด้า
“นี่สําหรับเจ้า มันชื่อว่าหัวหัวใจแห่งขุนเขา, มันคือสมบัติชิ้นหนึ่งที่ถูกขุดขึ้นมาจากส่วนลึกในเทือกเขา ตอนแรกข้าตั้งใจจะใช้มันสร้างอาวุธให้ตัวเอง, แต่ตอนนี้ขายกให้เจ้าดีกว่า ข้าเชื่อว่าเจ้าจะใช้มันได้เป็นอย่างดี เอาสิ, เร็วเข้า! รับมันไป, อย่าให้ข้าเห็นมันอีก!” ริเอลพูดใบหน้าของเขากระตุกด้วยความเจ็บปวด
มิลด้ารู้สึกตลกกับท่าทีของเขาจริงๆ เธอรับหัวใจแห่งขุนเขามาจากเขาแล้วก้มตัวลงมาจูบที่หน้าผากของเขา “ลาก่อนนะ, สหาย”
นี่ทําให้ใบหน้าดําๆของริเอลเปลี่ยนเป็นสีแดง เขารู้สึกอ่อนระทวยแล้วตามหลังลิงค์ไปอย่างหวิวๆ แม้ว่าจะไปถึงทางเข้าถ้ําแล้ว, เขาก็ยังรู้สึกหวิวอยู่
ในที่สุด, ลิงค์ก็เปิดใช้เวทย์เทเลพอร์ท แสงสีขาวสว่างขึ้น และไม่กี่วินาทีต่อมา, ลิงค์กับริเอลก็หายไปจากข้างในถ้ํา
มิลด้าเฝ้ามองจนกระทั่งทั้งสองคนหายไปอย่างสมบูรณ์ เธอถอนหายใจแล้วหันไปพูดกับนานะ “ตอนนี้เหลือแค่พวกเราสองคนแล้วสินะ”
“เดี๋ยวนายท่านก็กลับมาคะ” นานะตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม
มิลด้าเองก็หัวเราะ “นั่นสินะ, เขากลับมาแน่”
เธอเดินลงยอดเขาดาร์โรว ในตอนที่เธอมาถึงตีนเขา, เธอก็หาสถานที่เงียบๆแล้วสูดให้ใจเข้าลึกๆ, พร้อมกับคุกเข่าที่พื้น
“ท่านผู้ทรงเกียรติ, เกียร์ ซีมัวร์, ลอร์ดแห่งเพลิง, ผู้กอบกู้ชาวลากูน, ข้าขอวิงวอนต่อท่าน, โปรดรับความภักดีจากข้าด้วย” มิลด้าพูดเบาๆ
ไม่มีเสียงตอบกลับ
มิลด้าไม่ได้รู้สึกประหลาดใจอะไร ถ้าพระเจ้าตอบกลับทุกคนที่พูดชื่อเขา, พระเจ้าก็คงจะกลายเป็นแค่ทาสคนนึ่งของผู้คน
มิลด้าเป็นคนมุ่งมั่น, แล้วเธอก็พูดซ้ําอีกครั้ง สองครั้ง สามครั้ง ในตอนที่เธอพูดเป็นครั้งที่ห้า, เธอก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมารบกวนและรู้สึกว่ากําลังถูกตัวตนบางอย่างจ้องมองอยู่
ภายใต้สายตานี้, มิลด้ารู้สึกเหมือนกับว่าความลับของเธอ ถูกมองออกอย่างทะลุปรุโปร่งและวิญญาณของเธอก็กําลังเผชิญหน้ากับเปลวเพลิง
มีเสียงดังขึ้นในจิตใจของมิลด้า “มนุษย์จากฟิรูแมน, ข้าได้ยินเสียงเรียกของเจ้าแล้ว, แต่ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้ภักดีกับข้าจริงๆหรอก ไหนบอกข้ามาซิ, เจ้าต้องการอะไรจากข้าแล้วเจ้าหวังว่าจะได้อะไรจากข้า?”
ตัวตนเลเวล 19 นั้นลึกล้ําสุดหยั่งถึงและสามารถอ่านเจตนาของมิลด้าออกได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว
มิลด้าตกใจ, แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็เตรียมใจสําหรับ ความเป็นไปได้พวกนี้เอาไว้แล้ว เธอพูดอย่างนอบน้อม “ลัทธิเพลิงช่วยถอดปลอกคอทาสให้ข้าและทําให้ข้าได้รับอิสระกลับคืนมา เป้าหมายของท่านจําเป็นต้องมีความช่วยเหลือของผู้คนมากมาย ข้าอยากกลายเป็นหนึ่งในผู้คนเหล่านั้น”
เสียงไม่ได้ตอบกลับ, แต่ก็ยังจ้องอยู่เหมือนเดิม
สถานการณ์เช่นนี้ยาวนานเกือบห้านาทีก่อนที่เสียงจะพูดขึ้นอีกครั้ง “ข้าเห็นใครบางคนในจิตใจของเจ้า เธอชื่อว่าซาโรวินี่, และเธอก็เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าเลือก เธอสามารถช่วยข้าขยายอิทธิพลได้, แต่สําหรับเจ้า, เธอเป็นศัตรู ไหนบอกข้ามาซิ, ทําไมข้าถึงควรรับเจ้าเข้ามา”
มิลด้าพูดต่อ “ซาโรวินี่เป็นดาบที่คมกริบและอันตราย เธอเป็นร่างอวาตารของการทําลายล้างและการเข่นฆ่า เป้าหมายของท่านไม่สามารถสําเร็จได้ด้วยดาบแค่นี้ ท่านจําเป็นต้องสร้างและออกคําสั่ง ดาบที่คมที่สุดนั้นต้องการปลอกดาบที่ดีเพื่อป้องกันคมของมัน, มันก็เหมือนกับตอนที่เผาไร่เสร็จ, ท่านจําเป็นต้องพรวนดินและปลูกเมล็ดพันธุ์ดีๆเพื่อเก็บเกี่ยว
เสียงเงียบลงอีกครั้ง ครั้งนี้มันเงียบไปได้ไม่นาน หลังจากที่ผ่านไปห้าวินาที, เสียงก็พูดกับมิลด้าอีกครั้ง “เจ้าเป็นลากูที่ฉลาดและมีความสวยที่ไม่ธรรมดา เจ้ามีประโยชน์สําหรับเป้าหมายของข้าจริงๆ แต่ว่า, เจ้าเป็นสาวกของเทพแห่งแสงก็ได้ พวกเรามาทําสัญญาภักดีกันดีกว่า”
“ขอจะทําตามคําสั่งของท่านคะ, ลอร์ดแห่งเพลิง” มิลด้า สูดหายใจเข้าด้วยความโล่งอก
ต่อจากนั้น, ก็มีพลังมากดมิลด้าจากไหนก็ไม่รู้ และมิลด้าก็รู้สึกว่าหน้าผากของเธอร้อนฉ่า เธออยู่ในสภาพนี้เป็นเวลาไม่กี่วินาทีก่อนที่จะเบาลง และในที่สุด, เสียงก็ดังขึ้นอีกครั้ง “จงไปที่ปาสัตว์ใหญ่ เหล่าลูกแกะตัวน้อยๆของข้าพร้อมที่จะรับทูตเพลิงศักดิ์สิทธิ์คนใหม่แล้ว”
ในที่สุด, สายตานี้ก็หายไป
มิลด้าอัญเชิญกระจกออกมาแล้วส่องดูตัวเอง เธอเห็นกลุ่มเปลวเพลิงสีเงินกําลังโลดเต้นอยู่บนหน้าผากของเธอ และรู้ว่านี่เป็นสัญญาผูกมัดระหว่างเธอกับตัวตนเมื่อซักครู่นี้
หลังจากใช้เทเลพอร์ท, ลิงค์กับริเอลก็พบว่าตัวเองมาอยู่ ในภพที่ไม่รู้จัก ในสถานที่แห่งนี้ พวกเขามองเห็นแสงแปลกๆและทัศนียภาพที่พิลึกไปหมด ทุกอย่างถูกบิดเบือน, เต็มไปด้วยแสงสีและแม้กระทั้งร่องรอยของสายฟ้า ลิงค์ได้ยินเสียงหายใจของริเอลข้างๆเขา
เขารู้สึกได้ว่าพวกเขากําลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว, เหมือนกับรถยนต์ความเร็วสูง แล้วเขาก็รู้สึกว่ามีเส้น มานายุ่งเหยิงจํานวนมากกําลังพุ่งมาทางเขาอย่างไม่รู้จบ, เห มือนกับว่าพวกมันอยากจะฉีกเขาให้เป็นชิ้นๆ
เขารู้ว่าถ้าเขายอมให้มานาพวกนี้พุ่งเข้ามาในร่างกายของ เขา, เขาอาจจะระเบิดเป็นชิ้นๆ
ลิงค์เปิดใช้พลังมังกรเพื่อป้องกันกระแสมานาน และมันก็ได้ผล! เขาคิดไม่ผิดเลย; พลังระดับตํานานสามารถป้องกันแรงกดดันจากมิติได้จริงๆ
พลังมังกรลดลงในอัตราที่สูงมาก แค่ตอนที่เขาคิดเขาก็ไม่สามารถรักษาการเผาผลาญได้อีกแล้ว, ฟูว! หลังจากนั้นในทันที, รอบตัวของเขาก็สงบลง, และความบ้าคลั่งก็หายไป
เขาพบว่าเขาอยู่ในถ้ํากว้างที่มีความสูงอย่างน้อย 60 ฟุต และเส้นทางข้างหน้าก็คือทางออก
ยับบ้าคนแรกที่พบกว่าตัวเองเดินทางข้ามภพบอกว่าเธอหายตัวไปจากถ้ําบางแห่ง นี่น่าจะเป็นถ้ําที่ว่านะ
“อ้ากก! เหวอออ!” เสียงร้องโหยหวนดังมาจากข้างๆเขา และยาวนานถึงสองวินาทีเต็ม ตุบ ลิงค์รู้สึกว่าพื้นสั่นเล็กน้อย แล้วหันไปดูสิ่งที่เกิดขึ้น, ลิงค์เห็นริเอลกําลังนอนอยู่บนเศษหินที่อยู่ในถ้ํา พื้นที่ตรงนั้นถูกประทับด้วยรูปร่างของเขา
“โอ้ย! เจ็บชะมัด!” ริเอลกําลังกลิ้งไปทั่วพื้นพร้อมกับร้อง โอดครวญอย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากสภาพของเขาที่ยังแข็งแรงเต็มที่ขนาดนี้, เขาน่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงอะไร
ลิงค์กลับมาสนใจสภาพร่างกายของเขา
เขามีพลังมังกรเหลืออยู่ 300 แต้ม, แต่พวกมันก็กําลังฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว แม้ว่า, พวกมันจะฟื้นฟูในอัตรา 18 แต้มต่อวินาที, ซึ่งช้ากว่าในอารากู่ แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, ลิงค์ก็สังเกตุเห็นว่าเขาได้รับสถานะ “ออร่าแห่งความว่างเปล่า”
ออร่าแห่งความว่างเปล่า “หลังจากที่เดินทางผ่านความว่างเปล่า, ออร่าที่บ้าคลั่งจากความว่างเปล่าจะติดตัวผู้เล่นมาด้วย, และขัดขวางผู้เล่นจากการใช้เวทมนตร์ ผลนี้จะเริ่มหายไปหลังจากที่เวลาผ่านไป 300 ชั่วโมงและจะหายไปอย่างสมบูรณ์หลังจากผ่านไป 30 วัน
ลิงค์ตกตะลึง เขาพยายามร่ายเวทย์มิติ อย่างไรก็ตาม, เขาตระหนักได้ในทันทีว่าพอพลังมังกรออกมาจากร่างกายของเขา, พลังลึกลับบางอย่างก็จะเข้ามาแทรกแซงและสลายพลังมังกรทิ้ง, ขัดขวางมันจากการแปรสภาพเป็นโครงสร้างเวทมนตร์
ลิงค์ดูบหน้าผากของเขาแล้วถอนหายใจ “เอาเถอะ, 300 ชั่วโมงก็น่าจะประมาณ 13 วันสินะ อย่างน้อยมันก็ไม่ได้นานซักเท่าไหร่”
“ระบบ, ได้บันทึกข้อมูลจากการเทเลพอร์ทเอาไว้รึเปล่า?”
การเทเลพอร์ทเกี่ยวข้องกับการเดินทางผ่านมติแห่งความว่างเปล่า นี่เป็นข้อมูลที่มีค่ามากๆ, การใช้มันจะทําให้ลิงค์สามารถพัฒนาความเข้าใจของเขาในเรื่องของมิติได้อย่างมากมายมหาศาล
มันถูกบันทึกเอาไว้ในชื่อ “เทเลพอร์ทข้ามมิติ: ความว่างเปล่า” และสามารถเขาถึงได้ตลอดเวลา
“เยี่ยมเลย”
ลิงค์ดีใจ เขายื่นมือไปหาริเอล
“อูยย, กระดูกของข้าแทบหักเลยนะเนี่ย” ริเอลบ่นอุบอิบ เขายังนอนอยู่บนพื้น, อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เขาเห็นมือของลิงค์, เขาก็คว้ามันแล้วดึงตัวเองขึ้นมา หลังจากที่ปัดฝุ่นออกจากตัว, เขาก็ถอนหายใจ “ในที่สุดข้าก็ได้กลับมาซักที การเทเลพอร์ทครั้งนี้มันโหดร้ายจริงๆ: พละกําลังของข้าหายไปหมดแล้ว”
–
ริเอลดูโทรมกว่าลิงค์และยังมีอัตราการฟื้นตัวที่ช้ากว่า สภาพของเขาเลวร้ายกว่าลิงค์อย่างเห็นได้ชัด, และในช่วงสองสามวันนี้, เขาน่าจะไม่สามารถฟื้นพละกําลังในการต่อสู้กลับมาได้
“มันจะค่อยๆฟื้นตัวอย่างช้าๆ” ลิงค์พูด, ในขณะที่เดินไปยังทางออกถ้ํา
พอมาถึงทางออก, ลิงค์ก็พบว่าพวกเขาอยู่ในช่วงกลางทางที่จะขึ้นภูเขาลูกใหญ่ ในระยะนี้, มีโล่สีเหลืองขนาดยักษ์อยู่ด้วย
“นั่นมันเมืองหลวงของยับบ้า, ลาริเอล! ดูนั่นสิ… พวกดาร์คเอลฟ์กับปีศาจ นั่นมันกองทัพแห่งความมืดนี่!” ริเอลพูด, ในขณะที่เดินตามหลังลิงค์
ลิงค์เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในทันที “กองกําลังหลักของกองทัพ แห่งความมืดกําลังโจมตีป้อมโอริด้าอยู่ แต่พวกมันทิ้งกองกําลังเล็กเอาไว้ที่นี่เพื่อแกล้งทําเป็นโจมตีต่อ ซึ่งนี่เป็นการป้องกันไม่ให้ยับบ้าเข้าร่วมการต่อสู้ด้วย”
จากความแตกต่างเรื่องเวลา, พวกเขาใช้เวลาครึ่งปีในอารา, แต่มันเพิ่งผ่านไปแค่สองวันเท่านั้นสําหรับที่นี่ ข่าวจากโอริด้าน่าจะยังมาไม่ถึงกองทัพสํารองนี้
ด้วยการมองเพียงปาดเดียว, ลิงค์ก็เห็นว่ากองทัพสํารองนี้ไม่ได้อ่อนแอ ด้วยการใช้สายตาที่คมกริบของเขา, เขานับจํานวนปีศาจได้มากกว่า 4,000 ตัว, รวมทั้งปีศาจปีกโหยหวนอีก 30 ตัวที่กําลังบินอยู่บนฟ้า กองทัพดาร์คเอลฟ์เองก็มีมากมายเช่นกัน, น่าจะมากกว่า 8,000 คน
มาบางอย่างสว่างขึ้นในทัศนวิสัยของเขา ลิงค์หันไปดู มันคือภารกิจ
ภารกิจช่วยเหลือ: ส่งสาร
รายละเอียด: แทรกซึมเข้าไปในวงล้อมของกองทัพแห่งความมืดและแจ้งลาริเอลเกี่ยวกับสถานการณ์ภายนอกเมือง
รางวัลภารกิจ: ค่าโอมนิ 200 แต้ม
ลิงค์คิดอยู่พักนึงแล้วตัดสินใจรับมัน ไม่ว่ายังไงโอริด้าก็ต้องการกําลังเสริม, และกองเรือเหาะของยับบ้าก็เป็นกําลังเสริมที่แข็งแกร่ง แต่ปัญหาก็คือตอนนี้, เขาไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้เลย ริเอลเองก็อยู่ในสภาพที่อ่อนแอมากๆ การส่งข่าวไปยังลาริเอลนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างแน่นอน