Advent of the Archmage - 398: มั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม
Advent of the Archmage Chapter 398: มั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม
ฟิ้ว ฟิ้ว เสียงลมหอนดังมาจากด้านข้าง
แลนนี่พูดเบาๆ “ข้างหน้าคือใจกลางของส่วนบําบัดน้ำเสีย ฟังจากเสียงแล้วระบบระบายอากาศน่าจะยังใช้ได้อยู่ มันจะระบายอากาศจากข้างในอุโมงค์นี้ออกไปด้านบน”
ลิงค์พยักหน้าและถูจมูกของเขา เขาพูด “สถานการณ์น่าจะไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ ฉันได้กลิ่นเลือดแรงมาก”
ถึงแม้ว่าระบบระบายอากาศจะใช้งานได้ แต่ลิงค์ก็ยังคงได้กลิ่นเลือดในอากาศ
กลิ่นเลือดของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน โดยอิงจากมวลร่างกาย ปริมาณมานา และรายละเอียดยิบย่อยอีกมากมาย โดยปกติแล้วคนธรรมดาจะไม่สามารถบอกถึงความแตกต่างของมันได้ แต่ว่าลิงค์นั้นทําได้
ลิงค์สามารถดมกลิ่นที่อยู่ในส่วนกลางได้ ที่นั่นมีศพประมาณ 30 ศพ บางทีพวกเขาน่าจะมาสายเกินไป
ยังไงก็ตาม ลิงค์ก็ไม่ได้พูดอะไรและเดินไปข้างหน้าพร้อมกับแลนนี่
หลังจากเดินไปได้ 300 ฟุต พวกเขาก็มาถึงบ่อน้ำทรงกลมที่มีความกว้างประมาณ 150 ฟุตที่ใจกลางของบ่อนั้นมีแท่นทรงกลมอยู่ และมีทางเดินสี่เส้นเชื่อมต่อกันด้วยสะพานครึ่งวงกลม ที่ด้านบนห้องน้ำทิ้งมีรูปแบบเวทมนตร์ส่องแสงอันอบอุ่นออกมา มันทําให้ทั่วทั้งห้องใต้ดินสว่าง
แลนนี่มองไปแวบนึ่งและปิดปากของเธอพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื่นออกมาเบาๆ
ที่ด้านหน้ามีกองศพวางซ้อนกันอยู่ ไม่มีศพไหนที่ดูสมประกอบเลย บางคนสมองถูกผ่าเป็น 2 ซีก บางคนร่างกายก็ถูกชําแหละออกจากกันเป็นชิ้นๆ ทั้งสองฝั่งซ้ายขวานั้นเต็มไปด้วยกองเลือดที่แห้งแล้ว มีพื้นที่บางส่วนถูกทําลายไปด้วย บางที่มันน่าจะมาจากการระเบิดของปืนใหญ่
ศพ เศษหิน และลูกปืนใหญ่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ สิ่งเดียวที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้อยู่แถวนี้ก็คือปีศาจมิติ ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของเลือดปีศาจสีดําให้เห็นเลยด้วยซ้ำ
แลนนี่สะอื้น “ไม่ ไม่ คนพวกนี้เป็นนักรบหมดเลย ข้าเชื่อว่าพวกพลเรือนน่าจะยังมีชีวิตอยู่ มันจะต้องเป็นอย่างนั้นสิ”
แลนนี่กําลังจะกระโดดลงไปในบ่อบําบัดน้ำและมองหาผู้คน แต่ว่าลิงค์ได้จับหลังของเธอเอาไว้ เธอดิ้นอย่างรุนแรง “ปล่อยข้านะ! ข้าจะลงไปดู!”
แน่นอนว่า การดิ้นรนของเธอนั้นเปล่าประโยชน์ ลิงค์จับเธอไว้ด้วยแรงแค่เล็กน้อยและดึงเธอกลับมาข้างๆเขา เขามองไปยังพื้นที่รอบๆและเตือนเธอเบาๆ “แลนนี่ เธอพูดถูก ยังมีผู้รอดชีวิตเหลืออยู่ แต่ก็เพราะว่ายังมีผู้รอดชีวิตอยู่เนี่ยแหล่ะจึงเป็นเหตุผลที่มันยังไม่ได้ไปไหน”
แลนนี่ตัวสั่นและเงียบลง พรึ่บ เธอควักปืนคาบศิลาออกมา
ยังไงก็ตาม ความแรงของปืนคาบศิลานั้นเบาเกินไป มันไม่มีประโยชน์อะไร มันไม่น่าจะสามารถเจาะเกราะป้องกันของปีศาจได้ด้วยซ้ำ
ลิงค์เอาปืนคาบศิลาที่เขาเก็บได้ออกมาและยื่นมันให้กับแลนนี่ “เอานี้ไป ฉันเก็บมันได้ระหว่างทาง”
ปืนนี้มีความแรงมากกว่า แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นอันตรายกับปีศาจเลเวล 9 ซักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยมันก็สามารถทําให้บาดเจ็บได้ เห็นได้ชัดว่าแลนนี่ไม่สามารถทําอะไรได้เลย แต่ว่าเธอสามารถช่วยเหลือลิงค์และก่อกวนได้ในตอนที่เขาต่อสู้กับปีศาจ
แลนนี่พยักหน้า “เข้าใจแล้ว”
“ดี ตามฉันมา” ลิงค์พูดพร้อมกับเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง เขานั้นกําลังอยู่ในสภาพตื่นตัวอย่างเต็มที่
ยังไงก็ตาม ปีศาจมิติก็ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาเลยตั้งแต่ที่ลิงค์เดินผ่านห้องบําบัดน้ำไปจนถึงอีกฝั่งของแท่น ทั้งหมดที่พวกเขาได้ยินก็คือเสียงลมหอนที่อยู่ในห้องโถง
“แปลกมาก” ลิงค์พูดพร้อมขมวดคิ้ว เขามองไม่ออกว่าปีศาจต้องการอะไร
ด้านหน้าของเขาเป็นทางเดินกว้าง ที่สิ้นสุดทางเดิน มีประตูขนาดใหญ่อยู่ ระหว่างทางนั้นมีรอยเท้าและเลือดอยู่เต็มไปหมด
ลิงค์ก้มตัวลงไปตรวจดูร่องรอย “รอยเท้าไปทางประตู มีคนอยู่อย่างน้อย 100 คน ฉันคิดว่านี้น่าจะเป็นของผู้รอดชีวิตนะ”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็หันไปหาแลนนี่ “อยู่ใกล้ๆฉันเอาไว้ พวกเราจะเดินหน้ากันต่อ”
แลนนี่พยักหน้า เธอกอดปืนคาบศิลาขนาดใหญ่ไว้ที่หน้าอกของเธอแล้วเดินตามลิงค์ไปติดๆ พร้อมกับมองไปรอบๆอย่างระมัดระวังตลอดเวลา
หลังจากเดินตามทางไปได้ประมาณ 60 ฟุต ลิงค์ก็ตะโกนขึ้นมาในทันที “หยุดก่อน ข้างหน้านี้มีรูปแบบเวทมนตร์อยู่ ดูเหมือนว่าจะมีนักเวทย์อยู่ในหมู่ผู้รอดชีวิตด้วยนะ ดูจากทักษะของเขาแล้วเขาน่าจะมีเลเวลประมาณ 7”
พื้นที่ด้านหน้าดูปลอดภัยมากๆและไม่มีอะไรผิดปกติเลย ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของมานาหลงเหลืออยู่ รูปแบบเวทมนตร์ระดับสูงขนาดนี้จะไม่มีทางสร้างขึ้นมาได้เลยถ้าไม่ใช่นักเวทย์ที่มีทักษะมากพอ
แลนนี่นั้นตัวเตี้ยและสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ที่พื้นหรืออยู่ในมุมตํ่าได้ชัดเจนกว่า เธอชี้ไปที่ฐานของท่อน้ำทิ้งและพูดขึ้น “ดูสิ! ตรงนั้นมีกระสุนวางซ้อนกันอยู่เต็มเลย พวกมันคือกระสุนเพลิงเลเวล 6 น่าจะมีอยู่ประมาณ10ลูกนะ”
ลิงค์ตามร่องรอยมานาที่อยู่ในอากาศไปและเข้าใจเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว “นี่เป็นกับดัก กับดักนี้ทําได้ดีมากๆ ต่อให้เราผ่านมันไปโดยที่ไม่แตะพื้นหรือกําแพงเลย กับดักก็จะยังคงทํางานและเกิดระเบิดอยู่ดี ระเบิดนี้จะส่งผลต่อปีศาจมิติที่ซ่อนอยู่อีกมิตินึงและฉีกมันเป็นชิ้นๆ ฉันเชื่อว่าเป็นเพราะสิ่งนี้แหละที่ทําให้ปีศาจไม่กล้าเข้ามา พวกผู้รอดชีวิตจะต้องอยู่ข้างในนี้แน่ๆ”
“เจ้ามีวิธีที่จะผ่านมันได้รึเปล่า?” แลนนี่ถาม
“แน่นอน” ลิงค์พยักหน้า เขาค่อยๆสังเกตดูการไหลของมานาในรูปแบบเวทมนตร์อย่างระมัดระวัง หลังจากผ่านไป 10 วินาที เขาก็ยื่นนิ้วของเขาออกมาและใช้พลังมังกรในการจิ้มไปที่จุดต่างๆในอากาศ
1 วินาทีต่อมา โครงสร้างเวทมนตร์ของรูปแบบเวทมนตร์ก็แตกออก และในที่สุด มันก็หายไปและกลายเป็นควันสีขาว
ในตอนที่โครงสร้างนั้นพังทลายลง ก็เกิดเสียงวุ่นวายขึ้นที่หลังประตู บ้างก็เป็นเสียงร้องไห้ บ้างก็เป็นเสียงหายใจด้วยความรุนแรง และยังมีแม้กระทั่งเสียงตกใจและเสียงฟันสีกันอีกด้วย
เห็นได้ชัดว่าผู้คนที่อยู่ข้างในนั้นแตกตื่นเพราะรูปแบบเวทมนตร์ถูกทําลาย
ลิงค์ฟังอย่างระมัดระวังและคาดคะเน “มีคนอยู่ข้างในประมาณ 200 คน แลนนี่ เรียกพวกเขาแล้วบอกพวกเขาว่าพวกเรามาช่วยแล้ว”
ในตอนนี้ เขาไม่กล้าทําอะไรที่ผลีผลาม ทุกคนที่อยู่ข้างในนั้นต่างก็อยู่ในสภาวะตึงเครียด ถ้าเกิดว่าพวกเขาแตกตื่น หนึ่งในพวกเขาอาจจะจุดระเบิดและฆ่าทุกคนที่อยู่ข้างในเลยก็ได้
แลนนี่พยักหน้า “ทุกคน ข้าแลนนี่ อัลลิเวย์ ไม่ต้องแตกตื่นไป ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยพวกท่าน และข้าก็ไม่ได้มาคนเดียว ข้ามากับลอร์ดแห่งเฟิร์ดจากทางใต้ นักเวทย์ลิงค์ เขาเป็นคนที่เพิ่งจะทําลายรูปแบบเวทมนตร์ไปเมื่อสักครู่นี้ไม่ต้องกลัวนะ”
หลังจากที่แลนนี่ตะโกน ก็เกิดความเงียบขึ้นประมาณ 10 วินาที จากนั้น ประตูก็เปิดออก ด้านหลังประตูนั้นเป็นห้องขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยชาวยับบ้า
คนที่เปิดประตูออกมานั้นคือชายแก่ชาวยับบ้า ผมของเขามีสีขาว และเขาสวมผ้าคลุมนักเวทย์สีน้ำเงิน ในตอนที่เขาเห็นแลนนี่ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง “แลนนี่! เจ้ายังไม่ตายหรอเนี่ย!”
แลนนี่เองก็ดีใจเช่นกัน “มาสเตอร์กรีน ข้าดีใจมากเลยที่ได้เจอท่าน!”
ในตอนที่ยับบ้าที่อยู่ในห้องเห็นภาพนี้ พวกเขาหลายคนก็ยืนขึ้นด้วยความดีใจ พวกเขาคิดว่าพวกเขาได้รับความช่วยเหลือแล้ว ยังไงก็ตาม นักเวทย์ไม่ได้คิดอย่างนั้น เขาถาม “ในตอนที่พวกเจ้าเข้ามา พวกเจ้าเห็นปีศาจมิติบ้างรึเปล่า?”
“ไม่ แต่ว่าพวกเราก็ไล่ตามมันมาจนมาถึงที่นี่” แลนนี่พูดพร้อมกับส่ายหน้า
ยับบ้าที่ชื่อว่ามาสเตอร์กรีนหน้าซีด เขามองไปที่ลิงค์และสับสนเล็กน้อย “ท่านคงเป็นมาสเตอร์ลิงค์สินะ ทําไมถึงดูเหมือนกับว่าท่านใช้ดาบอยู่เลยหล่ะ?”
ลิงค์ยืนอยู่ตรงนั้นและไม่ได้ขยับมาซักพักนึงแล้ว ซึ่งนี่ทําให้ความสามารถพิเศษของผ้าคลุมนักฆ่าทํางานขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ตอนนี้ลิงค์ถูกปกคลุมด้วยหมอกสีน้ำเงินเข้มและทําให้รูปร่างของเขาดูไม่ชัดเจน
ลิงค์ขยับและเดินออกมาจากหมอก เขาอธิบาย “ฉันเพิ่งวาร์ปข้ามมิติมาเมื่อไม่นานมานี้และฉันก็โดนผลของออร่าแห่งความว่างเปล่า ตอนนี้ฉันไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ชั่วคราว ดังนั้นตอนนี้ฉันก็เลยใช้ดาบเป็นการทดแทน”
“มิติ…วาร์ปข้ามมิติ? ทดแทน?” มาสเตอร์กรีนไม่สามารถทําความเข้าใจได้ การปรากฏตัวของลิงค์นั้นตรงกับเรื่องที่เล่ามา แต่ว่าสิ่งที่เขาพูดออกมานั้นแตกต่างออกไปอย่างสมบูรณ์
การวาร์ปข้ามมิตินั้นเป็นทักษะของคนที่เข้าสู่ภพแห่งตํานานไม่ใช่หรอ? และยิ่งไปกว่านั้น นักเวทย์จะสามารถใช้ดาบได้ยังไงกัน? มันไม่ใช่ของที่หยิบมามั่วๆเพื่อทดแทนการใช้เวทมนตร์ได้ซักหน่อย
ยังไงก็ตาม เขาว่ากันว่าลอร์ดแห่งเฟิร์ดนั้นฉลาดมากๆ และเรื่องไร้สาระที่เขาพูดออกมานั้นมันไม่ใช่สิ่งที่คนฉลาดเขาพูดกัน
แลนนี่รู้ว่ามาสเตอร์กรีนกําลังเข้าใจผิด เธอพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “มาสเตอร์ลิงค์รู้วิชาดาบจริงๆนะ และเขาก็เก่งมากเลยด้วย ระหว่างทางที่มาที่นี่เขาฆ่าปีศาจไปหลายตัวแล้ว รวมถึงพวกปีศาจระดับสูงด้วย มันเป็นเรื่องจริง! ท่านต้องเชื่อข้านะ”
มาสเตอร์กรีนยังไม่ค่อยเชื่อนัก แต่อย่างน้อย เขาก็ยังเชื่อว่าลิงค์แข็งแกร่ง ยังไงก็ตาม ลิงค์ไม่ได้สนใจที่จะตอบข้อสงสัยของเขา เขาพูดกับลิงค์ “มาสเตอร์ลิงค์ ปีศาจมิติยังคงซ่อนตัวอยู่ที่ไหนซักแห่ง ท่านมีวิธีจัดการกับมันมั้ย?”
ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ลิงค์ได้สังเกตพวกยับบ้าอยู่ตลอด ดูเหมือนว่าพวกเขาทุกคนเตรียมพร้อมที่จะตายแล้ว ทุกคนได้ผูกระเบิดเอาไว้กับตัวเอง นี่น่าจะสามารถป้องกันการลอบโจมตีของปีศาจมิติได้
ลิงค์เองก็กําลังคิดถึงวิธีจัดการกับปีศาจมิติอยู่พอดี เขาพูดหลังจากที่ผ่านไปพักนึง “ฉันเกรงว่าตอนนี้มันน่าจะกําลังเฝ้ามองพวกเราอยู่และเตรียมพร้อมที่จะลงมือ มาสเตอร์กรีน คุณรู้รึเปล่าว่ามันแข็งแกร่งขนาดไหน?”
ในระหว่างที่เขาพูดเรื่องพวกนี้ ลิงค์ก็คอยมองดูการเคลื่อนไหวของมิติไปด้วย ในตอนที่เขาสัมผัสถึงอะไรบางอย่างได้ เขาจะลงมือตอบโต้ในทันที
“รู้สิ” มาสเตอร์กรีนตอบ “มัน…”
ในตอนที่มาสเตอร์กรีนเริ่มพูด ลิงค์ก็รู้สึกได้ถึงความวุ่นวายของมิติ มันเป็นอะไรบางอย่างที่มีแต่นักเวทย์มิติเท่านั้นที่จะสัมผัสได้
ในสายตาของนักเวทย์มิติ มิตินั้นก็เหมือนกับทะเล สิ่งที่ผ่านมิติไปนั้นก็เหมือนกับปลา ในตอนที่ปลาจะโผล่ขึ้นมาจากน้ำ แม้ว่าคนปกติจะไม่สามารถตรวจจับได้ แต่นักเวทย์มิตินั้นสามารถมองเห็นมันได้โดยอิงจากความผันผวนของมิติ
ปลาออกมาแล้ว มันอยู่ที่ไหนกัน? หืมมม ตรงนี้สินะ!
ลิงค์แทงไปที่จุดที่เขาตรวจจับได้ มันเป็นระยะที่ไม่ห่างจากหน้าผากของมาสเตอร์กรีนซักเท่าไหร่
ฉึบ ลิงค์แทงโดนอะไรบางอย่าง พร้อมกับเกิดรอยแยกขึ้นบนอากาศ มันดูเหมือนกับ จุดสีดําที่ลอยอยู่กลางอากาศ ยับบ้าหลายคนที่มีสายตาเฉียบคมสามารถมองเห็นมันได้ และนักเวทย์กรีนเองก็เห็นมันเช่นกัน
เขาจ้องไปที่ลิงค์ด้วยความตกใจ ตลอดทางที่ผ่านมานี้ พวกเขาถูกโจมตีจากปีศาจมิติซึ่งมันไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้เลย แต่ถึงกระนั้น ลิงค์ก็ยังสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยําว่าการโจมตีจากปีศาจมิติจะมาจากตรงไหนและยังสามารถป้องกันมันได้อีกตะหาก
สิ่งนี้ทําให้มาสเตอร์กรีนมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในความแข็งแกร่งของลิงค์ เขาปกคลุมตัวเองด้วยบาเรียป้องกันและถาม “มาสเตอร์ลิงค์ พวกเราจะทํายังไงกันต่อดีครับ?”