Advent of the Archmage - 423: หรือว่าจะมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ?
Chapter 423: หรือว่าจะมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ?
เทือกเขามอดไหม้, เวลากลางคืน
รถม้าของชายหนุ่มกําลังเข้าไปในเมืองมอดไหม้อย่างช้าๆ มันเดินหน้าไปเรื่อยๆ และในที่สุดก็ผ่านกําแพงชั้นในของเมือง, แล้วขับเข้าไปในเทือกเขามอดไหม้
แน่นอนว่า, ลิงค์ตามไปด้วย
มันเป็นช่วงค่ำแล้ว ประมาณหนึ่งทุ่มได้ เพื่อที่จะไม่ทําให้เซลีนเป็นห่วง, ลิงค์จึงเทเลพอร์ทไปที่ห้องหลักของหอคอยเวทมนตร์
ในหอคอย, เซลีนสวมชุดนอนแล้ว เธอนอนขดตัวอยู่บนโซฟา, กําลังอ่านหนังสือแบบผ่านๆ พอเห็นลิงค์เข้ามา, เธอก็เก็บหนังสืออย่างเขื่อยๆแล้วพูด “อัลโลว่าบอกว่านาย ไปหาแวนซ์ เป็นยังไงบ้างหล่ะ”
ลิงค์หัวเราะ “เขาดีใจมากเลยหล่ะ ไปใส่เสื้อผ้าดีๆเถอะ ฉันจะพาเธอไปดูอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ”
เซลีนที่กําลังเบื่อรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที เธอคว้าเสื้อผ้า, แล้วไม่กี่วินาทีต่อมา, เธอก็แต่งตัวเสร็จ “เรียบร้อย ไปกันเถอะ!”
ลิงค์จับมือเธอแล้วใช้เวทย์ข้ามมิติอีกครั้ง พริบตาต่อมาทั้งสองก็ปรากฏขึ้นในห้องใต้หลังคาของโรงแรมเทือกเขามอดไหม้ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยฟุต ห้องใต้หลังคานี้เล็กมาก, และไม่มีใครอยู่ พื้นเต็มไปด้วยฝุ่น; และตรงมุมก็มีใยแมงมุมอยู่
“เวทย์ทําความสะอาด!”
ลิงค์โบกคทาเล็กน้อย มีเสียงฟุบ, แล้วฝุ่นกับยัยแมงมุมก็หายไป จากนั้นลิงค์ก็หมอบลงที่ตรงหน้าต่าง “มาสิ” เขาพูดอย่างมีเลศนัย “เธอเห็นรถม้าข้างล่างนั่นไหม?”
เซลีนครุ่นคิดกับคําพูดของลิงค์ เธอไปหมอบลงข้างๆลิงค์และพอมองออกไป, เธอก็เห็นรถม้าสีดําธรรมดาๆคันนึงกําลังขับมาทางโรงแรมอย่างช้าๆ
“ก็ปกตินี่” เซลืนไม่เข้าใจ มีรถม้าแบบนี้มากมายใน เมืองมอดไหม้
ลิงค์ตัวแข็งที่อและเข้าใจการตอบสนองของเซลีนขึ้นมาได้ในทันที เขากระซิบข้อความที่ได้ยินจากท่าเรือให้เซลีนฟัง จากนั้นเขาก็หัวเราะแล้วพูด “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าโจรคนนี้กําลังคิดอะไรอยู่ เขาหลอกเด็กผู้หญิง, ซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับให้เธอ, แล้วพาเธอมาที่เทือกเขามอดไหม้”
เซลีนรู้สึกสนใจขึ้นมา “แปลกจัง”
จากนั้นทั้งสองก็หมอบอยู่ในห้องใต้หลังคาของโรงแรมอย่างเงียบๆ, เฝ้าดูรถม้าขับเข้ามา มันหยุดที่ทางเข้าโรงแรม คนแรกที่ลงมานั้นคือชายหนุ่มหน้าตาดี เขาเปลี่ยนไปสวมชุดเป็นทางการสีดํา หลังจากที่ลงมาจากรถ, เขาก็ยืนมือเข้าไปข้างในแล้วช่วยรับเด็กสาวลงมาจากรถม้า
พอเห็นภาพนี้, เซลีนก็แสดงความคิดเห็น “หล่อดีนะ เขาดูไม่เหมือนคนที่ฉันจะมองหาได้ตามท้องถนนเลย
ลิงค์หัวเราะเบาๆ เขาต้องสอนบทเรียนให้หญิงสาวคนนี้(เซลีน)ในตอนที่พวกเขากลับไป จากนั้นความสนใจของเขาก็กลับมาที่ชายหนุ่ม ตอนนี้พอมองไปที่เขา, ลิงค์รู้สึกตกใจเล็กน้อย “แปลกแฮะ” เขากระซิบ
“มีอะไรหรอ?” เซลีนรู้สึกว่าชายหญิงคู่นี้ดูน่าดึงดูดทั้งคู่ แต่เธอไม่สามารถบอกได้ว่าทําไม มีคนแบบพวกเขาอยู่มากมายภายในเมืองมอดไหม้แห่งนี้
“ผู้ชายคนนั้นมีอะไรผิดปกติบางอย่าง” ลิงค์อธิบาย “ที่ท่าเรือ, เขาไม่มีออร่าอะไรเลย เขาเป็นแค่คนธรรมดาคนนึง แต่ตอนนี้ฉันสัมผัสได้ถึงออร่าความระมัดระวัง”
พอได้ยินแบบนั้น, เซลีนก็เพ่งสมาธิแล้วสัมผัสออร่าของชายคนนั้น ไม่กี่วินาทีต่อมา, เธอก็ขมวดคิ้วเหมือนกัน “ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นนักเวทย์ และค่อนข้างแข็งแกร่งด้วย, เขาน่าจะมีเลเวลอย่างน้อย 5”
ชายคนนั้นดูเหมือนจะมีอายุแค่ 23 ปี ถ้าคนหนุ่มแบบนี้สามารถมาถึงเลเวล 5 ได้, เขาก็น่าจะถูกนับเป็นอัจฉริยะระดับต้นๆในฟิรุแมนเลยก็ว่าได้ แต่ก็แน่นอนว่า, ไม่รวมลิงค์, ที่ผิดปกติเกินไป
นั่นไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดที่ทําให้เซลีนตกใจ เธอพูดต่ออย่างเงียบๆ “ออร่าของเขาถูกบดบังอยู่ ถ้านายไม่รู้มาก่อน, นายจะสามารถบอกความแตกต่างได้ไหม?”
ลิงค์ส่ายหัว “ไม่ได้เลย ฉันคงจะคิดว่าเขามีพรสวรรค์ทางด้านมานาที่สุดยอดมาก”
“ถ้าแม้แต่นายยังจับไม่ได้, นักเวทย์คนอื่นก็คงจะทําไม่ได้อย่างแน่นอน หรือว่าเขาจะปลอมตัวเป็นนักเวทย์เพื่อแอบเข้าไปในหอคอยเวทมนตร์?” เซลีนสันนิษฐาน
“เป็นไปได้นะ, แต่มันก็แค่การคาดเดา มาดูกันต่อเถอะ”
ตอนนี้, ชายหญิงคู่นั้นได้เข้าไปข้างในโรงแรมซึ่งอยู่ใน ที่จุดมองไม่เห็นจากห้องใต้หลังคา ลิงค์ร่ายเวทย์บิดเบือนมิ ติและสร้างให้อันนึงอยู่ที่หน้าต่างห้องใต้หลังคา และอีกอัน ตามชายหนุ่มคนนั้นไป
หลังจากนั้น, ลิงค์ก็ปูเสื่อลงบนพื้น “เราสองคนมาดูกันต่อเถอะ”
เซลีนนั่งลงข้างๆเขา, แล้วเอนตัวเข้ามาซบแขนของเขา
ที่จอแสดงภาพบนหน้าต่าง, ชายหนุ่มกําลังจ่ายเงินค่าห้อง เขาได้ห้องที่ชั้นสาม, แล้วเขาก็พาหญิงสาวเข้าไปในห้อง
ข้างในห้อง, เขาปิดประตู โจรดูเหมือนจะโล่งใจ, แล้วเขาก็เริ่มพูดคุยกับหญิงสาว เห็นได้ชัดว่ามันคือบทสนทนาที่ไม่ค่อยมีความสุข แต่ในที่สุด, เด็กสาวก็ถูกโน้มน้าว, แล้วเธอก็พยักหน้า
ลิงค์ไม่สามารถฟังเสียงผ่านเวทย์นี้ได้, แต่เขาก็สามารถแกะเนื้อหาออกมาได้ด้วยการอ่านริมฝีปาก
ในขณะที่ดู, เขาก็ขมวดคิ้ว
“เขาพูดว่าอะไรหรอ?” เซลีนถาม
“โจรบอกว่าจะมีการจัดประชุมนักเวทย์เล็กๆขึ้นที่เทือกเขามอดไหม้ในวันพรุ่งนี้ เขาจะพาผู้หญิงคนนั้นไปกับเขาด้วย เขาบอกว่าเขาอยากเรียนรู้เวทย์มนตร์และที่นั่นเขาก็รู้จักนักเวทย์อย่างเป็นทางการคนนึงที่มีชื่อว่าเอดมันด์ เขาอยากให้เด็กสาวคนนั้นไปจีบเขาแล้วโน้มน้าวให้เอดมันด์พาเขาเข้าไปในหอคอยเวทมนตร์เพื่อร่ำเรียน”
เซลีนขมวดคิ้วในทันที “เขาโน้มน้าวให้เธอทําแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย?”
ลิงค์ยักไหล่ “เงินทอง, คําขู่และความรักหลอกลวงอีกนิดหน่อย…โจรคนนี้ร้ายกาจมากจริงๆ, ส่วนผู้หญิงคนนี้ก็หัวอ่อนเกินไป ซึ่งนั่นทําให้เขาได้รับผลประโยชน์เต็มๆ”
เซลินเดือนขึ้นมา “ฉันอยากจะเปาหัวไอหมอนั่นจริงๆ!”
ลิงค์โบกมือ “ใจเย็นก่อนสิ ในเมื่อพวกเราจับไต่โจรคนนี้ได้แล้ว, เขาคงไม่ได้พบจุดจบที่ดีหรอก ตอนนี้, ฉันอยากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับเอดมันด์ จากที่โจรบอก, เอดมันด์คนนี้น่าจะอยู่ในหอคอยเวทมนตร์ของฉัน, และเขาก็มีตําแหน่งซะด้วย เธอรู้จักเขาไหม?”
เซลีนคิดอย่างเต็มที่ หลังจากผ่านไปพักใหญ่ๆ, เธอก็พูดออกมาอย่างไม่มั่นใจ “ฉันน่าจะเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน…ขอคิดแปบ…อ้ะ, ฉันคิดว่าเขาเป็นนักเวทย์ระดับต่ำนะ เขาน่าจะเป็นนายทะเบียนของหอคอย, ฉันได้ยินมาว่าเขาชอบหญิงสาวมากๆ โดยเฉพาะสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ, เขาไม่เคยทําเรื่องแย่ๆเลย แล้วฉันก็ยุ่งมากจริงๆ, ดังนั้นฉันก็เลยไม่ได้สนใจเขาเลย”
“อืม” ลิงค์พยักหน้า เขามองชายหนุ่มคนนั้นแล้วพูด “เขาอาจจะอยากแอบเข้าไปในหอคอยเวทมนตร์เพื่อขโมยอะไรบางอย่าง แต่ฉันไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลยนะ, นอกจากหนังสือเวทมนตร์ระดับต่ำ มีอะไรบ้างนะที่มีค่าพอให้โจรเลเวล 6 ที่มีแหวนระดับตํานานอยากขโมย?”
เซลีนพูดไม่ออก เธอมองลิงค์ “มีของมีค่าอยู่เยอะเลยหล่ะ นายไม่รู้หรอว่าหลังจากที่นายมีชื่อเสียงในฐานะนักเวทย์ระดับตํานานที่โด่งดังไปทั่วทวีปนั้น ทําให้มีนักเวทย์มากมายมาหานาย, และอยากจะเรียนเวทมนตร์จากนาย”
“งั้นหรอ?” ลิงค์เกาหัว มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ เขามัวแต่จดจ่ออยู่กับวิทยานิพนธ์มิติจนเขาไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เลย
“ใช่ แล้วหอคอยเวทมนตร์ก็ไม่ได้ว่างเปล่าเหมือนที่นายพูดด้วย มีของมีค่าอยู่ข้างในมากมาย ไม่ต้องยกตัวอย่างอะไรมาก, แค่สมุดบันทึกเวทมนตร์ของนายก็มีค่าจนตีราคาไม่ได้แล้ว มันมีค่าพอสําหรับให้โจรที่มีพรสวรรค์มากที่สุดมาขโมยซะด้วยซ้ำ, แต่ว่านายนี่ก็ชอบวางทิ้งไว้บนโต๊ะจังเลย ฉันก็เลยต้องคอยตามเก็บให้ตลอด”
“หรอ แต่พวกมันอ่านไม่รู้เรื่องหรอกหน่า…เดี๋ยวนะ, พวกมันเอาไปขายก็ได้นี่เนอะ น่าจะมีคนที่สามารถอ่านมันได้อยู่” ลิงค์รู้ถึงความผิดพลาดของเขาแล้ว
ตอนนี้เขาเป็นนักเวทย์ระดับตํานาน แม้กระทั่งเสี้อผ้าหรือของใช้ของเขาก็น่าจะขายเป็นเครื่องรางได้ ถ้ามีคนมาขโมยสมุดของเขาได้จริงๆ มันก็สามารถเอาไปแลกเมืองๆ นึงได้เลย
อันที่จริง, สมุดนั้นไม่ได้มีความหมายกับลิงค์ซักเท่าไหร่ ความรู้ทั้งหมดได้ฝังแน่นอยู่ในหัวของเขาแล้ว สมุดก็เป็นแค่ตัวช่วยเสริม, และเขาก็มองข้ามคุณค่าของมันไป
พอคิดถึงเรื่องนี้, เขาก็มีคําถามขึ้นมาอย่างกระทันหัน “โจรคนนี้ดูธรรมดามากเลยนะ, แต่แหวนของเขาไม่ใช่เลย ฉันไม่รู้ว่าเขาไปได้มันมาจากที่ไหน บางทีเขาน่าจะมีคนคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง”
“หรือว่าจะมีนักเวทย์คนสําคัญอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้?” เซลีนคาดเดา
ลิงค์คิดเกี่ยวกับมัน “ก็เป็นไปได้นะ ถ้าคนๆนี้มีตัวตนอยู่จริงๆ เขาก็ต้องเป็นศัตรูของพวกเราแน่ๆ ไม่อย่างนั้น, เขาคงจะไม่ทําแบบนี้ เขาแค่มาขอฉันโดยตรงก็ได้”
“ตอนนี้เราควรจะจับเขาไหม?” เซลีนถาม
ลิงค์ส่ายหัว “ยังก่อน ปล่อยให้โจรคนนั้นเข้ามาขโมยเถอะ ฉันอยากใช้เขาตามหาคนที่อยู่เบื้องหลัง แล้วพวกเราจะได้เห็นด้วยว่ามีช่องโหว่วอะไรบ้างที่อยู่ในหอคอยเวทมนตร์ของเรา”
คนที่มีแหวนระดับตํานานที่สามารถตบตาลิงค์ได้นั้นต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
แล้วมันจะเป็นใครกันนะ?