Advent of the Archmage - 444: ความสิ้นหวังของนักเวทย์ดวงดาว
Advent of the Archmage Chapter 444: ความสิ้นหวังของนักเวทย์ดวงดาว
ในวิหารมังกร
ภายในห้องแห่งหนึ่ง, มีเด็กสาวผมเงินที่กําลังหลับคนนึ่ง, ละเมอออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ไม่! อย่าฆ่าข้า! อย่าฆ่าข้า!”
เธอส่งเสียงร้องแล้วจากนั้นก็ดีดตัวขึ้นมานั่งบนเตียง, และฝืนลืมตาขึ้นมา
ในที่สุดเธอก็กลับมาควบคุมร่างกายของตัวเองได้, เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ชื่อของเธอคือลูเซีย ซิลเวอร์สตาร์, และเธอก็พึ่งจะตื่นขึ้นจากฝันร้าย
ในความฝัน, เธอกําลังอยู่ในร่างดวงดาวเพื่อส่องเข้าไปในทะเลแห่งความว่างเปล่าเหมือนกับที่เธอทําอยู่ประจําเพื่อคลี่คลายความลึกลับของความว่างเปล่า จากนั้นเธอก็เห็นอะไรแปลกๆ, มีลูกบอลสีดํากําลังลอยอยู่ในทะเล
ด้วยความสงสัย, เธอจึงเข้าไปดู, และโดยที่ไม่มีการเตือนอะไรเลย, ก็มีดวงตาสีแดงโผล่ออกมาจากพื้นผิวของลูกบอลนั้น มันจ้องมาที่เธอในทันที, พร้อมกับแผ่พลังงานเวทมนตร์ที่ผิดปกติ
ว่าไง, นักเวทย์ตัวน้อย, ข้าเห็นเจ้าแล้วนะ!
เสียงนั้นดังก้องอยู่ในหัวของเธอ, ทําให้เธอรู้สึกประหลาดใจ, หลังจากนั้นเธอก็พยายามดึงตัวเองออกมาจากทะเลแห่งความว่างเปล่า แต่ว่ามันก็ไร้ประโยชน์, มีหนวดนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากส่วนลึกของทะเล พวกมันพันรอบตัวเธอเอาไว้จนกลายเป็นลูกบอลในทันที
นักเวทย์ตัวน้อย, ดิ้นรนไปก็เปล่าประโยชน์, 5555! เสียงนั้นดังขึ้นในหัวของเธออย่างโหดร้ายอีกครั้งนึง
คลื่นแห่งความกลัวถาโถมเข้าใส่เธอซึ่งนั่นทําให้ลูเซียตื่นขึ้นมาในทันที
เธอมองไปรอบๆห้อง ทุกอย่างนั้นต่างก็ดูใหญ่โตไปหมด เพดานอยู่สูงจากเธอประมาณห้าฟุต, และเตียงที่เธอกําลังนอนอยู่ก็กว้างมากๆ, มันมีความยาวประมาณสามฟุต เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก ข้าอยู่ในวิหารมังกรสินะ; ดูเหมือนว่าข้าน่าจะปลอดภัยแล้ว
เท่าที่เธอรู้, กําแพงมิติในวิหารมังกรนั้นมีความยืดหยุ่นสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเวทย์ข้ามมิติรูปแบบไหนก็ไม่สามารถร่ายในกําแพงพวกนี้ได้, ความว่างเปล่าน่าจะไม่เป็นปัญหาซักเท่าไหร่ในตอนที่เธออยู่ที่นี่
ร่างกายที่อ่อนแอของเธอนั้นให้ความรู้สึกหนักอึ้ง, โดยเฉพาะหลังจากที่ผ่านฝันร้ายอันน่ากลัวแบบนั้น ต่อให้เป็นการเคลื่อนไหวง่ายๆอย่างการลุกขึ้นนั่งก็ยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลําบากสําหรับเธอ
ด้วยการเอนตัวกลับไปนอนบนเตียง, เธอก็จ้องบนเพดานอย่างเหม่อลอยและเริ่มคิดว่าจะทํายังไงต่อไปดี “อยู่ที่นี่ข้าน่าจะปลอดภัย, และน่าจะรวมถึงตอนที่อยู่ในเขตหมู่บ้านมังกรด้วย แต่ถ้าข้าก้าวออกไปข้างนอก, มันจะต้องตามหาข้าอย่างแน่นอน ข้าหนีไปไหนไม่ได้, ข้าต้องหาคนช่วยจัดการผู้ปกครองแห่งความว่างเปล่า!”
เสียงอันชั่วร้ายดังก้องในหัวของเธอแล้วตอบกลับ ความคิดของเธอ, เจ้าคิดจะหาคนมาช่วยจัดการข้าอย่างงั้นหรอ? โถ, ช่างน่าเศร้าจริงๆ
ร่างของลูเซียสั่นอย่างรุนแรง, และดวงตาของเธอก็เบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว “เจ้าเป็นใคร?”
เจ้าจําเสียงของข้าไม่ได้หรอ, มันซึ่งผ่านมาไม่นานเองนะที่เราได้มีช่วงเวลาสนิทสนมกัน
มันคือผู้ปกครองแห่งความว่างเปล่า นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน? ตลอดเวลามานี้เธออยู่แต่ในวิหารมังกรนะ! ลูเซียดิ้นรนเล็กน้อย, พยายามลุกออกจากเตียง, เพื่อหนีไปหาความช่วยเหลือ
แต่ด้วยความที่รู้สึกกลัว, เธอจึงพบว่าตัวเองไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อได้, และถึงแม้ว่าจะพยายามอย่างสุดแรง, แต่เสียงร้องของเธอก็ไม่ดังออกมาเลย ด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง เธอร้องอยู่ในใจให้กับเสียงที่อยู่ในหัวของเธอ, เจ้าต้องการอะไร?
อ้อ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก, ข้าแค่อยากจะยืมใช้ร่างกายเจ้าสักหน่อย เจ้าคิดจริงๆหรอว่าเจ้าจะหนีข้าไปได้? ไม่มีทางหรอก, เพราะข้าอยู่ในร่างของเจ้ามาโดยตลอด แล้วก็, ยังจํายับบ้าครึ่งมังกรคนนั้นได้ไหม? เธออยากหยุดเจ้าจากการอัญเชิญข้า, ดังนั้นข้าก็เลยปล่อยให้เจ้าสังหารเธอซะ 555, มือของเจ้าเปื้อนเลือดเธอแล้ว
ข้าเป็นคนฆ่าเอมิเลียอย่างงั้นหรอ? ด้วงตาของลูเซียเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ ตอนนี้มันเป็นส่วนเดียวในร่างของเธอที่สามารถขยับได้
นั่นก็แค่เรื่องเล็กๆยังมีเรื่องอื่นๆอีกมากมาย และตอนนี้, ร่างกายของเจ้าก็เป็นของข้าแล้ว, อา, ช่างเป็นสถานที่ที่ดีจริงๆ. มีแต่พวกน่าอร่อยเต็มไปหมดเลย, 555!
ลูเซียรู้สึกได้ในเวลาไม่นานว่าเธอสูญเสียอิสรภาพในการควบคุมร่างกายของตัวเองไปแล้ว เธอพยายามส่งเสียงร้องอีกครั้ง, แต่เสียงของเธอก็หยุดรับคําสั่งจากเธอ ตอนนี้เธอไม่สามารถกระพริบตาได้ด้วยซ้ํา ในขณะที่มองดูตัวเองลงจากเตียง, สวมเสื้อผ้าแล้วเดินไปทางประตูใหญ่
เด็กสาวผมเงิน, ที่เมื่อสักครู่นี้กําลังดิ้นไปมาอยู่ในห้อง, ตอนนี้ได้สูญเสียการควบคุมร่างกายไปแล้ว เธอปาดเหงื่อ, สวมเสื้อผ้าแล้วออกไปจากห้อง
เธอเดินออกไปที่ทางเดินแล้วเห็นการ์ดมังกรพิพากษายืนอยู่สองคน พวกเขาหันมามองเธอ, และเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ, พวกเขาก็ปล่อยเธอผ่านไป
หยุดข้า! หยุดข้าที! จากส่วนลึกในร่างของเธอ, เธอกรีดร้องอย่างสุดกําลัง, แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร
“ข้าอยากลงเขาไปเดินเล่นสักหน่อย, สถานที่แห่งนี้มันอบอ้าวเกินไปสําหรับข้า” เด็กสาวผมเงินพูดกับหนึ่งในนักรบมังกรแดง
หยุดข้าที! ลูเซียรู้สึกสิ้นหวังจนถึงขีดสุดแล้ว
แต่มันก็ไม่มีประโยชน์; นักรบมังกรแดงไม่สังเกตุเห็นความผิดปกติเลย, เขาแค่ยกไหล่ขึ้น, และพูดด้วยสีหน้าไม่สนใจ “นี่ครับ, 300 รูปีมังกร, มันน่าจะพอสําหรับซื้อบริการที่ดีที่สุดให้ตัวเองจากบ้านรับรองที่ตีนเขานะครับ”
เด็กสาวผมเงินขอบคุณนักรบ, แล้วจากนั้นก็ตรงไปยังทางออกวิหารมังกร
ลูเซียเฝ้ามองเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ด้วยสายตาหวาดกลัว เธอไม่เหลือความหวังอะไรแล้ว
ด้วยการเข้าควบคุมร่างกายของเธอ, ผู้ปกครองแห่งความว่างเปล่าก็ออกจากสถานที่แห่งนี้แล้วเดินไปทางรถม้าที่อยู่ใกล้กับวิหาร
ในตอนนั้นเอง, ลูเซียก็เห็นคนคุ้นเคยกําลังเดินไปทางรถม้าเหมือนกัน มันคือนักเวทย์ผมดํา
เธอจําเขาได้ในทันที, เขาคือนักเวทย์ผู้แข็งแกร่งที่เป็นที่รู้จักในชื่อลิงค์ เขาเพิ่งจะเข้าสู่ระดับตํานานเมื่อไม่นานมานี้ และเขาก็เป็นคนที่ช่วยเธอเอาไว้ด้วยความช่วยเหลือจากราชินีมังกรแดง
ด้วยประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลมของเขาในฐานะบุคคลระดับตํานาน, เขาน่าจะสามารถรู้สึกถึงความผิดปกติในตัวเธอได้ ถ้าผู้ปกครองแห่งความว่างเปล่าเข้าไปใกล้เขามากพอ
แต่สิ่งที่ผู้ปกครองแห่งความว่างเปล่าทําหลังจากนั้น ก็ได้บดขยี้ความหวังทั้งหมดของเธอ
เด็กสาวผมเงินหยุดเดินแล้วเริ่มคุยกับการ์ดที่ประตูทางออก
“หวัดดี, นักรบ, เจ้าสะดวกพาข้าบินลงเขาด้วยร่างมังกรของเจ้าไหม?” เด็กสาวถามด้วยรอยยิ้ม
การ์ดส่งสายตาดูถูกมาให้เธอ, แล้วพูดอย่างเยาะเย้ย “ได้สิ, ข้าจะให้เจ้าขี่, แต่สักวันนึงเจ้าต้องให้ข้าขี่เจ้ากลับบ้างนะ, โอเคไหมหล่ะ?”
“ร้ายจริงๆ แต่ก็ไม่มีปัญหาหรอก, ข้าคิดว่ายุติธรรมดี เรามาลองดูกันไหมหล่ะ?” เด็กสาวผมเงินตอบกลับไปอย่างซุกซน
นี่ทําให้การ์ดถึงกับพูดไม่ออก พอตรวจสอบร่างกายของเด็กสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าเขาก็กลืนน้ําลายอย่างกระหาย, แล้วพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “รอนี่นะ, ข้าจะหาคนมาเข้าเวรแทนข้า”
“เร็วๆเข้าหล่ะ, ข้าเป็นคนความอดทนต่ํานะ” เด็กสาวผมเงินพูดอย่างทะเล้น
นักรบรีบออกไปในทันที
ในอีกด้านนึ่ง, ลูเซียสังเกตเห็นว่านักเวทย์มนุษย์คนนั้นกําลังหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเอง, เขาเดินตรงไปทางรถม้าคันนึง, แล้วขึ้นไป, จากนั้นก็เริ่มเดินทางลงเขา
อย่าไปนะ! กลับมาก่อน! ช่วยข้าที! ลูเซียร้องสุดเสียง, แต่เธอก็ไม่ได้รับการตอบสนองอะไรจากเขาเลย
ในขณะที่รถม้าวิ่งออกไป, ผู้ปกครองแห่งความว่างเปล่าก็เฝ้ารอการ์ดคนนั้น, ที่แปลงร่างเป็นมังกรกลับมา
เด็กสาวผมเงินยิ้มในขณะที่เธอปืนขึ้นไปบนหลังมังกรแดง “ข้าไม่ชอบบ้านรับรองที่ตีนเขานั่น, ทําไมเจ้าไม่พาไปที่ที่ให้ความเป็นส่วนตัวกว่านั้นสักหน่อยหล่ะ?”
“ได้สิ, ตราบใดที่เจ้ามีความสุข, ข้าก็ได้หมดหล่ะ” มังกรกางปีกแล้วบินขึ้นไปบนฟ้า
บนท้องฟ้า, ผู้ปกครองแห่งความว่างเปล่าหัวเราะออกมาอย่างน่าสยดสยองในหัวของเธอ นักเวทย์ตัวน้อย, เจ้าน่าจะรู้ดีจากการแอบส่องดูความว่างเปล่านะว่า, เจ้าจะไม่มีวันรู้ว่ามีอะไรแอบซ่อนอยู่ในนั้น
ณ ตอนนี้, ลูเซียจมอยู่ในก้นบึงแห่งความสิ้นหวัง
กลับไปที่ภาคพื้นดิน, ลิงค์เข้ามาในรถม้าและตอนนี้กําลังลงเขาไปหาสถานที่เงียบๆเพื่อศึกษาเวทย์มังกร
ในรถม้า, เขาจดจ่ออยู่กับหนังสือที่มีชื่อง่ายๆว่า “มังกร” ในมือของเขา
ปกหนังสือนั้นทํามาจากวัตถุดิบที่ไม่เป็นที่รู้จัก, ผู้เขียนเองก็ไม่ได้เขียนบอกเอาไว้ แต่มันไม่ได้เก็บเอาไว้แค่ประวัติศาสตร์การพัฒนาเวทย์แปลงมังกรเท่านั้น, แต่หนังสือเล่มนี้ ยังแนะนําโครงสร้างเวทมนตร์พื้นฐานที่ใช้ด้วย
ถ้าจะให้พูดง่ายๆ, นี่คือตําราสรุปหลักการของ “เวทย์แปลงมังกร”
ซึ่งลิงค์หมกมุ่นอยู่กับเนื้อหาของมันเรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่เปิดดูอย่างคร่าวๆ ลิงค์ก็ได้ข้อสรุปมาอย่างนึง ตอนนี้ร่างมังกรนั้นสมบูรณ์แบบมาก และเผ่ามังกรก็เชื่อถือมันมากเกินไปจนพวกเขาลืมการใช้งานที่สําคัญที่สุดของมันในฐานะเรือท่องความว่างเปล่า
ในอดีตกาล, ร่างมังกรนั้นส่วนใหญ่แล้วจะใช้เป็นเรือสำหรับสํารวจความว่างเปล่า, และอย่างที่สองก็คืออาวุธที่ใช้ต่อกรกับสิ่งมีชีวิตดุร้ายที่อาศัยอยู่ในนั้น มันไม่เคยเป็นเครื่องมือสําหรับความสนุกสนานหรือสําหรับการสืบพันธุ์เลย
อย่างไรก็ตาม, ด้วยการพัฒนาอวัยวะสืบพันธุ์, ร่างของมังกรจึงถูกแบ่งด้วยเพศในช่วงเวลาหลังจากนั้น, และด้วยอวัยวะสืบพันธุ์ที่ว่านี้, เผ่ามังกรจึงเริ่มข้องเกี่ยวกับกระบวนการสืบพันธุ์ ซึ่งสาหรับลิงค์นั้น, นี่คือการดูหมินอย่างแท้จริง
จุดประสงค์ที่เขาลงเขาในครั้งนี้ชัดเจนมาก เพื่อพัฒนาร่างมังกรดําของเขา, กําจัดส่วนที่ไม่จําเป็น, และเพิ่มความสามารถในการต่อสู้, โดยเฉพาะความสามารถในการเดินทางผ่านทะเลแห่งความว่างเปล่า
แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ที่เผ่ามังกรนั้นจะมีเรื่อที่สมบูรณ์แบบ จนถึงจุดที่แทบไม่เหลืออะไรให้พัฒนาเลย, แต่อย่างน้อยลิงค์ก็ยังอยากปรับแต่งร่างมังกรของเขาให้เหมาะสมกับรูปแบบการต่อสู้ของเขาให้มากขึ้น
ในที่สุดรถม้าก็มาถึงตีนเขา, แล้วลิงค์ก็ตะโกนบอก “เลี้ยวซ้าย, ไปทางยอดเขาเตาหลอมเทา”
ในเมื่อเขาได้รับการยอมรับให้เป็นส่วนหนึ่งของเผามังกรแล้ว, จึงเป็นธรรมดาที่ลิงค์จะได้รับความทรงจําเกี่ยวกับภูมิประเทศส่วนใหญ่ของหมู่บ้านมังกร
“ครับท่าน” คนขับรถเป็นสามัญชน ด้วยการใช้พลังมังกรของเขา, เขาก็รู้แล้วว่าลิงค์เป็นมังกรชั้นสูง, ดังนั้นเขาจึงแทนตัวเองด้วยการถ่อมตัวอย่างถึงที่สุด, และไม่กล้าพูดอะไรกลับมาเลย
รถม้าเดินทางไปเกือบครึ่งวัน หลังจากที่วิ่งไปได้ด้วยความรู้สึกที่เหมือนกับเดินทางหนึ่งร้อยไมล์, ภูเขาขนาดยักษ์ก็ปรากฏขึ้นห่างออกไปสามไมล์ทางฝั่งขวาของถนน โครงสร้างของภูเขานั้นแปลกมาก ที่ยอดเขามีวงแหวนอยู่ล้อมรอบ, และข้างในนั้นก็คือหุบเขาทรงกลมที่มีลักษณะคล้ายเตาหลอม: ดังนั้นมันจึงได้ชื่อนี้มา
หุบเขาทรงกลมนี้คือสถานที่ที่ดีที่สุดสําหรับลิงค์ในการทดลองร่างมังกรของเขา เขาจะมีอิสระในการทําสิ่งที่เขาต้องการโดยที่ไม่มีใครเห็น
เขาโยนเหรียญทองให้คนขับไปสองสามเหรียญในขณะที่ลงมาจากรถม้า “ตอนนี้กลับไปได้แล้ว ถ้ามีพวกระดับสูงมา
คนขับเก็บเหรียญทองแล้วฮัมเพลงในขณะที่ขับรถม้ากลับไป
ตอนนี้ลิงค์มุ่งหน้าไปทางภูเขาเตาหลอมเทาและไม่นานนักเข้าก็เข้ามาข้างในหุบเขา สถานที่แห่งนี้ให้ความ เป็นส่วนตัวอย่างมาก, มันไม่มีวิญญาณอยู่เลย, และพืชก็เติบโตขึ้นอย่างเต็มที่ ด้วยเวทมนตร์ของเขา, ลิงค์สร้างกระท่อมหินขึ้นมาหลังนึงใกล้กับลําธารและปิดกั้นการรบกวนจากโลกภายนอกทุกอย่าง จากนั้นเขาก็เริ่มอ่านหนังสือมังกรอย่างตั้งใจ