Advent of the Archmage - 458: นักต้อนพายุ
Chapter
น่านน้ำมหาสมุทรเฟิร์ด
เฟลิน่าทะยานขึ้นฟ้าอย่างไร้จุดหมายโดยที่มีลิงค์อยู่บนหลังในความเป็นจริง, เฟลิน่านั้นไม่รู้เลยว่าลิงค์อยากให้เธอพาไปที่ไหน สำหรับตอนนี้, เธอจะบินไปตามทิศทางที่ลิงค์ชี้
ลิงค์ถือดาบราชามังกรพิโรธเอาไว้ในมือ,ที่ปลายดาบมีแสงสีแดงอันคมกริบอยู่ เขากำลังหลับตา, แต่ในหัวของเขานั้น, เขารับรู้สิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ทุกอย่างแสดงในหัวของเขาอย่างชัดเจนทั้งสีสันและรูปร่าง,รวมทั้งอุณหภูมิ, ความเร็วลม, ทิศทางลม, และความชื้น
“บินไปทางซ้าย,ใช่, ไปต่อเรื่อยๆเลย เธอเห็นกลุ่มเมฆข้างหน้าไหม?” ลิงค์ถาม
เฟลิน่าเห็นกลุ่มเมฆขนาดยักษ์อยู่ข้างหน้าพวกเขาจริงๆ,มันมีรัศมีเกือบ 2,000 ฟุต ด้วยความที่เห็นว่าลิงค์หลับตาตลอดเวลา, เธอจึงคิดว่าเขาต้องใช้เวทย์สอดส่องบางอย่างแน่ๆ “เห็นแล้ว, แต่ตรงนี้ลมแรงมาก มันเหมือนกับไต้ฝุ่นเล็กๆเลย พวกเราควรจะไปต่อไหม?”
“ไม่,มุ่งหน้าไปยังผิวน้ำ, ตรงจุดที่เป็นศูนย์กลางของพายุ แรงลมกำลังดีเลย, แต่ว่ามันเล็กเกินไป ฉันจำเป็นต้องกระตุ้นมันซักหน่อย”
เฟลิน่ามุ่งหน้าไปทางทะเลในตอนที่เธออยู่เหนือระดับน้ำทะเลสิบฟุต, ลิงค์ก็ยืนขึ้นมาอย่างกระทันหัน, แล้วกระโดดลงจากหลังของเธอพร้อมทั้งลอยไปอยู่เหนือผิวทะเลหนึ่งฟุต
เขาตะโกนกลับมาหาเธอ“เฟลิน่า, ถอยไปหน่อย ตรงนั้นยังไม่ห่างพอ, อยู่ให้ห่างอย่างน้อยสิบไมล์, นั่นแหล่ะ, บินต่อไปเลย!”
พอเฟลิน่าห่างออกไปจนไม่ต่างอะไรจากจุดสีดำบนท้องฟ้า,ลิงค์ก็พูดกับดาบราชามังกรพิโรธ “พร้อมรึยัง, คู่หู?”
“อย่ามาตีสนิทกับข้านะ,พวกเรายังรู้จักกันไม่ถึงปีเลย” ดาบบ่น, แต่หลังจากนั้นเขาก็พูดต่อตามปกติ “เอาหล่ะ, การเป่าพายุก็แค่งานง่ายๆ, มาเริ่มกันเถอะ!”
ลิงค์กลั้นหายใจเป็นเวลาสิบวินาที,ก่อนที่จะลืมตาขึ้นมาอย่างกระทันหัน
“สายตาแห่งความจริง!”
ทุกอย่างที่เข้ามาในสายตาของเขาเปลี่ยนเป็นโปร่งแสง,โดยเฉพาะเมฆพายุขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้าเขา มีริ้วแสงแผ่ออกมาจากกลุ่มเมฆ; นี่คือกระแสพลังงานที่ไหลเวียนอยู่รอบๆมัน
กระแสพลังงานพวกนี้คือจุดสำคัญของไต้ฝุ่นผ่านพวกมัน, ลิงค์สามารถกระจายกลุ่มเมฆ, หรือเพิ่มความรุนแรงของไต้ฝุ่นได้อย่างง่ายดาย
สิบวินาทีต่อมา,ลิงค์ก็พบหนึ่งในจุดพลังงานของไต้ฝุ่น, และชี้ดาบเวทมนตร์ที่อยู่ในมือไปยังผิวทะเล, แล้วพูดออกมา “ทลายความว่างเปล่า!”
ทลายความว่างเปล่า
เวทย์ไฟระดับเชี่ยวชาญเลเวล10
พลังมังกรที่ต้องใช้:8,900 แต้ม
รายละเอียด:รวบรวมพลังงานธาตุที่อยู่รอบตัวผู้ใช้มาสร้างเป็นบอลเพลิงที่มีพลังทำลายอย่างน่าเหลือเชื่อ
(หมายเหตุ:นี่คือของขวัญจากราชินีมังกรแดง)
ฟิ้ว!
ฟิ้ว!ลำแสงระยิบระยับเริ่มมารวมตัวกันในอากาศรอบๆดาบ, และด้วยเสียงกระหึ่มอย่างต่อเนื่อง, จุดแสงสีแดงก็เริ่มสว่างขึ้นที่ปลายดาบ, ในเวลาชั่วเสี้ยววินาทีนี้, จุดแสงก็ขยายตัวเป็นบอลเพลิงสีม่วงเข้มที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่าแปดฟุต
พอบอลเพลิงปรากฎขึ้นในอากาศ,ลิงค์ก็เปิดใช้ผลพลังมังกรไม่จำกัดของเข็มขัดราชันมังกรในทันที, ซึ่งมันก็เริ่มฟื้นฟูพลังมังกรของเขาอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, มืออีกข้างที่ถือคทาเพลิงพิโรธแห่งสวรรค์อยู่, ก็ชี้ไปทางมหาสมุทรที่อยู่ใต้เท้าของเขา
“บิดเบือนมิติ!”
ผ่านผลของเวทย์นี้,น้ำก็เริ่มแยกออกเป็นสองฝั่ง
ขนาดของเวทย์บิดเบือนมิติของลิงค์นั้นใหญ่โตมาก,มันครอบคลุมพื้นที่เกือบ 1,000 ตารางฟุต ด้วยระยะขนาดนี้, มันเหมือนกับว่า, ดาบโบราณเล่มนี้ได้ผ่าน้ำออกเป็นสองซีก
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง,ลิงค์ที่กำลังลอยอยู่ในอากาศด้วยความช่วยเหลือของตัวบิดเบือนมิตินั้น, ก็ดูเหมือนกับเทพลึกลับที่กำลังถือดาบอยู่
กำแพงน้ำทะเลทั้งสองฝั่งทะยานสูงขึ้นถึง500 ฟุต จากนั้นเขาก็เขวี้ยงลูกบอลเพลิงไปยังพื้นที่แห้งที่อยู่ตรงกลาง ในตอนที่มันไปถึงพื้น, ลิงค์ก็ยกมืออีกข้าง, ที่กำลังถือคทาเพลิงพิโรธแห่งสวรรค์ขึ้น
ในตอนนี้,น้ำทะเล, ที่แยกออกและพุ่งสูงขึ้นสูงทั้งสองฝั่ง, ก็ถล่มลงมาด้วยเสียงดังสนั่น
ครืน!คลื่นสูงตะหง่านทั้งสองลูกปะทะกัน ในขณะเดียวกันนั้นเอง, บอลเพลิงทลายความว่างเปล่าก็ระเบิดขึ้นอย่างกระทันหันในกระแสน้ำทะเลที่ไหลเชี่ยว
ทันใดนั้นเอง,น้ำทะเลทีเคยเป็นสีฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน
ทะเลที่อยู่ใต้เท้าของลิงค์เริ่มพุ่งทยานขึ้นมาเหมือนกับภูเขาเนื่องจากการระเบิดอย่างกระทันหันของพลังงานใต้ผิวน้ำร่างกายของลิงค์ลอยไปอย่างไร้น้ำหนักตามการเคลื่อนไหวของทะเล, เหมือนกับผีเสื้อที่กำลังโบยบินอยู่ท่ามกลางพายุ
ในตอนที่เหตุการณ์นี้ผ่านไป,และพลังงานของทลายความว่างเปล่าก็ถูกทะเลดูดซับไปในที่สุด ลิงค์ก็รู้สึกได้ว่าน้ำเริ่มเดือดและไอน้ำก็ลอยขึ้นมาจากพื้นผิวของมัน
เฟลิน่า,ที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลาจากระยะไกล, ก็เห็นกลุ่มไอสีขาวกำลังลอยจากทะเลขึ้นไปบนฟ้า
สิ่งที่น่าประหลาดยิ่งกว่าก็คือความจริงที่ว่ากลุ่มไอนั้นดูเหมือนจะไปทำปฏิกิริยาบางอย่างในไต้ฝุ่น,เพราะการหมุนของเสาเมฆเริ่มเพิ่มความเร็วขึ้น เมฆเองก็หนาขึ้นเช่นกัน, และพวกมันก็ขยายไปจนเกือบจะเต็มทั้งท้องฟ้า
สายลมโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง,และหลังจากผ่านไปซักพัก, เฟลิน่าที่กำลังบินอยู่ในระยะห่างออกไปสิบไมล์, ก็เริ่มรู้สึกว่าเธอรักษาสมดุลในอากาศได้ยากขึ้น เฟลิน่าไม่มีทางเลือกนอกจากเว้นระยะห่างระหว่างตัวเธอกับลิงค์ให้ไกลกว่าเดิม
จากที่ไกลๆ,เธอเห็นลิงค์กำลังลอยขึ้นลงไปตามคลื่น, ร่างกายของเขาที่อยู่ท่ามกลางพายุกำลังส่องแสงจ้าที่ให้ความสว่างไปทั่วทั้งทะเลและสวรรค์เหมือนกับดวงอาทิตย์
ในบางครั้ง,คทาเวทมนตร์และดาบที่อยู่ในมือแต่ละข้างของเขาจะปล่อยรังสีแสงสีแดงเข้มออกมา; บางครั้งมันจะหลอมรวมเข้าไปในเมฆบางครั้งมันก็จะเข้าไปในทะเล, ในขณะที่ส่วนที่เหลือจะกระจัดกระจายไปในอากาศ
พลังงานที่ลิงค์กำลังปล่อยออกมานั้นสร้างผลกระทบเหมือนกับมือขนาดยักษ์ที่คอยชักใยอยู่ในอากาศ,มันไปถึงจุดที่ตอนนี้กลุ่มเมฆกำลังกระจายตัวออกด้วยอัตราความเร็วอันน่าหวาดกลัว, พร้อมกับเสียงลมกรรโชกอย่างบ้าคลั่งราวกลับเสียงร้องของภูติผีนับพัน
ในตอนนี้,ลิงค์นั้นเหมือนกับเป็นพระเจ้าที่กำลังเดินเล่มอยู่ท่ามกลางโลกมนุษย์, พร้อมกับมีอำนาจเหนือพลังงานธาตุทั้งปวงในโลกนี้
เหตุการณ์นี้น่าจะฝังลึกอยู่ในความทรงจำของเฟลิน่าตราบชั่วชีวิตของเธอ
ครืนน!
เสาเมฆเริ่มมุ่งหน้าตรงไปทางเกาะแม่เหล็กที่อยู่ไม่ไกลในตอนแรก, มันเคลื่อนไหวผ่านมหาสมุทรอย่างช้าๆด้วยความเร็วไม่ถึงสิบฟุตต่อวินาที, แต่พอเวลาผ่านไป, พายุหมุนก็เริ่มเพิ่มความเร็วขึ้น, จนไปถึงอัตราความเร็วที่ 100 ฟุตต่อวินาที
ลิงค์คอยติดตามพายุโหมกระหน่ำนี้อย่างใกล้ชิดเหมือนกับคนเลี้ยงแกะ, เขาจะคอยต้อนแกะตัวใหญ่ที่สุดในโลกที่อยู่เบื้องหน้าเขาในตอนนี้ไปในทิศทางที่ถูกต้องในทุกๆครั้งที่มันเริ่มออกนอกเส้นทาง
“เฟลิน่า!”สายลมได้พาเสียงของลิงค์ไปหาเธอ
เฟลิน่าบินมาอยู่ข้างเขาในทันทีหลังจากนั้นลิงค์, ที่กำลังลอยอยู่ในอากาศตลอดเวลามานี้พร้อมกับมิติบิดเบือน, ก็กลับมาอยู่บนหลังของมังกรและเริ่มจดจ่ออยู่กับการไล่ต้อนพายุ
ในตอนนี้พายุกำลังหมุนด้วยความเร็วที่สูงขึ้นเรื่อยๆในขณะที่มันมุ่งกำลังหน้าผ่านมหาสมุทรไปด้วยระยะกว่า100 ไมล์
แรงดันลบที่เกิดจากการหมุนด้วยความเร็วสูงของพายุเองก็เริ่มดึงน้ำทะเลขึ้นมาที่ตาพายุจนในที่สุดมันก็เกิดเป็นเสาน้ำ
พอประเมินได้ว่าระยะทางระหว่างพายุกับเกาะแม่เหล็กเหลืออยู่ประมาณสิบไมล์,ลิงค์ก็ทำการต้อนแกะของเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะร่ายเวทย์หายตัวใส่ตัวเองกับเฟลิน่า ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, เขาก็ใส่พลังของตัวเองเข้าไปในหินรูนที่อยู่ในมือเล็กน้อยเพื่อทำการติดต่อกับกองทัพเรือ, ที่กำลังรออยู่ที่ท่า
ในขณะที่พวกเขากำลังอยู่ที่สูง,เฟลิน่าก็มองเห็นจากที่ไกลๆว่าไฮเอลฟ์ที่อยู่บนเกาะนั้นยังไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำว่าพวกเขากำลังตกอยู่ในอันตรายและทุกคนก็มองหาที่กำบังด้วยความคิดที่ว่ามันก็แค่ฝนตก
“พวกเขาจะตายรึเปล่า?”น้ำเสียงของเฟลิน่าฟังดูกังวล
ลิงค์,ที่มองเห็นสภาพของเกาะชัดกว่าเธอ, ส่ายหัว “ไม่หรอก มีคนขุดเหมืองอยู่บนเกาะไม่ถึงหนึ่งร้อยคน, แถมยังมีนักเวทย์คุ้มกันเลเวล 7 ด้วย เวทย์ของเขาน่าจะพอคุ้มครองคนขุดเหมืองได้ แต่ก็แน่นอนหล่ะนะว่าพายุจะพัดพวกเขาทุกคนออกไป”
…
บนเกาะ
“สภาพอากาศเฮงซวยจริงๆก่อนหน้านี้ยังดีๆอยู่เลย, ไหงจู่ๆถึงมีพายุเข้าได้เนี่ย?” ไฮเอลฟ์ขุดเหมืองคนนึงได้สร้างบ้านไม้ขึ้นมาอย่างรีบร้อน, และพอเข้าไปข้างใน, เขาก็เริ่มบิดเสื้อผ้าของเขาให้แห้ง
แต่ทันใดนั้นเอง,ก็มีเสียงโวยวายดังมาจากข้างนอก “รีบออกมาเร็วเข้า, มันคือพายุหมุน!
คนขุดเหมืองโผล่ศรีษะออกมานอกหน้าต่าง,และอ้าปากค้างให้กับเสาลมและกลุ่มเมฆที่กำลังมุ่งหน้ามาที่เกาะเหมือนกับหอกที่ทะลวงมาจากสวรรค์
“เร็วเข้า,รีบออกไปจากที่นี่!” เขาได้ยินเสียงของนักเวทย์ไฮเอลฟ์ลอยมาตามลม
ด้วยการเรียกสติกลับมาอย่างรวดเร็ว,คนขุดเหมืองก็เริ่มวิ่งตามนักเวทย์ไปแล้วเขาก็เห็นว่าคนขุดเหมืองคนอื่นเองก็หนีออกมาจากที่กำบังแล้วมารวมตัวกันรอบนักเวทย์
นักเวทย์เอาเมล็ดพันธุ์ออกมาแล้วเริ่มใส่พลังธรรมชาติเข้าไปในตอนที่เขาโยนเมล็ดพันธุ์นั้นลงไปในทะเล, ก็มีเสียงดังกระหึ่ม, และจากนั้นก็มีเถาวัลย์จำนวนมากพุ่งขึ้นมาจากน้ำ, พวกมันพันกันเป็นเรือที่มีลักษณะยาวและแคบเหมือนกับหอก
“เร็วเข้า,ขึ้นเรือซะ, เร็วๆ!” นักเวทย์ที่ขึ้นเรือเป็นคนแรกตะโกนออกมา
ไม่กี่นาทีต่อมา,คนขุดเหมืองทุกคนก็มาอยู่บนเรือ นักเวทย์ใส่พลังเข้าไปในเรือในทันที, และไม้พายที่ทำขึ้นมาจากเถาวัลย์ที่ติดตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งของเรือก็เริ่มพายด้วยความเร็วสูงสุด
จากนั้นเรือก็พุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงกว่าห้าสิบฟุตต่อวินาที
แต่ว่ามันยังเร็วไม่พอ
ห้านาทีต่อมา,พายุหมุนก็มาถึงเกาะ
“พระเจ้า,ทุกอย่างถูกทำลายหมดเลย!”
“หุ่นไม้จำลองของข้าถูกทำลายไปซะแล้ว!”
“นี่ต้องเป็นการลงทัณฑ์จากสวรรค์แน่ๆเลย!”
“เร็วเข้า,นักเวทย์, มันกำลังไล่ตามพวกเรามา!”
“เงียบหน่า,ข้าทำสุดความสามารถแล้ว” นักเวทย์เติมพลังเข้าไปในเรืออย่างเต็มที่, และเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นอีก
แต่ว่ามันก็เปล่าประโยชน์เวลาผ่านไปหกนาทีแล้ว, พายุหมุนยังไม่ยอมแพ้, และไล่ตามพวกเขาอย่างไม่ลดละด้วยแรงดูดอันน่าเหลือเชื่อ, มันเหมือนกับมือของเทพผู้ชั่วร้ายที่พยายามดึงพวกเขาเข้าสู่ชีวิตหลังความตาย
“จับแน่นๆนะ!”นักเวทย์เติมพลังธรรมชาติที่เหลือเข้าไปในเรืออย่างบ้าคลั่ง, และเถาวัลย์ก็เริ่มแผ่ขยายออกมาจากตัวเรือเหมือนกับหนวด, และยึดสมาชิกทุกคนให้อยู่กับที่ ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, เถาวัลย์เส้นอื่นๆก็ก่อตัวขึ้นเป็นเส้นโค้ง, สร้างเป็นหลังคาให้พวกเขาทุกคน
จากนั้นเรือก็เข้าสู่สภาพไร้น้ำหนักในขณะที่มันหมุนอย่างไม่สามารถควบคุมได้และลอยขึ้นลง,เหมือนกับว่ามันถูกพาไปตามลม
เหตุการณ์นี้คงอยู่เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเรือจะตกลงไปในทะเลในที่สุดในลูกบอลเถาวัลย์, ศรีษะของทุกคนยังคงหมุนติ้ว, และอากาศข้างในก็เต็มไปด้วยกลิ่นอ้วกเหม็นๆ
“อี้,ใครอ้วกใส่หน้าข้าเนี่ย? น่าขยะแขยงชะมัด!” มีใครคนนึงพูดขึ้นมาอย่างหมดสภาพ
“มีคนฉี่ใส่ข้าด้วย!”
“เอลอส,เจ้ามันซกมกจริงๆ!”
ข้างในลูกบอลเถาวัลย์นั้นเต็มไปด้วยความโกลาหล
ด้วยการเปิดหลังคาเถาวัลย์ที่อยู่ข้างบน,ไฮเอลฟ์นักเวทย์ก็เอนตัวพิงฝั่งนึงของเรือและเอาเข็มทิศทางออกมา “ขอบคุณพระเจ้าที่พวกเราไม่ได้ถูกพัดออกมาไกลมาก กลับไปที่เกาะแล้วพักผ่อนกันเถอะ”
แต่ทันใดนั้นเอง,หนึ่งในไฮเอลฟ์ขุดเหมืองก็ตะโกนออกมา “ดูนั่นสิ, มีกองเรืออยู่ด้วย”
“มันคือธงใบไม้สามแฉกนั่นมันกองเรือเฟิร์ดนี่ เอ้ะ, แล้วพวกเขามาทำอะไรกัน?” คนขุดเหมืองอีกคนพูดขึ้น, พร้อมกับเขม่นตามองไปที่เรือ
“ไม่นะ,พวกนั้นกำลังมุ่งหน้าไปทางเกาะ!” นักเวทย์ไฮเอลฟ์อุทานขึ้น “พวกเราจะปล่อยให้พวกนั้นไปถึงเกาะไม่ได้!”
นักเวทย์ยืนขึ้นพร้อมกับชี้คทาขึ้นฟ้า,แล้วสร้างบอลหมอกสีเขียวขึ้นมา ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, เขาก็ร่ายเวทย์ขยายเสียงและตะโกนไปทางเรือ “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”
หลังจากตะโกน,เขาก็กระซิบกับคนขุดเหมือง “ในตอนที่พวกนั้นมาหาพวกเรา, พวกเราจะให้พวกนั้นพาเรากลับไปที่เกาะรุ่งอรุน, และอย่าพูดถึงเหมืองของพวกเราบนเกาะแห่งนั้นหล่ะ, ไม่อย่างนั้นจะมีเรื่องเลวร้ายตามมาแน่!”
“รับทราบครับ!”คนขุดเหมืองทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน, ด้วยสีหน้าจริงจัง