Advent of the Archmage - 459: ไม่มีโอกาสเลย
Chapter
ฟู่ว,ซ่า มันคือเสียงน้ำกระเซ็น
กองเรือเฟิร์ดเคลื่อนที่ผ่านเรือของไฮเอลฟ์อย่างรวดเร็วน้ำที่กระเซ็นขึ้นมานั้น, ได้สาดใส่ไฮเอลฟ์ที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือ
จากนั้นกองเรือเวทมนตร์ขนาดยักษ์ทั้งสามลำก็แล่นผ่านไปลูกเรือชาวมนุษย์ที่อยู่บนดาดฟ้าเรือต่างก็พากันระเบิดเสียงหัวเราะให้กับสภาพที่น่าสมเพชของไฮเอลฟ์ แล้วกองเรือก็แล่นผ่านไปในเวลาไม่นาน, โดยไม่สนใจพวกเขา
ไฮเอฟล์ที่เปียกโชกอยู่บนเรือเถาวัลย์ต่างก็พากันสับสน
“พวกนั้นเพิ่งจะแล่นผ่านพวกเราไปใช่ไหม?”
“พวกนั้นไม่สนใจพวกเราเลยหรอ?”
“พวกนั้นเห็นพวกเรากำลังจะตาย,แต่ก็ยังทิ้งพวกเราไปเนี่ยนะ?”
“ข้าไม่คิดว่าพวกเราจะตายนะ…”มีคนนึงพูดขึ้นมาอย่างอ่อนแรง
ในที่สุดนักเวทย์ก็เข้าใจเรื่องทุกอย่างเขากัดฟันพูด “บ้าจริง, พวกมันต้องค้นพบเกาะนั้นแล้วแน่ๆ!”
“ตอนนี้พวกเราจะเอายังไงดี?”คนขุดเหมืองคนนึงถามขึ้น
นักเวทย์ส่ายหัว“ตอนนี้พวกเราทำอะไรไม่ได้ พวกเราสู้พวกนั้นไม่ไหวและหยุดพวกนั้นไม่ได้ด้วย กลับไปที่เกาะรุ่งอรุณแล้วให้กองทัพเรือของพวกเราสอนบทเรียนให้พวกนั้นกันเถอะ!”
ไฮเอลฟ์ได้อยู่บนเกาะรุ่งอรุณมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว,และกองทัพเรือของพวกเขาก็แข็งแกร่งที่สุด ถ้าพวกเขาต้องการ, พวกเขาสามารถเอาชนะกองทัพเรือของทุกอาณาจักรได้อย่างง่ายดายเหมือนกับสายลมฤดูใบไม้ร่วงที่พัดพาใบไม้ให้ร่วงหล่น
ในฟิรุแมน,ไฮเอลฟ์คือเจ้าแห่งทะเล ไม่มีใครสามารถเทียบเคียงกับพวกเขาได้
กลุ่มไฮเอลฟ์ต่างก็ช่วยกันพายเรือพร้อมกับทำเสียงฮึดฮัดในขณะที่กลับไปยังเกาะรุ่งอรุณ
หลังจากผ่านไปสักพัก,คนขุดเหมืองคนนึงก็พูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน “นี่, พวกนายคิดว่ามันบังเอิญเกินไปไหม? พายุเพิ่งจะผ่านไป, และกองเรือของเฟิร์ดก็ปรากฎขึ้น, พร้อมกับตรงไปยังเกาะนั่น หรือว่าพวกนั้นจะเป็นคนสร้างพายุขึ้นมา?”
“เป็นไปได้นะลอร์ดของพวกนั้นเป็นนักเวทย์ระดับตำนาน เขาอาจจะมีความสามารถนั้นจริงๆก็ได้” คนขุดเหมืองอีกคนก็ทำสีหน้าสงสัยเช่นกัน
ไฮเอลฟ์นักเวทย์เย้ยหยัน“พวกเจ้าไม่รู้อะไรเอาซะเลย!” เขาพูด “พายุไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะสามารถควบคุมได้หรอกนะ ไม่มีนักเวทย์คนไหนในโลกนี้ที่สามารถร่ายเวทย์แบบนั้นได้เว้นเสียแต่ว่าเขาจะเป็นพระเจ้า!”
“งั้นหรอเห้อ ไอ้พวกเฟิร์ดนี่แม่xโคตรโชคดีเลย!” คนขุดเหมืองคนนึงสบถ
บนท้องฟ้า,ลิงค์มองพวกไฮเอลฟ์ที่อยู่ไกลออกไปแล้วพูดกับเฟลิน่า “พวกเราก็ไปที่เกาะกันเถอะ”
“แต่พวกไฮเอลฟ์บอกว่าจะไปพากองทัพเรือมานะ”เฟลิน่าสามารถอ่านปากได้, ดังนั้นเธอจึงค่อนข้างกังวล อย่างไรก็ตาม, เธอก็ยังคงเปลี่ยนทิศทางและบินไปยังเกาะแม่เหล็ก
“ไม่ต้องห่วง,พวกนั้นไม่สามารถสร้างความขัดแย้งเพราะเกาะแห่งนี้ได้หรอก” ลิงค์พูดพร้อมกับหัวเราะ
มันคงจะต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์กว่าพวกไฮเอลฟ์จะไปถึงเกาะรุ่งอรุณและพอถึงตอนนั้น, มันก็คงจะสายเกินไปแล้ว
เฟลิน่าตามกองเรือทันได้อย่างรวดเร็วเธอยังหายตัวอยู่ ในตอนที่พวกเขาอยู่เหนือกองเรือ, ลิงค์ก็กระโดดลงจากหลังของเธอ
“เอาหล่ะ,ภารกิจของเธอสำเร็จแล้ว กลับไปที่เฟิร์ดเถอะ” ลิงค์พูดจากบนดาดฟ้าเรือ
“โอเค”แล้วเฟลิน่าก็จากไป
จากนั้นลิงค์ก็เผยตัวออกมาเซลีน, แจ็คเกอร์, และพลเอกกองทัพเรือต่างก็อยู่บนดาดฟ้าทั้งหมด ทั้งสามหันมามองเขาในทันทที
พลเอกมีชื่อว่าเกรย์สันเห็นได้ชัดว่า, เขาเคยเป็นโจรสลัดในทะเลทางตอนใต้และเคยปล้นเรือพ่อค้ามาก่อน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มาล้มเหลวในตอนที่โจมตีเรือของเฟิร์ด
เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากๆและไม่มีชื่อเสียงในด้านเลวร้ายเขาขโมยแค่สินค้าแต่ไม่เคยฆ่าใคร, ดังนั้นแจ็คเกอร์จึงยกโทษให้เขา และในท้ายที่สุด, เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ไปไหน เขาถึงกับเข้าร่วมเป็นการ์ดของเฟิร์ดและมีส่วนร่วมอย่างมากในการต่อสู้กับกองทัพหลวงของเดลอนก้าด้วย
ในตอนที่กองทัพเรือของเฟิร์ดถูกจัดตั้งขึ้น,จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะกลายเป็นพลเอก
สำหรับคำถามเกี่ยวกับทะเลนั้น,ลิงค์ต้องเป็นคนถามเขา “ด้วยสถานการณ์ของพวกเราในตอนนี้, ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนกว่าจะไปถึงเกาะแม่เหล็ก?”
“พวกเราจะไปถึงในอีกสองชั่วโมงครึ่งครับ!”
“โอเค,ดีเลย ถ้างั้นฉันขอตัวไปพักก่อนนะ พอพวกเราไปถึงแล้วก็มาเรียกฉันด้วย”
“ครับท่าน”
“เซลีน,ไม่ต้องรอข้างนอกหรอก ไปที่ห้องพักในเรือกับฉันเถอะ” ลิงค์กวักมือเรียกเซลีน กองทัพเรือของเฟิร์ดนั้นเข้มงวดมาก, และลูกเรือก็อยู่บนทะเลเป็นเวลานาน พวกเขาทุกคนเหมือนกับสัตว์ป่าหิวกระหาย แม้กระทั่งหมูตัวเมียก็ยังดึงดูดสายตาของพวกเขาได้ มันเป็นอันตรายสำหรับเซลีนหากให้เธออยู่ที่นี่
“อ้ะ,เอาสิ” เซลีนรู้สึกอัดอัดตลอดการเดินทางมานี้ เธอจึงรีบเข้าไปซ่อนข้างในห้องพักพร้อมกับลิงค์
พอเข้ามาข้างใน,ลิงค์ก็นั่งลงหน้าโต๊ะตัวนึง เขาเอาหนังสือเสริมพลังที่เขียนเสร็จแล้วครึ่งนึงออกมาเขียนต่อ หลังจากผ่านไปสักพัก, เขาก็ตระหนักได้ว่าเซลีนเบื่อ, ดังนั้นเขาจึงส่งโครงร่างที่เขียนเสร็จแล้วให้ “นี่คือหนังสือเวทมนตร์ที่ฉันเขียนอยู่ ช่วยฉันเจาะรูที่ด้านข้างแล้วเย็บรวมกันให้หน่อยสิ”
“โอเค”เซลีนมีความสุขที่ได้ทำงานนี้ เธอเจาะรูในขณะที่อ่านไปด้วยและเกิดรู้สึกสนใจในเนื้อหาขึ้นมาจริงๆ “ว้าว, การเสริมพลังมันง่ายขนาดนี้เลยหรอ? ฉันรู้สึกว่าฉันก็น่าจะทำได้นะ”
ลิงค์หัวเราะเบาๆ“นี่เป็นแค่การเสริมพลังพื้นฐานสำหรับนักเวทย์ฝึกหัด”
ยังไงซะเซลีนก็เคยเรียนเวทมนตร์มาก่อนเลเวลของเธอนั้นสูงกว่านักเวทย์ฝึกหัดส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ, และเธอก็เป็นคนฉลาดด้วย ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เธอจะเข้าใจได้อย่างง่ายดาย
เธอตกตะลึง“งั้นหรอ, แต่นายทำให้มันดูน่าสนใจดีนะ มันน่าอ่านกว่าพวกหนังสือน่าเบื่อที่ฉันเคยอ่านมาก่อนอีก ถ้านายเขียนหนังสือเล่มนี้เสร็จ, ฉันจะศึกษามันอย่างแน่นอน”
สไตล์การเขียนของลิงค์นั้นขั้นแรกคือทำให้น่าสนใจ,เรียบง่าย, และมีตัวอย่างที่ประยุกต์ใช้ได้อย่างง่ายดาย ยกตัวอย่างเช่น, ตัวก้อปปี้นี้ได้อธิบายถึงเครื่องรางพื้นฐาน มันใช้รูนแค่ไม่กี่ตัว หลังจากที่สร้างมันและเพิ่มมานาเข้าไป, มันก็จะกลายเป็นเครื่องรางขึ้นมา
หลังจากที่สร้างความสนใจให้ผู้อ่านได้แล้ว,หนังสือก็จะเริ่มอธิบายเฉพาะทฤษฎีที่ใช้ ซึ่งกระบวนการนี้ก็น่าสนใจเช่นกัน ลิงค์ได้ใช้ปรากฎการทั่วไปมาเป็นตัวเปรียบเทียบ, และมันก็เข้าใจได้ง่ายด้วย
เซลีนอ่านโครงร่างทั้งสามจบและพร้อมที่จะทดลองดูด้วยการเข้ามาเกาะแขนลิงค์, เธอก็ส่งเสียงอ่อน “ฉันอยากจะลองดูตอนนี้เลย ฉันค่อยเย็บกระดาษพวกนี้ทีหลังได้ไหม?”
ลิงค์ทำอะไรไม่ได้ในเมื่อเธอชอบ, เขาก็ทำได้แค่พูดว่า “ได้สิ, เก็บโครงร่างพวกนี้เอาไว้ข้างๆนะ แล้วก็นี่, ลองทดลองด้วยวัตถุดิบพื้นฐานพวกนี้สิ”
เซลีนทำการทดลองอย่างมีความสุข,และอนุญาติให้ลิงค์เขียนต่อ เวลาเดินไปเรื่อยๆและสองชั่วโมงครึ่งก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เสียงของแจ็คเกอร์ดังมาจากข้างนอก“ท่านครับ, พวกเรามาถึงแล้ว”.ไอลีนโนเวล.
ลิงค์เก็บกระดาษของเขาแล้วหันไปหาเซลีน แต่เมื่อเห็นว่าเธอยังคงจดจ่ออยู่กับการเสริมพลัง, เขาจึงตัดสินใจไม่รบกวนเธอ แล้วแอบออกมาจากห้องพัก
ที่ด้านนอก,ลิงค์เห็นเกาะแม่เหล็กที่ถูกไต้ฝุ่นทำความสะอาดไป เกาะมีขนาดเล็ก—มันกว้างแค่ 300 ฟุตเท่านั้น เอาจริงๆแล้ว, มันก็เป็นแค่แนวปะการังที่โผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ
“ทอดสมอ”ลิงค์สั่ง “ยึดเข้ากับขอบฝั่ง!”
ลูกเรือทำตามที่สั่งครึ่งชั่วโมงต่อมา, สายเคเบิลที่เตรียมไว้หลายโหลก็ถูกผูกเข้ากับเกาะ มีหัวปักขนาดใหญ่ที่ทำจากเหล็กอยู่ที่ปลายสายเคเบิ้ล ลูกเรือผูกเคเบิ้ลที่ปลายแนวปะการังอย่างแน่นหนา จากนั้นพวกเขาก็ใช้ค้อนเคาะหัวปักเข้าไปในรอยแตก
หลังจากนั้นไม่นาน,เรือรบทั้งสามลำก็เชื่อมสายเคเบิ้ลขนาดยักษ์กับเกาะเล็กๆแห่งนี้
ลิงค์ยืนอยู่บนเกาะในตอนที่ลูกเรือจัดการไปเกือบเสร็จแล้ว, เขาก็ตะโกนบอก “เอาหล่ะ, กลับไปที่เรือได้!”
ลูกเรือไม่รู้ว่าลิงค์วางแผนจะทำอะไร,แต่พวกเขาก็กลับไปในทันที ลิงค์ยืนอยู่ที่กลางเกาะ เขากดหินที่อยู่ตรงกลางแล้วใส่พลังมังกรเข้าไป พลังมังกรระดับตำนานนั้นได้ขุดลึกเข้าไปในหินและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง, มันขยายไปเรื่อยๆจนลึกกว่า 1,000 ฟุต
ระยะนี้ไม่ใช่ขีดจำกัดของเขาอย่างไรก็ตาม, ลิงค์รู้สึกว่าแหล่งแร่ค่อนข้างเบาบางในระยะนี้ ดังนั้นการขุดต่อไปก็ไม่มีความหมายอะไร
ด้วยการสูดหายใจเข้าลึกๆ,เขาก็ร่ายฉีกมิติ “ทำลาย!”
แกร้ก!มีเสียงดังสนั่น แล้วทั้งแนวปะการังก็ถูกกระชากออกจากฐานด้วยฉีกมิติ
กลุ่มแร่ขนาดยักษ์ที่แตกออกมาเริ่มไถลลงจากฐาน,แต่พลังมังกรของลิงค์ก็ขยายไปทั่วทั้งแนวประการังอย่างรวดเร็ว เขาเปิดใช้สนามพลังฮิกส์
ภายใต้สนามพลังนี้,กลุ่มแร่ทั้งหมดก็กระเพื่อมเหมือนกับโฟมพลาสติก มันเริ่มลอยขึ้นด้วยเหตุผลบางอย่าง, และสายเคเบิ้ลที่รัดไว้อย่างลวกๆก็ถูกดึงจนแน่น
ทุกคนบนเรือต่างก็พากันตกใจ
“พวกนายรออะไรอีกหล่ะ?เริ่มเดินทางกลับกันได้แล้ว!” ลิงค์ตะโกน
เขาไม่ได้คิดที่จะละเมียดละไมเหมือนกับพวกไฮเอลฟ์;เขาแค่จะเอาเหมืองแม่เหล็กไปทั้งหมดเลย จริงๆแล้วมันไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น เขาตั้งใจจะสร้างวงแหวนมิติขึ้นมาและลากมันไปทีเดียว
อย่างไรก็ตาม,นี่ก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน ในตอนที่พวกไฮเอลฟ์กลับมา, เกาะก็จะหายไปแล้ว, และความขัดแย้งก็จะไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะทุกอย่างหายไปแล้ว หึหึ
ในที่สุดแจ็คเกอร์ก็เรียกสติกลับมาจากความตกใจได้แล้วเขาก็ตะโกน “เร็ว, เร็วเข้า! เริ่มเดินทางกลับได้!”
พลเอกเกรย์สันวิ่งไปที่ห้องกับตันในขณะที่ตะโกน“ถอนสมอ! เพิ่มมานาลมไปทางซ้ายเต็มกำลังแล้วหักหางเสือไป 20%!”
ฟิ้ว!มานาไหลผ่าน, และเรือรบทั้งสามลำก็เริ่มลากกลุ่มแร่ขนาดยักษ์มุ่งหน้าไปทางเฟิร์ด
กลุ่มแร่นั้นได้รับความเร็วเพิ่มขึ้นและในที่สุด, มันก็รักษาความเร็วเอาไว้ที่ 100 ฟุตต่อวินาที ตลอดเวลามานี้, ลิงค์ยังคงยืนอยู่บนกลุ่มแร่ เขาใช้สนามพลังเพื่อรักษาสมดุลของแหล่งแร่เอาไว้เพื่อไม่ให้มันฉุดเรือทั้งสามลำจนพลิกคว่ำ
นี่อาจจะเป็นเทคนิคการทำเหมืองที่ห้าวหาญที่สุดในประวัติศาสตร์ฟิรุแมนเลยก็ว่าได้
ในอีกด้านนึง,นักเวทย์ไฮเอลฟ์และคนขุดเหมืองอีกกว่า 100 คนยังคงพายเรือของพวกเขาอย่างแข็งขัน, และกำลังเข้าใกล้เกาะรุ่งอรุณ
“ไป!ไป! พี่น้องทั้งหลาย, ในตอนที่พวกเราไปถึงเกาะรุ่งอรุณ, พวกเราจะสอนบทเรียนให้พวกมนุษย์ชั้นต่ำกัน!”
“ฮุ่ยเล่,ฮุ่ย, พวกเราคือนักขุดเหมือง!”
“ฮุ่ยเล่,ฮุ่ย, พวกเราใช้มือของตัวเองสร้างความมั่งคั่งขึ้นมา!”
“ฮุ่ยเล่,ฮุ่ย!”
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่ม,แต่ในขณะที่คนขุดเหมืองพวกนี้กำลังภายเรือ, พวกเขาก็เริ่มร้องเพลง และเรือก็เร็วขึ้นเล็กน้อย
พวกเขาพายอยู่แบบนั้นเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว,และใช้เรียวแรงกับพลังใจไปจนหมด พวกเขาต่างก็หอบแฮกๆเหมือนกับหมา
ในตอนนั้นเอง,จุดสีดำก็ปรากฎขึ้นที่ปลายขอบฟ้า “ดูนั่น” ลูกเรือคนนึงชี้ “ข้าคิดว่ามันคือเรือค้าขายของพวกเรานะ!”
เกาะรุ่งอรุณกับดินแดนเฟิร์ดนั้นมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ใกล้ชิดกันมากๆเกาะรุ่งอรุณจะผลิตอุกรณ์เวทมนตร์, ทรัพยาการรักษาอันล้ำค่า, และยาบำรุง ในขณะที่เฟิร์ดจะขายทรัพยากรธรรมชาติจากทั่วทุกมุมโลกให้กับพวกเขา
สำหรับตอนนี้,เกาะรุ่งอรุณนั้นมีกำไรมากกว่าเฟิร์ดสองเท่าตัว พวกเขาทำอะไรไม่ได้ มันไม่ใช่ความผิดของพวกเขาที่ไฮเอลฟ์ก้าวหน้าขนาดนี้
นักเวทย์พูดขึ้นมาในทันที“เยี่ยมเลย เรือลำนั้นจะต้องมีนกฮูกหางขาวสำหรับส่งสารอย่างแน่นอน พวกเราจะให้พวกเขาส่งจดหมายกลับไปให้!”
“ใช่แล้ว,เรือรบของพวกเราจะสอนบทเรียนให้ไอ้มนุษย์พวกนั้น!” คนขุดเหมืองชูหมัดของเขาขึ้น วันนี้คือวันที่น่าผิดหวังยิ่งกว่าเหตุการณ์อื่นใดในประวัติศาสตร์สำหรับพวกเขา!