Advent of the Archmage - 462: โรคที่รักษาไม่หาย
Chapter
จากบนท้องฟ้าจะมองเห็นแผ่นดินที่ถูกทำลายเละเทะอยู่ทั่วป่าเกอเวนท์เนื่องจากสงครามที่เพิ่งจะผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้
กองทัพของเดลอนก้าได้ถูกจัดการย่อยยับในสงครามกับกองทัพของเฟิร์ดนอกจากนี้ยังต้องเผชิญกับความจริงที่ว่านักเวทย์ระดับตำนานลิงค์เป็นผู้ปกครองของเฟิร์ดอีก ดังนั้นทางฝั่งเดลอนก้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมถอยกลับไปแต่โดยดี
แต่ก็โชคไม่ดีที่มันเป็นไปตามที่พวกเขาคาดเอาไว้ ศัตรูคู่แค้นของเดลอนก้า อาณาจักรเซาท์มูนนั้นไม่ได้ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปและเข้ามาโจมตีในทันที
ในตอนนี้อาณาจักรเซาท์มูนวางแผนที่จะทำลายอาณาจักรเดลอนก้าในตอนที่พวกเขาอ่อนแอ
ด้วยความที่เฟิร์ดกับเซาท์มูนเป็นพันธมิตรกันลิงค์จึงคิดว่าเขาโชคดีมากๆ
ในตอนที่อาณาจักรเซาท์มูนจัดการอาณาจักรเดลอนก้าได้สำเร็จการทำธุรกิจระหว่างเฟิร์ดกับเซาท์มูนก็จะราบรื่นขึ้นเยอะ
ในขณะที่หัวของลิงค์เต็มไปด้วยเรื่องเหล่านี้นักบินที่อยู่ด้านหน้าเขาก็พูดขึ้น “ท่านลอร์ด พวกเรามาถึงสถาบันอีสโควฟแล้ว ท่านจะลงข้างในเลยไหม?”
“ไม่ต้องหรอกหาที่จอดใกล้ๆกับสถาบันก็พอ ฉันไม่อยากทำให้พวกคนที่อยู่ข้างในตกใจ”
ตอนนี้เขาเป็นนักเวทย์ระดับตำนานและก็เป็นนักเวทย์ระดับตำนานอย่างเป็นทางการคนแรกของเผ่ามนุษย์ด้วย ถ้าข่าวการกลับมาของเขาเล็ดลอดออกไป ทุกคนที่อยู่ในสถาบันก็จะออกมาต้อนรับเขาอย่างเต็มกำลังและมันก็จะทำให้เขาเสียเวลาอย่างมาก
เรือเหาะได้ลงจอดตรงพื้นที่ว่างภายในป่าที่อยู่ห่างออกไปจากสถาบันเล็กน้อยลิงค์ลงจากเรือเหาะและเริ่มมุ่งหน้าไปยังสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟ หลังจากที่เดินไปได้ซักพัก เขาก็ทำการคำนวนและใช้เวทย์ข้ามมิติ
ฟุบเกิดแสงสีขาวขึ้น และร่างของลิงค์ก็หายไปในทันที ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็มายืนอยู่ที่หน้าหอคอยเวทมนตร์ของเอร์เรร่า
สถาบันแห่งนี้ยังคงเงียบสงบเหมือนเช่นเคยมีนักเวทย์ฝึกหัดจำนวนนึงกำลังวิ่งลงมาตามทางลาดหินที่ทอดยาวไปถึงหอคอยเวทมนตร์ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ทันสังเกตุเห็นลิงค์ ที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นที่นี่
ลิงค์เดินไปที่ทางเข้าหอคอยเวทมนตร์จากนั้นเขาก็เคาะรูนบนประตูทางเข้าเบาๆ เสียงกริ่งข้างในดังขึ้น หลังจากผ่านไปสักพัก ประตูก็เปิดออก และมีนักเวทย์ฝึกหัดที่ดูแล้วอายุไม่น่าเกิน 15 หรือ 16 ปี โผล่หน้าออกมา
เขามองมาที่ลิงค์และตกใจไปชั่วขณะนึงก่อนที่จะถามออกมา“สวัสดีครับ มีอะไรให้ข้าช่วยไหม?”
ลิงค์สวมชุดนักฆ่าสีน้ำเงินเข้มพร้อมกับมีดาบห้อยอยู่ที่เอวของเขาเมื่อตัดสินจากกล้ามเนื้อของเขา นักเวทย์ฝึกหัดจึงคิดว่าเขาน่าจะเป็นนักรบ มันคือร่างกายของนักรบที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์เวทมนตร์อันน่าทึ่ง และพอได้ข้อสรุปนี้ นักเวทย์ฝึกหัดก็ไม่ได้ตั้งสมมุติฐานอะไรเกี่ยวกับบุคคลที่อยู่ตรงหน้าเขาอีก
“มาสเตอร์มอยร่าอยู่ที่นี่รึเปล่า?ฉันมีธุระกับเธอหน่ะ”
“ท่านอยากจะพบกับอาจารย์หรอ?คือว่า ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในหอคอยนะครับ”
ลิงค์รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยและถามอีกครั้ง“แล้วนายรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?”
“เธออยู่ที่หนามสวรรค์ครับเธอน่าจะกลับมาในเร็วๆนี้”
“งั้นหรอว่าแต่ นักเวทย์ไรไลอยู่ข้างในรึเปล่า?” ลิงค์ถามอีกครั้ง และตัดสินใจที่จะไปหาลูกศิษย์ของเขา
“เธออยู่ข้างในรอแปบนะครับ ข้าจะไปตามเธอมาให้”
“โอเค”ลิงค์ยืนคอยเขาอยู่หน้าประตู
นักเวทย์ฝึกหัดปิดประตูที่อยู่ข้างเขาพอผ่านไปสักพัก ประตูก็เปิดออกอีกครั้ง และไรไลก็เดินยิ้มออกมาจากหอคอย
ในตอนแรกเธอรู้สึกสับสนเล็กน้อยเพราะว่าเธอไม่มีคนรู้จักที่เป็นนักรบเลย แต่พอเห็นลิงค์ ใบหน้าของเธอก็ฉีกยิ้มออกมาในทันที และเธอก็ตะโกนอย่างดีใจ “อาจารย์ ลมอะไรหอบท่านมาที่นี่เนี่ย?”
ลิงค์ยิ้มกลับไปอย่างอ่อนโยน“ฉันมาหาอาจารย์หน่ะ รวมทั้งลูกศิษย์ของฉันด้วย เธอจะให้ฉันเข้าไปไหม?”
“ได้สิคะเข้ามาเลย อีกสักพักเดี๋ยวป้าเอร์เรร่าก็กลับมาแล้ว” ไรไลกระโดดโลดเต้นเหมือนกับเด็กในตอนที่เธอนำทาง.Aileen-novel.
ท่าทางเล่นใหญ่ของเธอทำให้นักเวทย์ฝึกหัดมือใหม่บางคนที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ถึงกับตกใจ
“นักรบที่อยู่กับไรไลเป็นใครหน่ะทำไมเธอดูสนิทกับเขาจัง?” นักเวทย์ฝึกหัดที่เป็นคนเปิดประตูให้ลิงค์ถามขึ้น
“ข้าก็ไม่รู้ข้าไม่เคยได้ยินเลยนะว่าช่วงนี้ทางอาณาจักรมีนักรบที่แข็งแกร่งแบบนี้ด้วย…แล้วทำไมนักเวทย์ฝึกหัดคนอื่นถึงยืนขึ้นกันหมดเลยหล่ะ?” นักเวทย์ที่มาใหม่ถาม
เขารู้สึกว่าเขาถูกเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆดึงให้ลุกขึ้นเหมือนกันแล้วก็มีเสียงกระซิบเบาๆเข้ามาในหูเขา “เจ้านั่งอยู่เฉยๆได้ยังไงกัน นั่นคือลอร์ดเฟิร์ดนะ!”
“อะไรนะ,ลอร์ดเฟิร์ดหรอ? เหวอ!” นักเวทย์ตกใจเพราะนึกขึ้นมาได้อย่างกระทันหันและเขาก็ลุกพรวดพราดขึ้นมา เกิดอาการเจ็บปวดขึ้นที่เข่าของเขา และเขาก็สะดุดไปข้างหน้า ล้มลงไปชันเข่าอยู่กับพื้น
ลอร์ดเฟิร์ดก็คือลิงค์,หนึ่งในรุ่นพี่ของสถาบันแห่งนี้และยังเป็นนักเวทย์ระดับตำนานคนแรกของทวีปใช่ไหม? ทำไมเขาถึงจำไม่ได้กันนะ?
เด็กหนุ่มที่เปิดประตูให้ลิงค์บ่นพึมพำอยู่ข้างๆเด็กใหม่“โถ่ พลาดโอกาสดีๆแบบนี้ไปได้ยังไง…จำเขาไม่ได้แบบนี้ข้านี่สมควรควักลูกตาออกมาจริงๆ!”
ท่ามกลางเหตุการณ์เหล่านี้ลิงค์ได้เดินตามไรไลไปที่ชั้นสองของหอคอยเวทมนตร์ ในตอนแรกไรไลต้องการที่จะให้เขารออยู่ที่ชั้นสอง แต่ว่าลิงค์ก็ยิ้มให้กับเธอและพูดออกมา “ไม่หล่ะ ไปรอที่ห้องโถงใหญ่ชั้นบนสุดกันเถอะ”
เขาเดินนำไปและครั้งนี้ก็เป็นไรไลที่เป็นฝ่ายตาม
พอมาถึงทางเข้าของห้องโถงใหญ่ที่ชั้นบนสุดลิงค์ก็ใส่รหัสผ่านลงไปในรูนที่อยู่ข้างประตู ด้วยเสียงดังกริ๊ก ประตูก็เปิดออก
รหัสผ่านนั้นยังคงเหมือนกับตอนที่เขาเป็นนักเวทย์ฝึกหัดในสถาบันนี้
ในตอนที่พวกเขาเข้ามาในห้องโถงใหญ่ลิงค์ก็ไปนั่งบนม้านั่งและจากนั้นก็กวักมือเรียกไรไลด้วยรอยยิ้ม “มานั่งตรงหน้าฉันสิแล้วเอาสมุดจดออกมาด้วย ฉันจะช่วยตอบปัญหาให้เธอเอง”
“ได้ค่ะ”ไรไลผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัดในตอนที่เธอนั่งลงและเธอก็ส่งสมุดจดของเธอให้กับลิงค์
ลิงค์เปิดสมุดดูอยู่ประมาณ10 นาทีและก็เข้าใจความก้าวหน้าในด้านเวทมนตร์ของไรไลได้ เข้าชี้ให้เธอดูตรงการวิเคราะห์เวทย์เลเวล 3 ที่มีชื่อว่าวงแหวนน้ำแข็งแล้วพูด “ตรงนี้เธอทำผิดนะ ที่อุณหภูมิห้อง ธาตุน้ำจะมีความเหลวเป็นพิเศษ ในการที่จะให้มันมีความแหลมคมเหมือนกับเหล็กนั้น โครงสร้างเวทมนตร์จะต้องเป็นแบบนี้”
ลิงค์ยื่นนิ้วออกมาและเขียนโครงสร้างเวทมนตร์ที่ปรับปรุงใหม่บนอากาศ
ไรไลจมอยู่ในห้วงความคิด10 นาทีต่อมา สีหน้าของเธอก็สดใสขึ้น “อย่างนี้นี่เอง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนูถึงผนึกหุ่นเชิดเวทมนตร์สำหรับทดลองด้วยวงแหวนน้ำแข็งของหนูไม่ได้”
เธอถามต่อ“แล้วเวทย์วารีบำบัดของหนูหล่ะคะ? ครั้งที่แล้วที่หนูลองรักษากระต่ายตามที่ได้รับคำแนะนำมา แต่สุดท้ายมันก็ตายอยู่ดี ถึงแม้ว่าอุบัติเหตุแบบนั้นจะเกิดขึ้นได้ยาก แต่หนูก็ค่อนข้างรู้สึกกลัวการใช้เวทมนตร์บทใหม่ๆ”
ลิงค์เปิดไปหน้าที่เธอเขียนถึงวารีบำบัดเธอได้บันทึกผลการทดลองเอาไว้ด้วย เมื่อดูจากกระบวนการทั้งหมดที่เธอบันทึกเอาไว้แล้ว เธอคงจะรู้สึกผิดมากที่ฆ่ากระต่ายไป
หลังจากอ่านมันลิงค์ก็เข้าใจเหตุผลที่ทำไมกระต่ายถึงตายและยิ้มให้กับเธอ“ไม่เป็นไรนะ มันไม่ได้มีปัญหาที่เวทย์ของเธอหรอก ปัญหามันอยู่ที่กระต่ายตัวนั้นต่างหากหล่ะ เธอเขียนเอาไว้ว่าทั่วทั้งร่างของกระต่ายมีตุ่มบวมเต็มไปหมด และก็มีของเหลวหนืดๆไหลออกมาจากตาของมัน ใช่ไหม?”
”ใช่ค่ะมันน่าสงสารมากๆเลย”
จากนั้นมันก็ถึงเวลาที่ลิงค์ทำการวิเคราะห์ปัญหาให้ฟัง“มันน่าจะเกิดจากการที่ธาตุไม่สมดุลนะ มันทรมานจากการบวมน้ำ เพื่อรักษาตัวเอง ร่างกายจะดูดซับน้ำในปริมาณมากตามสัญชาติญาณเพื่อที่จะขับไล่สารพิษออกจากร่างกาย และพอมาถึงจุดนี้ ร่างกายของมันก็จะเต็มไปด้วยน้ำ และพอได้รับเวทย์วารีบำบัดของเธอเข้าไปอีก สมดุลของธาตุก็เลยถูกทำลาย ทำให้ระบบภายในของกระต่ายพังลงในที่สุด”
“อ้าวถ้างั้นหนูก็เป็นคนฆ่าใช่ไหมคะ?” ดวงตาของไรไลนั้นเต็มไปด้วยน้ำตา
“ก็ไม่เชิงหรอกสภาพของมันอยู่ในระยะสุดท้ายตั้งแต่แรกแล้ว คิดซะว่าเป็นการทำให้มันจากไปอย่างสงบแล้วกันนะ เถอะหน่า ไม่ต้องร้องหรอก ฉันจะอธิบายกฏพื้นฐานในการรักษาด้วยเวทมนตร์ให้กับเธอเอง ครั้งหน้าเธอจะได้ไม่ทำพลาดอีก”
“โอเคค่ะ”ไรไลเช็ดน้ำตาออก
จากนั้นลิงค์ก็เขียนข้อความเอาไว้ที่ใต้บันทึกวารีบำบัดของไรไล: ‘กุญแจสำคัญในการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพคือการรักษาสมดุลภายใน การทำให้ธาตุภายในตัวสมดุลนั้นจะช่วยให้โอกาสในการรักษาโรคเพิ่มมากขึ้น แต่ก็แน่นอนว่า ทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายเสมอไป….’
ลิงค์เริ่มสอนลูกศิษย์ของเขาถึงกฎเหล็กในการใช้เวทย์รักษาไรไลฟังอย่างตั้งใจ และทุกครั้งที่เธอเจอปัญหา เธอก็จะสับสนอยู่พักนึง แต่พอเธอขอคำอธิบายจากลิงค์เพิ่มเธอก็จะเข้าใจมันได้
ลิงค์นั้นจะตอบคำถามของเธอเพียงแค่ประโยคเดียวหรืออาจจะแค่คำเดียวในบางครั้ง และไรไลก็จะรู้ลึกมากขึ้นในทุกๆคำตอบ
เวลาผ่านไปอย่างเงียบสงบในตอนที่ทั้งอาจารย์และลูกศิษย์ได้มานั่งอยู่ด้วยกันพวกเขาก็พูดคุยกันอย่างจริงจัง ทันใดนั้นเอง อยู่ๆก็มีเสียงดังมาจากประตูห้องโถงใหญ่ มีใครบางคนกลับมาแล้ว
โดยที่ไม่ต้องหันไปดูลิงค์ก็รู้ว่าเอร์เรร่าได้เข้ามาในห้องแล้ว เสียงของเธอนั้นดังมาจากข้างนอกของห้องโถงใหญ่ “อ้ะ ดูเหมือนว่าวันนี้พวกเราจะมีแขกนะ”
เธอเข้ามาในห้องโถงพร้อมกับรอยยิ้มอันอบอุ่นและอ่อนโยน
ลิงค์ยืนขึ้นและทำความเคารพเธอ“อาจารย์”
แม้ว่าเขาจะสำเร็จการศึกษาไปนานแล้วแต่เขาก็ยังรู้สึกขอบคุณที่เคยได้รับการชี้แนะจากเธอในอดีต
เอร์เรร่ามองมาที่ลิงค์เธอเองก็ถูกครอบงำด้วยอารมณ์ “เห้อ เวลาช่างผ่านไปไวจริงๆ เผลอแป๊บเดียว เจ้าก็ไปถึงจุดที่ไม่เคยมีมนุษย์คนไหนไปถึงมาก่อนแล้ว”
ในตอนที่ทั้งสองคนนั่งลงลิงค์ก็ถามขึ้น “อาจารย์ ดูเหมือนว่าวันนี้คุณจะดูเศร้าๆนะ มีปัญหาอะไรรึเปล่า?”
แม้ว่าใบหน้าของเอร์เรร่าจะยิ้มอยู่แต่ลิงค์ก็รู้จักกับเธอมาเป็นเวลานานแล้วจนรู้ว่าเธอมีเรื่องกลุ้มใจบางอย่าง หางคิ้วของเธอตกลงเล็กน้อย และเธอก็ลืมตาไม่เท่ากับปกติ ลิงค์คุ้นเคยกับสีหน้าของอดีตอาจารย์ของเขาดี
ด้วยความตกใจเล็กน้อยเอร์เรร่าก็ฝืนยิ้มให้ลิงค์ “นี่ข้าถูกอ่านง่ายขนาดนี้เลยหรอ?”
“ไม่หรอกผมแค่รู้จักอาจารย์ดีเกินไปเท่านั้นเอง” ลิงค์พูดพร้อมกับหัวเราะ
เอร์เรร่าถอนหายใจ“มันมีปัญหาจริงๆนั่นแหล่ะ มีเมืองเล็กๆอยู่ทางเหนือชื่อว่าการ์ราซอน ที่นั่นมีโรคประหลาดแพร่ระบาดอยู่ มันจะทำให้คนที่ติดโรคกลายเป็นคนไร้เหตุผลและได้รับพลังมหาศาล จากนั้นคนที่ติดเชื้อก็จะโจมตีทุกคนที่เห็นอย่างบ้าคลั่ง โรคนี้ติดต่อกันได้ง่ายมาก; การกัด รอยข่วน หรือแม้กระทั่งการสัมผัสกับตัวผู้ที่ติดเชื้อด้วยกันเอง และอาการของโรคก็จะเกิดขึ้นภายใน 10 นาทีหลังจากที่ได้รับเชื้อด้วย”
ลิงค์รู้สึกตกใจ“นักบวชรักษาคนพวกนั้นไม่ได้หรอ?”
จากการเล่าของเอร์เรร่ามันดูเหมือนกับโรคระบาดเลย
“นั่นและคือเรื่องที่น่ากลัวที่สุดโรคนี้ไม่มีเวทย์ศักดิ์สิทธิ์บทไหนที่รักษาได้เลย!”
ลิงค์ตกอยู่ในความเงียบไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็ถามขึ้น “สภาพของเมืองการ์ราซอนดูไม่ค่อยดีเลยใช่ไหม?”
เอร์เรร่าเคาะหัวของเธอ“ดูเหมือนว่าถึงจะปิดบังเจ้าไปก็คงไม่มีประโยชน์อะไรสินะ อันที่จริงคือ การ์ราซอนนั้นเป็นแค่แหล่งกำเนิดของโรคระบาด ตอนนี้โรคได้แพร่กระจายไปด้วยอัตราที่น่ากลัวจนไปถึงเมืองชายแดนแล้ว และตอนนี้ มันก็กำลังจะถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้แล้ว”