Advent of the Archmage - 477: พลังของกาลเวลา
Chapter
ฟิ้ว!
ด้วยสายลมกรรโชก,นากาอีกคนที่มีปีกสีแดงก็ปรากฎขึ้น เธอคือนากานักบวช เธอเข้ามารับคาทูช่าที่กำลังร่วง
ลิงค์ไม่ได้ไล่ตามพวกเธอพลังของหอกแห่งชัยชนะนั้นได้แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้ว ถ้าเขาไล่ตามพวกเธอและคาทูช่าเคลื่อนไหวอีกผรั้ง, มันก็คงจะเป็นจุดจบสำหรับเขา
เขาปล่อยให้ตัวเองร่วงลงไปพร้อมกับเซลีนที่หมดสติ
นักรบมังกรแดงทั้งสามคนก็ไม่กล้าไล่ตามเหมือนกันพวกเขาบินวนอยู่บนฟ้า, และช่วยผู้โชคร้ายที่ร่มชูชีพเสียหาย หลังจากผ่านพ้นความวุ่นวาย, ทั้งกลุ่มก็ลงมาถึงพื้น
โดยรวมแล้ว,มีตายไปสองคน—คนนึงเป็นยับบ้าและอีกคนเป็นนักรบ ส่วนคนที่เหลือได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ความตายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการต่อสู้ ตายไปแค่สองคนก็ถือว่าโชคดีแล้ว
ราชาลีออนก็ยังสบายดีเหมือนกันเห็นได้ชัดว่าขาของเขาไม่ได้หักและแค่อยู่ในสภาพตกใจเพียงเล็กน้อย นักรบมารวมตัวกันรอบซากเรือเหาะเพื่อฝังผู้เสียชีวิตและดูแลคนเจ็บ
ลิงค์ตรวจดูสภาพร่างกายของเซลีนการหายใจของเธอยังเสถียรอยู่, จังหวะการเต้นของหัวใจก็แข็งแรงดี เขาเปิดเปลือกตาแล้วใช้เวทย์แสงส่องดู และม่านตาของเธอก็มีการตอบสนองเช่นกัน เธอน่าจะไม่เป็นอะไร
ลิงค์เดาว่าเซลีนคงจะเหนื่อยจากการฝืนใช้พลังเธอน่าจะได้สติหลังจากที่พักผ่อนซักเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าทั้งหอกแห่งชัยชนะกับตัวเซลีนนั้นได้ใช้พลังกาลเวลาบางอย่าง ทั้งคู่ใช้กาลเวลาปะทะกันและหอกแห่งชัยชนะก็พ่ายแพ้ไป
หอกแห่งชัยชนะใช้เทคนิคต่อสู้ที่เรียกว่าหนามแห่งโชคชะตาโชคชะตาก็คือเส้นเวลารูปแบบนึง มันต้องคาดการณ์การเคลื่อนไหวทั้งหมดของฉันได้แน่ๆ ไม่แปลกใจเลยที่ฉันไม่สามารถป้องกันมันได้ ลิงค์คร่ำครวญอยู่ในใจ
เขาได้วิจัยความลึกลับของมิติจนถึงขั้นสูงแล้วอย่างไรก็ตาม, ในเรื่องของเวลานั้นเขารู้แค่พื้นฐาน วันนี้เขาเกือบจะสูญเสียครั้งใหญ่ แต่ก็ยังโชคดีที่เขามีเซลีน
อย่างไรก็ตาม,เขายังรู้สึกไม่มั่นใจอยู่ดี ภายในหัว, เขาได้ถามวิญญาณดาบราชามังกรพิโรธ “คุณคิดว่าเซลีนจะตื่นเมื่อไหร่?”
ไม่ใช่เรื่องน่าห่วงอะไรหรอกเธอแค่เหนื่อยเกินไป, ผ่านไปซักพักเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง เจ้าต่างหากหล่ะที่น่าห่วง
“ผมหรอ?”ลิงค์ตกตะลึง
ใช่,เจ้านั่นแหล่ะ เจ้าตกเป็นเป้าหมายของหอกแห่งชัยชนะแต่ยังไม่ถูกฆ่า ตอนนี้วงแหวนสัมพันธ์ของมันอยู่กับตัวเจ้า มันจะส่งผลจนกว่าวงแหวนนี้จะถูกปิดลง
“จนกว่าวงแหวงสัมพันธ์จะปิดลงงั้นหรอ?มันจะปิดลงก็ต่อเมื่อผมตายสินะ?” ลิงค์พอรู้พื้นฐานของเวลา
ใช่พูดอีกนัยนึงก็คือ, เจ้ากำลังเดินไปหาความตาย
อันที่จริงลิงค์ไม่ได้กลัวเรื่องนี้เลยในเมื่อทำลายวงแหวนสัมพันธ์ได้แล้วครั้งนึง มันก็สามารถทำลายเป็นครั้งที่สองได้ “ตอนนี้อยากได้มีดแตกหักจังเลยแฮะ” เขาคร่ำครวญ “ถ้ามีนะ, ฉันคงไม่ตกอยู่ในสภาพน่าอนาถแบบนี้”
มีดจุดแตกหักสามารถตัดทุกอย่างได้,รวมทั้งเวลา
อันที่จริง,ข้าก็สามารถตัดวงแหวนสัมพันธ์ได้นะ ถ้าความคมไร้สิ้นสุดถูกปลดล็อคอย่างสมบูรณ์, เจ้าก็สามารถใช้ข้าป้องกันหอกแห่งชัยชนะได้
ลิงค์รู้สึกดีใจความคมไร้สิ้นสุดคือผลของดาบราชามังกรพิโรธ มันสามารถตัดชุดเกราะหรือเวทมนตร์ได้อย่างง่ายดาย เขาคิดไม่ถึงเลยว่ามันสามารถตัดเวลาได้ด้วย “แล้วผมจะปลดล็อคมันได้ยังไง?” เขาถามอย่างรีบร้อน “ผมต้องใช้พลังมากแค่ไหน?”
ข้ารู้ว่าเจ้ารู้ปริมาณพลังมังกรของเจ้าเป็นตัวเลขถ้าคำนวนแบบนั้น, ข้าคิดว่าข้าจำเป็นต้องใช้พลังมังกรอย่างน้อยหนึ่งล้านแต้มนะ ถ้าได้พลังระดับนี้ข้าจะเลื่อนขั้นเป็นเลเวล 12 และปล็ดล็อคความคมไร้สิ้นสุดในเวลาเดียวกัน
“เข้าใจแล้ว!ไม่มีปัญหา” ลิงค์พยักหน้า
พลังมังกรของเขาฟื้นฟูในอัตรา37 แต้มต่อวินาที เขาสามารถผลิตพลังมังกรหนึ่งล้านแต้มและยกทั้งหมดให้ดาบได้ในเวลาสามวัน มันก็แค่งานง่ายๆ
ในขณะที่กำลังถ่ายพลังมังกรเข้าไปในดาบ,เขาก็ถามอีกครั้ง “ผมต้องถ่ายพลังให้เท่าไหร่ถึงจะไปเลเวล 13, 14, หรือปล็ดล็อคคุณอย่างสมบูรณ์ได้”
ข้าไม่รู้เสียงของวิญญาณดาบดูสับสนเล็กน้อย เจ้าเป็นเจ้าของของข้า ข้าไปได้ไกลแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับว่าเจ้าไปได้ถึงระดับไหน…อสรพิษทมิฬเคยอ่อนแอกว่าข้า, แต่เจ้าของของมันได้จุดไฟศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นแมงมุมดำ, ดังนั้นมันก็เลยกลายเป็นอุปกรณ์ระดับพระเจ้า
พอได้ยินแบบนี้ลิงค์ก็ยิ้มออกมา“ไม่ต้องห่วง ผมจะพัฒนาต่อไป”
ข้าจะรอดูก็แล้วกันนะ
พอพูดจบ,วิญญาณดาบก็เงียบลง
ในตอนนั้นเอง,นักรบก็จัดการเรื่องทุกอย่างได้แทบจะเรียบร้อยแล้ว กัปตันเมอร์ลินเดินมาหาลิงค์ “นายท่าน, ตอนนี้พวกเราจะเอายังไงดีครับ?”
เรือเหาะถูกทำลายพวกเขาไม่มีวิธีขึ้นเหนือให้ได้โดยไวแล้ว
“ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหน?อีกไกลไหมกว่าจะถึงป้อมโอริด้า?” ลิงค์ถาม
“พวกเราอยู่ในภูเขาเกล็น271 ไมล์จากทางใต้ของป้อมครับ?” เมอร์ลินรายงานในทันที
“สองร้อยเจ็ดสิบเอ็ดไมล์ถือว่าไม่ไกลเท่าไหร่เรือเหาะถูกทำลายไปแล้วเพราะฉะนั้นนายเก็บวัตถุดิบที่ใช้ได้แล้วเดินทางกลับเฟิร์ดซะ ส่วนคนที่เหลือไปหาต้นไม้ต้นใหญ่ๆในระแวกนี้ ขุดหลุมใต้ต้นไม้แล้วรอฉันอยู่ที่นั่น”
มียับบ้าเหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่งแสนสองหมื่นคน;นักบินยิ่งมีค่ากว่า พวกเขาจะถูกใช้อย่างสะเพร่าไม่ได้แถมพวกเขาก็ไม่ได้เก่งเรื่องการต่อสู้ขนาดนั้น ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรนักถ้าจะเอาพวกเขาไปใช้ที่ป้อมปราการ
พอจัดแจงเสร็จเรียบร้อย,ลิงค์ก็พาไปแค่นักรบแม่นปืน 19 คน, ราชาลีออน, และนักรบมังกรอีกสามคน เขาตั้งใจจะใช้ต้นไม้สร้างเรือแคนนูขึ้นมาแล้วให้ทุกคนนั่ง จากนั้นเขาก็จะใช้เดินอากาศพาไปที่ป้อมโอริด้าภายในหนึ่งชั่วโมง
“ครับท่าน”ทุกคนขานรับแล้วแยกย้ายกันไป
ลิงค์อยู่ดูแลเซลีนที่ไม่ได้สติไม่กี่นาทีต่อมา, ลิงค์ก็รู้สึกว่าเซลีนเริ่มขยับตัว ม่านตาของเธอกระตุก หลังจากผ่านไปครึ่งนาที, เธอก็ลืมตาขึ้น
พอเห็นว่าอยู่ในอ้อมแขนของลิงค์,เซลีนก็พูดขึ้นมา “เห้อ, เหนื่อยจังเลย ฉันขยับตัวไม่ไหว”
บอลแสงสีแดงสดใสปรากฎขึ้นที่ปลายนิ้วของลิงค์นี่คือแก่นพลังชีวิตของมัง พอแสงหายเข้าไปในร่างของเซลีน, เขาก็ถาม “รู้สึกยังไงบ้าง? ได้ผลไหม?”
“อืม,ก็รู้สึกอุ่นดีนะ, แต่ฉันไม่อยากลุกนี่” เซลีนไม่ได้ลุกขึ้นมาจากอ้อมแขนของลิงค์, และลิงค์ก็ปล่อยเธอไป
ในตอนนั้นเอง,ก็มีนักรบตะโกนมาจากข้างหน้า ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น
ลิงค์หัวใจเต้นรัวด้วยความรู้สึกกลัวว่าพวกนากาจะกลับมาอีกครั้ง, เขาพยุงเซลีนขึ้นแล้วออกไปดู เขาเห็นนักรบมังกรคนนึงลากชายแปลกหน้าเนื้อตัวมอมแมมที่ถูกปกคลุมด้วยเถาวัลย์และใบไม้เข้ามา
พอเดินมาถึง,มังกรก็พูดขึ้น “ดยุค, ไอ้หมอนี่มันมาทำลับๆล่อๆอยู่แถวนี้ ข้าคิดว่ามันอาจจะเป็นสปายของอกาธา นากา!”
พอเห็นลิงค์,ชายคนนั้นก็ดึงเอาเถาวัลย์ออก, เผยให้เห็นใบหน้าที่สกปรก “ลอร์ด, ข้าเอง, สคินอร์ส!”
ลิงค์จำเขาได้แล้วถามอย่างแปลกใจ“นายมาที่นี่ทำไม? แล้วไปทำยังไงถึงมีสภาพโทรมแบบนี้?”
สคินอร์สถอนหายใจออกมาในขณะที่กำลังแกะเถาวัลย์ออก, เขาก็พูดขึ้น “ข้ามาที่นี่เพื่อส่งจดหมายให้ท่าน ข้าอยู่ที่อีกฝั่งนึงของภูเขาในตอนที่เห็นความวุ่นวายบนท้องฟ้า ข้าเห็นท่านด้วย, ดังนั้นข้าก็เลยรีบเดินทางมาที่นี่”
พอพูดจบ,เขาก็เอาจดหมายเปื้อนเลือดออกมาแล้วส่งให้ลิงค์ “อันที่จริงองค์หญิงแอนนี่กับคาร์นอสมีหน้าที่ส่งจดหมายฉบับนี้ให้ท่าน, แต่พวกเขาถูกนากาไล่ล่าและได้รับบาดเจ็บหนัก เพื่อนของข้ากับข้าช่วยพวกเขาเอาไว้, ดังนั้นข้าเลยต้องมาส่งจดหมายนี้แทน มันมาจากท่านแม่ทัพ พวกเราเปิดอ่านไปแล้ว ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”
เขามองลิงค์อย่างไม่สบายใจ,กลัวว่าจะถูกตำหนิ มันแตกต่างจากตอนที่พวกเขาเปิดจดหมายดูก่อนหน้านี้ เขารู้สึกผิดในตอนที่มาอยู่ต่อหน้าลิงค์
พอได้ยินแบบนี้,ลิงค์ก็ขมวดคิ้ว เขาเอาจดหมายมาเปิดดู แล้วรู้จากประโยคแรกว่าจดหมายฉบับนี้มาจากดยุคอาเบลจริงๆเพราะเขาจำลายมือได้
ในขณะที่อ่าน,เขาก็ขมวดคิ้วหนักขึ้นเรื่อยๆ “นายรู้สถานการณ์ที่แกลดสโตนไหม?” เขาถามสคินอร์ส “เกิดการแพร่ระบาดขึ้นจริงๆหรอ?”
สคินอร์สเกาหัว“ข้าเองก็ไม่มั่นใจ, ข้าได้ยินมาจากพวกทหารรับจ้างว่ามีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นจริงๆ แต่ว่าเจ้าเมืองตอบสนองได้อย่างรวดเร็วก็เลยควบคุมเหตุการณ์เอาไว้ได้”
ลิงค์ตกใจยิ่งกว่าเดิมด้วยสภาพของดยุคอาเบลในตอนนี้, เขาคงจะไม่สนใจว่าการแพร่ระบาดถูกควบคุมเอาไว้ได้หรือไม่ เขาแค่ต้องการข้ออ้างในการฆ่า
นอกจากนี้,มันมีความเป็นไปได้ว่าการแพร่ระบาดนี้มีคนตั้งใจทำให้เกิดขึ้น มันน่าจะควบคุมได้แค่ชั่วคราว ถ้ายังหาตัวคนบงการไม่พบ, มันก็จะแพร่ต่อไปเรื่อยๆ พูดอีกนัยนึงก็คือ, นี่อาจจะส่งผลให้เกิดการสังหารหมู่ในแกลดสโตน พวกเขาจะถูกทหารหรือไม่ก็โรคระบาดฆ่าตาย
สรุปสั้นๆก็คือนี่เป็นหายนะของประชาชนในเมืองแกลดสโตน!
“นายได้รับจดหมายฉบับนี้มากี่วันแล้ว?”ลิงค์ถาม
“หนึ่งวันครึ่งครับข้าต้องคอยหลับพวกนากาด้วย, ดังนั้นก็เลยรีบมากไม่ได้ แต่ก็ถือว่าโชคดีนะครับที่ข้ามาพบท่านที่นี่” สคินอร์สรู้สึกโชคดีมาก ถ้าเขาคลาดกับลิงค์ที่นี่, เรื่องทุกอย่างจะช้าขึ้นไปอีก
หนึ่งวันครึ่งนั้นถือว่าไม่นานเท่าไหร่ป้อมโอริด้าอยู่ทางเหนือของแกลดสโตนห่างกันประมาณ 60 ไมล์ มันใช้เวลาอย่างน้อยห้าวันกว่ากองทัพจะเตรียมตัวและเดินทางมาถึง พวกเขายังมีโอกาสอยู่
ข้างๆพวกเขา,ราชาลีออนได้สติกลับมาในที่สุด “มาสเตอร์ลิงค์, เกิดอะไรขึ้นหรอ?” เขาถาม
ลิงค์ส่งจดหมายให้เขาราชาลีออนรับมาแล้วพออ่านไปได้ครึ่งนึง, เขาก็ลุกพรวดขึ้นมา “โถ่, องค์เทพแห่งแสงผู้ยิ่งใหญ่, พวกเราต้องหยุดเขาให้ได้!”
“นั่นก็เป็นสิ่งที่ผมคิดอยู่เหมือนกัน”
จากนั้น,ภารกิจก็ปรากฎขึ้นในทัศนวิสัยของลิงค์
เปิดชุดภารกิจ:โรคระบาดในแกลดสโตน
ขั้นแรก:ตามหาแหล่งโรคระบาด
รายละเอียด:รีบไปที่แกลดสโตนแล้วสืบค้นทั้งเมืองเพื่อตามหาผู้แพร่โรคระบาด
รางวัล1: ค่าโอมนิ 100 แต้ม
รางวัล2: ตุ๊กตารับเคราะห์
ด้วยความรู้สึกสนใจ,ลิงค์จึงตรวจดูข้อมูลของตุ๊กตา
ตุ๊กตารับเคราะห์
ตำนาน
ผล:ด้วยสิ่งนี้, ผู้เล่นจะสามารถป้องกันการโจมตีถึงตายได้หนึ่งครั้ง
(หมายเหตุ:หน้าที่ของข้าคือการตายเพื่อท่าน)
นี่คือสิ่งที่ลิงค์ต้องการเขารับภารกิจแล้วพูดขึ้นในทันที “ไปที่แกลดสโตนกันเถอะ!”