Advent of the Archmage - 492: แพไม้ไผ่ของนักเดินเรือ
Chapter
ในประวัติศาสตร์ของอาณาจักรนอร์ตันและอาจจะรวมถึงของมนุษย์ด้วย มีแม่ทัพเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีที่มาจากสามัญชน
คาร์โนสน่าจะเป็นคนแรกของอาณาจักรนอร์ตัน
และเขายังเป็นแบบอย่างในด้านอื่นด้วย:ในประวัติศาสตร์ 3,000 ปีของมนุษย์ คาร์โนสนั้นเป็นนักรบระดับตำนานคนแรกที่ถูกเลื่อนขั้นให้เป็นแม่ทัพผ่านความสามารถที่แท้จริงและการทำงานหนัก
เขาได้ก้าวเข้าสู่ระดับตำนานเมื่อ3 วันก่อน ก่อนหน้านี้ เคยมีนายพลหลวงในกองทัพหลายคนที่คัดค้านการเลื่อนยศของเขา แต่ในตอนนี้พอเขาได้กลายมาเป็นนักรบระดับตำนาน การคัดค้านก็ถูกปัดตกไป
ลิงค์ไม่ได้ตกใจกับเรื่องนี้แม้ว่าเขาจะใช้รูนผนึกรอยแตกไปแล้ว แต่ความหนาแน่นของมานาก็ยังเพิ่มขึ้นจนมาถึงช่วงท้ายเกมแล้ว
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ใครก็ตามในทวีปที่มีความสามารถจะสามารถก้าวเข้าสู่ระดับตำนานได้ ซึ่งคาร์โนสก็แค่เป็นคนแรกของบุคคลเหล่านั้นเท่านั้น
ในป้อมปราการคาร์โนสยืนนิ่งอยู่ในห้อง คนรับใช้ต่างก็มามุงกันวุ่นรอบตัวเขาในขณะที่คอยช่วยสวมเกราะต่อสู้สีดำ-ทองของแม่ทัพให้เขาอยู่ ภายนอก คาร์โนสนั้นดูนิ่งมาก
แต่ภายในนั้นเขารู้สึกได้ว่าหัวใจเต้นเร็วมาก มันส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งร่างกายของเขา
เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันแบบนี้จะมาถึง
ป้อมโอริด้านั้นเป็นภูเขาลูกแรกสำหรับการที่จะผ่านทางเหนือของประเทศของมนุษย์การที่ถูกเลื่อนยศให้เป็นแม่ทัพของป้อมปราการแห่งนี้ก็หมายความว่าตอนนี้เขายืนอยู่ที่จุดสูงสุดของนักรบมนุษย์ทุกคนแล้ว
คนรับใช้สวมเกราะทุกส่วนให้เขาเสร็จเรียบร้อยแล้วที่ด้านหน้าคาร์โนสมีกระจกขนาดเท่าตัวคนอยู่ มีนักรบตัวสูงสวมชุดเกราะอยู่ในกระจก เขาสวมเกราะสำหรับต่อสู้สีทอง-ดำและทั่วทั้งตัวก็ถูกแต่งเติมด้วยรูน
นักรบในกระจกนั้นดูมีราศีและให้ความรู้สึกที่ทรงพลังมากเหมือนกับผู้กล้าที่มาจากตำนานในอดีตเลย
พอได้เห็นรูปสะท้อนของตัวเองคาร์โนสก็หลงเข้าไปในภวังค์ เขากำลังนึงถึงเรื่องบางอย่างตั้งแต่สมัยเด็ก
เขาเป็นลูกของคนดูแลม้า
ในตอนที่เขายังหนุ่มเขาเคยช่วยพ่อให้อาหารม้า และทำความสะอาดคอกม้า เขาดูแลม้าศึกที่สวยงามพวกนี้อยู่ทุกวัน แต่ว่าเขาก็ไม่เคยมีโอกาสได้ขี่มันเลย เพราะเขาไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะทำเช่นนั้น
เขาเคยเห็นผู้อาวุโสหลวงสวมชุดหรูหรามากมายเดินเข้าออกวังของตระกูลอาเบลเขาสนุกกับการมองดูอัศวินที่เดินตามหลังพวกเขาและใฝ่ฝันมาโดยตลอดว่าสักวันนึงเขาจะได้สวมชุดเกราะและดาบที่สวยงามแบบนั้น
แต่ก็แน่นอนว่า,ทั้งหมดนั้นเป็นแค่ความปราถนา
พ่อของเขามักจะพูดกับเขาเป็นครั้งคราว“คาร์โนส งานดูแลม้าเป็นธุรกิจครอบครัว ถ้าเกิดว่าเจ้าอยากจะมีชีวิตที่มั่นคง อย่าไปไล่ตามอะไรที่เป็นไปไม่ได้”
ในตอนที่พ่อของเขาจากไปคาร์โนสมีอายุแค่13 ปี เขาเคยคิดว่าเขาจะติดอยู่ตรงจุดนั้นในฐานะตัวแทนของพ่อ จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พบกับดยุคอาเบล
“เด็กคนนี้ดูแข็งแรงดีนะ”ดยุคพูดกับเขา
ในตอนนั้นดยุคกำลังสรรหาคนหนุ่มจำนวนมากที่มีอายุพอๆกับคาร์โนสมาจัดตั้งเป็นทีมบอดี้การ์ดของเขา คาร์โนสเองก็ถูกเลือกให้มาฝึกฝนเช่นกัน ซึ่งคาร์โนสยังคงจำทุกอย่างได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกที่เขาได้กวัดแกว่งดาบ, ครั้งแรกที่เขาปล่อยเหงื่อออกมาท่วมตัว ครั้งแรกที่เขาได้รับบาดเจ็บ ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้ได้เสริมสร้างเขาให้กลายมาเป็นนักรบที่สง่างาม
ตอนนี้เขาทำมันสำเร็จแล้ว และผลลัพธ์ที่ได้ก็มากกว่าที่เขาหวังเอาไว้ซะอีก
ด้วยเสียงพรึ่บเบาๆผ้าคลุมสีแดงงดงามก็ถูกกลัดที่ไหล่ของเขา จากนั้นคนรับใช้ก็พูดเบาๆ “ท่านแม่ทัพ ถึงเวลาแล้วครับ”
คาร์โนสพยักหน้าเขาเห็นนักรบระดับตำนานที่อยู่ในกระจกพยักหน้าในเวลาเดียวกับเขา พ่อครับ ท่านกำลังดูอยู่รึเปล่า? ตอนนี้ข้าไม่ใช้ผู้ดูแลม้าธรรมดาๆอีกแล้วนะ เขาคิดในใจ
เขาหันไปทางประตูและเดินออกไปที่ระเบียงทางเดินเหล่าคนรับใช้เดินนำหน้าเขาไปจนถึงที่ทางเข้าห้องโถงใหญ่ของป้อมปราการ
ห้องโถงใหญ่นี้ถูกตกแต่งอย่างงดงามมีพรมแดงปูอยู่ที่พื้น ในขณะที่กำแพงทั้งสี่ด้านถูกแขวนเอาไว้ด้วยธงศึกรูปหัวสิงโต ทหารในป้อมปราการเองก็สวมชุดเกราะที่เปล่งประกายที่สุดของพวกเขามาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
ในตอนที่คาร์โนสมาถึงประตูใหญ่สายตาทั้งหมดก็จับจ้องมาที่เขาในทันที
นายพลทุกคนรีบทำความเคารพเขาในแบบของทหารและที่เวที ราชาลีออนกับลอร์ดเฟิร์ดก็พยักหน้าให้เขาด้วยรอยยิ้ม
ในตอนนั้นเองที่อกของคาร์โนสก็เต็มไปด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ
นี่คือเป้าหมายสูงสุดของนักรบทุกคน
เขาเดินผ่านห้องโถงใหญ่ไปเรื่อยๆจนมาถึงจุดที่ราชาลีออนอยู่จากนั้นเขาก็คุกเข่าลงครึ่งนึงต่อหน้าองค์ราชาเพราะเขารู้ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้ทำแบบนี้ต่อหน้าราชา หลังจากนี้เป็นต้นไปในฐานะแม่ทัพ เขาจะแค่ทำการคำนับเมื่ออยู่ต่อหน้าพระราชา
ราชาลีออนได้วางฝ่ามือลงบนศรีษะของคาร์โนสและถามออกมา“คาร์โนส หน้าที่ของเจ้าคืออะไร?”
“ปกป้องทางเหนือและขับไล่ความมืดมิด!”
“สิ่งที่เจ้ายึดถือปฏิบัติคืออะไร?”
“ความเมตตาความภักดีและเกียรติยศ”
จากนั้นราชาลีออนก็พูดต่อ“นับจากนี้เป็นต้นไป เจ้าได้กลายเป็นราชสีห์ของอาณาจักรนอร์ตัน ผู้บัญชาการสูงสุดของป้อมโอริด้าแล้ว”
ในตอนที่พูดจบราชาลีออนก็ถือดาบพลบคล่ำของผู้กล้าที่ลิงค์ดัดแปลงแล้วด้วย2มือ ดาบนั้นได้ถูกตั้งชื่อใหม่ว่าความภาคภูมิใจของราชสีห์ แต่สำหรับตอนนี้ มันจะถูกรู้จักกันในฐานะดาบของแม่ทัพ
คาร์โนสสูดหายใจเข้าลึกๆเตรียมพร้อมที่จะรับดาบ
มีแสงส่องมาจากกลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังพวกเขาเพราะมีนักเวทย์บางคนได้เอาคริสตัลความทรงจำออกมาบันทึกเหตุการณ์เอาไว้
นักรบระดับตำนานคาร์โนสดูเจิดจรัสที่สุดในหมู่พวกเขาตามมาด้วยราชา สำหรับลอร์ดเฟิร์ดลิงค์, เขาได้เนียนเข้าไปอยู่กับกลุ่มคน กลายเป็นบุคคลที่ไม่เด่นในพื้นหลัง
นี่ไม่ใช่สิ่งที่นักเวทย์กองทัพต้องการในความเป็นจริง พวกเขาต้องการให้ลิงค์ออกมามากกว่านี้เพื่อให้ติดอยู่ในคริสตัลความทรงจำของพวกเขา ในฐานะที่เป็นบุคคลที่ทรงพลังที่สุดของอาณาจักร แต่ว่ามันก็เปล่าประโยชน์ ลิงค์ได้เนียนเข้าไปกับพื้นหลังของภาพที่พวกเขาถ่ายแล้ว
การมีอยู่ของเขาถูกคนอื่นๆละเลย.ไอรีนโนเวล.
หลังจากที่ส่งดาบให้คาร์โนสราชาลีออนก็มอบ เข็มกลัดติดเสื้อ แหวนและเข็มขัดที่ลิงค์ได้สร้างขึ้นสำหรับแม่ทัพคนใหม่
คาร์โนสค่อยๆสวมทีละชิ้นในตอนที่เขาใส่ครบ ออร่าสีทอง-ดำที่อธิบายได้ยากก็ส่องประกายออกมาจากชุดเกราะของเขา มันทำให้ตัวตนของเขาดูลึกลับและคลุมเครือยิ่งขึ้น
คาร์โนสรู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือนในจิตวิญญาณของเขาในทันทีความตื่นเต้นและความกลัวได้หายไปจากตัวเขาจนหมด จิตใจของเขาเข้าสู่สภาวะสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันเหมือนกับว่าไม่มีอะไรในโลกนี้ทำให้เขากลัวได้อีกแล้ว
นี่จะต้องเป็นการปกป้องจิตวิญญาณที่มาสเตอร์ลิงค์พูดถึงแน่ๆเขาคิด มันเยี่ยมมากเลย
เขาพยายามมองหาลิงค์ที่อยู่ท่ามกลางผู้คนแต่เขาก็สังเกตุเห็นว่ามาสเตอร์ระดับตำนาน ที่การกระทำของเขาสามารถตัดสินชะตากรรมของอาณาจักรได้นั้น ตอนนี้ได้ไปถึงประตูทางเข้าของห้องโถงใหญ่แล้ว ลิงค์รู้สึกได้ถึงสายตาของคาร์โนสและหันมายิ้มให้กับเขา แล้วร่างของเขาก็ค่อยๆจางหายไปจนในที่สุดก็ไม่เหลือตัวตนอยู่
คาร์โนสถอนหายใจอยู่ลึกๆเขาเคยอ่านบทความนึงจากหนังสือที่เขียนโดยกษัตริย์ผู้ทรงปัญญาเมื่อ 800 ปีก่อน
ราชาองค์นั้นได้เขียนเอาไว้ว่าอาณาจักรก็เหมือนกับแพไม้ไผ่และเวลาก็คือแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว นักเดินเรือที่ฉลาดจะไม่พยายามปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินของแพ แม้ว่าจะมีหินผุดขึ้นมาที่ใจกลางแม่น้ำ เขาก็จะเพิ่มขนาดของไม้พายที่อยู่ในมือและผลักหินเบาๆ ควบคุมแพให้อ้อมมันไปอย่างชาญฉลาดและปล่อยให้มันไหลตามแม่น้ำไป
คาร์โนสรู้สึกว่าลิงค์คือนักเดินเรือที่ชาญฉลาดและประชาชนของอาณาจักรนอร์ตันก็คือผู้โดยสารที่อยู่ในแพไม้ไผ่ของเขา
เขาพูดกับตัวเอง“ขอบคุณครับ ท่านเทพแห่งแสง ที่ได้ประทานบุคคลที่ชาญฉลาดเช่นนี้มาให้กับพวกเรา”
…
พอพิธีจบลงคาร์โนสก็ถูกเลื่อนยศเป็นแม่ทัพอย่างเป็นทางการ และที่เหนือกว่าอะไรทั้งหมด ตอนนี้เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานที่มีอุปกรณ์อันเหมาะสม
ด้วยการที่มีเขาปกครองป้อมโอริด้าอยู่ทางเหนือก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
ลิงค์กลับไปที่หอคอยเวทมนตร์และเก็บของของเขาเตรียมพร้อมที่จะเดินทางลงใต้
เรือเหาะของยับบ้าได้มาจอดรอแล้วโดยที่เมอลินยังคงเป็นนักบินอยู่ ลิงค์ เซลีน นักบวชจากแฮปเบิร์กรวมทั้งนักแม่นปืนบางส่วนได้ขึ้นมาบนเรือ
“ท่านลอร์ดจะเริ่มออกเดินทางเลยไหมครับ?”เมอลินถาม
“เดี๋ยวก่อนราชาลีออนยังไม่ได้เสด็จมาที่นี่เลย”ลิงค์พูด
ประมาณ10 นาทีต่อมา ราชาลีออนก็เสด็จมาถึง พร้อมกับคาร์โนส ดยุคอาเบลและเจ้าหญิงแอนนี่ที่อยู่ข้างๆเขา
ราชาลีออนกับดยุคอาเบลได้โบกมือให้คาร์โนสกับเจ้าหญิงแอนนี่ในตอนที่พวกเขาเดินขึ้นไปบนไม้กระดาน
ในตอนที่สองพี่น้องอาเบลขึ้นมาบนเรือเรือเหาะก็เริ่มออกเดินทาง
ในระหว่างนั้นลิงค์ไม่ได้เผยตัวออกมาเลย ดูเหมือนว่าเจ้าหญิงแอนนี่จะไม่ค่อยพอใจกับเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่คาร์โนสพยายามปลอบใจเธอ ลิงค์ก็ยิ้มให้กับตัวเองพร้อมกับมองลงมาดูภาพที่อยู่ด้านล่าง
หลังจากอยู่บนฟ้าได้ซักพักราชาลีออนก็มองมาที่ลิงค์ ราวกับว่ามีเรื่องอยากจะพูดกับเขา
“ฝ่าบาทมีอะไรรึเปล่าครับ?”
“จอห์นอยากจะอาศัยอยู่ที่เฟิร์ดหน่ะ”ราชาลีออนพูดพร้อมกับยิ้มแบบแปลกๆ
ในเมื่อพวกเขาทั้งคู่เป็นพี่น้องกันและพอพิจารณาถึงเรื่องที่ดยุคอาเบลไม่มีโอกาสจะได้รับพลังของตัวเองกลับคืนมาแล้ว ราชาลีออนก็มีความตั้งใจว่าจะขังเขาอยู่ที่บ้าน เพื่อที่ดยุคจะได้เพลิดเพลินกับความหรูหราของชีวิตชนชั้นสูงได้เหมือนกับเมื่อก่อน
ลิงค์รู้ว่าราชาต้องการอะไรและยิ้มให้กับเขา“ผมจะสร้างหมู่บ้านให้เขาที่เฟิร์ดแล้วกันนะครับ”
“ขอบคุณมากนะ”ราชาพูดอย่างปลื้มปิติ จากนั้นเขาก็พูดต่อ “ยังมีอีกเรื่องนึง….ขะ…ข้ากำลังคิดเรื่องการสร้างเมืองฮอทสปริงขึ้นมาใหม่”
ในฐานะราชาเขาคิดว่าเขาไม่ควรจะอาศัยอยู่ในเฟิร์ดไปตลอดชีวิต ก่อนหน้านี้ เขาไม่เข้าใจถึงความตั้งใจของลิงค์ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะขอขนาดนั้น เพราะกลัวว่านั่นอาจจะทำให้เขาถูกฆ่าได้ แต่พอรู้ถึงความตั้งใจของลิงค์แล้ว เขาก็รู้สึกว่าลิงค์จะต้องเห็นด้วยกับเขาในการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่อย่างแน่นอน
และที่สำคัญกว่านั้นด้วยการสนับสนุนจากลิงค์ ราชาลีออนก็รู้สึกว่าเขาสามารถขอความช่วยเหลือจากลอร์ดคนอื่นในอาณาจักรในการสร้างกำลังพลและเมืองขึ้นมาใหม่ได้
ลิงค์คิดอยู่พักนึงจากนั้นเขาก็พยักหน้า “ฝ่าบาท ผมจะช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของท่าน แต่ว่าท่านจะต้องไปปรึกษารายละเอียดกับผู้ดูแลลูซี่ก่อนนะ”
ต่อให้เป็นพระราชาแต่ก็มีขั้นตอนมากมายที่เขาต้องปฏิบัติตาม และลิงค์ก็ไม่มีความตั้งใจจะให้คนอื่นมาเห็นนิสัยจริงๆของเขา
พอได้ยินเช่นนี้ราชาลีออนก็รู้สึกดีใจที่เมืองฮอทสปริงจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แต่ว่ามันดูน่ารำคาญเล็กน้อยที่เขาจะต้องไปตกลงกับลูซี่ เพราะไม่เคยมีอะไรออกมาดีหากพวกเขาต้องทำข้อตกลงซึ่งกันและกัน
หลังจากที่บินไปได้5 ชั่วโมงโดยที่ไม่มีปัญหาอะไร ในที่สุดลิงค์กับคนอื่นๆก็เดินทางมาถึงเฟิร์ด
นอกจากเรื่องการวิจัยเวทมนตร์แล้วลิงค์ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอื่นเลย เวลาของเขาแบ่งออกเป็นการอ่านหนังสือเวทมนตร์กาลเวลา การเขียนหนังสือเสริมพลัง และการฝึกฝนดาบ
หนังสือกาลเวลานั้นใช้เวลามากที่สุดเขาเอามันให้อัลโลว่าสตรีแห่งความจริงดู ในตอนที่เธอได้เห็นหนังสือนั้นเธอรู้สึกดีใจเหมือนกับได้ทอง และอ่านมันตลอด 3 วัน 3 คืนโดยไม่ได้พักผ่อน และในวันที่ 4 เธอก็อ้วกออกมาเป็นเลือดเพราะว่าฝืนตัวเองมากเกินไป ดังนั้นลิงค์จึงยึดหนังสือคืนมาจากเธอในทันที
ซึ่งในท้ายที่สุดนั้นอัลโลว่าสามารถทำความเข้าใจหนังสือไปได้แค่ไม่กี่หน้าเท่านั้น
และภายในชั่วพริบตาเวลาก็ผ่านไป1เดือน
วันหนึ่งในตอนที่ลิงค์กำลังต่อสู้ทางจิตใจอยู่กับหนังสือกาลเวลา อยู่ๆเขาก็สัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของพลังงานแสงอันมหาศาลจากดินแดนของเขา
มีใครบางคนเข้ามาในเฟิร์ดพลังงานนั้นเป็นของนักเวทย์แสงระดับตำนานที่เขาเคยพบในหุบเขามังกร!