Advent of the Archmage - 496: พวกเจ้าทุกคนถูกไล่ออก!
Chapter
ในห้องโถงแห่งการสร้างสรรค์
เกรเทลไม่ได้เข้าร่วมการสนทนาเกี่ยวกับผนึกเวทมนตร์กับมังกรนักเวทย์คนอื่นๆเธอนั่งอยู่ที่มุมนึงของห้องโถง, และสายตาก็จดจ่ออยู่กับหนังสือเล่มนึง
เหล่ามังกรนักเวทย์ที่นั่งอยู่รอบโต๊ะยาวของห้องโถงดูเหมือนจะติดปัญหาอยู่ท่ามกลางเสียงฮึดฮัดและเสียงถอนหายใจในขณะที่พวกเขากำลังดิ้นรนแก้ปัญหาที่มีอยู่ในมือนั้น, ผนึกเวทมนตร์ที่กางอยู่เบื้องหน้าพวกเขาก็ยังไม่มีความคืบหน้าที่เป็นรูปเป็นร่างเลย
เมื่อดูจากโครงสร้างของผนึกเวทย์แล้วมันคงจะไม่ได้ราบลื่นนัก
ในตอนที่ลิงค์มาถึงทางเข้า,เกรเทลยังคงจดจ่ออยู่กับหนังสือของเธอจนไม่ได้สังเกตเห็นเขาที่ประตู ดูเหมือนว่าเธอกำลังปิดกั้นตัวเองอยู่ เธอเอามือข้างนึงกุมขมับ, ในขณะที่แขนเสื้อของเธอหลุดลงมาถึงข้อศอกเผยให้เห็นไหล่สีขาวเนียน คิ้วของเธอขมวดกันแน่น, และดวงตาสีแดงสดใสที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่าหินโมร่าที่เก่าแก่ที่สุดในโลกนั้น, ก็ไม่เคยละสายตาออกมาจากหนังสือในมือเลย ไม่ไกลจากเธอ, มีดินสอเวทมนตร์แท่งนึงกำลังเขียนอยู่บนกระดาษ ลิงค์เขม่นตามองและเห็นว่ากระดาษแผ่นนั้นเต็มไปด้วยตัวหนังสือหวัดๆที่ไม่มีความหมายอะไร
ดูเหมือนว่าเกรเทลเองก็จนปัญญาเหมือนกัน
ในตอนที่ลิงค์เข้ามาในห้องโถง,มีมังกรนักเวทย์ส่วนนึงสังเกตเห็นเขาและลุกขึ้นโค้งคำนับเขา ลิงค์โบกมือให้และเดินไปหาราชินีมังกรแดงอย่างเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้, สายตาของเขายังคงจดจ่ออยู่ที่หนังสือที่เธอกำลังอ่าน
ไม่กี่วินาทีต่อมา,ลิงค์ก็ตระหนักได้ว่ามันคือหนังสือกฎเวทมนตร์ที่อยู่ขั้นสูงมากๆ
ลิงค์เคยอ่านหนังสือเล่มนั้นมาก่อนเขารู้ว่าหนังสือเล่มนั้นคือทฤษฎีเวทมนตร์ขั้นสูง, และมันก็ได้อธิบายและคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสภาพแวดล้อมในตอนที่ความหนาแน่นของมานาเพิ่มขึ้นสูงเอาไว้ มันคือประเด็นที่ต้องอ่านสำหรับการเสริมพลังระดับสูง
ด้วยการนึกย้อนไปถึงอุปสรรคที่เขาเจอในขณะที่กำลังอ่านหนังสือเล่มนั้น,และมองไปยังหน้ากระดาษในจุดที่เธอติดพันอยู่, ลิงค์ก็สามารถแก้ปัญหาที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ได้ในเวลาไม่นาน
ด้วยการกระตุ้นจิตใจ,ลิงค์ก็เปิดใช้มือแห่งนักเวทย์และเข้าไปควบคุมดินสอเวทมนตร์ของเกรเทล จากนั้นเขาก็เริ่มใช้ดินสอเขียนการคำนวนของตัวเองลงบนกระดาษแผ่นนั้น
เกรเทลหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเองจนไม่ได้ตอบสนองกับเวทมนตร์ของลิงค์ในทันทีเธอสะดุ้งเล็กน้อย, ก่อนที่จะตระหนักได้ว่าตอนนี้ลิงค์ยืนอยู่ข้างหน้าเธอ เธอเรียกสติกลับมาในทันทีก่อนที่จะเริ่มมองการคำนวณของลิงค์
สูตรเวทมนตร์ค่อยๆปรากฎขึ้นบนกระดาษจากปลายดินสอดินสอนั้นเต้นรำอย่างคล่องแคล่ว, ถ่ายทอดความคิดของลิงค์ลงบนกระดาษทีละนิดจนในที่สุด, คำตอบของเขาก็เป็นรูปเป็นร่าง
ดวงตาของเกรเทลค่อยๆเปล่งประกายขึ้นตลอดช่วงเวลานี้เธอถอนหายใจออกมาในตอนที่ลิงค์เขียนเสร็จ “มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ข้าคิดเรื่องนี้มาตลอดทั้งวันเลยนะเนี่ย”
ในขณะที่พูด,เธอก็ดิดนิ้วเบาๆ, แล้วเก้าอี้ตัวนึงก็เลื่อนมาอยู่ข้างๆเธออย่างไม่มีเสียง “ว่าแต่ลมอะไรหอบเจ้ามาที่นี่หล่ะ?”
ลิงค์นั่งลงแล้วยิ้มให้“พอดีมีเวลาว่างผมก็เลยแวะไปดูบาเรียมิติหน่ะ, แล้วก็เจอปัญหาเข้า”
ความพึงพอใจปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเกรเทลแล้วเธอก็พูดออกมา “เจ้ามาได้ถูกเวลาจริงๆ มาสิ, ช่วยดูผนึกเวทมนตร์ที่อยู่ที่นี่ให้หน่อย”
พอพูดจบ,เกรเทลก็เดินไปที่กลางห้องโถง, ในขณะที่ลิงค์เดินตามหลังเธอ หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว, ลิงค์ก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างสะดุดตา
วันนี้เกรเทลแต่งตัวค่อนข้างเรียบง่ายเธอสวมผ้ากึ่งโปร่งแสงที่พอดีกับรูปร่าง, เผยให้เห็นจุดที่ชวนให้รู้สึกใจสั่นรอบตัวเธอ
ในขณะที่ลิงค์เดินตามหลังเธอ,เขาก็สังเกตเห็นว่าในขณะที่เธอเดินไปข้างหน้านั้น, เอวของเธอส่ายไปมาในลักษณะที่โค้งได้รูปซึ่งจังหวะที่ไหลลื่นเช่นนี้ชวนให้ใครก็ตามที่ได้เห็นอยากจะยื่นมือออกไปแล้วใช้นิ้วสัมผัสเอวของเธอจริงๆ
การเคลื่อนไหวของเอวนี้แทบจะเหมือนกับฝัน,และสะกดจิตคนได้จริงๆ
ลิงค์รู้สึกว่าหัวใจของเขาพุ่งพล่านขึ้นมา,และเขาก็เบือนสายตาหนีในทันที ตอนนี้เขาพบว่าตัวเองมองไปยังม่านผมสีแดงที่ปล่อยลงมาถึงหลังของเกรเทล, และข้างหลังผมของเธอก็คือคอสีขาวเนียน, ซึ่งทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวขึ้นไปอีก
ใครก็ตามที่ได้เห็นความงดงามของราชินีมังกรแดงอาจจะทำให้ตัวเองตาบอดได้โดยไม่รู้ตัวถ้าคนๆนั้นมองเธอใกล้ๆ, ผลก็คงจะคล้ายกับยานอนหลับฤทธิ์รุนแรง, เพราะคนๆนั้นอาจจะไม่อยากตื่นขึ้นมาจากฝันหวานในความสวยของเธอนี้
ภายในเกมส์,ราชินีมังกรแดงมีฉายาว่า “หวานเหมือนดั่งภาพลวงตาของรักแรก” ในทุกๆวัน, จะมีผู้เล่นนับไม่ถ้วนที่พยายามทำภารกิจของเธอให้สำเร็จเป็นเวลาสามเดือนเพียงเพื่อเพิ่มชื่อเสียงในเผ่ามังกรและได้รับสิทธิเข้ามาในห้องโถงมังกร
มักจะมีผู้เล่นเกือบหนึ่งพันคนตามติดเธอเสมอไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน, ก็มักจะมีผู้เล่นกลุ่มใหญ่เดินตามหลังเธอ ซึ่งผู้เล่นเหล่านี้มักจะถูกเรียกอย่างติดตลกว่า “ฝูงแมลงวันที่บินตอมชายเสื้อของราชินี”
ลิงค์ไม่เคยสังเกตมันมาก่อน,แต่ตอนนี้เขามีโอกาสได้สัมผัสกับเสน่ห์ของราชินีมังกรแดงด้วยตัวเอง
เพื่อที่จะห้ามไม่ให้ตัวเองเสียสมาธิ,ลิงค์จึงหลบสายตาไปมองคำภีร์ที่กางอยู่บนโต๊ะ
ดูเหมือนว่าราชินีมังกรแดงจะไม่ทันสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยของลิงค์,และในที่สุดเธอก็มาถึงโต๊ะและพูดออกมา “หลังจากรอยแตกปรากฎขึ้นบนรูนบาเรีย, ข้าก็คิดว่ามันจะดีกว่าถ้าเราสร้างผนึกเวทมนตร์โจมตีเสริมไปด้วยจะได้กำจัดภัยคุกคามได้ในทันทีที่มันออกมา, เผื่อเอาไว้ถ้าบาเรียเกิดอันตราย ในตอนแรก, ข้ายากจะเริ่มทำต้นแบบผนึกขึ้นมาด้วยตัวเองและให้เจ้ามาปรับแต่งให้สมบูรณ์ขึ้นในภายหลัง, แต่สถานการณ์มันยากเกินกว่าที่ข้าคาดการณ์เอาไว้มาก”
“ขอผมดูหน่อย”ตอนนี้ลิงค์จดจ่ออยู่กับผนึกเวทย์ที่กางอยู่บนโต๊ะยาว
ไม่นานนัก,เขาก็หมกมุ่นกับมันอย่างสมบูรณ์ เขาเริ่มเดินวนรอบโต๊ะอย่างช้าๆ, และสังเกตคำภีร์อย่างละเอียด หลังจากที่เดินครบหนึ่งรอบ, เขาก็เข้าใจรายละเอียดทั้งหมดของคำภีร์
เขาส่ายหัว“องค์ราชินี, การจะสร้างผนึกเวทมนตร์ขึ้นมาด้วยรากฐานที่ไม่มั่นคงแบบนี้, ไม่ว่ามันจะสมบูรณ์แค่ไหน, พลังของผนึกก็คงไม่มากไปกว่าเลเวล 15 หรอก แม้ว่าเลเวลมันจะสูงพอตัวอยู่แล้ว, แต่มันไม่พอสำหรับตัวที่มีเลเวล 19 ขึ้นไปที่อยู่ในทะเลแห่งความว่างเปล่าอันไร้ที่สิ้นสุดหรอกนะ สำหรับพวกมัน, การโจมตีเลเวล 15 ก็ไม่ต่างอะไรจากยุงกัดหรอก”
พอเขาพูดแบบนี้,มังกรนักเวทย์ก็ถอนหายใจออกมาแล้วจ้องลิงค์อย่างสับสน ไม่มีทางที่บาเรียขี้ปะติ๋วของพวกเขาจะกักกันพวกตัวโหดๆไม่ให้เขามาในภพของพวกเขาได้ ความไร้เดียงสาเช่นนี้จะนำพาจุดจบมาให้กับเผ่ามังกร
ดูเหมือนว่าเกรเทลจะไม่ได้สับสนกับคำพูดของลิงค์เลยสักนิดเธอยักคิ้วขึ้นแล้วจ้องมาที่ลิงค์, รอฟังความคิดของเขา
ด้วยมือแห่งนักเวทย์,ลิงค์ก็พลิกหน้าคำภีร์ที่อยู่บนโต๊ะแล้วเปลี่ยนเป็นหน้าว่าง จากนั้นเขาก็ควบคุมดินสอเวทมนตร์ที่อยู่ใกล้ๆแล้วเริ่มเขียนสิ่งที่เขาคิดลงบนคำภีร์
เขาเริ่มให้คำอธิบายในขณะที่เขียน“ผมเพิ่งได้แนวคิดนี้มาเมื่อไม่นานนี้เอง โดยผมจะใช้ปรากฎการณ์เอกพจน์ที่จะเกิดขึ้นในกรณีต่างๆของการบิดเบือนมิติเป็นพื้นฐาน”
“ปรากฎการณ์เอกพจน์หรอ?”เกรเทลถามอย่างสงสัย.ไอลีนโนเวล.
ลิงค์พยักหน้า“ใช่ ผมกำลังศึกษาปรากฎการณ์นี้อย่างละเอียด ซึ่งมันเล็กมากจนวิธีการวัดตามแบบแผนทั้งหมดไม่สามารถใช้กับมันได้, แต่ผมคิดว่ามันสามารถเก็บสสารได้ในปริมาณไม่จำกัด ในทางทฤษฎี, ถ้าผมโยนภูเขาลงไปในเอกพจน์, ภูเขาก็จะถูกมันเก็บเอาไว้ทั้งหมด และในจุดนี้, เอกพจน์ก็จะมีมวลของภูเขาทั้งลูกอยู่ข้างใน”
เอกพจน์ที่เขากำลังพูดอยู่นั้นเหมือนกับหลุมดำของโลกในบางประการ,แต่เนื่องจากความแตกต่างทางกฎกายภาพที่ควบคุมทั้งสองโลกนี้, มันจึงมีจุดที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงอยู่ หนึ่งในความแตกต่างก็คือเอกพจน์นั้นสามารถปรับแต่งได้และรุนแรงน้อยกว่าหลุมดำในโลกของลิงค์
เกรเทลเพลิดเพลินกับคำอธิบายของลิงค์แล้วเธอก็ถามต่อ “มีวิธีที่จะปล่อยพลังที่เก็บเอาไว้ข้างในเอกพจน์ออกมาได้อย่างปลอดภัยไหม?”
“ในส่วนของเรื่องนั้นผมจำเป็นต้องเริ่มอธิบายลักษณะของเอกพจน์ก่อนในเอกพจน์, ทุกสิ่งที่มีตัวตนอยู่ในฟิรุแมนจะแปรสภาพเป็นพลังงานบริสุทธิ์ มันเหมือนกับกลุ่มก๊าซที่ถูกควบแน่นอย่างต่อเนื่องจนเป็นจุดเล็กๆในมิติ ภายใต้เงื่อนไขเช่นนี้, ในตอนที่มิติบิดเบือนกลับเป็นปกติ, สสารทุกอย่างที่ถูกควบแน่นในเอกพจน์จะระเบิดพลังงานอันไร้ขีดจำกัดออกมาในทันที…องค์ราชินี, ถ้าพวกเราปล่อยพลังงานที่เก็บหินหนึ่งหมื่นตันเอาไว้ข้างใน, ผมรับรองเลยว่าคุณจะสร้างระเบิดที่ทำลายครึ่งฟิรุแมนเลย!”
คำพูดของลิงค์ทำให้ทุกคนรอบตัวเขาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“พระเจ้า,นั่นมันน่ากลัวเกินไปแล้ว!”
“มันเป็นเรื่องจริงหรอครับ,ท่านดยุค?”
มังกรนักเวทย์ทุกคนมองมาที่ลิงค์อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“ใช่”ลิงค์พยักหน้าแล้วพูดต่อ “แต่ก็แน่นอนว่า, การบีบอัดหินขนาดยักษ์เข้าไปในเอกพจน์นั้นก็มีความยากในตัวของมันอยู่ อาจจะพูดได้เลยว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเรื่องแบบนั้น, และเพื่อฟิรุแมน, มาหวังกันเถอะว่าพวกเราจะไม่จำเป็นต้องเสี่ยงขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม, การบีบอัดพลังงานหนึ่งตันนั้นเป็นไปได้อยู่, หรือไม่สิบตันก็น่าจะพอไหว, และเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อยก็ติดตั้งรูนคู่เพื่อควบคุมการปล่อยพลังงาน จากนั้นระเบิดก็จะตรงเข้าไปในรอยแตกมิติ แล้วอะไรก็ตามที่อยู่ข้างในรอยแตกคงจะต้องคิดทบทวบอีกครั้งก่อนที่จะเข้ามาในโลกของเรา”
ในโลกนี้,การทำลายมักจะง่ายกว่าการสร้างสรรค์เสมอ
พลังของลิงค์ในตอนนี้อยู่ที่เลเวล11 ซึ่งนี่มาจากความจริงที่ว่าพลังในตัวเขาเป็นพลังชีวิตบริสุทธิ์และทุกพลังชีวิตก็สามารถถูกสร้างขึ้นได้ แม้ว่าพลังของเขาจะเติบโตในอัตราที่ค่อนข้างช้าด้วยเหตุผลบางประการ, แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่สามารถใช้เวทย์ที่สูงกว่าเลเวล 11 ได้
หนึ่งในข้อได้เปรียบมากมายที่สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญามีก็คือความสามารถและการใช้อุปกรณ์ในการทำเรื่องบางอย่างให้สำเร็จซึ่งตัวอย่างอุปกรณ์เหล่านั้นก็คงจะเป็นคทาเวทมนตร์
ในขณะที่เขาอธิบายทฤษฎีให้ทุกคนในห้องฟัง,ลิงค์ก็ร่างแบบมิติลงบนคำภีร์เสร็จ ในแวบแรก, ทั้งโครงร่างนี้ดูเหมือนกับผลงานศิลปะ, แต่พอสังเกตดีๆ, มันคือแบบร่างที่ละเอียดมากจนใครก็ตามที่ได้เห็น, ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือเธอก็อาจจะรู้สึกถูกกระตุ้นให้น้ำตาไหลออกมาได้
นักเวทย์บางคนที่อยู่รอบๆโต๊ะจ้องมาที่ผลงานของลิงค์,พยายามทำความเข้าใจหลักการที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังแบบทั้งหมด, ในขณะที่คนส่วนใหญ่ได้ยอมแพ้ไปแล้ว
คนๆเดียวที่สามารถเข้าใจมันได้ก็คือราชินีมังกรแดง
ในตอนที่เธอดูจบ,สายตาของเธอก็ฉายความตื่นเต้นออกมา “นี่คือแกนกลางของเอกพจน์สินะ แล้วเจ้าตั้งใจจะควบคุมพลังงานของมันยังไงหล่ะ?”
แค่เอกพจน์อย่างเดียวไม่เพียงพอพลังงานข้างในจะระเบิดเป็นวงกลม และยิ่งแรงระเบิดแผ่ไปไกลเท่าไหร่, ผลกระทบก็จะยิ่งลดลงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม, คลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นนั้นจะส่งผลกระทบกับมังกรนักเวทย์ทุกคนที่อยู่รอบผนึกเวทมนตร์
แม้ว่าเอกพจน์อาจจะเป็นแหล่งพลังงานที่แข็งแกร่ง,แต่ว่าผนึกที่ควบคุมมันนั้นก็จะต้องรับบทบาทที่สาหัสยิ่งกว่าเดิมในภายหลัง
มันคงจะต้องใช้เทคนิคที่ละเอียดอ่อนมากถึงจะปล่อยพลังงานที่รุนแรงออกมาให้อยู่ภายใต้การควบคุมได้
ลิงค์ผายมือแล้วพูดอย่างเศร้าใจ“ผมพอมีความคิดคร่าวๆแล้วว่าจะจัดการแก้ปัญหาการควบคุมพลังงานยังไง, แต่ผมยังไม่เข้าใจวิธีแก้ปัญหาจริงๆหรอก”
เกรเทลพูดอย่างปลอบโยน“แค่ความคิดคร่าวๆก็พอแล้ว เอาหล่ะ, พวกเราจะคุยเรื่องนี้ให้จบภายในวันนี้ ส่วนเรื่องที่เหลือข้าจะจัดการให้เสร็จกับดยุคลิงค์ในภายหลัง
แม้ว่าจะมีมังกรนักเวทย์ในห้องโถงถึง20 คน, แต่จากมุมมองของราชินีแล้ว, ไม่มีพวกเขาคนไหนที่พึ่งพาได้เท่าลิงค์เลย