Advent of the Archmage - 497: ทำสตูว์ผสม
Chapter
ห้องโถงแห่งการสรรสร้าง
“เอาหล่ะลิงค์ ไหนลองเล่าความคิดของเจ้ามาให้ฟังหน่อยซิ” ราชินีมังกรแดงมีความรู้เกี่ยวกับเอกพจน์มิติและรู้ถึงความยากในการควบคุมพลังของมัน ดังนั้น เธอจึงรู้สึกสนใจว่าลิงค์จะควบคุมมันยังไง
เธอดึงเก้าอี้เข้ามาสองตัวและวางไว้ข้างๆกันถัดจากโต๊ะยาวที่อยู่ตรงกลางห้องโดยเธอนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่อยู่ทางฝั่งขวา
ลิงค์คิดว่านี่ดูไม่เหมาะสมซักเท่าไหร่แต่ว่าเขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพูดถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆกับราชินี เขานั่งลงบนเก้าอี้ทางซ้ายและเอาสมุดจดออกมากาง เขารวบรวมความคิดอยู่พักนึง จากนั้นเขาก็เริ่มเขียนเกี่ยวกับวิธีการควบคุมที่เขาคิดไว้
หลังจากเขียนอยู่พักนึงเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มือขวา มีบางอย่างที่อ่อนนุ่มกำลังกดลงมาที่เขา และเขาก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆโชยมาอีกด้วย มันทั้งหอมหวานและนุ่มนวลจนทำให้เขาอยากจะสูดดมต่อไปเรื่อยๆ
ลิงค์ส่งเสียงคร่ำครวญอยู่ในใจเขาไม่รู้ว่าเกรเทลตั้งใจทำรึเปล่า แต่ว่าเธอกำลังเอนตัวมาทางเขาเพื่ออ่านสมุดจดข เขาไม่สามารถตั้งสมาธิได้เลยแม้แต่นิดเดียว ปากกาของเขาหยุดลงโดยไม่รู้ตัว
“เอ้าเจ้าจะหยุดทำไมกัน? เขียนต่อสิ”
เสียงของเกรเทลดังเข้ามาในหูของลิงค์และลมหายใจอุ่นๆก็มาสัมผัสกับหูของเขาเช่นกัน ลิงค์รู้สึกได้ว่าถ้าเกิดเขาหันหน้าไปหาเธอ ริมฝีปากของเขาก็จะอยู่ห่างจากหน้าเธอไม่ถึง 10 เซนติเมตร
หลังจากหยุดไปพักนึงลิงค์ก็ถอนหายใจออกมาอย่างช้าๆ เขากำลังค่อยๆรวบรวมสมาธิ ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็หายใจออกมาเบาๆ ไม่มีอะไรมากวนใจเขาอีกแล้ว ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นที่โลกภายนอก เขาก็จะตั้งสมาธิอยู่กับความคิดของตัวเอง
ลิงค์ค่อยๆลืมตัวตนของราชินีมังกรแดงที่อยู่ข้างๆเขาไปอย่างช้าๆเขาด่ำดิ่งเข้าไปในโลกแห่งเวทมนตร์อย่างสมบูรณ์ ด้วยรูนเวทมนตร์ เขาได้อธิบายถึงสิ่งก่อสร้างเวทมนตร์ขนาดใหญ่อย่างละเอียด
พอเห็นเขาอยู่สภาพนี้เกรเทลก็เบ้ปากเล็กน้อย เธอรู้สึกเบื่อ การอ่อยคนอื่นมันจะสนุกก็ต่อเมื่ออีกฝ่ายเล่นด้วย แต่ว่าตอนนี้ลิงค์ได้เปลี่ยนตัวเองเป็นท่อนไม้แล้ว และเธอก็ไม่สามารถทำอะไรกับท่อนไม้นี้ได้อีก
ยังไงก็ตามเธอสนใจเรื่องนี้อยู่แค่ครู่เดียวเท่านั้น ความสนใจของเธอเปลี่ยนไปที่เวทมนตร์ที่ลิงค์กำลังเขียนอยู่อย่างรวดเร็ว
จากแนวคิดของลิงค์เวทย์นี้สามารถควบคุมพลังงานระเบิดได้ โดยอิงจากตรรกะทั่วไปแล้ว มันจำเป็นต้องมีคนสร้างพลังงานขึ้นมา หรือไม่ก็ต้องเป็นวัตถุที่ควบคุมหรือรวบรวมพลังงานได้ดีกว่า
แต่มันก็มีปัญหาอยู่
เกรเทลรู้ดีว่าการระเบิดของเอกพจน์น่าจะเป็นพลังงานระเบิดที่น่ากลัวที่สุดในภพแล้ว ในโลกนี้ไม่มีพลังอะไรที่แข็งแกร่งกว่ามัน และด้วยเหตุนี้เอง จึงไม่มีอะไรที่ควบคุมมันได้
เพราะฉะนั้นการจะใช้ระเบิดเอกพจน์ด้วยวิธีนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับการระเบิดฆ่าตัวตาย
เธออยากเห็นว่าลิงค์จะควบคุมมันยังไง
ระหว่างที่เธอกำลังอ่านอยู่เธอก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมา ภายในสมุด ลิงค์ไม่ได้สร้างพลังงานที่เกินกว่าขีดจำกัดของภพเพื่อที่จะควบคุมพลังงานนี้เลย เขาใช้ความคิดที่แปลกมาก มันแปลกมากจนเธอไม่สามารถทำความเข้าใจได้
และด้วยความที่เธอไม่เข้าใจนี่เองเธอจึงรู้สึกว่าสิ่งก่อสร้างเวทมนตร์ที่ลิงค์กำลังเขียนอธิบายอยู่นั้นมันสวยงามมาก สูตรมานาทุกสูตรชัดเจน เหตุและผลของกระบวนการทั้งหมดเองก็น่าประทับใจมาก หลังจากที่อ่านมัน เธอก็รู้สึกถึงความจริงของโลกโดยไม่รู้ตัว
ลิงค์ใช้เวลา3 ชั่วโมงในการเขียนความคิดของเขาลงบนกระดาษ ในตอนที่เขียนเสร็จ เขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆและยืดเส้นยืดสาย จากนั้นเขาก็มองดูผลงานของตัวเองด้วยความรู้สึกพึงพอใจ
ในช่วงนี้เขาได้ศึกษาหนังสือเวทมนตร์อยู่หลายเล่ม และความคิดนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา ด้วยการใช้โอกาสนี้เอง เขาได้เรียบเรียงพวกมันทั้งหมดและใส่ลงไปในกระดาษ จนออกมาเป็นผนึกควบคุมเวทมนตร์ที่มีความสามารถสูง
พูดตามตรงเขาคิดว่าผลงานของเขาสมบูรณ์แบบมากหลังจากที่เขียนมันออกมา เขารู้สึกสดชื่น เหมือนกับความรู้สึกตอนที่ได้ใช้แรงทั้งหมดในขณะที่ออกกำลังกาย
แต่ว่าการกระทำของเขาก็ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา
มีเสียงเบาๆเกิดขึ้นที่ข้างเขาจากนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างมาสัมผัสที่แขนของเขา เขาหันหน้าไปดูด้วยความตกใจ และเขาก็รู้สึกได้ว่าริมฝีปากของเขาเลื่อนผ่านอะไรบางอย่างที่นุ่มนวลและอบอุ่น
นั่นคือราชินีมังกรแดงเกรเทลเธอยังคงอ่านรายละเอียดอยู่ข้างๆเขา แต่ว่าลิงค์ลืมเรื่องของเธอไปสนิท และท้ายที่สุดแขนของเขาก็แตะกับหน้าผากของเธอ ในตอนที่เขาหันหน้ามา ริมฝีปากของเขาก็ไปสัมผัสเข้ากับริมฝีปากของเธอ
ลิงค์ตัวแข็งทื่อมันเป็นแค่การสัมผัส แต่ว่าริมฝีปากของเขานั้นก็รู้สึกเหมือนกับโดนไฟฟ้าช้อต มันให้ความรู้สึกทั้งชา นุ่มนิ่มและชวนให้หวั่นไหว เขาไม่สามารถหักห้ามความรู้สึกเหล่านี้ได้เลย
“ผมไม่ได้ตั้งใจนะ”ลิงค์รีบอธิบาย
“งั้นหรอแสดงว่าเจ้าไม่กล้าจูบข้าอีกแล้วหน่ะสิ?” เกรเทลกระซิบตอบ ดวงตาสีแดงของเธอเต็มไปด้วยประกายที่น่าสงสัย
ลิงค์จะพูดอะไรได้หล่ะ?เขารู้สึกแปลกมากและลุกขึ้นขยับออกไปด้านข้าง จากนั้นเขาก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “องค์ราชินี ผมเขียนสิ่งที่คิดลงไปในสมุดนี้ทั้งหมดแล้ว คุณคิดว่ายังไงหล่ะ?”
เกรเทลที่นั่งเอามือเท้าคางอยู่เงยหน้าขึ้นมาแล้วเธอก็พูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าอ่านจบแล้วหล่ะ แต่ว่าข้าไม่ค่อยเข้าใจซักเท่าไหร่ มานั่งใกล้ๆแล้วอธิบายให้ข้าฟังหน่อยสิ”
ลิงค์นั่งต่อไปไม่ได้แล้วเขาไม่ได้ใสซื่อขนาดนั้น ถ้าเกิดว่าเขากลับไปนั่ง จะต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ และถ้าเกิดว่าเขาปล่อยตัวไปตามอารมณ์ในตอนนี้ เขาจะต้องรู้สึกละอายใจในตอนที่กลับไปเจอหน้าเซลีนที่เฟิร์ดอย่างแน่นอน
เขาเหงื่อออกเล็กน้อยลิงค์ยังคงยืนอยู่ “องค์ราชินี ผมจำทุกอย่างที่อยู่ในสมุดได้ ถ้าเกิดว่าคุณไม่เข้าใจตรงไหน คุณถามมาได้เลย ผมจะตอบให้เอง”
พอเห็นเขาเป็นแบบนี้เกรเทลก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา “ถ้าเกิดว่าข้าพบเจ้าก่อนเซลีนหล่ะก็นะ” เธอพึมพำ
หลังจากนั้นเธอก็หยุดอ่อยแล้วพูดขึ้น “ข้าเห็นแบบแปลนเวทมนตร์ของเจ้าแล้ว นี่เจ้าคิดจะใช้พลังของกาลเวลาอย่างงั้นหรอ?”
ตอนนี้พวกเขาเริ่มคุยกันเรื่องเวทมนตร์แล้วลิงค์สงบสติลง เขาพยักหน้า “ใช่ครับ องค์ราชินี ดูตรงนี้สิ กระแสพลังงานในตอนที่เอกพจน์ระเบิดนั้นได้ไปถึงขีดจำกัดของภพแล้ว ในฟิรุแมน ไม่มีพลังหรือวัตถุไหนที่สามารถทนรับมันได้ ไม่แม้กระทั่งตัวภพเอง วิธีแก้ปัญหานั้นมีแค่การทำให้อนาคตมามีอิทธิพลต่อปัจจุบัน ไม่สิ พูดให้ชัดกว่านี้ก็คือ การใช้อนาคตในการจำกัดปัจจุบันเอาไว้และใช้เวลาในการจำกัดทิศทางของคลื่นพลัง! ”
การใช้อนาคตเพื่อจำกัดปัจจุบันนั้นอาจจะฟังดูยุ่งยากแต่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมากในชีวิตจริง
ยกตัวอย่างเช่นถ้าเกิดว่ามีใครบางคนตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะกลายเป็นคนรวยภายในเวลา 3 ปี เป้าหมายในอนาคตของเขาก็จะส่งผลต่อการกระทำในปัจจุบันของเขา แต่ก็แน่นอนว่านี่เป็นชนิดของอิทธิพลที่อ่อนแอที่สุด มันสามารถถูกแทรกแซงหรือว่าพังทลายตอนไหนก็ได้
ลิงค์ต้องการใช้ความรู้เรื่องกฎกาลเวลาในการเพิ่มพลังยับยั้งจนกว่ามันจะแข็งแกร่งพอที่จะเปลี่ยนทิศทางการระเบิดของเอกพจน์ให้กลายเป็นโชคชะตาได้!
อย่างไรก็ตาม,เขาไม่สามารถทำด้วยตัวคนเดียวได้ แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ปัญหา ตอนนี้เขาได้สร้างอุปกรณ์กาลเวลาขึ้นมาแล้ว มันคือเศษเสี้ยวของกาลเวลาที่สคินอร์สให้เขามา
ด้วยวัตถุชิ้นนี้เป็นแกนกลางลิงค์จะปรับปรุงมันให้ดีขึ้นและสร้างผนึกควบคุมเวทมนตร์ที่สามารถใช้งานได้
ลิงค์อธิบายทุกอย่างให้เกรเทลฟังและในท้ายที่สุด เขาก็เอาเศษเสี้ยวกาลเวลาสีดำออกมา “องค์ราชินี ดูนี่สิ นี่แหล่ะคือแกนกลางที่แท้จริง”
เกรเทลศึกษาดูวัตถุสีดำบริสุทธิ์“อ้างอิงจากที่เจ้าว่า ชิ้นส่วนนี่อ่อนแอเกินไปสินะ แล้วนี่พวกเราจะทำการป้อนโจกุที่เจ้าพูดถึงให้มันอย่างงั้นเหรอ?” เธอถาม
ลิงค์ส่ายหัว“ไม่ ไม่ใช่โจกุ องค์ราชินี ดูวงนอกของผนึกเวทมนตร์ที่ผมออกแบบสิ เกือบทุกส่วนของมันมีไว้เพื่อเสริมพลังให้กับเศษเสี้ยวกาลเวลา ดูตรงนี้สิ หลังจากที่เอกพจน์ระเบิดออก พลังงานอันน่ากลัวของมันจะเปลี่ยนทุกอย่างให้กลายเป็นความว่างเปล่า เวลา มิติ และวัตถุต่างๆจะกลายเป็นพลังงานบริสุทธิ์ มันไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ผมเรียกสภาพนี้ว่า ‘ความวุ่นวาย’!”
สิ่งนี้มันเหมือนกับทฤษฏีการรวมแรงครั้งใหญ่ของโลกลิงค์ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเกิดสิ่งนี้ขึ้น แต่เขาก็แค่ทำการคำนวณเหมือนปกติและก็ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้
เกรเทลยิ่งรู้สึกสนใจขึ้นไปอีกดวงตาของเธอเป็นประกาย ซึ่งแตกต่างจากสายตาหยาดเยิ้มในตอนที่เธอกำลังอ่อยลิงค์โดยสิ้นเชิง นี่คือความปรารถนาในความรู้.ไอลีนโนเวล.
เธอนั่งตัวตรง“ความวุ่นวายหรอ? อธิบายมาให้ละเอียดซิ”
ลิงค์คิดอยู่พักนึงและใช้คำอุปมาอุปมัย“องค์ราชินี ลองนึกภาพการตุ๋นมันฝรั่งพร้อมกับเนื้อดูนะ ซึ่งวัตถุดิบก็มีมันฝรั่งกับเนื้อใช่ไหม เวลากับมิติก็เหมือนกับน้ำที่อยู่ในหม้อ พลังงานจากการระเบิดของเอกภพก็คือไฟที่อยู่ใต้หม้อ ในตอนที่เร่งไฟ อุณหภูมิของมันจะสูงขึ้นมาก ทุกอย่างที่อยู่ในหม้อจะกลายเป็นสตูว์ข้นๆ คุณจะไม่สามารถแยกพวกมันออกจากกันได้ นั่นแหละคือสภาพหลังจากที่เอกพจน์ระเบิดกลายเป็นหม้อสตูว์ที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้”
“อืมๆแล้วหลังจากนั้นหล่ะ?” เกรเทลถามอย่างรวดเร็ว
“จากนั้นพลังอันมหาศาลนี้ก็จะขยายตัวขึ้นและเย็นตัวลงซึ่งในตอนที่มันเย็นลงแล้ว หลายๆอย่างจะเปลี่ยนไป อันดับแรกเลยเวลาที่ละลายจะกลายเป็นของแข็งในสตูว์ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นหนึ่งในพันล้านวินาทีหลังจากการระเบิด ซึ่งตอนนั้นเองก็จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการใช้ผนึกเวทมนตร์ควบคุมมัน”
ในระหว่างที่ลิงค์พูดเขาก็รีบวาดผนึกเวทมนตร์ขึ้นมาในอากาศ “พลังของเวลาที่เย็นลงจะถูกตรวจจับโดยผนึกเวทมนตร์และหลั่งไหลเข้าไปในชิ้นส่วนของเวลา ภายในช่วงหนึ่งในพันล้านวินาที ชิ้นส่วนพลังนั้นก็จะเพิ่มขึ้น 1,0000 เท่า และมันก็มากพอที่จะบังคับทิศทางของพลังงานระเบิดที่เย็นลงให้กลายเป็นโชคชะตาที่ไม่อาจหยุดยั้งได้!”
ในครั้งนี้ลิงค์อธิบายทุกอย่างได้ละเอียดมาก และเกรเทลก็เข้าใจมัน เธอรู้สึกประทับใจอย่างมาก “ถ้างั้นเจ้าคิดว่าเลเวลของการโจมตีจะอยู่ที่เท่าไหร่กัน?”
ลิงค์คิดอยู่พักนึงแล้วพูดออกมา”พลังของกาลเวลานั้นเป็นชนิดของพลังที่ลึกลับที่สุดและมันก็มีที่มาใกล้เคียงกับภพมากที่สุดด้วย ถ้าใช้ระดับเลเวลในปัจจุบัน ในตอนที่มันร้อนขึ้นจนเข้าสู่สภาพวุ่นวาย มันจะมีเลเวลมากกว่า 29 และในตอนที่พลังระเบิดเย็นตัวลงและพลังแห่งกาลเวลาได้ถูกแยกออกไป มันก็น่าจะมีเลเวลประมาณ 26 เพราะฉะนั้น พลังงานในระดับสุดท้ายน่าจะอยู่ที่เลเวล 26 ดังนั้นต่อให้เป็นพระเจ้าก็ยังเกรงกลัวพลังระดับนี้เลย!”
สำหรับนักเวทย์ระดับของพลังนั้นชัดเจนมากเพราะชนิดของพลัง ต่อให้เป็นพลังระดับเทพเจ้า ก็ยังสามารถหาปรากฏการณ์ที่สัมพันธ์กับโลกได้ และมันยังถูกคำนวณได้อย่างง่ายดายด้วยเหตุผลพื้นฐานด้วย
ยกตัวอย่างเช่นการที่เอกพจน์ระเบิดอย่างฉับพลัน พลังของมันจะอยู่ที่เลเวล 30 ซึ่งนี่คือระดับสูงสุดในอาณาเขตของพระเจ้าแล้ว!
แต่ก็แน่นอนว่ามันยังคงเป็นเส้นทางอีกยาวไกลกว่าจะรู้ถึงตัวตนของมันและควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์ มันเหมือนกับการที่มนุษย์สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์และรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของมันได้ แต่ว่าพวกเขาก็ไม่สามารถกลายเป็นดวงอาทิตย์ได้
ลิงค์สามารถสร้างการโจมตีเลเวล26 ได้แต่ว่าเขาไม่สามารถแข็งแกร่งขนาดนั้นได้ มันเป็นเพราะเศษเสี้ยวของกาลเวลาที่เขามีและเขาก็ไม่สามารถเข้าใจมันได้เลย
ถ้าไม่มีมันทุกอย่างที่ลิงค์คิดมาก็จะสูญเปล่า
เกรเทลรู้เรื่องนี้ดีแต่สำหรับเธอ ลิงค์ก็ยังสุดยอดอยู่ดี เธอมองไปที่ชิ้นส่วนสีดำ และถามขึ้น “ถ้าเกิดว่าความคิดของเจ้าสามารถทำได้จริง รอยแยกมิติก็จะไม่ใช่ภัยคุกคามอีกต่อไป แต่ว่านะ ข้าพอสัมผัสได้ว่าแบบแปลนของเจ้ายังไม่สมบูรณ์ รายละเอียดของมันยังหยาบเกินไป”
“ใช่ครับ”ลิงค์พยักหน้า “ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือพวกเราต้องการวัสดุที่ต้านทานความร้อนได้สูงมากๆ”
เกรเทลสับสน“ต้านทานความร้อนสูงหรอ แต่ว่าไม่มีอะไรที่สามารถหยุดการระเบิดของเอกพจน์ได้ไม่ใช่รึไง?”
ลิงค์ส่ายหัวและอธิบาย“ไม่ ไม่ องค์ราชินี วัตถุดิบนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อหยุดอุณหภูมิที่สูงของการระเบิด มันเป็นแค่กันชน มันจะกันพลังงานไว้หนึ่งในพันล้านวินาที ไม่อย่างนั้น ผมเกรงว่าชิ้นส่วนของกาลเวลาจะไม่สามารถดูดซึมพลังของเวลาได้ มันจะระเหยไปในทันที”
เกรเทลพนักหน้าแล้วใช้ความคิดอยู่พักนึงจากนั้นก็พูดออกมา “ข้ารู้จักสถานที่ที่เจ้าสามารถไปหาวัตถุดิบที่เจ้าต้องการได้ แต่ว่ามันอันตรายมากเลยนะ”
“ที่ไหน”สายตาของลิงค์เป็นประกายขึ้นมา
“ทะเลแห่งความว่างเปล่าหินดวงดาวทุกชนิดล่องลอยอยู่ที่นั่น น่าจะมีซักก้อนที่ทำให้เจ้าพอใจได้นะ”
“ทะเลแห่งความว่างเปล่าหรอแต่ว่าตอนนี้ผมเข้าไปไม่ได้นะ” ร่างมังกรของเขายังไม่ได้รับการฟื้นฟู และถ้าไม่ได้แปลงร่างเป็นมังกร เขาก็จะไม่มีเรือข้ามความว่างเปล่า อย่างน้อยเขาสามารถเปิดประตูมิติได้ แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถเข้าไปในทะเลแห่งความว่างเปล่าได้
“แต่ว่าข้าสามารถพาเจ้าเข้าไปด้วยกันกับข้าได้นะร่างมังกรก็คือเรือข้ามความว่างเปล่า มันไม่ใช่ปัญหาหรอกหากจะพาคนอื่นเข้าไปด้วย” เกรเทลตอบพร้อมกับยิ้ม
“ยังไงหล่ะ?”ลิงค์เกาหัวด้วยความสับสน ร่างมังกรนั้นรวมเข้ากับตัวบุคคลอย่างสมบูรณ์
“เดี๋ยวเจ้าก็รู้เองแหล่ะ”เกรเทลพูดอย่างมีเลศนัย