Advent of the Archmage - 511: ความรู้อันยั่งยืนของลิงค์ (2/3)
Chapter
แรงบัลดาลใจที่ลิงค์ได้มานั้นหายวับไปเหมือนกับปลาว่ายน้ำผ่านเขาต้องการที่จะจับมัน แต่ว่ามันก็ว่ายหนีไปเรื่อยๆ และหลุดมือเขาไป
เกรเทลรู้สึกสงสัยมากแต่ว่าลิงค์ก็อธิบายออกมาไม่ได้ เขาไล่ตามแสงสว่างอยู่ภายในใจของเขาพร้อมกับพูดพึมพำออกมา “เดี๋ยว ขอเวลาแปบนึง ขอผมคิดก่อน”
เกรเทลไม่ได้เชื่อเขาจริงๆแต่ว่าเธอก็ไม่ได้ขัดขวางความคิดของเขาเช่นกัน เธอเริ่มรวบรวมเศษแก้วที่อยู่บนพื้นด้วยมือแห่งนักเวทย์ของเธอ
ลิงค์มองไปที่ของเหลวและเศษแก้วที่อยู่ทั่วพื้นและความคิดนั้นก็วนกลับมา มันชัดเจนมากขึ้นแล้วในตอนนี้ แต่ว่าในตอนที่ลิงค์พยายามจะพูดมันออกมา เขาก็ไม่รู้ว่าเขาควรจะอธิบายมันยังไง
หลังจากที่คิดอยู่ซักพักเขาก็ตัดสินใจที่จะเอาสมุดจดเวทมนตร์ออกมา เขาเดินไปที่หน้าต่างและเริ่มลงมือ
ในตอนแรกลิงค์แค่ต้องการคำนวณสูตรมานาเฉพาะสำหรับปรุงยา ในตอนที่เขาเขียน ความคิดของเขาก็ทำตามเศษเสี้ยวของแรงบัลดาลใจที่ลอยเข้ามาด้วยทฤษฏีที่แปลกประหลาด
ขั้นตอนนั้นเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆลิงค์เขียนไปทีละนิด เหมือนกับว่าเขากำลังเดินอยู่ในโคลน แต่ละก้าวนั้นยากลำบากมากเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังฉุดเขาอยู่ มันแทบจะขยับตัวไม่ได้เลย แต่เขาก็ยังคงพยายามต่อไป
โคลนที่คอยขัดขาเขาอยู่ค่อยๆหายไปอย่างช้าๆถนนเริ่มกว้างขึ้นและราบรื่นขึ้น จากนั้นลิงค์ก็เริ่มเดินได้เร็วขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ข้าง“ถนน” ลิงค์เห็นอุปกรณ์มากมาย นี่คือความรู้ทั้งหมดที่เขามี รวมทั้งการเสริมพลัง เวทย์มิติ เวทย์มังกร และแม้กระทั่งพลังแห่งเวลาด้วย
ในเมื่อมีอุปกรณ์แล้วลิงค์ก็เริ่มใช้มันในการเปิดเส้นทางไปข้างหน้า และด้วยเหตุนั้นเอง ลิงค์จึงเริ่มเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆบนถนนที่เขาเปิดทางออก เขาไม่สนใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเขาเลย
เขาลืมเรื่องโลกภายนอกไปจนหมด
เกรเทลทำความสะอาดห้องปรุงยาเสร็จแล้วและพอเห็นลิงค์อยู่ในสภาพนี้ เธอก็รออยู่พักนึง แต่เนื่องจากเขาจมหายเข้าไปในห้วงความคิดแล้ว เธอจึงรู้สึกว่ารอต่อไปไม่ไหวแล้ว
ในตอนนั้นเองเธอก็ได้ยินเสียงดังขึ้นจากข้างนอกปราสาท เธอเดินไปที่หน้าต่าง และเห็นว่ามีผู้คนมาจากหมู่บ้านอีกแล้ว
เธอเดินออกไปและมองลงมาจากกำแพงปราสาทข้างล่างมีผู้อาวุโสกับปีศาจเลือดผสมอีกประมาณ 30 คน
ผู้อยู่อาศัยของหมู่บ้านแห่งนี้เป็นปีศาจเลือดผสมทั้งหมดแต่ในบรรดาคนเหล่านี้ก็มี ซัคคิวบัสเลือดผสม ปีศาจเอลฟ์ มนุษย์วัวเลือดผสม มนุษย์สัตว์เลือดผสม มังกรปีศาจและพวก “หมา” ที่มีลักษณะแปลกๆอยู่ด้วย
ในตอนที่ผู้อาวุโสเห็นเกรเทลเขาก็คุกเข่าลงและตะโกนในทันที “ท่านผู้ส่งสารผู้ยิ่งใหญ่ พวกเขาเหล่านี้คือผู้แสวงบุญ ในตอนที่พวกเราได้ยินว่าท่านมาที่โลกมนุษย์ พวกเราก็อยากจะเห็นความรุ่งโรจน์ของท่าน”
ตุบตุบ คนอื่นคุกเข่าตามในตอนที่พวกเขาเห็นเกรเทลและเริ่มยกย่องเธอด้วยคำพูดสรรเสริญ
เกรเทลไม่ได้ตกใจกับเหตุการณ์นี้เธอกับลิงค์อยู่ที่นี่มานานกว่าครึ่งเดือนแล้ว และข่าวก็น่าจะแพร่กระจายไปทั่วเกาะ แม้ว่าผู้ส่งสารตัวจริงจะมาแล้ว แต่เขาก็ถูกบังคับให้สู้กับลิงค์จึงน่าจะไม่มีเวลาได้เผยแพร่อิทธิพลซักเท่าไหร่ และในเมื่อข่าวผู้ส่งสารจากพระเจ้าถูกแพร่กระจายออกไปและตัวจริงก็ถูกขับไล่ออกไปแล้ว เธอกับลิงค์จึงกลายเป็นผู้ส่งสารตัวจริง
โอโหถ้าทอโรรู้เรื่องนี้เข้า เขาคงจะหัวใจวายแน่ๆ เกรเทลอยากจะหัวเราะ ผู้คนบนเกาะนี้เห็นพวกเขาเป็นผู้ส่งสารของพระเจ้า ถ้าเกิดว่าพวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ พวกเขาก็จะมีกองกำลังที่แข็งแกร่ง
พวกเขาต่างก็เป็นเลือดผสมแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างไกลจากปีศาจ แต่พวกเขาก็น่าเกลียดเกินไป มันคงจะเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ผู้คนในแผ่นดินใหญ่ยอมรับพวกเขา ข้าสงสัยจริงๆว่าลิงค์จะจัดการเรื่องพวกนี้ยังไง
ความคิดของเกรเทลนั้นเปิดกว้างกว่าพวกมังกรผู้อาวุโสเธอรู้สถานการณ์ของแผ่นดินใหญ่ ต่อให้ไม่มีรอยแตกมิติ เทพแห่งการทำลายก็ยังคงสอดส่องภพนี้อยู่ในความมืด ความผิดปกติเพียงเล็กน้อยก็อาจจะทำให้เกิดหายนะได้ ในเวลาเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคพวกแบบไหนก็มีค่าทั้งนั้น
พอคิดได้เกรเทลก็ตัดสินใจว่าจะปลอบโยนพวกเขาก่อน
ผู้แสวงบุญทุกคนต่างก็สวมเสื้อผ้าขาดๆและมีหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บด้วย เห็นได้ชัดว่าการเดินทางไกลนั้นยากลำบาก แต่ว่าใบหน้าของพวกเขาก็ยังเต็มไปด้วยความศรัทธา พวกเขาจะต้องเป็นผู้ที่มีความศรัทธาแรงกล้าอย่างแน่นอน
เกรเทลโบกมือให้และร่ายเวทย์มังกรรักษาใส่พวกเขาทุกคน
คนพวกนี้มีเลเวลไม่ถึง5 เวทย์มังกรรักษาจึงได้ผลดีมาก มันรักษาบาดแผลทั้งหมดในเวลาแทบจะทันที พวกเขาต่างก็งุนงง จากนั้นพวกเขาก็เริ่มรู้สึกปลาบปลื้ม แล้วพวกเขากราบลงที่พื้นและเริ่มทำการสรรเสริญเธออีกครั้ง
ในที่สุดเกรเทลก็พูดออกมา“นับจากนี้ไป พวกเจ้าทุกคนคือผู้ส่งสารของพระเจ้า จงกลับไปเผยแพร่ความรุ่งโรจน์ของพระเจ้าซะ บอกทุกคนว่าเทพแห่งแสงจะจุติลงมาที่นี่ในอีกไม่นานนี้”
“ท่านผู้ส่งสารอันยิ่งใหญ่ข้าขอคารวะ”
“ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังครับ”.Aileen-novel.
“ขอให้แสงคงอยู่ตลอดไป!”
เพื่อแสดงความนับถือพวกเขาได้ถอยกลับไปในท่าคุกเข่าและออกจากปราสาทไป ในตอนที่พวกเขาไม่เห็นปราสาทแล้ว พวกเขาก็ลุกขึ้นและวิ่งไปอย่างตื่นเต้นเพื่อเผยแพร่ความรุ่งโรจน์
พอเห็นแบบนี้เกรเทลก็ถอนหายใจออกมา ทอโร เจ้าจะทำให้พวกเขาหวาดกลัวเกินไปแล้ว พวกเขาจะยอมถวายทุกอย่างกับแค่ความหวังลมๆแล้งๆเนี่ยนะ
ทั้งหมดต้องขอบคุณทอโรเกรเทลไม่รู้ว่าเขาใช้เวทย์ลึกลับอะไรถึงมีชีวิตอยู่ได้เป็น 1,000 ปี เขาได้สร้างความหวาดกลัวกับมนุษย์เหล่านี้มาโดยตลอดและได้สร้างศาสนาที่เหมือนกับลิทธิขึ้นมา ถ้าเกิดว่ากองกำลังนี้ถูกปล่อยออกไปสู่โลกภายนอก มันคงจะน่ากลัวมาก ถ้าเกิดว่าใช้งานดีๆ พวกเขาก็สามารถเขียนประวัติศาสตร์ใหม่ของฟิรุแมนได้เลย เกรเทลรู้สึกว่าเธอไม่สามารถละเลยกองกำลังนี้ไปได้ เธอจะต้องใช้งานพวกเขาแต่ว่าเธอต้องไปปรึกษากับลิงค์ก่อนว่าจะเอายังไงดี
พอคิดได้เธอก็กลับไปที่ห้องปรุงยาลิงค์ยังคงเขียนสมุดของเขาอยู่ เขาไม่ได้เปลี่ยนท่านั่งเลยด้วยซ้ำ
ครั้งนี้จะใช้เวลานานเท่าไหร่กันหล่ะเนี่ย?
วิธีการคิดแบบนี้มีค่ามากเกรเทลไม่อยากจะรบกวนลิงค์ เธอทำได้แค่รอ
หลายวันผ่านไปลิงค์ไม่ได้กิน ดื่ม นอน หรือแม้กระทั่งพูดคุยเลย เขาทำแค่เขียนสมุดของเขา เกรเทลเองก็ไม่ได้พักเหมือนกัน เธอครุ่นคิดเกี่ยวกับวิธีอัพเกรดวัตถุดิบ ส่วนผู้อาวุโสปีศาจก็จะพาผู้แสวงบุญมาหาทุกวัน ซึ่งเกรเทลจะเป็นคนออกไปพบพวกเขาและร่ายเวทย์มังกรรักษาระดับต่ำให้กับทุกคน และบอกให้พวกเขาเผยแพร่ความรุ่งโรจน์
เวลาครึ่งเดือนได้ผ่านไปทั้งแบบนี้และในที่สุด ลิงค์ก็เดินออกมาจากห้องพร้อมกับถือสมุดจดเวทมนตร์เอาไว้ด้วย
เกรเทลรอเวลานี้มานานแล้ว“เป็นยังไงบ้าง?” เธอถามอย่างรวดเร็ว
ลิงค์กระปรี้กระเปร่ามากเขากางสมุดออกและเปิดหน้าที่เป็นบทสรุปให้ดู “มันมีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย”
“บอกข่าวดีให้ข้าฟังก่อน”
“ด้วยความคิดของผมพวกเราสามารถเพิ่มเลเวลวัตถุดิบให้เป็นเลเวล 19 ได้ พูดให้ชัดกว่านี้ก็คือ เลเวล19.9 ซึ่งเป็นขีดจำกัดสูงสุดของภพ”
“แล้วข่าวร้ายล่ะ?”
“ตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าไม่มีทางที่จะเพิ่มเลเวลวัตถุดิบให้ถึง20 ด้วยพลังระดับตำนานได้ แหล่งกำเนิดของพลังระดับตำนานนั้นมีจำกัด มันอาจจะทำให้ขึ้นไปถึงเลเวล 20 ได้ชั่วคราว แต่ว่ามันจะไม่เสถียร และวัตถุดิบก็จะถูกทำลายในทันที”
“โอ้แล้วข่าวดีที่เหลือล่ะ?” เกรเทลถาม
“ข่าวดีที่สองก็คือต่อให้พวกเราไม่มีวัสดุกันชนเลเวล20 พวกเราก็สามารถใช้ผนึกเวทย์มิติทดแทนได้ ดังนั้นใช้แค่วัสดุเลเวล 19 ก็พอแล้ว และเราก็ทำให้เลเวลของผนึกเวทย์ลดลงเหลือแค่เลเวล 23 ไม่ใช่เลเวล 26 แบบที่พวกเราคาดเดาไว้”
เกรเทลไม่ผิดหวังเลย“เลเวล23ก็พอแล้ว”
ในระดับตำนานนั้นการพยายามจะเพิ่มเลเวลขึ้นหนึ่งขั้นก็แทบเป็นไปไม่ได้แล้ว ต้นกำเนิดนั้นยิ่งยากกว่า เลเวล20นั้นเป็นเหมือนกับความฝัน ถ้าเกิดว่าลิงค์สามารถสร้างการโจมตีเลเวล 23 ได้ มันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อแล้ว
เกรเทลรู้สึกสนใจแนวคิดของวัตถุดิบเลเวล19.9 ที่ลิงค์พูดถึงในทันที โดยที่ไม่คำนึงถึงมารยาท เธอก็หยิบสมุดจดของลิงค์มาอ่านทันที
สมุดจดนั้นยุ่งเหยิงกำกวม และเต็มไปด้วยตัวอักษร ในตอนแรกเกรเทลทำความเข้าใจอย่างยากลำบาก เธอขมวดคิ้วและพยายามจะอ่านมัน
ครึ่งชั่วโมงแห่งความเจ็บปวดได้ผ่านไปและในที่สุดเธอก็เข้าใจความคิดของลิงค์ การอ่านหลังจากนั้นก็ราบรื่นขึ้นมาก มันเหมือนกับว่าถนนได้เปิดออก และความรู้อันประณีตก็หลั่งไหลเข้ามาเหมือนกับน้ำตก ข้อสรุปหลังจากที่ออกจากถนนทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจ
หลังจากที่อ่านจบเกรเทลก็เงยหน้าขึ้นอย่างเศร้าๆ “ลิงค์ จะให้ข้าตอบแทนสำหรับความรู้อันยั่งยืนนี้ยังไง?”
วิธีการผลิตวัตถุดิบนี้เป็นขีดจำกัดของภพนี้มันมีค่ามาก มันอาจกลายเป็นรากฐานสำหรับเผ่าพันธุ์อื่นและถูกส่งต่อไปหลายชั่วอายุคนได้เลย