Advent of the Archmage - 512: ให้เวลาเป็นเครื่องช่วยตัดสินใจ (3/3)
Chapter
นั่นเป็นคำถามที่ดีแล้วเธอจะตอบแทนฉันยังไงหล่ะ? ลิงค์สงสัย
พอได้ฟัง,ลิงค์ก็เห็นโอกาสเสนอในทันที จากนั้นเขาก็เลือกคำพูดอย่างระมัดระวัง “อันที่จริง, ผมก็คิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน”
“อะไรหรอ?เชิญว่ามาได้เลย” เกรเทลกระพริบตาอย่างใสซื่อ, ดวงตาของเธอเป็นประกายในขณะที่ยิ้มให้เขา
ลิงค์เริ่มอธิบายความคิดเรื่องการถ่ายทอดพลังมังกรและพัฒนานักรบมังกรขึ้นมาในเผ่ามนุษย์เหมือนกับผู้อาวุโสเพทตาลอง, เขาได้คิดถึงมันจากมุมมองของเผ่ามังกร
ในตอนที่พูดจบ,รอยยิ้มบนหน้าของเกรเทลก็หายไปเล็กน้อย โดยไม่มีที่ท่าว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับคำขอของลิงค์, เธอก็ถามกลับไปอย่างง่ายๆ “วงจรชีวิตและความตายนั้นเป็นการเดินทางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งมวล ถึงกระนั้นพวกเขาก็รอดพ้นจากหายนะมาได้หลายชั่วอายุคนแล้ว, พวกเขาก็ยังสุขสบายดีไม่ใช่หรอ?”
เผ่ามนุษย์ได้ปกครองภูมิภาคที่รุ่งเรืองของทวีปฟิรุแมน,และก็มีประชาการเยอะที่สุดในบรรดาเผ่าอื่นๆด้วย ด้วยความที่เขาไม่สามารถหาข้อผิดพลาดในคำพูดของเกรเทลได้, ลิงค์จึงพยักหน้ากลับไปเป็นการยอมรับ อย่างไรก็ตาม, เขารู้สึกได้ว่าครั้งนี้, เขาจะไม่ได้รับในสิ่งที่เขาต้องการ
จากนั้นเกรเทลก็พูดต่อ“ถ้ามนุษย์ได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่แล้วยังถูกฝึกในฐานะนักรบมังกรอีก, มันอาจจะนำหายนะที่คาดไม่ถึงไปสู่เผ่าอื่นก็ได้ไม่ใช่หรอ?
พอได้ยินแบบนี้ลิงค์ก็ตกตะลึง“ผมเป็นมนุษย์โดยกำเนิด และบางทีน่าจะเป็นคนที่ได้รับความเคารพมากที่สุดในบรรดาเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ และด้วยเหตุนั้นไฮเอลฟ์จึงยังวางแผนลอบสังหารผม คนแคระก็ระวังผม, และใครจะรู้ว่ามนุษย์สัตว์กับราชาของพวกเขา, จะเป็นมิตรกับผมไปตลอดรึเปล่า ทุกเผ่าต่างก็มีผู้คุ้มครองที่แข็งแกร่งคอยปกป้องผลประโยชน์ของเผ่าตัวเองอยู่ แล้วทำไมเผ่ามนุษย์ถึงแตกต่างหล่ะ?”
สิ่งที่เกรเทลให้ความสำคัญมาโดยตลอดก็คือสมดุลของเผ่ามังกรอย่างไรก็ตาม, ลิงค์คิดต่างออกไป เขามักจะเชื่อในพลังมากกว่าสิ่งอื่นใด ด้วยพลังที่มากพอ, กฏผู้ที่อยู่รอดคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด, ความไม่แบ่งแยกและการตัดสินที่เป็นธรรมนั้นจะรักษาสมดุลและทำให้ทุกเผ่าอยู่ร่วมกันได้เองตามธรรมชาติ
พอมาถึงจุดนี้,ทัศนคติที่ต่างกันระหว่างพวกเขาก็แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด
อันที่จริง,ลิงค์กับเกรเทลไม่เคยมีแนวคิดตรงกันเลยสักครั้ง มันก็แค่รอให้ลิงค์แสดงทัศนคติที่ต่างกันสุดขั้วขนาดนี้ออกมาตรงๆ
เกรเทลพยายามอธิบาย“ลิงค์เจ้าไม่เข้าใจ การแข็งแกร่งกว่าทุกคนไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไปหรอกนะ, ต่อให้ที่เจ้าทำนั้นเป็นการปกป้องเผ่าตัวเองก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น, เผ่ามังกรมักจะอาศัยอยู่อย่างลับๆในหุบเขามังกร พวกเราไม่เคยแทรกแซงเรื่องของคนอื่น, และนั่นก็ทำให้ปัญหาจากคนอื่นไม่มาถึงพวกเรา นี่คือวิธีที่พวกเราเอาตัวรอดมาได้เป็นพันๆปี ความจริงที่เผ่ามนุษย์เจริญรุ่งเรืองมาได้นานขนาดนี้ก็เป็นเพราะสมดุลที่พวกเราคอยรักษาอยู่ ถ้าเจ้าทำให้สมดุลนี้ปั่นป่วน, เจ้าก็มีแต่จะนำความพินาศไปสู่เผ่าของเจ้าเอง”
“การกระทำของเราต่างหากหล่ะที่เป็นตัวตัดสินว่าความพินาศจะมาหาเรารึเปล่า,และในฐานะสมาชิกของเผ่ามนุษย์…”
“ไม่,เจ้าเป็นดยุคของเผ่ามังกรต่างหากหล่ะ!” เกรเทลเพิ่มเสียงขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเธอก็พูดอย่างจริงจัง “ความสมดุลและความเป็นกลางนั้นคือวิถีชีวิตของพวกเรามังกรมาหลายพันปีแล้ว ทั้งสองประเด็นนี้ได้ถูกเวลาทดสอบมาแล้วจนกลายเป็นหนทางที่แท้จริงของพวกเรา”
บรรยากาศระหว่างพวกเขาเริ่มตึงเครียดขึ้นลิงค์ขมวดคิ้ว “แล้วเรื่องรอยแตกมิติหล่ะ? แล้วก็ผู้ปกครองแห่งความว่างเปล่าอีก?”
“พวกนั้นมันก็แค่ปัญหาชั่วคราวพวกมันจะได้รับการแก้ไขในเร็วๆนี้ ดังนั้นทำไมเจ้าไม่มาอยู่ที่นี่กับเผ่ามังกรซะละ?”
พอมาถึงจุดนี้,ลิงค์ก็รู้สึกได้ว่าการสนทนาของพวกเขาคงจะไม่ไปไหน แนวคิดของพวกเขาแตกต่างกันเกินไป
เกรเทลหวังว่าซักวันหนึ่งลิงค์จะยอมรับหน้าที่ของเขาในฐานะดยุคมังกรแต่ลิงค์ก็ไม่เคยคิดจะทำแบบนั้นเลย สิ่งที่เขาต้องการก็คือการสร้างเมืองมนุษย์ที่รุ่งเรือง, ขยายอิทธิพลของมนุษย์และในซักวันนึงก็จะปกครองทั้งฟิรุแมน ในตอนที่มนุษย์ได้ครองตำแหน่งจุดสูงสุดของฟิรุแมน, เขาก็จะสามารถรวบรวมทรัพยากรและวัตถุดิบที่จำเป็นเพื่อขยายการทดลองเวทมนตร์ของเขาได้
มันคือสถานการณ์ที่ได้ประโยชน์เต็มๆสำหรับเขาและเผ่ามนุษย์
ในส่วนของเผ่ามังกรนั้น,ลิงค์พบว่าพวกเขายืนกรานที่จะเชื่อมั่นในวิธีการที่ล้าสมัยของพวกเขา ซึ่งทัศนคติเช่นนี้อาจจะเหมาะสำหรับคนสูงอายุ, แต่มันไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นสำหรับคนอย่างลิงค์, ที่ปราถนาในความก้าวหน้าและพลังอย่างแน่นอน
ไม่มีความจำเป็นต้องต่อบทสนทนานี้อีกทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับตำนาน, จิตใจของพวกเขาแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า พวกเขาต่างก็มีทัศนคติของตัวเองในเรื่องของโลก, และสิ่งเดียวที่สามารถโน้มน้าวพวกเขาได้ก็คือโลกนั่นเอง สำหรับพวกเขา, คำพูดไม่มีความหมายอะไร”
ในที่สุดลิงค์ก็พูดออกมา“องค์ราชินี, แสดงว่าคุณไม่เห็นด้วยกับผมสินะครับ?”
สีหน้าของเกรเทลซีดเผือดเธอพยายามเปลี่ยนทัศนคติของเขา “ลิงค์, เผ่ามังกรมีอยู่เพื่อปกป้องภพนี้, และเจ้าเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานแล้ว เรื่องของมนุษย์ควรปล่อยให้มนุษย์ตัดสินใจกันเองจะดีที่สุดนะ”
ลิงค์เถียงกลับไป“ถ้างั้นทำไมไฮเอลฟ์ถึงมีผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานคอยคุ้มครองเผ่าตัวเองอยู่หล่ะ? ทำไมไฮเอลฟ์ถึงมีต้นไม้โลก? ทำไมพวกเขาถึงสมควรใช้ชีวิตอย่างสงบสุขที่เกาะรุ่งอรุณ, ในขณะที่พวกเราที่เหลือต่างก็เจ็บปวดเนื่องจากไฟสงคราม? พวกนั้นดีกว่าเผ่ามนุษย์ตรงไหนกัน?”
“ไฮเอลฟ์ใช้ชีวิตตามกฏเจ้าเคยเห็นพวกเขาเริ่มสงครามกับเผ่าอื่นอย่างเปิดเผยรึเปล่าหล่ะ?”
ลิงค์ส่ายหัว“องค์ราชินี, ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว มีรอยแตกปรากฎขึ้นทั่วโลก, และความหนาแน่นของมานาก็ไม่มีท่าจะหยุดเพิ่มสูงขึ้นเลย พวกเราอาจจะได้เห็นผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานเกิดขึ้นมาอีกนับไม่ถ้วนในอีกหลายสิบปีข้างหน้านี้ ในยุคสมัยเช่นนี้, พวกเราต้องปรับตัวตามกระแสไม่อย่างนั้นก็จะไม่รอด เผ่ามังกรเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นสำหรับกฏนี้!”
ตอนนี้,ความหนาแน่นของมานาทั่วโลกสูงขึ้นกว่าเมื่อก่อนถึง 50 เปอร์เซนต์ มีผู้เชี่ยวชาญเลเวล 9 ปรากฎขึ้นทุกที่, และมันก็คงอีกไม่นานก่อนที่ทั้งโลกจะเข้าสู่ภพระดับตำนาน
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง,ลิงค์ก็ได้เห็นการเติบโตของผู้มีพรสวรรค์ในทุกๆเผ่าพันธุ์ คาร์โนส, เจ้าหญิงแอนนี่, เอร์เรร่าแล้วก็สคินอร์สนั้นอยู่ในบรรดาเหล่าผู้มีพรสวรรค์ระดับสุดยอดในยุคสมัยนี้ มนุษย์สัตว์เองก็มีสามขุนศึก, ในขณะที่คนแคระมีนักปราชญ์ภูเขาและราชาแห่งขุนเขา
ในอนาคตอันใกล้นี้,การเพิ่มขึ้นของผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานจะมาถึง, ซึ่งพิสูจน์ได้ด้วยโลกเกมส์ก่อนหน้านี้
“ไม่,ภพตำนานไม่ได้ไปถึงกันง่ายขนาดนั้นหรอก เจ้ามองโลกในแง่ดีเกินไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ความหนาแน่นของมานาในภพแค่อย่างเดียวนะ” เกรเทลส่ายหัวด้วยความไม่เชื่อ
เป็นเวลากว่าสองพันปีแล้ว,ที่เธอได้เห็นมังกรผู้เชี่ยวชาญหลายคนติดอยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 9, โดยพวกเขาไม่มีวันรู้เลยว่าจะสามารถออกไปจากจุดนั้นได้เมื่อไหร่
ประสบการณ์ในอดีตได้บอกเธอว่ากำแพงระดับตำนานนั้นแทบจะไม่สามารถทะลวงได้อัจฉริยะที่สามารถผ่านจุดนั้นไปได้มีแค่ประมาณหนึ่งคนในทุกๆร้อยปี, หรืออาจจะนานไปถึงพันปีเลยด้วยซ้ำ การมีผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากตามที่ลิงค์อธิบายนั้นคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เกรเทลเงียบไปสิบวินาที,แล้วในที่สุดเธอก็ส่ายหัว “ไม่, ข้าไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้! ข้าเป็นราชินีมังกรแดง, ข้ามีหน้าที่ดูแลเผ่ามังกร! พลังมังกรคือรากฐานของอารยธรรมมังกร ข้าไม่สามารถยกมันให้คนอื่นเหมือนแจกลูกอมได้หรอก!”
พอพูดจบ,ห้องแล็บก็เงียบเหมือนป่าช้า
ลิงค์กับเกรเทลมีจิตใจที่แข็งแกร่งพอๆกัน,ซึ่งเหมาะสมกับสถานะของพวกเขาในฐานะผู้เชี่ยวชาญระดับตำนาน ก่อนหน้านี้พวกเขาสามารถทำงามร่วมกันได้อย่างสงบสุข, เพราะทั้งสองฝ่ายมีเป้าหมายเดียวกัน แต่ตอนนี้มุมมองของพวกเขาแตกต่างกันมากจนพวกเขาหมดหวังที่จะกลับมาคืนดีกันได้แล้ว
มันไม่ใช่แค่เรื่องที่เกรเทลไม่ยอมแบ่งพลังมังกรให้กับเผ่ามนุษย์,มันเป็นเพราะเส้นทางที่พวกเขาเลือกนั้นแตกต่างกัน
ด้วยความที่พลังมังกรอยู่เหนือความเข้าใจของเขา,ลิงค์จึงต้องมองหาหนทางอื่นในการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับมนุษย์เขาจะเดินไปตามเส้นทางของเขาต่อ ในอีกด้านนึง, เกรเทลก็ยังยืนกรานที่จะเดินบนเส้นทางแห่งสมดุล ช่องว่างระหว่างพวกเขาทั้งคู่ค่อยๆเปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ
แล็บปรุงยายังคงเงียบกริบเป็นเวลากว่าสิบนาที
และในท้ายที่สุด,ลิงค์ก็เอาคำภีร์แผ่นใหญ่ออกมา จากนั้นเขาก็เปิดใช้เวทย์คัดลอกและเขียนความคิดทั้งหมดของเขาลงไปในกระดาษ หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง, ในตอนที่เขาเขียนเสร็จ, ลิงค์ก็เอาชิ้นส่วนกาลเวลา, หินดวงดาวสองชิ้น, แล้วก็เหล็กในของตะขาบแห่งความว่างเปล่าออกมา, แล้วมอบให้กับเกรเทล “ผมได้เขียนแบบของผมสำหรับวงเวทย์ซ่อนแซมรอยแตกมิติลงในคำภีร์แล้ว คุณน่าจะสามารถใช้มันจัดการเรื่องวงเวทย์ได้นะ”
เกรเทลตรวจสอบคำภีร์คร่าวๆจากนั้นเธอก็พูดอย่างนุ่มนวลด้วยสีหน้าหดหู่ “เจ้าจะไม่กลับไปกับข้าหรอ?”
ลิงค์พยักหน้า“ใช่, ในเมื่อพลังมังกรมันไกลเกินเอื้อม, ผมก็คงต้องหาวิธีอื่นในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับเผ่ามนุษย์”
เขาเป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานเลเวล11 พลังระดับนี้ไม่สามารถทำให้เขาก้าวข้ามภพฟิรุแมนได้ ด้วยสายตาของเทพแห่งการทำลายที่ยังคงจับจ้องมาที่ฟิรุแมนอยู่, เขาจำเป็นต้องพัฒนาพลังของเขาไปให้ไกลกว่านี้
เกรเทลเงียบไปอีกครั้งหลายนาทีต่อมา, เธอก็รับคำภีร์กับของชิ้นอื่นๆมาจากเขา ในตอนที่เธอเก็บพวกมันเสร็จเรียบร้อย, เกรเทลก็เตือนเขาอีกครั้ง “ลิงค์, หนทางที่เจ้าเลือกจะนำเจ้าไปสู่การทำลายนะ”
“มันอาจจะนำผมไปสู่ความรุ่งโรจน์ก็ได้”ลิงค์เถียงกลับไปด้วยรอยยิ้ม.ไอรีนโนเวล.
“ด้วยทัศนคติของเจ้า,เจ้าไม่มีสิทธิที่จะครอบครองร่างมังกร” เกรเทลสัมผัสกำไลราชามังกรที่ข้อมือของเธอ มีแสงสีรุ้งปรากฎขึ้น, และห่อหุ้มมือของเธอเอาไว้
“ในฐานะราชินีมังกรแดง,ข้าจำเป็นต้องผนึกร่างมังกรของเจ้า แน่นอนว่า, เจ้าสามารถเลือกที่จะต่อต้านและทำให้กระบวนการผนึกล้มเหลวก็ได้นะ”
ลิงค์ส่ายหัว“ไม่จำเป็น ทำแบบนี้อาจจะดีกว่าก็ได้ ด้วยวิธีนี้, หุบเขามังกรก็จะไม่มาโทษผมสำหรับการกระทำในอนาคตของผม”
ในขณะที่พูด,ลิงค์ก็ถอดแหวนสีดำออกจากนิ้วของเขา มันคือตราประทับของดยุคมังกร
น้ำตาเริ่มคลอที่ดวงตาของเกรเทล,และหยดน้ำตาก็ร่วงลงมา เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ, “เจ้ายังหนีได้อยู่นะ ทำไมเจ้าไม่หนีหล่ะ? เจ้าเป็นนักเวทย์มิติ ข้าไล่ตามเจ้าไม่ทันหรอก”
“ไม่จำเป็น”ลิงค์ส่ายหัว, และปล่อยให้บอลแสงไหลเข้ามาในตัวเขา เขาได้ยินเสียงชิ้งดังออกมาอย่างชัดเจนจากหัวใจมังกรในร่างของเขา ทักษะแปลงมังกรของเขาถูกปิดผนึกแล้ว
ในตอนนั้นเอง,เขาก็ได้บอกลาร่างมังกรดำของเขา
ในตอนที่ร่างมังกรของเขาถูกผนึกอย่างสมบูรณ์,และเขาคืนตราประทับของดยุคมังกรให้กับราชินีมังกรแดง, ลิงค์ก็โค้งให้เธอเล็กน้อยแล้วเดินออกจากห้องไป
เกรเทลเฝ้ามองเขาจนลับตาเธอหวังอยู่ลึกๆว่าลิงค์จะหยุดเดิน, แล้วหันกลับมาหาเธอพร้อมกับบอกว่าในที่สุดเขาก็เข้าใจสิ่งที่เธอพยายามจะบอกแล้ว, และเขาอยากจะตามเธอกลับไปที่หุบเขามังกรด้วย
แต่ก็ไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นในตอนที่ลิงค์จากไป, ก็มีคลื่นมิติเกิดขึ้นจากข้างนอกปราสาท ด้วยเสียงลมกระโชก, เขาก็จากไป
เกรเทลรู้สึกว่าขาของเธออ่อนแรงเธอล้มลงไปที่พื้นและหยดน้ำตาที่เหมือนกับไข่มุกก็ไหลลงมาจากสร้อยคอร่วงไปที่พื้น
นี่ท่านบรรพบุรุษ,ข้าทำผิดตรงไหนหรอ? เกรเทลถาม, โดยไม่คาดหวังคำตอบจากใคร
ข้างนอกปราสาท,ลิงค์บินออกจากเกาะไปด้วยความเร็วสูงสุด, โดยไม่มีเวทย์ป้องกันห่อหุ้มอยู่เลย, ลิงค์ปล่อยให้กระแสลมปะทะกับร่างของเขา
มีชั้นน้ำแข็งหนามาเกาะตามร่างของลิงค์ในขณะที่เขาบินตรงเป็นเวลาสามชั่วโมงจากนั้นเขาก็สามารถทำให้ตัวเองใจเย็นลงได้
เขาคือลอร์ดเฟิร์ด,ในขณะที่เกรเทลเป็นราชินีของเผ่ามังกร พวกเขาทั้งคู่ต่างก็มีความรับผิดชอบและทัศนคติของตัวเอง พวกเขาจะค่อยๆสูญเสียตัวตนของตัวเองไปถ้าเชื่อฟังความคิดของอีกฝ่าย, และพวกเขาก็จะไม่ต่างจากหุ่นเชิดที่ถูกอีกฝ่ายชักใย
มันก็แค่เรื่องที่ยอมรับไม่ได้
“เวลาจะเป็นตัวตัดสินทุกอย่าง”
ลิงค์ยังคงบินอยู่จนกระทั่งในที่สุดเขาก็เห็นแผ่นดินใหญ่อยู่เบื้องหน้าเขามันคือชายหาดทางใต้ของอาณาจักรเดลอนก้า ด้วยการเปลี่ยนเส้นทางเล็กน้อย, เขาก็บินไปทางเฟิร์ด
ครึ่งชั่วโมงต่อมา,หลังจากบินไปไกลกว่า 700 ไมล์, เขาก็ไปถึงเมืองมอดไหม้ เขาเปิดใช้เวทย์หายตัวและลงที่ชั้นสังเกตการณ์ของหอคอยเวทมนตร์
จากนั้นเขาก็สัมผัสได้ว่ามังกรในเมืองมอดไหม้หายไปหมดแล้ว,ซึ่งน่าจะเป็นเพราะถูกราชินีเรียกกลับไป
ลิงค์ถอนหายใจวันนี้ไม่ได้เป็นไปตามที่เขาหวังเอาไว้ ความจริงที่ว่าเขาถูกเนรเทศในทันทีที่แสดงร่างมังกรดำออกมาในตอนแรกที่หุบเขามังกรก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกแล้วว่าเรื่องนี้จะมาถึง
เขาแค่คิดไม่ถึงว่ามันจะกระทันหันขนาดนี้
ลิงค์เดินไปที่ริมหอสังเกตการณ์และเหม่อมองเมืองมอดไหม้
เมืองนี้ได้ขยายขึ้นอย่างมากตั้งแต่ที่เขาจากไปสภาพที่รกสกปรกในเขตนอกเมืองได้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีผู้คนและรถม้าอยู่ตามท้องถนน, ในขณะที่ปล่องไฟได้ปล่อยควันลอยขึ้นไปในอากาศ
มันเป็นช่วงเย็นแล้วแสงสีทองจากพระอาทิตย์ตกดินทำให้ทุกอย่างในเมืองเป็นสีเหลือง, มีเสียงอึกทึกดังอยู่ในเมืองอย่างมีชีวิตชีวา
ในตอนนี้,เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานเลเวล 11, แล้วก็เป็นผู้พิทักษ์ของเมืองนี้ ไฮเอลฟ์ได้คุกคามดินแดนของเขาจากฝั่งตะวันออก, เทพแห่งการทำลายจากทางเหนือ, แล้วก็มีมอร์เฟียสอีก แถมทางตะวันตก, ก็มีขุนศึกขของมนุษย์สัตว์ที่ทุ่งหญ้าสีทอง, และใครจะรู้ว่ามีภัยคุกคามอื่นที่ยังอยู่ในเงามืดรึเปล่า
นี่คือยุคทองของฮีโร่และบุคคลที่ยิ่งใหญ่ลิงค์ต้องเริ่มต้นก่อนเพื่อให้ได้เปรียบคนอื่น
เทลลี่,ฉันขอโทษนะ…เพื่อนรักของฉัน, ทุกอย่างที่ฉันมีมันอยู่ในเมืองนี้ ฉันจำเป็นต้องแข็งแกร่งขึ้นอีก, ฉันจำเป็นต้องมุ่งหน้าต่อไป ไม่อย่างนั้น, ฉันจะทำให้ทุกคนที่อยู่รอบตัวผิดหวัง, เขาคิดในใจ
ด้วยการถอนหายใจ,ลิงค์ก็หันกลับไปจากภาพยามเย็นและมุ่งหน้ากลับหอคอยเวทมนตร์