Advent of the Archmage - 522: ขาอ่อนปวกเปียก
Chapter
ร้านเหล้าพร้อมลุย
สคินอร์สไม่ใช่คนประเภทที่จะไตร่ตรองให้ดีก่อนพูดออกมาอย่างไรก็ตาม, เขามักจะระวังตัวอย่างมากในตอนที่ถึงยามจำเป็น
ในตอนที่เขามาถึงทางเข้าร้านเหล้า,เขาก็ลดความเร็วลงและสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อทำให้จิตใจสงบ จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นมานวดหน้าเพื่อทำให้มันคลาย ซึ่งผลลัพธ์นั้นก็ทำให้ร่างกายของเขาผ่อนคลายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
บรรยากาศอันเร่าร้อนและพร้อมมีเรื่องที่เขามีก่อนหน้านี้ได้หายไปแล้วตอนนี้เขาดูเหมือนกับลูกค้าธรรมดาๆคนนึงที่เพิ่งจะดื่มด่ำเบียร์ในร้านเหล้าไปเพียงหนึ่งแก้ว
อย่างไรก็ตาม,เขายังคงยืนอยู่ที่ประตูทางเข้า, ไม่ได้รีบร้อนเข้าไปในร้านเหล้า จากนั้นเขาก็ถามขึ้น “ไอ้หมอนั่นนั่งอยู่ตรงไหนหล่ะ? แล้วมันหน้าตาเป็นยังไง?”
ตาเหยี่ยวเออร์แวนยืนอยู่ข้างๆมอริแกน,ไม่กล้าโชว์ตัวให้คนในร้านเหล้าเห็น เขาตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา “มันนั่งอยู่ตรงมุมซ้ายสุดของร้านเหล้า ไอ้หมอนั่นน่าจะอายุประมาณ 30, หุ่นดีใช้ได้, สูงประมาณหกฟุต แล้วมันยังเหน็บดาบเหล็กเอาไว้ที่เอวด้วย อ้อ, แล้วก็มันมีผมสีดำและเอาเท้าขึ้นมาพาดโต๊ะอยู่ ในตอนที่ข้าออกมา, มันกำลังนั่งกินถั่วเขียวทอดอย่างสบายใจเฉิบ”
“เข้าใจแล้ว”สคินอร์ศพยักหน้า สายตาของเขาตรวจสอบดูผู้คนในร้านเหล้าและในที่สุดเขาก็เจอเป้าหมาย เขาพึมพำ “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอ้หมอนี่จะกร่างขนาดนี้ ที่นี่เต็มไปด้วยผู้คน, แต่หมอนั่นกล้ายึดโต๊ะทั้งหมดเอาไว้คนเดียวเนี่ยนะ”
พอได้ยินแบบนี้,เออร์แวนก็กระซิบตอบอย่างเดือดดาล “ใช่ไหมหล่ะ? ข้าแค่อยากจะสอนให้มันได้รู้บทเรียนของการทำตัวกร่างแบบนี้”
“ระวังตัวให้ดีหล่ะถ้ามันกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้, มันก็ต้องมีฝีมืออยู่พอตัว” โมย่าเตือน
โมริแกนพูด“ตลอดหลายปีมานี้ที่นี่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ สคิ, เลิกตอนนี้ก็ยังไม่สายนะ”
สคินอร์สยังคงมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม“ไม่ต้องห่วง, ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงจะมาที่แบบนี้ไปทำไมกันถูกไหมหล่ะ? อีกอย่าง, ข้าพึ่งจะไปถึงเลเวล 9, อีกแค่เลเวลเดียวก็ไปถึงระดับตำนานแล้ว คงไม่เจอผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานในร้านเหล้าแบบนี้หรอกมั้ง?”
คำพูดของเขามีเหตุผลมากพอโมย่ากับโมริแกนไม่สามารถหาคำไหนมาเปลี่ยนแปลงความคิดของเขาได้เลย
จากนั้นสคินอร์สก็ดึงเสื้อให้ตึง,เชิดหน้าแล้วเดินตรงเข้าไปในร้านเหล้า ในตอนที่เขาเข้ามาข้างใน, เขาก็มองไปทางซ้ายของร้านเหล้าโดยไม่ทำให้ดูเหมือนจงใจมากเกินไป
ด้วยการเหลือบมองไปทางนั้น,ขาของสคินอร์สก็อ่อนปวกเปียกในทันที เขาเดินโซซัดโซเซจนเกือบจะล้มหน้าคะมำ
เขาลุกขึ้นมาในทันทีโดยไม่พูดอะไร,จากนั้นเขาก็กลับหลังหันเดินออกจากร้านเหล้า เขาเดินผ่านโมย่าโดยไม่พูดอะไรและก็ยังคงเดินหน้าต่อไป
พอเห็นแบบนี้,เออร์แวนก็ยักคิ้วแล้วถาม “สคินอร์ส, เจ้าโอเคไหม? เจ้าพึ่งบอกว่าตัวเองพึ่งไปถึงเลเวล 9 ไม่ใช่หรอ?”
โมย่าเองก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ“สคินอร์ส, เจ้าไม่สบายหรอ?”
นักเวทย์มอริแกนรู้สึกสงสัยว่าอะไรทำให้สคินอร์สมีปฏิกิริยาแบบนี้ดังนั้นเขาจึงลองเข้าไปดูในร้านเหล้า และพอเข้ามาสายตาของเขาก็จับจ้องไปที่มุมซ้ายสุด, ซึ่งขาของเขาเองก็อ่อนยวบไปตามๆกัน จากนั้นเขาก็กลับหลังหันและรีบออกมาจากร้านเหล้า
ในตอนที่เขาไล่ตามสคินอร์สทัน,ก็มีความสงสัยอยู่บนหน้าของเขา เขามองสคินอร์สแล้วถาม “สคินอร์ส, พวกเราอาจจะจำผิดคนก็ได้นะ ไม่น่าจะเป็นคนๆนั้นหรอกมั้ง”
พอได้ยินแบบนี้,สคินอร์สก็เริ่มมีสีหน้าสับสน เขาได้เห็นเด็กหนุ่มผมดำคนนั้นแล้ว ลักษณะของเขาตรงตามที่เออร์แวนอธิบายทุกอย่าง ชายคนนั้นกำลังนั่งพิงเก้าอี้, พร้อมกับเอาขาพาดโต๊ะในขณะที่กินถั่วเขียวทอดที่อยู่ในจาน
ในตอนแรก,เขาคิดว่านั่นคือลอร์ดเฟิร์ด, แต่ตอนนี้, พอนึกย้อนกลับไป, เขาก็คิดว่าน่าจะจำผิด ตอนนี้ลอร์ดเฟิร์ดน่าจะอยู่ที่เฟิร์ด เขาจะมาที่นี่, แล้วแต่งตัวเหมือนทหารรับจ้างดาษๆไปทำไมกัน?
“ที่เจ้าพูดมาก็ถูกนะอาจจะไม่ใช่คนๆนั้นก็ได้” สคินอร์สเกาหัว, แต่ก็ยังไม่มั่นใจคำพูดของเขา
โมย่าฟังบทสนทนาของพวกเขา,แล้วสงสัยขึ้นมา “นี่พวกเจ้าทั้งสองคนกำลังพูดเรื่องอะไรกัน? ทำไมข้าถึงไม่เข้าใจเรื่องที่พวกเจ้าพูดกันอยู่เลย? ไอ้หมอนั่นเป็นใครกันแน่?”
ตอนนี้ตาเหยี่ยวเออร์แวนก็รู้สึกสงสัยเหมือนกัน“ไอ้หมอนี่เป็นใครกันถึงทำให้ผู้เชี่ยวชาญเลเวล 9 อย่างเจ้ากลัวได้ขนาดนี้”
สคินอร์สเหลือบมองเขา“เจ้าได้กลัวจนขี้แตกแน่ถ้าข้าบอกตัวจริงของคนๆนั้น”
ด้วยความที่ไม่สามารถยับยั้งความสงสัยได้,โมย่าจึงตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปในร้านเหล้าด้วยตัวเอง เธออยากจะดูว่าใครกันแน่ที่ทำให้สคินอร์สกลัวหัวหดขนาดนี้
แต่ก่อนที่จะเข้าไป,โมย่าได้ดึงฮู้ดลงมาและจากนั้นก็เดินไปทางร้านเหล้าอย่างช้าๆ หลังจากที่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว, เธอก็เดินวนรอบโต๊ะใกล้ๆแล้วเหลือบมองทางซ้ายอย่างเป็นธรรมชาติ
เธอขมวดคิ้วให้กับสิ่งที่เธอเห็น
เบื้องหน้าเธอ,มีเด็กหนุ่มคนนึงนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเฉื่อยชา, ดวงตาของเขาแทบจะหลับสนิท ผมของเขากระเซอะกระเซิง, ร่างของเขาเต็มไปด้วยฝุ่น, และรอยเย็บบางจุดที่เกาะหนังของเขาก็หลุดรุ่ย เขามีคุณสมบัติของกุ๊ยข้างถนนทุกประการ
ในขณะที่มองชายคนนั้นอยู่พักนึง,โมย่าไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติเลย แต่ก็ยังคงรู้สึกสงสัย, เธอออกมาจากร้านเหล้าแล้วถามพรรคพวกทั้งสามของเธอ “พวกเจ้าไปจำผิดกับใครหล่ะ?”
สคินอร์สเหลือบมองโมริแกน,ที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆเขา จากนั้นเขาก็พูดกับเธอ “เจ้าไม่คิดว่าเขาดูเหมือนลอร์ดเฟิร์ดบ้างหรอ?”
“ลอร์ดเฟิร์ดหรอ?”โมย่าส่ายหัว “ก็อาจจะนะ ข้ามองเขาจากที่ไกลๆ, ข้าก็เลยไม่มั่นใจซักเท่าไหร่ แต่ข้าว่าพวกเจ้าต้องจำผิดแน่ๆ ลอร์ดจะมีเวลามาเที่ยวเตร่อยู่ในที่แบบนี้ได้ยังไง?”
นี่ฟังดูมีเหตุผล
ตอนนี้สคินอร์สกับมอริแกนยิ่งมั่นใจว่าพวกเขาคิดผิด
หัวใจของเออร์แวนเต้นรัวในขณะที่เขาฟังเรื่องนี้เขาพยายามทำตัวให้ดูไม่สะทกสะท้าน “ไอ้ขยะนี่อะนะ ลอร์ดเฟิร์ดเป็นนักเวทย์ ไอ้กุ๊ยที่นั่งอยู่นั่นก็เป็นแค่พวกเร่ร่อนที่พกดาบเท่านั้นแหล่ะ จะเป็นคนๆเดียวกับที่พวกเจ้าพูดถึงได้ยังไง?”
โมย่าหันไปหาเขา“เจ้ามันไม่รู้อะไรเอาซะเลย ฝีมือดาบของลอร์ดเฟิร์ดนี่ขั้นเทพเลยนะ แล้วเขาก็ชอบพกดาบเอาไว้กับตัวตลอดเวลาด้วย”
พอได้ยินแบบนี้เออร์แวนก็ตกใจเขาพยายามคุมสติเอาไว้ จากนั้นก็มองไปที่สคินอร์ส “ทำไมเจ้าไม่กลับเข้าไปข้างในอีกครั้งแล้วไปดูให้แน่ใจหล่ะ?”
โดยไม่จำเป็นต้องให้พูดซ้ำสอง,สคินอร์สก็เดินกลับเข้าไปในร้านเหล้า ในตอนที่เขาเข้ามาข้างใน, เขาก็สังเกตชายคนนั้นอย่างละเอียดแล้วจากนั้นก็ออกมา “ขอบคุณพระเจ้า, ก็แค่คนหน้าเหมือนหน่ะ พลังที่แผ่ออกมาไม่ได้ใกล้เคียงกันเลย”
เออร์แวนถอนหายใจด้วยความโล่งอก“ถ้างั้นทำไมเจ้าไม่สอนบทเรียนให้มันหล่ะ?”
“เอาเถอะหน่า…ข้าคิดว่าอะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ให้แล้วกันไปเถอะนะ”สคินอร์สยังระแวงเรื่องนี้อยู่ ชายหนุ่มคนนั้นดูนิ่งเกินไป เขากลัวว่าอาจจะมีอะไรผิดพลาดได้
“ไอ้ขี้ขลาด!”เออร์แวนสบถ
“ก็ได้,ข้าไปเอง มันก็แค่ทหารรับจ้างคนนึง กรณีที่เลวร้ายที่สุด, ข้าก็แค่ถูกไอ้หมอนั่นอัดเท่านั้น”
สคินอร์สเดินกลับเข้าไปในร้านเหล้าภายใต้สายตาที่จับจ้องของพวกทหารรับจ้าง, เขาก็เดินตรงไปหาลิงค์ จากนั้นเขาก็ชักมีดออกมาแล้วแทงลงบนโต๊ะที่ลิงค์พาดขาอยู่ “เห้ยพวก, เจ้าดูกร่างดีนี่ ข้ามาที่นี่เพื่อสอนมารยาทให้เจ้าแทนเพื่อนของข้า”
พอเห็นการยั่วยุของสคินอร์ส,ลิงค์ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
เขาเห็นพวกเขาเดินเข้าๆออกๆร้านเหล้า,และพยายามที่จะสังเกตเขามาตั้งแต่แรกแล้ว และตอนนี้ก็มีหนึ่งในพวกเขาที่รวบรวมความกล้าเขามาเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ, ลิงค์รู้สึกว่าเขาอาจจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาได้ทุกเวลา ไอลีนโนเวล
เขายื่นมือออกมาแล้วดีดมีดที่ยังปักอยู่บนโต๊ะจากนั้นมีดก็ส่งเสียงกริ้งออกมา, ซึ่งมันดังก้องไปทั่วห้อง
สีหน้าของสคินอร์สค่อยๆเปลี่ยนไปทีละน้อยเขารู้สึกได้ถึงพลังสั่นสะเทือนที่นิ้วของชายคนนี้ส่งออกมาผ่านมีดของเขา
ในโลกนี้มีแค่คนๆเดียวเท่านั้นที่ครอบครองพลังที่ดังก้อง,และหนักอึ้งขนาดนี้
“ทำไมเจ้านั่นไม่เห็นทำอะไรเลยหล่ะ?”เออร์แวนถาม, ในขณะที่มองพวกเขาจากช่องประตู
โมย่ากลืนน้ำลายแล้วกระซิบ“ข้าคิดว่าเขาทำไม่ได้หรอก”
เหงื่อไหลพรากบนหน้าผากของมอริแกน“ตาเหยี่ยว, นี่ไม่ใช่คนที่เจ้าควรเลือกเป็นคู่ต่อสู้นะ ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าจะได้มาเจอเขาที่นี่”
“พวกเจ้าหมายความว่ายังไง?”เออร์แวนตระหนักได้ว่ามือของเขากำลังสั่นอยู่
ในอีกด้านนึงของร้านเหล้า,ลิงค์ดึงมือกลับแล้วถามอย่างนุ่มนวล “ลมอะไรหอบนายมาทางใต้หล่ะเนี่ย?”
“มีโบราณสถานอยู่ที่นี่แห่งนึงครับแถมยังมีรางวัลของราชาอีก ข้าก็เลยตั้งใจว่าจะแวะมาที่นี่สักหน่อย” ความจริงหลุดออกมาจากปากของสคินอร์สในทันที ลึกๆข้างใน, เขากำลังสาปแช่งเออร์แวนอยู่ นี่เขาคิดบ้าอะไรของเขากัน, จะหาเหาใส่หัวตัวเองอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย?
ลิงค์คิดเรื่องนี้อยู่พักนึง,จากนั้นก็ยิ้มให้ “พลังของนายเติบโตขึ้นมากเลยนะ เอเลียร์ดเองก็อยู่ที่นี่เหมือนกันในฐานะนักการทูต ตอนนี้เขากำลังสืบปัญหาเรื่องโจรในเมืองนี้อยู่ ทำไมนายไม่ไปช่วยเขาสักหน่อยหล่ะ?”
ตอนแรกเขาอยากจะใช้เออร์แวน,แต่ในเมื่อสคินอร์สมาที่นี่พอดีเรื่องก็คงจะง่ายขึ้น
เอเลียร์ดยังขาดประสบการณ์อีกเยอะ,และลิงค์ก็ห่วงว่าอาจจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเขา แต่ถ้ามีนักผจญภัยมากประสบการณ์อย่างสคินอร์สกับคนอื่นมาช่วยเขาในภารกิจ, เอเลียร์ดจะต้องจัดการเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็วแน่ๆ
“ข้าไมได้บอกว่าข้าทำไมได้นะ,แต่ของแบบนี้ก็ต้องมีระ…รางวัลนะครับ…” สคินอร์สพยายามไม่แสดงความหวาดกลัวออกมาในน้ำเสียงของเขา เขารู้สึกผิดที่อยากหาเรื่องลิงค์เมื่อสักครู่นี้
“รางวัลทั้งหมดอยู่ในมีดของนาย”
จากนั้นลิงค์ก็กลับไปพิงเก้าอี้แล้วพูดเบาๆ“อย่าเปิดเผยตัวตนของฉันหล่ะ ฉันแค่มาที่นี่เพื่อรวบรวมข้อมูลจากทหารรับจ้างพวกนี้ ตอนนี้ไปได้แล้ว, เอเลียร์ดน่าจะอยู่ที่สถาบันเวทมนตร์นะ”
“ครับ,เข้าใจแล้ว, ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ” สคินอร์สดึงมีดออกมาจากโต๊ะโดยไม่มองเลยสักวินาทีเดียวแล้วรีบออกไปจากร้านเหล้า
พอออกมาข้างนอก,เขาก็ถอนหายใจออกมาแล้วพูดกับมอริแกน “ไปกันเถอะ, พวกเราจะมุ่งหน้าไปที่สถาบันเวทมนตร์กริ๊นซ์”
มอริแกนกับโมย่าตามสคินอร์สไปโดยไม่พูดอะไรมีแค่เออร์แวนเท่านั้นที่ลังเลอยู่
สคินอร์สหันไปเรียกเขา“เจ้ามัวรออะไรอยู่? ไปกันได้แล้ว, ข้าจะแบ่งเงินให้เจ้าด้วย, ซัก 1,000 เหรียญทองเป็นไง?”
เออร์แวนเดินตามพวกเขาไปขาของเขาอ่อนยวบเหมือนกับเส้นก๊วยเตี๋ยว น้ำเสียงของเขาสั่นไหวด้วยความไม่มั่นใจในขณะที่ถาม “ชายผมดำในร้านเหล้า, ใช่เขาจริงๆหรอ?”
“ก็ใช่หน่ะสิ,เจ้าควรจะภูมิใจในความโชคดีของตัวเองนะที่ยังมีชีวิตอยู่” สคินอร์สบ่นใส่
เออร์แวนเดินเซเล็กน้อยแต่ก็จับไหล่ของมอริแกนได้ทันเวลา“ข้านี่มันดวงซวยจริงๆ”
จากที่เขาเคยได้ยินมา,ลอร์ดเฟิร์ดนั้นมีพลังที่สามารถขับเคลื่อนท้องฟ้าและแยกพื้นดินได้ เขากำจัดกองทัพแห่งความมืดทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว สำหรับเขา, พวกปีศาจก็เหมือนกับฝูงแกที่กำลังรอถูกเชือด ซึ่งเออร์แวนก็พึ่งจะเหวี่ยงหมัดใส่ชายคนนั้นไป, และตอนนี้เขาก็กลัวว่าเขาอาจจะตกอยู่ภายใต้คำสาปถึงชีวิตสำหรับการล่วงเกินของเขา เขาจะตายคาที่โดยไม่มีการแจ้งเตือนรึเปล่านะ? แล้ววิญญาณของเขาจะถูกทรมานไปชั่วนิรันดร์รึเปล่า?
ความคิดทุกรูปแบบแล่นอยู่ในหัวของเขาเขายืนนิ่งด้วยความสับสน, และรู้สึกว่าคำสาปได้ถูกร่ายใส่เขาแล้ว
สคินอร์สสังเกตเห็นสภาพนี้แล้วตบหลังของเขาเบาๆ“ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วหน่า, เออร์แวน, ไม่ต้องกังวลหรอก ข้าจะบอกให้นะ, ดูเหมือนว่าลอร์ดเฟิร์ดจะถูกใจเจ้าด้วยซ้ำ แล้วก็, ถ้าเขาอยากจะจัดการเจ้าจริงๆ, เขาคงไม่ใช้เทคนิคสกปรกๆแบบนั้นหรอก เพราะเจ้าจะถูกลบออกไปจากโลกนี้อย่างสมบูรณ์ยังไงหล่ะ”
พอได้ฟังแบบนี้,เออร์แวนก็โล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย “จริงหรอ? ลอร์ดถูกใจข้างั้นหรอ?”
ทหารรับจ้างอย่างเขาไม่คู่ควรแก่สายตาของพวกลอร์ดเออร์แวนรู้สึกภูมิใจเมื่อคิดว่าเขาทำให้คนระดับลิงค์ประทับใจ
พอเห็นรอยยิ้มโง่ๆบนหน้าของเขา,สคินอร์สก็ไม่กวนเขาอีก โมย่าพูดเสริม “ลอร์ดเป็นคนใจกว้าง, เขาไม่เก็บเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้มาใส่ใจหรอก เข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้ว”เออร์แวนถอนหายใจแล้วถาม “ตอนนี้พวกเรากำลังไปไหนหรอ?”
“ไปทำภารกิจของลอร์ดให้สำเร็จ”สคินอร์สพูด เขามองมีดในมือของเขา มันเป็นอาวุธระดับอีพิคอยู่แล้ว, แต่ตอนนี้มีแสงสีแดงอยู่รอบๆมีดด้วย
เขาลองเอามีดนั้นมาเคาะกับมีดยมทูตที่เขาถืออยู่,ซึ่งมันก็มีรอยแตกกว้างเกิดขึ้น
“ของดีเลยนี่หน่าคุ้มจริงๆ”
…
สถาบันเวทมนตร์กริ๊นซ์
เอเลียร์ดพึ่งมาถึงที่นี่แค่ประมาณหนึ่งชั่วโมง,ซึ่งเขาก็เจอกับปัญหาเข้าแล้ว
พอได้ยินว่าเขามาที่สถาบันเวทมนตร์,ราชาของอาณาจักรเซาท์มูนก็รีบมาให้การต้อนรับเขาด้วยตัวเอง มีคนกว่า 20 คนที่มาต้อนรับเขา, รวมทั้งราชา, ราชินี, แล้วก็เจ้าหญิงด้วย, ซึ่งทุกคนล้วนแต่เป็นบุคคลสำคัญในอาณาจักรเซาท์มูน
ราชาได้ให้การต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นอย่างไรก็ตาม, เอเลียร์ดรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ, แต่เขาก็บอกไม่ได้ว่าตรงไหน