Advent of the Archmage - 524: มีอันตรายอยู่ทุกที่
Chapter
สถาบันเวทมนตร์กริ๊นซ์
ไม่นานนัก,เอเลียร์ดก็ได้เข้าพบเอิร์ล แอนดัล ที่ชั้นบนสุดของหอคอยเวทมนตร์
ชายคนนี้มีอายุเกือบ70 ปีแล้วและมีความรู้ด้านเวทมนตร์อยู่ที่เลเวล 6 นี่คือความสำเร็จที่น่าประทับใจในหมู่นักเวทย์ยุคก่อนๆ, แต่อย่างไรก็ตามอายุก็ไล่ตามเขาทัน
แม้ว่าจะมีการเติบในหมู่นักเวทย์รุ่นเยาว์อย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากความหนาแน่นของมานาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง,แต่ระดับพลังของเขาก็ไม่ได้ขยับเลยเนื่องจากร่างกายที่แก่ชราของเขา
ชายแก่ผมขาวกำลังเอนกายอยู่บนเก้าอี้หนังของเขาในขณะที่มือข้างนึงกำลังเล่นคทาของตัวเองอยู่และพอเห็นเอเลียร์ด, เขาก็ยิ้มให้ “หนุ่มน้อย, ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะต้องมา คงรู้เรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นที่นี่แล้วสินะ”
เอเลียร์ดยังไม่ไว้ใจชายแก่คนนี้เพราะเมื่อครู่ก่อน, นักเวทย์อาเมียร์ได้บอกกับเขาว่าเอิร์ล แอนดัล ได้ติดโรคที่น่าสงสัยมา และด้วยความคิดนี้ในหัว, เอเลียร์ดจึงยังคงสงสัยชายแก่คนนี้
โดยไม่พูดอะไร,เขาก็เริ่มสัมผัสออร่าของชายแก่ ซึ่งมันก็เป็นปกติดี, อย่างน้อยก็สำหรับคนอายุประมาณเค้า ลิงค์ได้เตือนเอาไว้ว่าถ้าคนไหนถูกไร้กายยึดร่างจะแสดงพลังที่หนาแน่นจนผิดธรรมชาติออกมา แล้วเขาก็บอกด้วยว่าอย่าทิ้งความเป็นไปได้ที่เจ้าพวกนี้จะสามารถซ่อนตัวตนของตัวเองได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม,เขาไม่พบอะไรที่ยืนยันความสงสัยของเขาได้เลย
ดูเหมือนว่าแอนดัลจะอ่านความคิดของเขาได้,“หนุ่มน้อย, เจ้าต้องรู้แล้วแน่ๆว่าคนที่นี่ดูเหมือนจะไม่ได้พูดความจริง มันเหมือนกับว่ามีวิญญาณร้ายมาสิงร่างของทุกคน”
เอเลียร์ดยักคิ้วขึ้นแล้วถามอย่างไม่มั่นใจ“วิญญาณ? วิญญาณอะไรหรอครับ?”
แอนดัลยิ้มอย่างอ่อนแรง“ข้าก็ไม่รู้สิ สิ่งที่ข้ารู้ก็คือความจริงที่ว่าวิญญาณพวกนี้ได้โจมตีราชา, ราชินี, เจ้าหญิง, เจ้าชาย, แล้วก็ข้ากับนักเวทย์คนอื่นๆด้วย บ้างก็โจมตีสำเร็จ, บ้างก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ พวกมันซ่อนตัวได้ดีมาก แม้แต่ข้าเองก็ไม่รู้ว่าร่างของใครบ้างที่ถูกครอบงำอยู่ในตอนนี้ สิ่งเดียวที่ข้ารู้ก็คือว่าข้าไม่ได้ถูกวิญญาณร้ายพวกนี้ครอบงำอยู่”
“ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ซักเท่าไหร่นะ”เอเลียร์ดเอาคทาเวทมนตร์ออกมาและตอนนี้ก็กำลังใช้นิ้วควงมันอยู่
“ข้าไม่มีหลักฐานที่ใช้พิสูจน์เรื่องนี้ได้”มีรอยยิ้มอันขมขื่นแสดงอยู่บนหน้าของแอนดัล “เจ้าสิ่งมีชีวิตพวกนี้น่ากลัวมาก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่พวกมันสามารถครอบครองร่างของพวกเราได้, วิญญาณพวกนี้ก็ทำสำเร็จด้วยการทำลายความเชื่อใจระหว่างพวกเราจนไม่อาจซ่อมแซมได้แล้ว ตอนนี้อย่าคิดหล่ะว่าข้าไม่ได้ถูกพวกมันครอบงำอยู่เพียงเพราะข้าพูดเรื่องแบบนี้กับเจ้า จงจำเอาไว้, พวกมันสามารถปลอมตัวและซ่อนอยู่ในหมู่พวกเราได้, และพวกมันก็เจ้าเล่ห์มากเลยด้วย”
ณจุดนี้, เอเลียร์ดรู้สึกว่าหมอกรอบตัวเขาหนาขึ้นมากจนทุกอย่างในตอนนี้ดูพร่ามัวสำหรับเขา เขาไม่เคยได้รับประสบการณ์ที่แปลกประหลาดขนาดนี้มาก่อน
เขาไม่เคยรู้สึกถึงความหวาดกลัวในการต่อสู้กับใครเลย
ตอนนี้เขาเป็นนักเวทย์เลเวล8 ณ จุดนี้, พลังของเขาแทบจะไร้ขีดจำกัดแล้ว แถมเขายังมีคทาที่ทรงพลังอยู่ในมือและหินรูนที่ลิงค์มอบให้เป็นมาตรการป้องกัน อย่างไรก็ตาม, ตอนนี้เขาไม่สามารถเห็นหรือรู้สึกถึงตัวตนของศัตรูที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่ได้เลย
“ผมสมองตันไปหมดแล้ว”เอเลียร์ดถอนหายใจ
เอิร์ลแอนดัลหัวเราะ “ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะจัดการเรื่องนี้ได้ด้วยตัวคนเดียวหรอกนะ เจ้าน่าจะออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลยแล้วให้ลอร์ดเฟิร์ดมาจัดการด้วยตัวเอง”
คนที่ควรจะมาที่นี่ตั้งแต่แรกก็คือลิงค์แต่ลิงค์เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาดื้อๆ, เอเลียร์ดเลยต้องมาที่นี่แทนเขา ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่เรื่องราวที่ไม่คาดคิด
อย่างไรก็ตาม,คำพูดของเอิร์ลได้จุดไฟในตัวเอเลียร์ด เขายิ้ม “ไม่จำเป็นต้องลากลิงค์มายุ่งเรื่องนี้หรอกครับ ผมเองก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าเรื่องนี้จะใหญ่โตซักแค่ไหนกัน”
“ตามใจเจ้าแล้วกัน”แอนดัลพูด
ณจุดนี้, ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว เอเลียร์ดหันหลังกลับแล้วเตรียมพร้อมที่จะออกจากห้อง เขาเปิดประตู ในขณะที่เขากำลังจะก้าวออกจากธรณีประตู, เอเลียร์ดก็หยุดลงอย่างกระทันหัน จากนั้นเขาก็ถาม “ผมว่าตอนนี้ที่อัลฟอร์ดคงจะยอดเยี่ยมมากเลย, ใช่ไหมครับ?”
“เจ้าขยะ,ไอ้ที่ห่วยแตกนั่น…” แอนดัลหยุดอย่างกระทันหัน, จากนั้นรอยยิ้มของเขาก็ดูขมขื่นขึ้น “ก็ได้หนุ่มน้อย, เจ้าชนะ”
อัลฟอร์ด,เมืองแห่งนึงในภพไร้กายเดลูว์, ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องสภาพอากาศที่เหมือนฝันร้ายและสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตร อันที่จริง, ทุกดินแดนที่สามารถอาศัยอยู่ได้ในภพไร้กายนั้นต่างก็อยู่ในสภาพที่น่าอนาถ อัลฟอร์ดนั้นก็เป็นแค่หนึ่งในสถานที่ที่แย่ที่สุดในการใช้ชีวิตอยู่ แล้วที่แห่งนั้นก็เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหนึ่งในสามเมืองยอดเยี่ยมของภพไร้กาย
ไม่ควรมีนักเวทย์คนไหนในภพฟิรุแมนที่รู้จักสถานที่อย่างอัลฟอร์ดความจริงที่ว่าเอิร์ล แอนดัลรู้จักสถานที่แห่งนั้นได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขาในทันที
เอิร์ลแอนดัลยังคงยิ้มอยู่, แต่สายตาของเขาได้เปลี่ยนเป็นเย็นชา “หนุ่มน้อย, เจ้าไม่เคยตกอยู่ในอันตรายมาก่อนสินะ แต่ตอนนี้ในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่าข้าเป็นใคร, ข้าคงไม่สามารถปล่อยเจ้ากลับไปเป็นๆได้แล้วหล่ะ”
สัญญาณเตือนในตัวเอเลียร์ดดังขึ้นเขานึกถึงสิ่งที่อาเมียร์บอกเขาขึ้นมาได้อย่างกระทันหัน, มีนักเวทย์คนนึงที่จู่ๆก็เป็นบ้าขึ้นมาแล้วร่ายเวทย์ระเบิดเพลิงในวัง จากนั้นเขาก็ถูกประหารในที่เกิดเหตุเลย
ตอนนี้สถานการณ์ของเขาก็เหมือนกับนักเวทย์คนนั้นถ้าเขาโจมตีเอิร์ล แอนดัลที่นี่, คนอื่นก็คงจะคิดว่าเขาเป็นบ้าไปแล้ว ในสถาบันเวทมนตร์แห่งนี้อาจจะมีนักเวทย์คนอื่นที่ถูกครอบงำอยู่อีก และในตอนที่พวกเขาทำให้เขาอ่อนกำลังลงได้, เอเลียร์ดก็คงจะถูกประหารเหมือนนักเวทย์คนนั้นในทันที
เขาสามารถคิดได้หลายเรื่องในระยะเวลาอันสั้น
จังหวะต่อมา,เขาก็หันกลับแล้วชี้คทาไปที่เอิร์ลแอนดัล “แสงอรุณโชติช่วง!”
แสงอรุณโชติช่วง
เวทย์ระดับเชี่ยวชาญเลเวล8
ทักษะเวทย์ขั้นสูง:วิญญาณก้องกังวาล (ร่ายเวทย์ได้ในทันที)
พลังที่ใช้:พลังเวทย์แสงอรุณ 4,500 แต้ม
ผล:ส่งลำแสงพลังงานบริสุทธิ์ออกไปและมีผลล็อคเป้าหมาย ใครก็ตามที่ถูกเวทย์นี้โจมตีจะไม่สามารถใช้เวทย์มิติที่มีเลเวลต่ำกว่า 8 ได้ ลำแสงนี้จะยิงออกมาทั้งหมดสามครั้ง ในแต่ละครั้ง, มันจะปรับวิถีให้ตรงกับการเคลื่อนไหวของเป้าหมาย
(หมายเหตุ:สลายไปเหมือนหิมะภายใต้แสงอาทิตย์ยามเช้า)
การโจมตีของเอเลียร์ดทั้งรวดเร็วและรุนแรงเขาเป็นฝ่ายเคลื่อนไหวก่อน!
มีเสียงฉีกอากาศดังขึ้น,ซึ่งลำแสงสีทองที่ตัดผ่านอากาศนั้นไม่ได้มีแค่รอบเดียว, แต่มันออกมาสามรอบในทันที
ในตอนที่ลำแสงแรกถูกยิงออกมาเอิร์ล แอนดัลยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้, แต่ลำแสงนั้นก็ไม่ได้โดนเป้าหมาย แอนดัลขยับออกข้างอย่างรวดเร็ว, และหลบการโจมตีได้ทั้งหมด จากนั้นลำแสงเส้นที่สองก็ทำการปรับวิถีของมันในทันที
เขาหลบอีกครั้ง,แต่ครั้งนี้, ต้องใช้ความพยายามมากกว่าเดิม ลำแสงสามารถเฉี่ยวผิวหนังของเขาไปได้, ซึ่งมันก็เป็นรอยไหม้ในทันที
เขายังคงอยู่กลางอากาศในขณะที่หลบลำแสงเส้นที่สองและลำแสงเส้นที่สามก็มาถึงพอดีมันเจาะทะลุอกของเขา, และทิ้งรูรัศมีกว้างกว่า 10 ฟุตเอาไว้ เลือดกับเนื้อที่อยู่รอบๆรูนั้นยังคงละลายอยู่หลังจากที่ลำแสงค่อยๆหายไป
หลังจากถูกโจมตีด้วยเวทย์ของเอเลียร์ด,ร่างของเอิร์ล แอนดัลก็เสียสมดุลย์ในทันที เหมือนกับว่าวที่สายขาด, เขาร่วงลงมาที่พื้นแล้วหัวโขกเข้ากับกำแพง คอของชายชราหัก, และหัวของเขาก็กระแทกพื้นอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะอยู่ในสภาพนี้,แต่เขาก็ยังรักษาชีวิตเอาไว้ได้ เขาเงยหน้าขึ้นอย่างไม่มั่นคงและจ้องมาที่เอเลียร์ดพร้อมกับคำพูดเยอะเย้ยบนใบหน้าโชคเลือดของเขา “ไม่เลวเลยนี่, แต่เจ้ามันตัวคนเดียว ต่อให้เจ้าฆ่าข้าได้, แต่เจ้าจะหนีจากเมืองฟูลมูนยังไงหล่ะ?”
พอพูดจบ,เอิร์ล แอนดัลก็ปล่อยลมหายใจเฮือกสุดท้ายออกมา มีหมอกสีเขียวออกมาจากปากของเขา นี่คือสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นกับร่างโฮสท์ที่หมดสภาพแล้ว
เอเลียร์ดถอนหายใจแม้ว่าจะฆ่าเอิร์ล แอนดัลได้แล้ว, แต่ความรู้สึกถึงอันตรายในตัวเขาก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น
เขาได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงตะโกนดังมาจากนอกหน้าต่าง
“มีคนฆ่าผู้อาวุโส!”
“รีบไปจับตัวมันเร็วเข้า!”
“ถ้าเจอปุ้บพวกเราจะฆ่ามันเลย!”
เสียงตะโกนทำให้เอเลียร์ดรู้สึกหนาวไปถึงสันหลังเขารู้ว่าเสียงตะโกนจากนอกหน้าต่างนั้นมาจากพวกที่ถูกไร้กายยึดร่าง เพราะไม่อย่างนั้นพวกเขาจะรู้ได้ยังไงว่าผู้อาวุโสตายแล้วทั้งๆที่ยังไม่ได้ก้าวเข้ามาในห้องเลยด้วยซ้ำ
ถ้าคนที่เข้ามาหาเขาเป็นนักเวทย์ธรรมดา,เอเลียร์ดคงจะสามารถกำจัดพวกเขาได้โดยไม่ต้องเสียเหงื่อเลย แต่พวกที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่นั้นคือนักรบไร้กาย ลิงค์เคยบอกเขาว่านักรบไร้กายนั้นจะได้รับความสามารถพิเศษ ถ้าอยู่ด้วยกันเป็นจำนวนมาก, พวกเขาจะสามารถต่อกรกับพลังของผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานได้ง่ายๆเลย ไอลีนโนเวล
พวกเขาวางกับดักนี้เอาไว้ให้สำหรับลิงค์โดยเฉพาะเอเลียร์ดเสียเปรียบมากเกินไป สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้ก็คือหนี
มีคนจำนวนมากมารวมตัวกันข้างนอกตึกเขาจำเป็นต้องออกไปจากที่นี่ก่อนที่มันจะสายเกินไป เอเลียร์ดรีบเอารูนสื่อสารออกมาและเตรียมพร้อมที่จะหนี
หลังจากนั้น,เขาก็เก็บรูนกลับเข้าไปในกระเป๋า “นี่ฉันจำเป็นต้องขอให้ลิงค์ช่วยจัดการเรื่องนี้ด้วยหรอ? ถ้าฉันทำแบบนั้นคงจะต้องถูกลิงค์ดูถูกกแน่ๆเลย ไม่ได้แล้วหล่ะ, ฉันจำเป็นต้องหาวิธีจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองและเป็นคนแก้ปัญหาในอาณาจักรเซาท์มูน”
ทันใดนั้นเอง,เอเลียร์ดก็คิดเส้นทางหนีขึ้นมาในหัวของเขา เขารีบเข้าไปในห้องจากนั้นก็โบกคทา ศพของเอิร์ล แอนดัลลอยขึ้นมาในอากาศ ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, เอเลียร์ดก็ยื่นมืออีกข้างไปที่หน้าต่างและเปิดใช้มือแห่งนักเวทย์, แล้วหน้าต่างก็เปิดออกกว้าง
“ลงนรกไปซะ!”เอเลียร์ดสบัดคทาของเขา, แล้วศพของแอนดัลก็ถูกโยนออกนอกหน้าต่าง
ในตอนที่ศพถูกโยนออกมา,เวทย์จำนวนมหาศาลก็โจมตีมันกลางอากาศ เห็นได้ชัดว่า, คนข้างนอกนั้นเข้าใจผิดว่าศพคือเอเลียร์ดที่กำลังหนี
ด้วยการใช้ประโยชน์จากความเข้าใจผิดนี้,เอเลียร์ดก็ร่ายเวทย์ไร้ร่องรอยและวิ่งไปทางบันไดวนของหอคอยเวทมนตร์
ในขณะที่เขากำลังวิ่งลงมา,เขาก็ได้ยินเสียงเท้าจำนวนมากดังมาจากข้างล่าง เขากระตุกคทาเวทมนตร์ในมือ, แล้วร่ายเวทย์ภาพลวงตาสัมผัสได้ใส่ตัวเอง
ภาพลวงตาได้วิ่งย้อนกลับไปที่ชั้นบนสุดของหอคอย,ในขณะที่เอเลียร์ดที่กำลังหายตัวอยู่นั้น, เอาตัวพิงเข้ากับกำแพงแล้วยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน
ไม่กี่วินาทีต่อมา,ก็มีคนกลุ่มนึงวิ่งขึ้นบันไดไปโดยไม่ได้สังเกตเห็นเอเลียร์ด
ในตอนที่ทุกคนวิ่งผ่านเค้าไปแล้ว,เอเลียร์ดก็เดินลงบันไดต่อ หลังจากนั้นสักพัก, เขาก็มาถึงห้องโถงใหญ่ มีคนอยู่ที่นี่จำนวนสี่คน ไม่เหมือนกับพวกที่เหลือที่ขึ้นไปบนหอคอย, พวกเขายืนคุ้มกันอยู่ในห้องโถงด้วยสีหน้าเยือกเย็น
ในตอนที่เอเลียร์ดปรากฎตัวขึ้น,หนึ่งในพวกเขาก็หันมามองเขาอย่างกระทันหัน อีกสามคนที่เหลือ, ที่ตอนแรกไม่ได้รู้สึกถึงตัวตนของเอเลียร์ด, ก็หันมามองเขาเช่นกัน, มันเหมือนกับว่าพวกเขาทั้งสี่คนนั้นกำลังเชื่อมต่อกันทางกายภาพ
เอเลียร์ดรู้สึกตัวในทันทีว่าเขาถูกจับได้แล้วและโดยไม่สนใจเรื่องการปิดบังตัวเองใหม่, เขาก็ทำการเคลื่อนไหวก่อนด้วยการโบกคทาแล้วตะโกน “ตรึงร่าง!”
หมอกสีทองแผ่ออกมาจากคทาแล้วพุ่งไปหาพวกเขาทั้งสีจากนั้นไอหมอกสีทองนี้ก็ปกคลุมพวกเขาทุกคน และพวกเขาก็เคลื่อนไหวไม่ได้ในทันที
จากนั้นเอเลียร์ดก็ร่ายอีกเวทย์นึง:แสงอรุณเพิ่มความเร็ว
ร่างของเขาสั่นอย่างรุนแรง,ในขณะที่แสงสีทองห่อหุ้มร่างกายของเขา หากมองผ่านๆ, ตอนนี้เขาเหมือนกับดวงอาทิตย์ดวงเล็กๆที่พุ่งออกมาจากหอคอยเวทมนตร์ด้วยความเร็วที่มองไม่เห็นและตรงไปทางลานด้านนอก
ตลอดทาง,เอเลียร์ดได้มองตรงไปที่คฤหาสน์ติดสวนที่ถูกใช้เป็นฐานที่มันของคณะทูตเฟิร์ด
ฉันควรเชื่อใจอาเมียร์ไหมนะจากนั้นอีกความคิดนึงก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา ลิงค์น่าจะเตรียมมาตรการป้องกันพวกไร้ตัวตนเอาไว้อยู่แล้ว อาเมียร์น่าจะไม่เป็นไรนะ!
ด้วยความคิดนี้,เขาก็มุ่งหน้าตรงไปยังคฤหาสน์ติดสวน
เอเลีร์ดเห็นอาเมียร์อยู่ที่ทางเข้าด้วยสีหน้ากังวลในตอนที่เขาเห็นเอเลียร์ด, อาเมียร์ก็ตะโกนเรียก, “ท่านจอมเวทย์, เกิดอะไรขึ้นครับ?”
“มีหลายคนในสถาบันเวทมนตร์แห่งนี้ถูกวิญญาณชั่วร้ายสิงอยู่,รวมทั้งผู้อาวุโสด้วย และฉันก็พึ่งจะฆ่าเขาไป”
โดยไม่สงสัยคำพูดของเขา,อาเมียร์ก็พูดขึ้น “ถ้างั้นก็รีบเข้าไปข้างในเถอะครับ, คฤหาสน์หลังนี้มีวงเวทย์ป้องกันอยู่!”
ในตอนที่เอเลียร์ดวิ่งเข้ามาในลาน,อาเมียร์ก็เปิดใช้วงเวทย์ป้องกันในทันที เอเลียร์ดสังเกตเห็นว่าวงเวทย์นี้มีเลเวลแค่ 5 เขาจึงหยุดเดินแล้วพูดในทันที “ไม่ได้, วงเวทย์เลเวล 5 ไม่พอหรอก! ฉันจะยื้อพวกมันไว้, ไปเรียกทุกคนมารวมตัวกันเร็วเข้า…นี่นาย…”
เอเลียร์ดสังเกตเห็นในทันทีว่าสีหน้าของอาเมียร์นั้นบิดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัดด้วยความตกตะลึง, เขาจึงหลบไปด้านข้าง จากหางตาของเขา, เขาเห็นอาเมียร์ควักมีดออกมาจากข้างหลัง มีดนั้นตัดผ่านอากาศด้วยความรวดเร็วและอยู่ห่างจากหัวใจของเขาแค่ไม่กี่ฟุต
เขาคงจะไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้ทันเวลา