Advent of the Archmage - 525: ถึงเวลาทำการใหญ่
Chapter
สถาบันเวทมนตร์กริ๊นซ์
ฉึกด้วยเสียงที่แผ่วเบา ลูกธนูแสงสีแดงเข้มก็พุ่งมาจากระยะไกลและเข้าไปปะทะกับมีด
และในเวลาแทบจะพร้อมกันโล่สีขาวครีมที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้นที่ตัวเอเลียร์ด
แกร๊งมีดถูกลูกธนูกระแทกแล้วกระเด็นไปข้างหลัง ใบมีดได้ฟันผ่านแสงศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เกิดประกายขึ้นเหมือนกับดอกไม้ไฟ จากนั้นโล่ศักดิ์สิทธิ์ก็กระพริบอยู่หลายครั้งก่อนที่จะหายไป
ตอนนี้เอเลียร์ดรู้สึกกลัวมากเพราะใบมีดนั้นคมกริบ ถ้าเกิดไม่มีโล่ เขาคงจะตายอยู่ดีแม้ว่ามีดนั้นจะถูกปัดออกไปแล้วก็ตาม
ว่าแต่ใครกันหล่ะที่เป็นคนช่วยเขาเอาไว้?
เอเลียร์ดทอดสายตาไกลออกไปและเห็นคนสามคนปรากฏตัวขึ้นเขารู้จักหนึ่งในพวกเขา นั่นก็คือสคินอร์ส ส่วนอีกสองคนนั้นเป็นนักบวชหญิงกับนักธนู พวกเขาจะต้องเป็นคนที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้อย่างแน่นอน
ในระหว่างที่กำลังชะล่าใจนักเวทย์อาเมียร์ก็ลงมืออีกครั้ง คทาของเขาขยับ และมีดที่อยู่บนพื้นก็ลอยขึ้นมา และในเวลาต่อมา มีดก็พุ่งด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบและเข้ามาหาเอเลียร์ดอีกครั้ง
เขาตกใจและตอบสนองในทันที
อย่างไรก็ตาม,มีคนไวกว่าเขา นักธนูได้ง้างธนูรอเอาไว้แล้ว ด้วยเสียงอันแผ่วเบา ลำแสงสีแดงก็ถูกยิงออกไป ฉัวะ มันปักเข้าไปที่กลางหัวของอาเมียร์
อาเมียร์กระเด็นไปข้างหลังหมอกสีเขียวลอยออกมาจากร่างของเขาในตอนที่เขาอยู่กลางอากาศ
“เอเลียร์ดมัวรออะไรอยู่อีก? รีบมาทางนี้สิ!” สคินอร์สกวักมือเรียกเขา
“เอ้อๆโอเค” เอเลียร์ดเพิ่งรอดพ้นจากความตายมาได้อย่างหวุดหวิด โดยที่ไม่มีเวลาให้รู้สึกกลัว เขาใช้เวทย์รวดเร็วดั่งแมวและกระโดดไปหาสคินอร์ส
ในตอนที่เขาไปได้ครึ่งทางก็มีเสียงดังขึ้นข้างๆเขา
“มันอยู่นั่นไงนักเวทย์เอเลียร์ดจากเฟิร์ด มันเป็นคนฆ่าผู้อาวุโส!”
“จับตัวฆาตกร!”
เขายังได้ยินเสียงตะโกนจากนักเวทย์ฝึกหัดกลุ่มนึงที่วิ่งออกมาจากคฤหาสน์ติดสวนด้วย“มันฆ่าอาเมียร์! มันเป็นฆาตกร!”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เอเลียร์ดตกใจยิ่งกว่าเดิมมันรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้ตกลงไปในหลุมงูพิษ เขาไม่สามารถพูดได้อีกต่อไปแล้วว่าใครเป็นผู้บริสุทธิ์หรือใครเป็นงูพิษกันแน่
พวกไร้กายนั้นน่ากลัวมาก!เขาเร่งฝีเท้าขึ้นและไปหาสคินอร์ส
สคินอร์สหยิบก้อนเหล็กขนาดเท่ากำปั้นออกมาจากที่ไหนซักแห่งเขาโยนมันใส่พวกนักเวทย์ที่ไล่ตามมาแล้วตะโกน “หันกลับมา ไม่ต้องไปสนใจ!”
เอเลียร์ดหันหน้ากลับมาในทันทีหลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น มันมีเสียงเหมือนกับการการกดชักโครก และจากนั้นเขาก็รู้สึกร้อนที่หลังในขณะที่ทั่วทั้งจตุรัสสว่างจ้าขึ้นมา มันรู้สึกเหมือนกับว่าพระอาทิตย์ได้ตกลงมาใกล้กับเขาเลย
หลังจากนั้นเอเลียร์ดก็ได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
“โอ้ยตาของข้า ตาของข้า!”
“ข้าไม่เห็นอะไรเลยอ๊าก!”
“น่ารังเกียจจริงๆ!”
สคินอร์สคว้าตัวเอเลียร์ดเข้ามา“มันก็แค่ปัญหาเล็กน้อย ไปกันเถอะ”
เอเลียร์ดไม่มีแผนที่ดีกว่านี้แล้วเขาทำได้แค่เชื่อฟังสคินอร์สและวิ่งหนีออกจากสถาบัน ที่กำแพง คนอื่นได้กระโดดขึ้นไป เอเลียร์ดร่ายรวดเร็วดั่งแมวเอาไว้อยู่แล้วเขาจึงกระโดดตามไปด้วย
มีช่องเล็กๆอยู่ข้างกำแพงมันเต็มไปด้วยหมอกหนาสีขาว สคินอร์สกับคนอื่นๆได้กระโดดลงไปโดยไม่ลังเล เอเลียร์ดลังเลเล็กน้อย แต่สคินอร์สก็ดึงเสื้อของเขาเอาไว้ เขาจึงสูญเสียสมดุลและตกลงไปในหมอกสีขาวด้วย
พอเข้ามาข้างในแล้วเอเลียร์ดก็สังเกตเห็นว่าหมอกนี้แปลกมาก มันเหมือนกับปุยนุ่น แต่ว่ามันมีรูที่คนหนึ่งคนสามารถเข้าไปได้ เอเลียร์ดเห็นว่ามีนักเวทย์อยู่ตรงนั้น เขาเป็นคนนำทางพร้อมกับพูดไปด้วย “เร็วเข้า รีบเดินหน่อย เวทย์นี้อยู่ได้ไม่ถึง 3 นาทีนะ เร็วเข้าสิ!”
ไม่นานนักเอเลียร์ดก็พบจุดที่น่าสนใจของเวทย์นี้ หมอกนี้ได้ปิดกั้นโลกภายนอกจนเกือบหมด อย่าว่าแต่ออร่าเลย แม้แต่เสียงก็ไม่เล็ดรอดเข้ามา พวกเขาแค่อยู่ภายในหมอก แต่ว่ามันกลับรู้สึกเหมือนพวกเขาได้ถูกแยกออกมาจากโลกเลย
เขาเดินตามหลังนักธนูและมุ่งหน้าไปตามอุโมงค์หมอกหลังจากที่ไม่รู้ว่าเดินไปไกลเท่าไหร่แล้ว เขาก็พบว่าเขาได้เข้ามาอยู่ในห้องๆนึง ซึ่งนี่ดูเหมือนว่าจะเป็นห้องใต้ดิน
ตึงมีเสียงฝาไม้ปิดลง หมอกสีขาวหายไป และเอเลียร์ดก็พบว่าเขาอยู่ในอุโมงค์ใต้ดิน
“อุโมงค์หนีฉุกเฉินนี้เป็นของกลุ่มทหารรับจ้างวายุในเมืองฟูลมูนซึ่งพวกเราก็กำลังยืมใช้อยู่” สคินอร์สอธิบาย
เอเลียร์ดพูดไม่ออกมันไม่ใช่ของพวกเขาอย่างงั้นหรอ?
อุโมงค์นี้มีพื้นที่คับแคบและมีกำแพงหินชื้นๆขนาบข้างเอเลียร์ดก้มหน้าลงและเดินไปตามทางเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง และในท้ายที่สุด เขาก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนกันแน่ ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือพวกเขาน่าจะอยู่ด้านนอกเมืองแล้ว
หลังจากผ่านไป5 หรือ 6 นาที มอริแกนที่อยู่ข้างหน้าก็ลดความเร็วลง “ทางออกอยู่ข้างหน้าแล้ว” เขากระซิบ “มีหมู่บ้านเล็กๆอยู่นอกเมือง แต่ว่าชาวบ้านส่วนใหญ่นั้นมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มทหารรับจ้างวายุ พวกเราคงไปรบกวนพวกเขาไม่ได้ หัวหน้าของพวกเขาเป็นนักฆ่าเลเวล 8 เขาแข็งแกร่งมาก ดังนั้นหลังจากนี้พวกเราจะใช้เวทย์ซ่อนตัวกัน พวกเราจะได้ไม่ถูกจับได้”
คำพูดนี้ตั้งใจพูดให้เอเลียร์ดฟังแล้วเขาก็ตอบอย่างรวดเร็ว “ไม่ต้องห่วง ผมจะระวังตัวให้ดี” หลังจากนั้น เขาก็ร่ายเวทย์ไร้ร่องรอยใส่ทุกคนที่อยู่ที่นี่
มอริแกนหัวเราะ“หึหึ เป็นเวทย์ที่ดีนิ ดีกว่าเวทย์หายตัวของข้าอีก ไปกันเถอะ พวกเรามาถึงทางออกแล้ว”
เอเลียร์ดมองไปข้างหน้าเขาเห็นบ่อน้ำที่มีแสงส่องลงมาอยู่ข้างหน้า มันน่าจะเป็นบ่อน้ำที่แห้งเหือดไปแล้ว
“เอาหล่ะเราจะปีนขึ้นไปกัน เอเลียร์ด ต้องการให้ช่วยมั้ย?” สคินอร์สถาม
“ไม่จำเป็นก็แค่เรื่องง่ายๆ” เอเลียร์ดตอบ ในตอนที่คนอื่นออกไปจนหมด เขาก็ร่ายเวทย์ลอยและใช้มือแห่งนักเวทย์ยกตัวเองขึ้น
พวกเขาปีนออกมาจากบ่อน้ำและเข้ามาในซอยเล็กๆมันเป็นพื้นที่โล่ง แต่ว่ามีผู้คนเดินผ่านไปมาอยู่ด้านนอก มันดูคึกคักมาก ซึ่งพวกเขาก็ไม่ปล่อยให้เสียเวลาและรีบไปยังป่าที่อยู่ข้างหมู่บ้านด้วยความช่วยเหลือของเวทย์ไร้ร่องรอย
พอเข้ามาในป่าแล้วพวกเขาก็คลายเวทย์ไร้ร่องรอยแล้วถอนหายใจออกมา และในที่สุดสคินอร์สก็พูดขึ้นมา “นี่ เอเลียร์ด ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเป็นคนฆ่าผู้อาวุโส นั่นเป็นเรื่องจริงเหรอ?”
“ใช่แล้ว”เอเลียร์ดยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพยักหน้า
มอริแกนไม่เข้าใจ“ข้าได้ยินมาว่าแอนดัลเป็นคนที่ดีมาก นี่เขาไปทำให้เจ้าโกรธอย่างงั้นเหรอ?”
นักธนูเออร์แวนดูมีปัญหากว่าใครเพื่อน“แอนดัลเป็นบุคคลสำคัญของอาณาจักรนี้ พวกเราน่าจะซวยแล้วหล่ะ”
เอเลียร์ดถอนหายใจอีกครั้งพวกไร้กายช่างน่ากลัวจริงๆ “ฟังนะ เรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็นหรอก”
ทั้งสี่คนมองมาที่เขารอฟังคำอธิบายของเขา ไอรีนโนเวล
เอเลียร์ดมองไปที่เออร์แวน“ก่อนที่จะเล่า ผมขอขอบคุณนายกับคุณนักบวชนะที่ช่วยผมเอาไว้ ผมชื่อเอเลียร์ด เป็นนักเวทย์จากเฟิร์ด แล้วคุณหล่ะ?”
ทุกคนแนะนำตัวเองหลังจากที่รู้ชื่อกันหมดแล้ว เอเลียร์ดก็พูดต่อ “เออร์แวน คุณเห็นอะไรผิดปกติในตอนที่ฆ่านักเวทย์คนนั้นไหม?”
เออร์แวนนึกย้อนกลับไปแล้วพยักหน้า“ก็นิดหน่อยนะ มีควันสีเขียวลอยออกมาจากปากของเขาในตอนที่เขาตาย ข้าไม่เคยเห็นเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย”
“ใช่มันคือควันสีเขียว ในตอนที่ผมฆ่าผู้อาวุโส มันก็เกิดเรื่องแบบนี้เหมือนกัน ซึ่งควันนั่นเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าคนๆนั้นได้ถูกพวกไร้กายสิงเข้าแล้ว พวกคุณพอนึกภาพออกไหม?”
“พวกไร้กาย?จากภพวิญญาณหรอ?” นักบวชโมย่าขมวดคิ้ว เธออ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้มาก
เอเลียร์ดส่ายหัว“ไม่ใช่ภพวิญญาณแต่เป็นภพไร้กาย ผู้อาวุโสถูกพวกไร้กายยึดร่างและพยายามจะฆ่าผม ผมถูกบังคับให้โต้กลับ มีอีกหลายคนในสถาบันถูกสิง และทั้งตระกูลราชวงค์ก็น่าจะถูกสิงไปแล้วเหมือนกัน ดังนั้นถ้าให้พูดง่ายๆ พวกเราเจอปัญหาเข้าแล้วหล่ะ ”
ทั้งสี่คนมองหน้ากันพวกเขาไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี
หลังจากผ่านไปซักพักสคินอร์สก็พูดขึ้น “ถ้าอิงจากที่เจ้าพูด นี่พวกเราคงไปแหย่รังผึ้งเข้าแล้วสินะ?”
มอริแกนกัดฟันของเขา“นี่มันยุ่งยากจริงๆ ไม่เพียงแค่พวกเราจะไม่ได้เงิน แต่พวกเรายังถูกอาณาจักรตามล่าด้วยหรอเนี่ย”
เออร์แวนก็เกาหัวเหมือนกัน“เอเลียร์ด เอาเป็นว่าให้พวกเราพาตัวเจ้ากลับไปที่เฟิร์ดดีไหม? อยู่ที่นั่นพวกเราน่าจะปลอดภัยนะ”
เอเลียร์ดส่ายหัวในทันที“ไม่ ไม่ ไม่ ผมไม่กลับไปเด็ดขาด ผมจะต้องแก้ไขเรื่องนี้และตามหาตัวการที่อยู่เบื้องหลังให้ได้ จากที่ผมรู้ พวกไร้กายนั้นต้องใช้เวทย์ลึกลับช่วยในการสิงใครซักคน ผมจะต้องตามหาคนๆนั้นและฆ่าเขาซะ ไม่อย่างนั้น อาณาจักรเซาท์มูนจะกลายเป็นบ่อเกิดความหายนะจากทางใต้ไปสู่เฟิร์ดกับนอร์ตัน”
พอได้ยินแบบนี้สคินอร์สก็ยักไหล่ “เอาเถอะ” เขาพูดอย่างจนปัญญา “ข้ารู้อยู่แล้วว่าลอร์ดคงไม่ให้ภารกิจง่ายๆมาหรอก พวกเราคงต้องลุยกันซักตั้ง”
“ลอร์ดไหน?”เอเลียร์ดสับสน
ที่ข้างๆเขาโมย่าได้อธิบาย “พวกเราไปเจอลอร์ดเฟิร์ดที่เมืองอื่น เขาได้มอบภารกิจให้พวกเรามาช่วยเจ้า”
พอได้ยินแบบนี้เอเลียร์ดก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา เขารู้ว่าลิงค์จะต้องเตรียมการสำหรับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว “เขาได้บอกรึเปล่าว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหน?” เขาถาม
“ไม่ได้บอกนะ”สคินอร์สตอบ “เขาบอกว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับเรื่องบางอย่าง”
“หรอถ้างั้นพวกเราคงต้องจัดการเรื่องนี้เอง” เอเลียร์ดกำหมัดแน่น ตอนนี้เขาเป็นนักเวทย์เลเวล 8 แล้ว เขาไม่สามารถหมกตัวอยู่ในหอคอยเวทมนตร์ที่ปลอดภัยได้อีกต่อไป; มันถึงเวลาทำการใหญ่แล้ว
“ถ้าเกิดว่าเจ้าดึงดันขนาดนั้นงั้นก็มาเริ่มกันเลยเถอะ แต่ว่าเจ้ามีแผนยังไงบ้างหล่ะ?” สคินอร์สถาม
เอเลียร์ดคิดเรื่องนี้เอาไว้แล้ว“ผมได้ยินมาว่ามีโจรอยู่นอกเมือง ผมคิดว่าพวกนั้นจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแน่ๆ พวกมันน่าจะมีความสัมพันธ์กับพวกไร้กาย ถ้าเกิดว่าผมเป็นนักเวทย์ลึกลับ ผมคงจะไม่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองฟูลมูนหรอกเพราะมันไม่ปลอดภัย มันมีโอกาสสูงมากที่จะเจอกับนักเวทย์ระดับตำนาน ผมคงจะไปซ่อนตัวที่นอกเมือง โจรพวกนั้นจะต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ๆ”
“งั้นหรอนี่เจ้ากำลังจะบอกให้พวกเราต้องหลบหนีการจับกุมของพวกเซาท์มูนและต่อสู้กับพวกโจรไปด้วยสินะ นี่เป็นตัวอย่างพื้นฐานของการหาเหาใส่หัวเลยนะเนี่ย” สคินอร์สดูอารมณ์เสีย ต้นตอของปัญหาทั้งหมดนั้นก็คือการที่เอเลียร์ดไม่สนใจเรื่องของตัวเองและอยากจะช่วยเพื่อน นี่เขาคิดอะไรอยู่กันแน่?
“นายกลัวรึไง?”เอเลียร์ดมองไปที่สคินอร์ส แล้วก็มองลงมาที่มีดของเขา “มีดสวยดีนะ มีสีแดงสดใส ถ้าดูจากการหักเหของแสงแล้วมันน่าจะใช้วัตถุดิบเลเวล 10 ลิงค์คงจะให้นายมาเป็นค่าตอบแทนล่วงหน้าแน่ๆเลย นี่นายไม่ยอมทำงานหลังจากที่ได้ของไปแล้วอย่างงั้นหรอ?”
สคินอร์สตบหน้าผากของเขาและพึมพำออกมา“ข้าหล่ะเกลียดพวกนักเวทย์จริงๆ”