Advent of the Archmage - 531: ครึ่งเอลฟ์ผู้โดดเดี่ยว
Chapter
ตอนกลางคืนที่ภูเขาน้ำตก
“อยู่ที่นี่นะห้ามพูดและห้ามขยับไปไหน ข้าจะออกไปดูสถานการณ์ซักหน่อย” เอวิเลน่าพูด
“ฉันไม่ขยับไปไหนหรอกหน่าต่อให้ฉันอยากฉันก็ขยับไปไหนไม่ได้อยู่ดี”เอเลียร์ดถอนหายใจ
เอวิเลน่าตระหนักได้ว่าเขาพูดถูกแล้วออกจากถ้ำไปโดยไม่พูดอะไรอีก
ท้องฟ้าข้างนอกถ้ำนั้นเต็มไปด้วยดวงดาวทางใต้นั้นอากาศค่อนข้างอุ่น มีเสียงกบกับเสียงนกดังขึ้นเป็นครั้งคราว มันดูมีชีวิตชีวามากๆ
พอออกมาข้างนอกเธอก็ใช้เวทย์ลอยและไม่นานนัก เธอก็มาถึงยอดกำแพงหินที่อยู่ข้างภูเขาน้ำตก พื้นที่แถวนี้แคบมาก เธอเลือกสถานที่ยืนและรออยู่อย่างเงียบๆ
ประมาณครึ่งนาทีต่อมาเงาทั้งสามก็ปรากฏขึ้นโดยไม่มีเสียง พวกเขายืนอยู่คนละทิศ หน้าตาของพวกเขาถูกความมืดปิดบังเอาไว้ แต่พวกเขานั้นมีหูแหลม และดวงตาของพวกเขาก็ส่องประกายเป็นสีเทาอ่อนๆ ซึ่งมันเป็นเอกลักษณ์ภายนอกของพวกไฮเอลฟ์
ยิ่งไปกว่านั้นดวงตาสีเงินนั่นยังเป็นสัญลักษณ์ของไฮเอลฟ์สายเลือดบริสุทธิ์ด้วย คนที่มีเลือดผสมอย่างเอวิเลน่านั้นไม่มีอะไรแบบนี้
เอวิเลน่ารู้จักทั้งสามคนนี้ดีและเธอก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ครั้งนี้เกาะรุ่งอรุณคงจะเอาจริง ยังไงก็ตาม เธอก็แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
เธอพูดอย่างหมดความอดทน“อีโลเเวน ซอนย่า มิโลส ครั้งนี้เป็นพวกเจ้าสามคนหรอ? สภาผู้อาวุโสวางแผนจะบังคับให้ข้ากลับไปอย่างนั้นสินะ? อย่าลืมนะว่าข้าเป็นเจ้าหญิง และแม่ของข้าก็เป็นน้องสาวของราชินีด้วย!”
เอลฟ์ทั้งสามคนนี้เป็นเหล่าคนที่เก่งกาจที่สุดในบรรดาเอลฟ์หนุ่มสาวของเกาะรุ่งอรุณอีโลเเวน เป็นคนที่อายุเยอะที่สุด เขามีอายุแค่ 50 ปี ซึ่งมันเทียบเท่ากับ 30 ปีของอายุมนุษย์ มันเป็นแค่ช่วงวัยหนุ่มของมนุษย์เท่านั้น
การที่พวกเขาสามารถเพิ่มพลังของตัวเองได้อย่างรวดเร็วนั้นมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของมานาในช่วงนี้พวกผู้อาวุโสไม่สามารถทำได้เพราะเรี่ยวแรงของพวกเขาได้เสื่อมถอยลงไปแล้ว พลังของพวกเขาจึงไม่ขยับไปไหน
สถานการณ์เช่นนี้เป็นเหมือนกันกับทุกๆเผ่าเอวิเลน่าเองก็เก่งขึ้นเพราะเหตุนี้ รวมถึงพวกเขาทั้งสามคนด้วย พวกเขานั้นต่างก็เป็นไฮเอลฟ์รุ่นใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่ระดับตำนาน
ในอีกด้านนึงมีไฮเอลฟ์ตัวสูงคนนึงเดินมาข้างหน้า เขาคืออีโลเเวน “เอวิเลน่า” เขาพูดอย่างเย็นชา “มันเป็นเพราะสถานะของเจ้า องค์ราชินีถึงได้คอยอดทนกับเจ้ามาโดยตลอด แต่ว่านะ ตอนนี้ความอดทนของพระองค์ได้มาถึงขีดสุดแล้ว ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าจะกลับไปที่เกาะรุ่งอรุณกับพวกข้ารึเปล่า?”
เอวิเลน่ารู้สึกใจคอไม่ดีและขมวดคิ้ว“ถ้าข้ายอมไปด้วยจะเป็นยังไง? แล้วถ้าข้าไม่ยอมไปด้วยจะเป็นยังไง?”
ซอนย่าผู้หญิงที่อยู่ตรงกลางเดินออกมา เธอมีหน้าตาธรรมดาๆ แต่ว่าทักษะของเธอนั้นสูงกว่าคนทั่วๆไป “ถ้าเจ้ายอมไปด้วยดีๆ ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าเจ้าไม่ยอมไปด้วยพวกเราก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องขออภัยเจ้าเอาไว้ ณ ที่นี้”
ในระหว่างที่พูดเธอก็จ้องไปที่ใบหน้าอันไร้ที่ติของเอวิเลน่า เธอเกลียดใบหน้านี้เพราะว่าเธอไม่ได้สวยแบบนั้น
“ขออภัยหรอ?”พอสัมผัสได้ถึงอันตราย เอวิเลน่าก็หยิบคทาของเธอออกมาและอยู่ในสภาพตื่นตัวอย่างเต็มที่ “พวกเจ้าคิดจะโจมตีข้าเพียงเพราะข้าไม่ยอมกลับไปด้วยเนี่ยนะ?”
เอลฟ์คนสุดท้ายเดินมาข้างหน้าเขาคือมิโลส “ข้าขอโทษนะเจ้าหญิง พวกเราก็ไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนี้หรอก แต่นี่เป็นการตัดสินใจของสภาอาวุโส และแม่ของท่านก็รับทราบเรื่องแล้ว ท่านเองก็เห็นด้วยเหมือนกัน”
เอวิเลน่าตกใจกับเรื่องนี้“ท่านแม่เห็นด้วยจริงๆหรอ?”
เธอรู้สึกเสียวสันหลังวาปขึ้นมาแม่ของเธอมีสิทธิที่จะไม่ออกเสียงในการโหวต แต่ว่าเธอกลับลงชื่อเห็นด้วย แม้กระทั่งคนที่ใกล้ชิดกับเธอที่สุดก็ยังเลือกที่จะทอดทิ้งเธออย่างงั้นหรอ? ตอนนี้เธอเหลือตัวคนเดียวแล้วสินะ?
เอวิเลน่าไม่รู้ว่าตอนนี้เธอควรรู้สึกยังไงดีเธออยากจะร้องไห้ แต่เธอก็รู้ว่าไฮเอลฟ์ทั้งสามคนนี้จะเยาะเย้ยเธอถ้าเธอทำอย่างนั้น
อีโลแวนถอนหายใจ“เจ้าหญิง” เขาพูด เสียงของเขาดูอ่อนโยนขึ้น “ท่านน่าจะรู้ประเพณีของเผ่าเราดีนะ พวกเราไม่เคยเข้าไปมีส่วนร่วมกับเรื่องของแผ่นดินใหญ่อย่างโจ่งแจ้ง และตัวท่านนั้นก็เป็นคนของราชวงค์ แต่ท่านกลับไปเข้าร่วมกับสมาคม มันเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียสำหรับพวกเรามาก การกระทำของท่านจะส่งผลต่อชื่อเสียงของเผ่าเรานะครับ”
เอวิเลน่าไม่ต้องการให้เรื่องมันใหญ่โตจนอยู่เหนือการควบคุมเธอยอมลดทิฐิลงและพูดออกมา “แล้วถ้าข้าขอถอดยศเจ้าหญิงออกหล่ะ?”
“พวกเราไม่สามารถตัดสินเรื่องนั้นได้”มิโลสพูด “ภารกิจของพวกเราคือการพาท่านกลับไปยังเกาะรุ่งอรุณ ส่วนในเรื่องอื่นๆนั้น ขอเชิญท่านไปพูดกับสภาผู้อาวุโสเองนะครับ”
“ไม่มีพื้นที่ให้เจรจาบ้างหรอ?”เอวิเลน่าไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เธอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอกลับไป ในครั้งนี้เธอหนีมาได้ แต่ถ้าเกิดว่าเธอกลับไป เธออาจจะไม่สามารถออกมาได้อีกเลย และนั่นก็ไม่ใช่ชีวิตที่เธอต้องการ
เธอต้องการออกสำรวจแผ่นดินใหญ่และเรียนรู้เกี่ยวกับโลกใหม่เธอต้องการจะได้รับความเคารพ ไม่ใช่มีแต่คนคอยนินทาลับหลัง ไอลีนโนเวล
เกาะรุ่งอรุณไม่สามารถให้สิ่งเหล่านี้กับเธอได้
มิโลสส่ายหัวในขณะที่อีโลแวนพูด“กลับมาเถอะครับ เจ้าหญิง เกาะรุ่งอรุณนั้นคือสถานที่ที่เผ่าของเราควรอยู่”
“แต่ข้าไม่อยากกลับ”เอวิเลน่าเม้มปากอย่างรุนแรง เธอไม่คิดจะยอมแพ้เลย
สีหน้าของซอนย่าไม่แสดงถึงอารมณ์ใดๆทั้งนั้น“เจ้าหญิง เลิกดื้อซักที” เธอตำหนิ “อย่าบังคับให้พวกเราต้องลงมือจะดีกว่านะ”
เอวิเลน่าเงียบไปเธอยืนอยู่ระหว่างพวกเขาทั้งสามโดยไม่ขยับไปไหน สายลมพัดผ่านเธอ ทำให้เส้นผมสีแดงเข้มของเธอปลิวไสวเหมือนกับเปลวเพลิง
ไฮเอลฟ์ทั้งสามก็เงียบเหมือนกันพวกเขาตั้งท่าป้องกัน พร้อมที่จะรับมือกับการโจมตีอย่างฉับพลันของเจ้าหญิง
สถานการณ์เช่นนี้กินระยะเวลานานถึง3 นาทีเต็ม และในที่สุดเอวิเลน่าก็ทรุดลงและถอนหายใจออกมา “ก็ได้ ข้าจะกลับไปกับพวกเจ้า”
ไฮเอลฟ์ทั้งสามผ่อนคลายลงอีโลแวนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “นั่นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วครับ องค์…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบเอวิเลน่าก็เคลื่อนไหวในทันทีเธอชี้คทาไปทางอีโลแวน คนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสามคนนี้ “เพลิงธรรมชาติ!”
เพลิงธรรมชาติ
เวทย์พรสวรรค์เลเวล10
ความเร็วในการร่าย:ทันที
ผล:ใช้พลังแห่งธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงและใช้พลังมังกรเป็นไฟกระตุ้น: จุดเสาเพลิงที่ทรงพลังและสว่างจ้าขึ้นมา
(หมายเหตุ:พรสวรรค์ของเอวิเลน่า)
เวทย์นี้เป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเอวิเลน่ามันไม่ได้ทรงพลังมากที่สุด แต่ว่ามันเหมาะกับการต่อสู้มากที่สุด เนื่องจากมันมีผลร่ายได้ในทันที คู่ต่อสู้นั้นสามารถถูกโจมตีได้ในทันทีถ้าเกิดว่าพวกเขาไม่ระวังมากพอ
การโจมตีนี้กระทันหันเกินไปและอีโลแวนก็ตั้งตัวไม่ทัน เขามีเวลาพอแค่เปิดใช้เวทย์ป้องกันของแหวนก่อนที่เขาจะถูกเสาเพลิงสีแดง-เขียวผลักตกจากหน้าผา
แม้ว่าเอวิเลน่าจะออมมือให้แล้วแต่เธอก็ยังทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ถ้าเธอเอาจริงอีโลแวนคงจะตายด้วยเวทย์นี้ไปแล้ว
“โหดร้ายที่สุด!”ซอนย่ากรีดร้องออกมา
“ข้าไม่ออมมือให้หรอกนะ”มิโลสพูด
ทั้งสองคนโจมตีพร้อมกันเถาวัลย์สีดำที่ส่องแสงสีทองโผล่ออกมาจากก้อนหินที่อยู่ในภูเขา มันได้เปลี่ยนเป็นเถาวัลย์พิษและพุ่งไปหาเอวิเลน่า
เธอพึ่งใช้เพลิงธรรมชาติไปดังนั้นเธอจึงหยุดชะงักเล็กน้อย และเมื่อต้องมาเจอกับการโจมตีถึงตายพร้อมกันสองทางแบบนี้ เธอก็ทำได้แค่ป้องกันตัวเองเท่านั้น
ตัวเธอส่องแสงสีแดง-เขียวและโล่คริสตัลก็แผ่ไปทั่วร่างของเธอ มีเปลวเพลิงอยู่ด้านนอกโล่ เถาวัลย์สีดำได้มาถึงในตอนที่โล่สร้างเสร็จพอดี
ตู้มตู้ม แกร๊ก ภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องของเถาวัลย์ โล่ได้แตกออก หลังจากนั้น เถาวัลย์ก็ตอบสนองอีกครั้ง และเตรียมที่จะโจมตีเอวิเลน่าต่อ
”หายไปซะ!”
ในช่วงจังหวะสำคัญเอวิเลน่าได้ร่ายเวทย์ป้องกันระยะไกล เวทย์นี้มีประสิทธิภาพมากในตอนที่สู้กับคนธรรมดา แต่ว่าในการต่อสู้กับคนที่แข็งแกร่งนั้น มันทำได้แค่ลดพลังลงและแทบจะไม่มีประโยชน์เลย อย่างไรก็ตาม, ไม่มีเวทย์ที่สมบูรณ์แบบในโลกนี้ มันมีแค่เวทย์ที่เหมาะสมที่สุดเท่านั้น
เวทย์แบบนี้จะมีประสิทธิภาพมากในเวลาที่เหมาะสม
พลังมังกรธรรมชาติได้ไหลเวียนอยู่ในร่างของเอวิเลน่ามันสร้างภาพลวงตาของมังกรคำรามขึ้นมา และส่งคลื่นเสียงกระจายไปทั่วอากาศ ในตอนที่คลื่นเสียงไปโดนเข้ากับซอนย่าและมิโลส พวกเขาก็ตัวสั่นอย่างรุนแรง และการโจมตีของพวกเขาก็หยุดลง
มันเป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆแต่เอวิเล่นาก็สามารถหาโอกาสพลิกสถานการณ์ได้
เธอปรับกระบวนท่าของเธอเล็กน้อยและร่ายเพลิงธรรมชาติออกมาอีกครั้งโดยเล็งไปที่ซอนย่า
ตู้ม!ซอนย่าถูกพลังโจมตีซัดกระเด็น แต่ว่าเธอมีเวทย์ป้องกันที่แข็งแกร่งพอ ในตอนที่เธอถูกโจมตี เปลวเพลิงได้เข้ามาจากทุกทิศทาง ยังไงก็ตาม เธอนั้นมีบาเรียมรกตอยู่
ในตอนที่บาเรียหายไปเปลวเพลิงก็หายไปด้วย ในท้ายที่สุดนั้น ซอนย่าก็ได้รับบาดเจ็บแค่เล็กน้อย และก่อนที่เธอจะกระเด็นไป เธอยังคงควบคุมเถาวัลย์สีดำอยู่และมันก็พุ่งเข้าใส่เอวิเลน่า
มิโลสเองก็ไม่ได้ออมมือเหมือนกันเขาได้รับผลกระทบจากคลื่นเสียง และความคิดของเขาก็หยุดไป แต่ว่าการโจมตีของเขายังคงอยู่ เถาวัลย์สีดำได้แทงทะลุหน้าอกของเอวิเลน่า
มีเหตุผลอยู่สองข้อที่เขาไม่ได้ออมมือ
หนึ่งเพราะนี่เป็นการต่อสู้กับบุคคลระดับตำนาน เอวิเลน่านั้นถูกจดจำในฐานะดาวรุ่ง และเขาก็ไม่กล้าจะออมมือ และข้อที่สองก็เพราะ ถึงแม้ว่าเอวิเลน่าจะเป็นเจ้าหญิง แต่เธอก็เป็นแค่ลูกครึ่งเอลฟ์ ในเมื่อเธอคิดจะทรยศ เธอก็สมควรตาย!
ฉึกฉึก เอวิเลน่าถูกเถาวัลย์แทงทะลุ แต่ว่าเธอหลบได้ในจังหวะสุดท้าย เถาวัลย์ไม่โดนอวัยวะสำคัญของเธอ; เธอจึงรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
พลังมังกรทำให้ร่างกายของเธอแข็งแกร่งแม้ว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บหนัก แต่จิตใจของเธอก็ยังคงสงบนิ่ง พลังของเธอพุ่งพล่านขึ้นมา และเธอก็ร่ายเวทย์เฉพาะของเธอ เพลิงธรรมชาติ มิโลส ที่คิดว่าทุกอย่างนั้นจบแล้วได้ถูกซัดลอยขึ้นไปบนฟ้า
และโดยที่ไม่ลังเลเธอก็กัดฟันดึงเถาวัลย์ที่แทงทะลุร่างของเธอออกมา เถาวัลย์นั้นมีหนามและมีผลต้านทานเวทมนตร์ เวทย์ธรรมดาไม่มีผลกับมันเลย มีเพียงแค่คนที่มีพลังธรรมชาติเท่านั้นที่สามารถควบคุมเถาวัลย์นี้ได้
เอวิเลน่าสามารถใช้ได้แค่มือของเธอเลือดไหลลงมาที่มือเธอ ในตอนที่เธอดึงเถาวัลย์ออก หนามของมันก็ดึงเอาเนื้อออกมาด้วย
“โอ้ยย!”เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ยังไงก็ตาม เธอไม่ได้ช้าลงเลย เถาวัลย์นั้นมีพิษที่รุนแรงมาก เธอดื่มน้ำทิพย์เอลฟ์ในทันทีและกระโดดลงหน้าผาโดยไม่ลังเล ในตอนที่เธอมาถึงถ้ำ เธอก็ยกเอเลียร์ดขึ้นและใช้พลังทั้งหมดของเธอในการหนี
เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ท้องและหน้าอกด้านซ้ายเธอต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน แต่ว่าเธอก็ต้องหนีให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีโลแวนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ว่าซอนย่ากับมิโลสได้รับบาดเจ็บแค่เล็กน้อย พวกเขาน่าจะตามมาในอีกไม่นาน
และถ้าเกิดว่าพวกเขาตามมาทันอีกครั้งมันก็จะเป็นการต่อสู้ถึงตาย