Advent of the Archmage - 533: บุคคลที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง
Chapter
ด้วยความที่เขามีเมล็ดแสงอรุณ,เอเลียร์ดจึงแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อน ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาเองก็ดีขึ้นด้วย
ยกตัวอย่างเช่น,ตอนนี้เขาได้ยินเสียงผิดปกติแล้ว ทั้งๆที่ในความเป็นจริง, ไฮเอลฟ์น่าจะอยู่ห่างออกไป 3,000 ฟุตและยังไม่เจอตัวพวกเขาเลย
ตอนนี้เอเลียร์ดมีอยู่หลายทางเลือกทางที่ปลอดภัยที่สุดก็คือทิ้งผู้หญิงที่ลักพาตัวเขาเอาไว้แล้วหนีไปคนเดียว ไฮเอลฟ์จะเลิกสนใจเขาหลังจากที่เจอผู้หญิงคนนี้ แต่หลังจากที่ไตร่ตรองดูแล้ว, เขาก็ไม่ได้เลือกวิธีนั้น
เธอแค่ทำงานให้มอร์เฟียสถ้าฉันคิดวิธีดีๆออก, ฉันก็น่าจะสามารถเปลี่ยนใจเธอให้มาเข้าร่วมกับเฟิร์ดได้ และเมื่อถึงตอนนั้น, พวกเราก็จะแข็งแกร่งขึ้น
เอเลียร์ดหาข้อแก้ตัวที่ดูสูงส่งและยิ่งใหญ่ให้กับตัวเองและตอนนี้เขาก็มีเป้าหมายแล้ว, ต่อไปก็คือใช้สมองคิดดูว่าเขาควรทำยังไงดี
พลังทั้งหมดของเขาถูกผนึกเอาไว้;เขาไม่สามารถใช้อะไรได้เลย สิ่งเดียวที่เขามีก็คือร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป ด้วยพลังแสงอรุณ, ร่างกายของเขาจึงเทียบเท่ากับนักรบเลเวล 6
แต่ก็แน่นอนว่า,เขามีแค่พละกำลัง เขาไม่มีทักษะอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม,เขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้แล้ว ไฮเอลฟ์กำลังใกล้เข้ามา; พวกเขาจะเจอที่นี่ในเร็วๆนี้ เขาต้องพาครึ่งเอลฟ์คนนี้หนี
เขาเริ่มดำเนินการในทันทีที่คิดได้เอเลียร์ดค่อยๆย่อตัวลง, แล้วอุ้มเอวิเลน่าที่หมดสติขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ในขณะที่กำลังประคองเธอขึ้นมา, เขาก็ตรวจสอบบาดแผลของเธอไปด้วย หลังจากที่มั่นใจว่าเลือดหยุดไหลแล้ว, เขาก็อุ้มเธอแล้ววิ่งหนีกลุ่มคนที่กำลังไล่ตามมา
หลังจากผ่านไปสักพัก,เอเลียร์ดก็รู้สึกว่าเขาไม่สามารถวิ่งไปทั้งแบบนี้ได้ พวกเขาอยู่ในป่าลึก, และเขาก็ทิ้งร่องรอยเอาไว้มากมาย พวกเขาทั้งคู่ได้ทิ้งออร่าเอาไว้ตามทาง ไฮเอลฟ์ที่ไล่ตามมาจะต้องใช้มันตามรอยพวกเขาอย่างแน่นอน
จากนั้นเอเลียร์ดก็คิดอะไรบางอย่างได้ฉันต้องหาแม่น้ำและวิ่งไปตามทางน้ำ ด้วยวิธีนี้มันจะช่วยปกปิดร่องรอยของพวกเราได้
การหาแม่น้ำในป่านั้นคือความสามารถในการเอาตัวรอดของคนทั่วๆไปสำหรับนักเวทย์อย่างเอเลียร์ด, มันคืองานง่ายๆ เขาแค่ต้องตามธาตุน้ำในอากาศไปเพื่อหาตำแหน่งของแม่น้ำ
เขายืนนิ่งแล้วสัมผัสสภาพแวดล้อมรอบๆอยู่พักนึงจากนั้นเขาก็รีบไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ
เขาเดินทางอย่างระมัดระวังหลังจากเดินผ่านใบไม้ร่วง, เขาจะเอาใบไม้มาปิดรอยเท้าของเขาเอาไว้ และทุกๆหนึ่งร้อยฟุต, เขาจะหยุดฟังเสียงเพื่อระบุตำแหน่งของศัตรู เขาจะเดินทางต่อหลังจากที่มั่นใจว่าพวกเขาปลอดภัยแล้ว
หลังจากเดินทางมาได้ไม่กี่พันฟุตด้วยสภาพแบบนี้,ลมหายใจของเอวิเลน่าก็เริ่มหนักแน่นขึ้นในอ้อมแขนของเขา และอีกไม่กี่วินาทีต่อมา, เธอก็ลืมตาขึ้น
เธอไม่ได้พูดอะไรหลังจากที่มองไปรอบๆเธอก็เข้าใจสถานการณ์, เธอถาม, “พวกนั้นกำลังไล่ตามพวกเราอยู่หรอ?”
เอเลียร์ดรู้สึกดีใจเขาพยักหน้าแล้วตอบคำถาม “พวกนั้นอยู่ห่างออกไปแค่ไม่กี่ไมล์ ตอนนี้ฉันต้องการพลังของฉันคืน ช่วยคลายผนึกให้หน่อยได้ไหม”
ดูเหมือนว่าเอวิเลน่าจะไม่สนใจคำขอของเขา“ในเมื่อพวกเราถูกพบแล้ว, ทำไมเจ้าถึงพาข้ามาด้วยแทนที่จะหนีไปคนเดียวหล่ะ?”
“พักเรื่องพวกนี้ไว้ก่อนเถอะ,ตอนที่พวกเราปลอดภัยแล้วค่อยถามก็ได้ เร็วเข้าสิ, พวกนั้นกำลังจะไล่มาทันแล้วนะ” เอเลียร์ดเร่ง
แต่เอวิเลน่าก็ยังถามคำถามของตัวเองต่อ“เจ้ากลัวว่าเจ้าจะตายหลังจากที่ข้าตาย, ก็เลยอยากหลอกข้าให้คลายพลังของเจ้าสินะ? แล้วจากนั้นเจ้าก็จะหนีไปคนเดียวใช่ไหมหล่ะ?”
“ถ้าฉันอยากจะหนีไปคนเดียว,ฉันหนีไปตั้งนานแล้ว ฉันคงไม่รอจนถึงตอนนี้หรอก”
เหตุผลนี้ฟังขึ้นและเอวิเลน่าก็เชื่อ“ก็ได้, เห็นแก่ที่เจ้าพาข้ามาด้วยหรอกนะ, ข้าจะลองเชื่อใจเจ้าดู”
เธอคลายผนึกพลังของเอเลียร์ดอีกครั้ง
เอเลียร์ดรู้สึกว่าพลังรุ่งอรุณในตัวเขาเริ่มไหลเวียนอีกครั้งเขาสูดหายใจเข้าลึกๆและเอายาวิเศษออกมาจากจี้มิติในทันที จากนั้นเขาก็เปิดจุกขวด, แล้วยื่นไปที่ปากของเอวิเลน่า “ดื่มสิ มันได้ผลจริงๆนะ”
ยานี้เป็นสีแดงสดใสและเปล่งประกายในความมืดเอวิเลน่าลังเลอยู่เล็กน้อยแต่เธอก็ยังยอมอ้าปากอยู่ดี
เอเลียร์ดยังรู้สึกโกรธครึ่งเอลฟ์คนนี้อยู่,ดังนั้นเขาจึงกรอกเข้าปากของเธอรวดเดียว เอวิเลน่ากลืนยาเข้าไปแล้วสำลักออกมา “ช่วยป้อนช้าๆหน่อยได้ไหม!?” เธออุทาน
“เหอะดูสิ่งที่ฉันได้รับหลังจากที่ช่วยชีวิตเธอสิ ฉันยอมให้เธอดื่มยานี่ก็ถือว่าใจดีมากแล้วนะ นี่เธออยากให้ฉันใช้ช้อนป้อนเลยไหมหล่ะ?” เอเลียร์ดชักสีหน้า
เขาเก็บขวดยาแล้วหยุดมองหาแม่น้ำจากนั้นก็มุ่งหน้าไปทางเหนือแทน
หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว,เอวิเลน่าก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ทำไมเจ้าถึงมุ่งหน้าไปทางเหนือ?”
“ก็จะกลับไปที่เฟิร์ดไง”เอเลียร์ดตอบอย่างเฉยเมย พอพูดจบ, มือของเขาก็ย้ายมาจับที่ข้อมือของเอวิเลน่า แล้วเขาก็พูดด้วยรอยยิ้ม “ใช้ลูกไม้เดิมๆไม่ได้ผลกับฉันหรอกนะ อย่าคิดจะผนึกพลังของฉันอีกหล่ะ”
จากนั้น,เอเลียร์ดก็ปล่อยมือของเอวิเลน่าแล้วพูดต่อ “ฉันขอแนะนำว่าอย่าพยายามใช้ลูกไม้อะไรจะดีกว่า ยาที่พึ่งให้เธอดื่มไปมันไม่ใช่ยาธรรมดาๆ ลิงค์เป็นคนทำมัน มันอาจจะดูเหมือนยารักษา, แต่จริงๆแล้วมันเป็นยาพิษ ตอนนี้เธอติดพิษแล้ว, และมีแค่ลิงค์เท่านั้นที่แก้พิษนี้ได้, หึหึ”
“จริงหรอ?”เอวิเลน่าไม่เชื่อเขา ตอนนี้เธอรู้สึกอุ่น, และเธอก็ไม่เจ็บแผลแล้ว มันจะเป็นยาพิษได้ยังไงกัน?
เอเลียร์ดยักไหล่“ไม่งั้นฉันจะจับยัดปากเธอไปเพื่ออะไรหล่ะ?”
พอพูดจบ,เอวิเลน่าก็ค่อนข้างเชื่อแล้ว ถ้านักปรุงยาพิษทั่วๆไปเป็นคนปรุงยานี้, เธอก็คงจะไม่เชื่อ แต่ว่าลิงค์เป็นคนปรุง, ซึ่งเธอรู้สึกกลัวมากๆ มันอาจจะมีพิษรุนแรงถึงตายอยู่ก็ได้
ตอนนี้,เธอไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม เธอจ้องเอเลียร์ดตาเขม็งแล้วพูด “เจ้าคนต่ำทราม!”
“ฉันเรียนรู้มาจากเธอเลยนะ,555” เอเลียร์ดพูดด้วยรอยยิ้ม Aileen-novel
เขามุ่งหน้าไปทางเหนือต่อไม่นานนัก, เขาก็ข้ามภูเขาสูงไปได้หนึ่งลูก และพอไปถึงตีนเขา, เขาก็เอาหินรูนที่มีสีแดงสดใสออกมา เขาใส่พลังเข้าไปในหิน, และแสงนั้นก็สว่างขึ้นเล็กน้อย
“ตอนนี้เจ้าจะทำอะไรอีก?”เอวิเลน่าถามแม้ว่าจะเดาความคิดของเขาได้อยู่แล้ว
เอเลียร์ดไม่ได้ปิดบังเธอ“ฉันกำลังติดต่อลิงค์ ภูเขาอยู่ข้างหลังพวกเราดังนั้นไฮเอลฟ์ไม่น่าจะรู้สึกตัวนะ ลิงค์จะรีบมาที่นี่หลังจากที่ฉันส่งสัญญาณ
เขาเปิดหินรูนเอาไว้เป็นเวลาสามวินาทีจากนั้นเขาก็เก็บมันแล้วมุ่งหน้าไปทางเหนือต่อ
เพื่อที่จะเก็บให้เป็นความลับจากไฮเอลฟ์ที่ไล่ตามมา,เขาจึงเดินอย่างช้าๆและระมัดระวัง ด้วยความที่เดินๆหยุดๆ, เขาจึงเดินไปได้แค่ 1,500 ฟุตเท่านั้นหลังจากที่ผ่านมาได้ห้านาที
ในขณะที่กำลังเดินอยู่,เอวิเลน่าก็พูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน “ไม่นะ, พวกนั้นกำลังมุ่งหน้ามาหาพวกเรรา…พวกนั้นต้องเจอร่องรอยของเจ้าแล้วแน่ๆ”
เอเลียร์ดประหลาดใจ,แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เขาเอาหินรูนออกมาอีกครั้งแล้วมองไปรอบๆ พอเจอต้นไม้ใหญ่, เขาก็ร่ายเวทย์ลอยแล้วขึ้นไปอยู่บนยอดต้นไม้ เขาเปิดใช้หินรูน, และครึ่งวินาทีต่อมา, คลื่นโปร่งใสก็ปรากฎขึ้นในมิติรอบตัวเขา มันอยู่แบบนี้เป็นเวลาสามวินาทีก่อนที่ทุกอย่างจะกลับเป็นปกติ
“แล้วนี่เอาไว้ใช้ทำอะไรเนี่ย?”เอวิเลน่าอดถามไม่ได้ หินรูนนี้ก็เป็นสีแดงสดใสเหมือนกัน เธอสันนิษฐานว่าของชิ้นนี้ก็น่าจะมาจากลิงค์
“มันคือมิติทับซ้อน”เอเลียร์ดอธิบาย “ตอนนี้, พวกเราจะมองเห็นใต้ต้นไม้, แต่พวกนั้นจะมองไม่เห็นพวกเรา…หรือพูดให้ชัดกว่านี้ก็คือ, พวกนั้นสามารถเห็นได้แต่จะไม่รู้สึกถึงพวกเรา ตอนนี้พวกเราตัวเล็กกว่าเมล็ดงาซะอีก”
ในขณะที่พูด,เขาก็เริ่มหาที่นั่งสบายๆแล้วเฝ้ารออย่างอดทน
หลังจากผ่านไปประมาณห้านาที,ก็มีเอลฟ์สามคนปรากฎตัวขึ้นที่ใต้ต้นไม้ พวกเขาคือไฮเอลฟ์อีโลแวน, ซอนย่า, และมิโลส ทั้งสามเดินวนรอบพื้นที่อยู่หลายครั้งและในที่สุดก็หยุดลง
เอเลียร์ดกับเอวิเลน่าได้ยินเสียงของพวกเขา
“แปลกจังพวกนั้นหายไปแล้ว”
“ข้ารู้สึกได้ว่าพวกนั้นอยู่แถวนี้นะพวกนั้นต้องใช้เวทย์หายตัวบางอย่างแน่ๆ ลองหากันต่อเถอะ”
ทั้งสามเริ่มเดินวนอีกครั้งและใช้เวทย์ตรวจจับไปมากมายพวกเขายังไม่เจออะไรเลย และในที่สุด, พวกเขาก็กลับมาร่วมกลุ่มกันที่ใต้ต้นไม้อีกครั้ง
“ไม่เจอเลยพวกนั้นหายไปแล้ว”
“หรือว่าพวกนั้นจะซ่อนอยู่ในภพอื่น?”
“ก็เป็นไปได้นะลองไปดูกันเถอะ”
ทั้งสามหายไปจากจุดที่ยืนอยู่เห็นได้ชัดว่า, พวกเขาไปที่ภพอื่น
เอวิเลน่ารู้สึกประหลาดใจตลอดการค้นหานี้มีแค่คนที่อยู่ข้างในเท่านั้นถึงจะรู้สึกได้ว่าหินรูนนี้ทรงพลังขนาดไหน พวกเขาอยู่ห่างกันไม่ถึงร้อยฟุต, แต่พวกไฮเอลฟ์ไม่เห็นพวกเขาเลย และนี่ก็เป็นแค่หินรูน ถ้าลิงค์ตัวจริงมาอยู่ที่นี่หล่ะก็, ต่อให้ทั้งสามคนนี้ค้นหาทุกซอกทุกมุมของโลกก็คงจะไม่พบอะไรเลย
เอเลียร์ดเองก็คอยสังเกตการณ์อยู่เหมือนกันเขารู้สึกไม่สบายใจ อีกฝ่ายถูกหลอกได้แค่ชั่วคราวเท่านั้นและจะตระหนักได้ถึงความผิดปกติในที่สุด และเมื่อถึงตอนนั้น, พวกเขาก็จะไม่รอด
เวลาค่อยๆเดินอย่างช้าๆหลังจากผ่านไปอีกสิบนาที, ไฮเอลฟ์ทั้งสามก็กลับมา พวกเขาไม่ได้โง่และตอนนี้ก็พอรู้วิธีซ่อนตัวของเอเลียร์ดแล้ว
“พวกนั้นต้องใช้เวทย์มิติแน่ๆลองค้นดูให้ละเอียดเถอะ”
ทั้งสามแยกกันอีกครั้งและมารวมกลุ่มกันในอีกห้านาทีให้หลังหลังจากนั้นพวกเขาก็เงยหน้ามองต้นไม้ใหญ่
“ต้นไม้นี้ดูผิดปกตินะ”
“ท้องฟ้าเองก็ดูผิดปกติเหมือนกันมันดูแดงๆยังไงไม่รู้”
“มันเช้าอยู่นั่นก็พระอาทิตย์ขึ้นไง…ไม่สิ, มีบางอย่างผิดปกติจริงๆด้วย สีมันแดงเกินไป”
ที่บนยอดต้นไม้,หัวใจของเอเลียร์ดเต้นรัวและแทบจะหลุดออกมาจากคอหอยของเขา, แต่ตอนนี้, ในที่สุดลิงค์ก็มาแล้ว เขาถอนหายใจออกมาแล้วพูดกับเอวิเลน่า “ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วหล่ะ ลิงค์กำลังมาแล้ว พวกเราปลอดภัยแล้ว”
เอวิเลน่าไม่ได้พูดอะไรเธอเงยหน้าขึ้นไปแล้วเห็นว่าท้องฟ้าในตอนนี้เป็นสีแดง แรงกดดันได้ปกคลุมทั่วน่านฟ้าและมันก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เธอรู้สึกหายใจไม่สะดวกเลย
ลิงค์ยังมาไม่ถึง,แต่ท้องฟ้าได้เปลี่ยนไปแล้ว
เอวิเลน่าตัวสั่นโดยไม่รู้ตัวและคิด,พวกเราก็อยู่ระดับตำนานเหมือนกันแท้ๆ ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้เนี่ย?