Advent of the Archmage - 539: ตบตา (3)
Chapter
เทือกเขามอดไหม้
“หยุด!”คนขับรถม้าหยุดรถม้าของเขาไม่ไกลจากทางเข้าหอคอยเวทมนตร์
ประตูรถเปิดออก,และไบรอันท์ก็ลงมาเป็นคนแรก เขาเงยหน้าขึ้นมองหอคอยเวทมนตร์ที่อยู่เบื้องหน้าและคร่ำครวญถึงสภาพของมันที่เปลี่ยนไปจากเมื่อสองเดือนก่อน ตอนนี้เขาจำหอคอยแห่งนี้แทบไม่ได้เลย
มีนักเวทย์หลายคนเดินผ่านพวกเขาไปด้วยท่าทีรีบร้อนพวกเขาบางส่วนกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับเวทมนตร์หรือบางส่วนก็ไปที่อาคารหลังอื่น ไม่มีใครเอ้อระเหยเลย; ทุกคนต่างก็มีเป้าหมายที่ชัดเจน
และที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นก็คือนักเวทย์แต่ละคนจะแผ่ออร่าที่แปลกประหลาดออกมามันทั้งอบอุ่นและดูเจิดจ้า ทุกคนเต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่า ไม่มีนักเวทย์ฝึกหัดคนไหนที่เดินด้วยสีหน้าเหนือยล้าเหมือนกับที่นักเวทย์ฝึกหัดส่วนใหญ่ควรจะเป็นเลย
นี่มันพลังอะไรกัน?ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ไบรอันท์ตกใจ
ตุ้บเจ้าชายฟิลลิปเองก็กระโดดลงมาจากรถม้า เขาหันไปมองรอบๆด้วยความประทับใจ หอคอยเวทมนตร์แห่งนี้ดูน่ามหัศจรรย์จริงๆ, โดยเฉพาะหอคอยหลัก มันมีความสูงหลายร้อยฟุตและยังมีดาดฟ้าทรงกลมที่กว้างขวางบนยอดหอคอยด้วย ตาข่ายมานาอันงดงามได้ปกคลุมดาดฟ้าตรงนั้นเอาไว้ในขณะที่มีดอกไม้จำนวนนับไม่ถ้วนเบ่งบานออกมาอย่างงดงาม ซึ่งพวกมันมีสีสันมากมาย, และกำลังแข่งความงามกันอยู่
เจ้าชายฟิลลิปอดชื่นชมออกมาไม่ได้“ช่างเป็นสวนลอยฟ้าที่งดงามอะไรอย่างนี้”
ในตอนนี้,ไฮเอลฟ์คนอื่นๆได้ลงมาหมดแล้ว พวกเขามารวมตัวกันข้างหน้าเจ้าชายฟิลลิป ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานั้น, พวกระดับสูงของหอคอยน่าจะได้รับรายงานแล้ว, แต่ก็ไม่เห็นมีใครลงมาต้อนรับพวกเขาเลย ดูเหมือนว่ากลุ่มไฮเอลฟ์จะถูกทิ้งเอาไว้ที่จตุรัสอย่างโดดเดี่ยว
มีคนเดินสัญจรไปมา,แต่นักเวทย์เหล่านั้นก็แค่เหลือบมองพวกเขาเฉยๆก่อนที่จะมุ่งหน้าไปตามทางของตัวเองต่อ พวกเขาถูกมองข้าม
เจ้าชายฟิลลิปรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย“นี่พวกเราควรเคาะประตูไหม?”
“ลอร์ดเฟิร์ดนี่ไม่มีมารยาทเอาซะเลย”ไฮเอลฟ์คนนึงพูดอย่างไม่พอใจ
“นั่นสิ,นับวันเขายิ่งทำตัวเย่อหยิ่งขึ้นเรื่อยๆ” อีกคนนึงพูด
ในขณะที่พวกเขาทุกคนกำลังระบายความไม่พอใจออกมา,ก็มีบางอย่างสว่างวาบขึ้นมาในอากาศเป็นเวลาสามวินาที มีซุ้มประตูแสงบริสุทธิ์ปรากฏขึ้น ข้างในนั้น, มีจุดขาวจุดนึงที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วจนเต็มทั้งซุ้มประตู มีภาพกระเพื่อมอยู่ข้างในนั้นเหมือนกับน้ำ ซึ่งถ้าสังเกตดูดีๆแล้ว, มันเหมือนกับงานเลี้ยงเลย
“นี่มันอะไรกัน?”เจ้าชายฟิลลิปหันไปหาไบรอันท์ เขารู้ว่านี่คือประตู, แต่มันดูแปลกเกินไป เขาค่อนข้างกลัวที่จะเข้าไปข้างในนั้น
ไบรอันท์ถอนหายใจออกมาจากเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหลังการพบกันครั้งสุดท้ายของพวกเขา, ทักษะของลิงค์ได้พัฒนาขึ้นอีกแล้ว ตอนนี้มันเหมือนกับว่าการควบคุมเวทย์มิติสำหรับเขานั้นมันง่ายเหมือนกับการหายใจเข้าออก
ไบรอันท์เป็นคนเดินนำเข้าไปในประตูในเวลาเดียวกันนั้นเอง, เขาก็พูดออกมา “ไปกันเถอะ นี่คือประตูของลอร์ดเฟิร์ด เขากำลังต้อนรับพวกเราอยู่”
พอพูดจบ,เขาก็เดินเข้าไป จากนั้นภาพเบื้องหน้าเขาก็เปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน, และเขาก็มายืนอยู่บนดาดฟ้าเปิด มีดอกไม้อยู่ห้อมล้อมเขา แล้วก็มีโต๊ะยาวอยู่เบื้องหน้าเขา, พร้อมกับเด็กสาวน่ารักที่กำลังยุ่งอยู่กับการจัดวางอาหาร
เด็กสาวทุกคนนั้นมีหน้าตาสละสลวยแม้ว่าพวกเธอจะสวมเครื่องแบบเหมือนกัน, แต่พวกเธอแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง บางคนบริสุทธิ์เหมือนกับหยก; บางคนดูเซ็กซี่และยั่วยวน บางคนได้เผยต้นขาที่เรียวยาวล่อตาล่อใจออกมา, ซึ่งแม้แต่ไบรอันท์เองก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองภาพเหล่านี้
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้ความลับอย่างรวดเร็วเด็กสาวพวกนี้เป็นหุ่นเชิดเวทมนตร์ทั้งหมดเลย ข้าอยากรู้จริงๆว่าไอ้บ้าคนไหนที่เป็นคนออกแบบรูปร่างหน้าตาของหุ่นพวกนี้, เขาต้องคร่ำครวญออกมาอีกครั้ง พวกเธอดูน่าดึงดูดมากจริงๆ
จากนั้นด้วยการเรียกสติกลับมา,เขาก็มองไปทางหัวโต๊ะ
ลิงค์นั่งอยู่ตรงนั้นเขาสวมเครื่องประดับศรีษะหนามสีแดงสดใสและเสื้อคลุมสีแดงเข้มที่มีสัญลักษณ์สีเงิน มีคนนั่งอยู่ข้างๆเขาหกคน, ซึ่งทุกคนต่างก็แต่งตัวเต็มยศ
ไบรอันท์ได้สั่งให้หัตถ์ราตรีของไฮเอลฟ์ทำการตรวจสอบประวัติของพวกเขามาแล้วเขารู้จักทุกคน เริ่มจากทางฝั่งซ้ายของลิงค์, มียมทูตเซลีน, คู่รักของลิงค์; ครึ่งเอลฟ์เอเลียร์ด; ผู้สร้างศิลปะออร่าต่อสู้แวนซ์; สตรีแห่งความจริงอัลโลว่า; นักเวทย์ลึกลับเอเลนอร์; และธิดาพยากร(เลดี้ฟอร์ทูน่า)ของยับบ้าเอลิน
พูดอีกนัยนึงก็คือ,บุคคลสำคัญของเฟิร์ดได้มาอยู่กันพร้อมหน้าแล้ว
ทั้งหกคนนี้มีเลเวลอย่างน้อย7 เอเลียร์ดได้ไปถึงเลเวล 9 แล้ว, และพลังของเขาก็กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาน่าจะไปถึงเลเวล 10 ได้ในเร็วๆนี้
ในบรรดาพวกเขาเหล่านี้,ตัวตนของลิงค์ทำให้ไบรอันท์ตกใจมากที่สุด
มันไม่ใช่แค่เสื้อคลุมของเขาที่ดูงดงามจนเกินไปสิ่งที่ทำให้ไบรอันท์ตกใจที่สุดก็คือการที่ลิงค์มีพลังระดับตำนานปกคลุมผิวหนังของเขาเป็นชั้นอ่อนๆ ภายใต้พลังนี้, ผิวของเขาดูเปล่งปลั่ง ในแวบแรกนั้น, ลิงค์ให้ความรู้สึกเหมือนกับรูปปั้นอมตะที่เต็มไปด้วยออร่าระดับอีพิค ใครก็ตามที่เห็นเขาคงจะรู้สึกตกใจมากเหมือนกับเห็นเขาเป็นพระเจ้าแทนที่จะเป็นมนุษย์
และเมื่อรวมเหล่านักเวทย์สีหน้าไร้อารมณ์ที่อยู่ข้างๆเขาเข้าไปด้วยแล้ว,ลิงค์ก็ทำให้ไบรอันท์รู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับกลุ่มเทพ
ไบรอันท์ถูกความกดดันกดทับอย่างเห็นได้ชัดแต่ในฐานะนักเวทย์ระดับตำนานเลเวล 12 นั้น, เขาคงไม่รู้สึกกลัวอะไร เขาแค่คิด, ลิงค์กะโชว์เต็มที่เลยสินะ
ฟึบมีเสียงดังขึ้นเบาๆข้างหลังไบรอันท์ จากนั้นเจ้าชายฟิลลิปกับคณะฑูตไฮเอลฟ์สี่คนก็เดินออกมาจากประตูภายใต้แสงสลัว
พวกเขาไม่ได้มีจิตใจที่แน่วแน่เหมือนกับไบรอันท์เมื่อได้มาเผชิญหน้ากับฉากนี้, ไฮเอลฟ์ทั้งห้าก็ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย
ไบรอันท์รู้สึกได้ถึงอาการเหล่านี้และถอนหายใจออกมาดูเหมือนว่าคนของฟิลลิปคงช่วยอะไรไม่ได้สินะ
แสงพลังอ่อนๆเปล่งออกมารอบตัวเขา,และเพิ่มประกายสีเขียวมรกตให้กับผิวหนังของเขา เขามาที่นี่เพื่อสนับสนุนและไม่สามารถแพ้ในการปรากฏตัวได้
เขาเดินตรงมาข้างหน้าแล้วโค้งให้ลิงค์เล็กน้อย“ดยุค, ดูเหมือนว่าท่านจะรู้อยู่แล้วสินะว่าพวกเราจะมาหา”
ไบรอันท์ไม่ได้เรียกลิงค์ว่าลอร์ดหรือเรียกด้วยชื่อของเขาเขาจงใจเรียกลิงค์ว่าดยุคด้วยเหตุผลอย่างนึง เขาต้องการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างลิงค์กับเซลีนซักเล็กน้อย
ลิงค์ยิ้มให้“ตอนนี้ผมไม่ใช่ดยุคมังกรแล้ว ผมเป็นแค่ลอร์ดเฟิร์ด ทุกคน, เชิญนั่งลงเถอะ”
เขาอธิบายความสัมพันธ์ของเขากับมังกรให้เซลีนฟังตั้งนานแล้วตอนแรกเธอก็รู้สึกไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม, ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น, พวกเขารู้จักนิสัยของอีกฝ่ายดี ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ด้วยช่วงเวลาบนเตียงเพียงหนึ่งคืน แล้วเซลีนก็เข้าใจถึงความสัมพันธ์ของลิงค์กับมังกรดีเพราะเขายืมหลายๆอย่างมาจากพลังมังกรในตอนที่กำลังสร้างพลังแสงอรุณ
หลังจากที่ไฮเอลฟ์นั่งประจำที่เรียบร้อยแล้วลิงค์ก็โบกมือเรียกหุ่นเชิดเวทมนตร์รับใช้ จากนั้นพวกเธอก็เสิร์ฟของหวานที่ดูสวยงามให้กับเหล่าไฮเอลฟ์
ลิงค์หัวเราะคิกคัก“ผมคิดว่าพวกคุณทุกคนคงจะรับประทานอาหารกันมาแล้ว, ดังนั้นผมก็เลยเตรียมของหวานให้ หวังว่าทุกคนจะชอบมันนะ”
ของหวานนั้นทำออกมาได้อย่างประณีต,และเครื่องจานเองก็ดูงดงามเหมือนกัน ซึ่งนี่ทำให้ไฮเอลฟ์ลดการป้องกันลง พวกเขาทุกคนลองชิมกันคนละน้อยเพื่อเป็นการรักษามารยาท
เชฟทางใต้ผู้มีชื่อเสียงเป็นคนทำของหวานเหล่านี้พวกมันไม่ใช่แค่ดูน่ารักเท่านั้น, แต่พวกมันยังอร่อยด้วย สายตาของพวกไฮเอลฟ์เป็นประกายในทันทีที่ของหวานเข้าปากพวกเขา แล้วพวกเขาก็ห้ามใจไม่ให้กินต่อไม่ได้
เหมือนที่เขาว่ากันว่า,เมื่อคนเราได้กินอะไรดีๆอารมณ์ก็จะดี อย่างไรก็ตาม, นี่ไม่ได้ช่วยเปลี่ยนสถานการณ์ของพวกเขา, แต่มันก็ค่อนข้างมีผลในการทำให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้น
ไฮเอลฟ์มาที่นี่ด้วยความไม่พอใจลิงค์อย่างเต็มที่แต่ตอนนี้, พอพวกเขาได้รับการต้อนรับอย่างเป็นทางการในสวนสวยๆอากาศดีๆ ความรู้สึกในแง่ลบของพวกเขาก็ลดลงไปมาก มันเหมือนกับว่าลิงค์คิดเรื่องพวกนี้เอาไว้หมดแล้ว
เจ้าชายฟิลลิปอดชำเลืองมองไปรอบๆไม่ได้เขาเห็นดอกไม้อยู่ใกล้ๆและเมืองที่มีชีวิตชีวาในระยะไกลออกไปข้างล่างเขา ตอนนี้เขาอยู่ที่จุดสูงสุด พอได้เห็นทัศนียภาพอันกว้างใหญ่แล้ว, เขาก็อดชมเชยไม่ได้, “สถานที่แห่งนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ”
ลิงค์ยิ้มให้และเข้าสู่ประเด็นหลัก“ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ ว่าแต่ผมขอทราบได้ไหมว่าท่านมาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไร?” Aileen-novel
พอมาถึงคำถามนี้,เจ้าชายฟิลลิปก็ส่งสัญญาณให้คนของเขา จากนั้นก็มีไฮเอลฟ์คนนึงเอาเอกสารแผ่นนึงส่งให้หุ่นเชิดเวทมนตร์ แล้วเธอก็ส่งต่อมาให้ลิงค์
ลิงค์รับมันแล้วเปิดอ่านมันคือคำตัดสินของเจ้าหญิงครึ่งเอลฟ์เอวิเลน่าจากสภาอาวุโสของพวกเขา มันเขียนข้อกล่าวหาของเธอเอาไว้มากมาย และข้อที่ร้ายแรงที่สุดก็คือการทรยศเผ่าพันธุ์
“เอวิลน่าเป็นอาชญากรของเผ่าเรา”เจ้าชายฟิลลิปพูด “ความผิดที่เธอได้กระทำนั้นมากพอที่จะได้รับบทลงโทษที่รุนแรงที่สุดของเผ่า พวกเราได้ยินมาจากอีโลแวนว่าเธอได้ก่อเรื่องในอาณาจักรเซาท์มูนด้วย เธอเกือบจะทำลายตระกูลราชวงศ์ของพวกเขา และนี่ก็สร้างความเสื่อมเสียให้กับเผ่าเราเป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเราได้ยินมาว่าตอนนี้เธอถูกคุมขังอยู่ในเฟิร์ด พวกเราจึงอยากจะขอไถ่ตัวเธอและพากลับไปตัดสินโทษที่เกาะรุ่งอรุณ”
“งั้นหรอครับ”ลิงค์พูดอย่างมีเลศนัย แล้วเขาก็หันไปหาเอเลียร์ด “เอเลียร์ด, นายมีหน้าที่คุ้มกันเอวิเลน่า, แต่ฉันได้ยินมาว่าเธอหนีไปแล้วใช่ไหม?”
สีหน้าของเอเอเลียร์ดเต็มไปด้วย‘ความรู้สึกผิด’ “ครับลอร์ด ผมทำให้ท่านผิดหวัง ท่านก็รู้ว่าเอวิเลน่าเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ผมถูกหน้าตาของเธอล่อลวง, และเธอก็หนีออกจากคุกไปได้ จนถึงตอนนี้ผมยังหาตัวเธอไม่พบเลย”
“มันเป็นอุบัติเหตุที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลยจริงๆ”ลิงค์ไคร่ครวญ จากนั้นเขาก็มองเจ้าชายฟิลลิปด้วย ‘ความเสียใจ’
“ผมขอโทษนะองค์ชายพวกเราล้มเหลวในการจับตาดูอาชญากรคนนี้ ท่านคงรู้อยู่แล้วว่าเอวิเลน่านั้นอยู่ระดับตำนาน ถ้าเธออยากหนีจริงๆ, มันคงเป็นเรื่องยากมากที่จะตามหาเงื่อนงำดูว่าเธอหนีไปได้ยังไง, เพราะฉะนั้น…”
บทสนทนาระหว่างเขากับเอเลียร์ดนั้นมันดูปลอมมากจนแม้แต่คนธรรมดาก็ยังรู้สึกได้ถึงความผิดปกติเจ้าชายฟิลลิปขมวดคิ้วแน่น
ฑูตหญิงที่อยู่ข้างหลังเขาอดลุกขึ้นมาตอกหน้าพวกเขาไม่ได้“ลอร์ดคะ, พวกเรามาที่นี่ด้วยความจริงใจ พวกเราจะชดใช้ความสูญเสียที่เอวิลน่าทำให้อย่างเต็มที่ ข้าหวังว่าท่านจะตอบแทนกลับมาด้วยความจริงใจเหมือนกันนะคะ”
ลิงค์ยักไหล่,แต่ก็ยังดูเสียใจอยู่ดี “ผมไม่เข้าใจหรอกนะว่าทำไมคุณถึงคิดแบบนั้น เอวิเลน่าเป็นนักโทษของเราจริงๆ, แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้พวกเราไม่มีเงื่อนงำเลยว่าเธออยู่ที่ไหน ผมยอมรับว่ามันเป็นความผิดของพวกเราที่ไม่ยอมจับตาดูเธอ ซึ่งผมก็จะทำการลงโทษเอเลียร์ดด้วย, แต่พูดตรงๆนะ, นี่มันเป็นปัญหาของพวกเรา พวกเราไม่ได้มีหน้าที่ในการจับตาดูอาชญากรของเกาะรุ่งอรุณ คุณไม่คิดบ้างหรอว่าคุณกำลังเข้ามายุ่งกับธุระของคนอื่น?”
ไฮเอลฟ์มองหน้ากันอย่างพูดไม่ออกเห็นได้ชัดว่าลิงค์กำลังปฏิเสธไม่ยอมให้ความร่วมมือ, แต่คำอธิบายนี้มันมีเหตุผลเกินไป ถ้าเอวิเลน่าไม่อยู่ในเฟิร์ด, ไฮเอลฟ์ก็ไม่สามารถทำอะไรกับเฟิร์ดได้
และเห็นได้ชัดด้วยว่าพวกเขาคงไม่สามารถตามหาตัวเธอในเฟิร์ดได้เช่นกันในเมื่อลิงค์กล้าพูดออกมาแบบนี้, ก็แสดงว่าเขาต้องเอาตัวเธอไปซ่อนแล้วแน่ๆ เธออาจจะอยู่ในห้องใดห้องหนึ่งในหอคอยเวทมนตร์นี้ก็ได้, แต่ที่นี่เป็นตำแหน่งสำคัญของเฟิร์ด ถ้าพวกเขาไม่อยากบุกรุกเฟิร์ด, ไฮเอลฟ์ก็ไม่สามารถค้นสถานที่แห่งนี้ได้
ไบรอันท์ไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาเข้าสู่สถานการณ์เช่นนี้ได้
เขาเคาะโต๊ะและเขม่นตามองลิงค์“ลอร์ดเฟิร์ด, เจ้ากับข้ารู้เรื่องนี้กันดีอยู่แล้ว ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจนะว่าเฟิร์ดจะได้รับอะไรและสูญเสียอะไรถ้าเจ้าทำแบบนี้ เพราะยังไงซะ, เกาะรุ่งอรุณก็ไม่เคยใจอ่อนกับศัตรูมาก่อน”
ลิงค์ยังไม่เลิกแสดง“ไบรอันท์, ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายกำลังพูดอะไร แต่เอวิเลน่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันหรือดินแดนแห่งนี้ เชิญออกตามหาตัวเธอให้ทั่วทวีปเลย เฟิร์ดจะไม่ห้ามเลยซักนิด”
ไบรอันท์กลับมาจนมุมอีกครั้ง
เขาขมวดคิ้วมองลิงค์เขาไม่รู้ว่าชายคนนี้วางแผนอะไรเอาไว้ นี่เขาบ้าไปแล้วรึไงถึงอยากก่อสงครามกับเกาะรุ่งอรุณ?
แต่ถ้าลิงค์ต้องการแบบนี้,ทำไมตอนนี้เขาถึงไม่ตัดความสัมพันธ์ทิ้งแล้วโจมตีซะเลยหล่ะ? นี่เป็นดินแดนของเขา เขาไม่ต้องใช้วิธีการที่โจ่งแจ้งก็ได้ เขาแค่วางยาใส่ขนมของพวกเขาก็เพียงพอแล้ว, แต่เขาก็ไม่ได้ทำแบบนั้น
ดูเหมือนว่าเขาแค่อยากชิงความได้เปรียบจากเกาะรุ่งอรุณไบรอันท์ถามด้วยความสับสน “ลิงค์, เกาะรุ่งอรุณไม่ได้อ่อนแอนะ เจ้าไม่คิดว่าตัวเองทำตัวไร้เดียงสาไปหน่อยรึไง?”
ถ้าลิงค์อยากชิงความได้เปรียบในเรื่องเล็กๆ,เกาะรุ่งอรุณก็คงจะยอมทนให้ได้เพราะเห็นแก่ภาพรวม แต่นี่มันไม่เหมือนกัน เอวิลน่าเป็นนักเวทย์ระดับตำนานที่แข็งแกร่ง ลิงคพยายามจะกระตุกหนวดเสือ ซึ่งถ้าเขาอยากทำแบบนี้ต่อไป, เขาก็คงจะต้องเสียแขนหรืออาจะเสียหัวให้เสือตัวนี้ก็ได้
ลิงค์แค่ยิ้มให้และทำตาพริ้มเขาส่งสัญญาณให้นักเวทย์ของเขาแล้วพูด “พูดตามตรงนะ, พวกเราเองก็มีขุมพลังที่แข็งแกร่งเหมือนกัน”
ในตอนที่เขาพูดจบ,ออร่าระดับตำนานมากมายก็แผ่ออกมาจากตำแหน่งต่างๆในเทือกเขามอดไหม้ ออร่านี้กำกวมและไม่เหมือนกันเลย เจ้าชายฟิลลิปกับคนอื่นไม่สามารถสัมผัสถึงมันได้, แต่มันเหมือนกับการโจมตีทางจิตวิทยาสำหรับไบรอันท์, และพรรคพวกระดับตำนานของเขา
เขาดีดตัวขึ้นมา,ดวงตาของเขาเบิกกว้างเหมือนกับแผ่นรองจานในขณะที่เขาอ้าปากค้างมองลิงค์ “นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน!?”