Advent of the Archmage - 542: จับตัวเจ้าชายไร้กาย
เมืองทางใต้ยังคงครึกครื้นเหมือนเช่นเคย
อาณาจักรกอลเล่อาณาจักรซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ ได้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมากจนรู้จักกันในชื่อ “กระเป๋าเงินของสหพันธ์การค้าเสรีทางใต้”
และด้วยการที่เป็นอาณาจักรที่มั่งคั่งนั้นมันก็เป็นธรรมดาที่จะดึงดูดความสนใจที่ไม่ต้องการมาด้วยซึ่งมันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีตกาลแล้ว โจรของสมาคมไม่สามารถทนต่อแรงดึงดูดจากความมั่งคั่งของอาณาจักรได้
ปัญหาเรื่องสมาคมในอาณาจักรกอลเล่นั้นรุนแรงมากๆ
…
อาณาจักรกอลเล่ท่าเรือแอนทีค
กริ๊งกริ๊ง…เสียงกระดิ่งดังขึ้นในตอนที่เรือค้าขายกำลังเข้าเทียบท่า ในตอนที่มันเข้ามาถึงท่า มีคนประมาณ 10 คนหรือมากกว่านั้นลงมาจากเรือพายของพวกเขา คนเหล่านี้เป็นผู้โดยสารของเรือค้าขาย
ในตอนที่ลงมาถึงท่ามีผู้ชาย 2 คนกับผู้หญิงอีก 2 คนเดินออกมาจากกลุ่มคน พวกเขาทั้งสี่ได้ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวธรรมดา เสื้อผ้าที่พวกเขาสวมดูขาดหลุดลุ่ย โดยผู้ชายคนนึงมีผมสีดำ ในขณะที่อีกคนมีผมสีเขียวเข้ม พวกเขาแต่งตัวแทบที่จะเหมือนกันเลย คือสวมเกราะหนังกับมีดาบเหล็กห้อยอยู่ที่เอว ส่วนทางด้านผู้หญิงนั้น, คนนึงสวมหมวกปีกกว้างกับชุดเดรสที่ทอขึ้นด้วยผ้าหยาบๆ ในขณะที่ผู้หญิงอีกคนซ่อนใบหน้าเอาไว้ภายใต้หน้ากากและสวมชุดเกราะหนังที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวอย่างเห็นได้ชัดซึ่งที่มุมตะเข็บของชุดเกราะนั้นมีขนสัตว์แลบออกมาด้วย
ทั้งสี่คนนี้ได้เดินไปตามตรอกเล็กๆก่อนที่จะเข้าไปรวมตัวกับกลุ่มคนเหมือนกับปลาที่อยู่ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ครึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งสี่คนก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าโรงแรมที่มีชื่อว่า “นักผจญภัย” ที่อยู่ทางตะวันตกของท่าเรือ ชายผมดำเป็นคนแรกที่เดินไปยังเคาเตอร์ เขายื่นเงิน 10 เหรียญเงินให้กับผู้จัดการโรงแรม “ขอห้องใหญ่หนึ่งห้องสำหรับคน 4 คน”
“เข้าใจแล้วครับ”ผู้จัดการโรงแรมเก็บเงิน 10 เหรียญเงินลงไปในลิ้นชักและหยิบเอาแม่กุญแจทองแดงอันใหญ่ออกมา “ห้องอยู่ชั้น 3 นะครับ แค่เดินไปตามป้ายไปแล้วท่านก็จะเจอห้องเอง ส่วนนี่คือกุญแจกับแม่กุญแจ กรุณาอย่าทำหายนะครับ”
ชายผมดำพยักหน้าและกวักมือเรียกพรรคพวกของเขาทั้งสามคนเดินตามเขามาแล้วพวกเขาก็เดินขึ้นบันไดไป
ในตอนที่พวกเขาเข้ามาในห้องและปิดประตูเรียบร้อยแล้วชายผมดำก็ร่ายบาเรียเวทมนตร์รอบตัวพวกเขา จากนั้นหญิงสาวที่สวมเกราะหนังก็ถอนหายใจยาวออกมาพร้อมกับหัวเราะ “ในที่สุดก็ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ซักที ข้างในเรืออากาศอบอ้าวมากเลย”
ในตอนที่พูดจบเธอก็นั่งลงที่เก้าอี้ตรงมุมห้องและเริ่มทำการเช็ดปืนเวทมนตร์ของเธอด้วยเศษผ้าที่ทำมาจากหนังกวาง
ปืนเวทมนตร์นั้นมีสีน้ำเงินอ่อนตั้งแต่บริเวณส่วนปลายจนถึงด้ามจับและมันก็เปล่งแสงอ่อนๆของรูนเวทมนตร์ออกมา มีเลนส์ที่บอบบางอยู่บนลำกล้องปืนและนอกจากนี้ยังมีผลึกรูนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณหนึ่งนิ้วอยู่ที่กลางกระบอกปืนด้วย
ผู้หญิงคนนี้ก็คือเซลีนและคนอื่นอีกสามคนที่อยู่ในห้องก็คือ ลิงค์ เอเลียร์ดแล้วก็เอวิเลน่า
ลิงค์เองก็นั่งอยู่บนเก้าอี้เหมือนกันที่มือของเขากำลังถือลูกบอลเหล็กกลวงๆสีแดงเข้มขนาดเท่ากำปั้นเอาไว้อยู่ เขาเริ่มทำการตรวจสอบรูนเวทมนตร์ของลูกบอลนี้ จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา “เอวิเลน่า ฉันเชื่อว่าตอนนี้บาดแผลของเธอคงหายดีแล้วสินะ?”
เอวิลน่าถอดหมวกปีกกว้างของเธอออกแล้วส่งมันให้กับเอเลียร์ดจากนั้นเธอก็ถอดผ้าคลุมและโยนไปที่ราวแขวนเสื้อที่อยู่ข้างๆ แล้วเธอก็ยืดแขนออกมาอย่างยั่วยวนต่อหน้าเอเลียร์ด ซึ่งเขาก็อดมองมาที่เธอไม่ได้
เธอมองมาที่เอเลียร์ดแล้วยิ้มให้เธอพึงพอใจกับปฏิกิริยาของเขา จากนั้นเธอก็พูดขึ้นมา “พ่อของข้าเป็นมังกร แถมข้าก็พักฟื้นมาตั้งครึ่งเดือนแล้ว ถ้าเกิดว่าตอนนี้บาดแผลของข้ายังไม่หายหล่ะก็อาการของข้าก็คงจะสาหัสมากเลยหล่ะ”
ลิงค์เริ่มทำการใส่พลังมังกรเข้าไปในลูกบอลเหล็กด้วยเสียงพรึ่บ ก็มีหน้าจอทรงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า20นิ้วปรากฏขึ้นและแสดงรูนเวทมนตร์จำนวนมหาศาลออกมา รูนนั้นลอยอยู่กลางอากาศ และส่องประกายเหมือนกับกลุ่มดาว พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าสามารถสัมผัสมันได้เลย
ลูกบอลนี้คือกับดักจับไร้กายที่มีคุณภาพดีที่สุดเท่าที่พวกเขาจะสร้างขึ้นมาได้เป้าหมายหลักของมันก็คือการจับไร้กายที่เป็นคนควบคุมพวกนักรบไร้กาย, เจ้าชายไร้กาย
เจ้าชายไร้กายนั้นเจ้าเล่ห์มากแม้ว่าจะมีความช่วยเหลือจากเอวิเลน่า แต่หน่วยสอดแนมของเฟิร์ดก็ใช้เวลาตามหาเขากว่าครึ่งเดือน และสามารถทำได้แค่คาดเดาตำแหน่งปัจจุบันของเจ้าชายไร้กายเท่านั้น ซึ่งก็คือที่อาณาจักรกอลเล่นี้เอง
เจ้าชายไร้กายแข็งแกร่งมากเขาไม่ใช่คนที่นักรบธรรมดาจะสามารถจัดการได้ ดังนั้น คริสตัลไร้กายที่สร้างขึ้นมาจากเจ้าชายนั้นจะต้องแข็งแกร่งมากเช่นกัน ลิงค์ต้องการคริสตัลนี้เพื่อทำการสร้างชุดอุปกรณ์เวทมนตร์สำหรับวางกลยุทธ์ ซึ่งเขาก็ได้ลงใต้มาด้วยตัวเองพร้อมกับอีก 3 คนเพื่อมาจับเจ้าชายไร้กายโดยเฉพาะ
เขาทดลองใช้รูนเวทมนตร์ดูเล็กน้อยจากนั้นเขาก็พูด “ฉันคิดว่ามันน่าจะใช้การได้นะ”
หลังจากที่ทำการทดลองอีกครั้งนึงลิงค์ก็พูดต่อ “ฉันคิดว่าฉันพบคำตอบสำหรับคำถามเรื่องการชำระล้างพลังมังกรที่เธอถามตอนอยู่บนเรือแล้วหล่ะ คำตอบของฉันก็คือ: ฉันทำไม่ได้ แต่ราชินีมังกรแดง เกรเทลน่าจะทำได้นะ”
ในตอนที่ได้ยินเขาพูดถึงเกรเทลเซลีนก็เงยหน้าขึ้นมามองลิงค์ เธอค่อนข้างอ่อนไหวกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับราชินีมังกรแดง ในตอนที่เธอเห็นว่าสีหน้าของลิงค์ยังเหมือนเดิม เธอก็ก้มหน้าลงด้วยความโล่งใจและกลับไปตรวจสอบปืนของเธอต่อ
เอวิเลน่ารู้สึกผิดหวังมาก“งั้นหรอ ข้าได้ยินมาว่าราชินีมังกรแดงไม่ใช่คนที่จะไปตีสนิทด้วยได้ง่ายๆ เธอเองก็เป็นพวกหัวโบราณเหมือนกับไฮเอลฟ์ ถ้าเกิดว่าเธอยอมชำระล้างพลังมังกรให้ข้าจริงๆ ก็มีโอกาสที่เธอจะใช้ขนบธรรมเนียมของเผ่ามังกรมาจำกัดข้า แต่ข้ารู้สึกสงสัยจริงๆนะ ลิงค์ เจ้าสามารถเอาหัวใจมังกรมาได้ แถมยังมาอยู่ในที่ที่ห่างไกลจากหุบเขามังกรอีก เจ้าทำแบบนี้ได้ยังไงกัน?”
ลิงค์ทำการปรับแต่งกับดักจับไร้กายใกล้เสร็จแล้วเขาเก็บบอลเหล็กและเดินไปข้างๆเซลีน จากนั้นเขาก็เริ่มตรวจสอบปืนไรเฟิลกระบอกใหม่ของเธอ
สำหรับภารกิจนี้ลิงค์ได้ทำการปรับแต่งปืนของเธอเล็กน้อย รูนไร้กายจำนวนมหาศาลและคริสตัลไร้กายหนึ่งชิ้นได้ถูกติดตั้งเข้าไปในปืนของเธอ ตอนนี้การยิงของเธอมีพลังทำลายล้างเลเวล 11 และเมื่อรวมพลังการเร่งมิติกับญาณหยั่งรู้ของเซลีนแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่สามารถหนีจากกระสุนของเธอได้
แต่ก็แน่นอนว่าพลังระดับนี้ย่อมมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิบลิ่ว เซลีนใช้ได้แค่กระสุนพลังมังกรที่ลิงค์สร้างขึ้นมาให้เธอโดยเฉพาะ กระสุนพวกนี้ถูกออกแบบอย่างประณีตมาก แต่ละนัดมีพลังมังกรอยู่ 1,000 แต้ม ในตอนนี้ เซลีนมีกระสุนพลังมังกรอยู่แค่ 5 นัดเท่านั้น แต่เธอก็ยังมีกระสุนอื่นเอาไว้ใช้แทนอยู่ ซึ่งพวกมันเป็นกระสุนธรรมดาทั้งหมด โดยแต่ละนัดนั้นมีพลังแค่เลเวล 9
ในขณะที่กำลังตรวจสอบปืนอยู่ลิงค์ก็สังเกตเห็นว่าเซลีนดูสนใจเรื่องนี้มาก เขาพอเดาได้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ โดยที่ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังความจริงจากเธอ ลิงค์ก็พูดออกมา “จากเหตุการณ์นึงได้นำพาไปสู่อีกเหตุการณ์ ฉันคิดว่า ตอนนั้น เผ่ามังกรคงอยากได้ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ง และฉันก็บังเอิญได้รับพลังมังกรมาพอดี และในขณะเดียวกันนั้นเอง ราชินีมังกรแดงคงคิดว่าเธอจะควบคุมฉันได้ ดังนั้นเธอจึงพาฉันไปที่แท่นบูชาบรรพบุรุษ”
พอพูดมาถึงจุดนี้ลิงค์ก็หยุดตรวจสอบปืนและมองดูที่มือของเซลีน ที่หลังมือของเธอนั้นทั้งนุ่มนิ่มและขาวเนียน แต่ว่าฝ่ามือของเธอหยาบมาก มันเป็นผลมาจากการที่เธอฝึกยิงปืนกับใช้ดาบ เซลีนไม่ได้ดึงมือของเธอกลับจากเขา
“แล้วไงต่อ?”เรื่องของลิงค์ทำให้ความสงสัยของเอเลียร์ดพุ่งถึงขีดสุด เขาดึงเก้าอี้ออกมาอีกตัวและนั่งลงข้างๆเอวิเลน่า
“ฉันได้รับหัวใจมังกรมาแต่ในตอนที่ฉันแปลงร่างเป็นมังกร มันกลับไม่ใช่มังกรแดงอย่างที่พวกเขาหวังเอาไว้ ฉันเป็นมังกรดำ ซึ่งพวกผู้อาวุโสต่างก็พากันตกใจกับเรื่องนี้มากเพราะว่าสำหรับพวกเขา มังกรดำนั้นเป็นสัญลักษณ์ของผู้ส่งสารแห่งการทำลายล้าง” ลิงค์หัวเราะในตอนที่พูดถึงความทรงจำนี้
“ผู้ส่งสารแห่งการทำลายล้างหรอ?”เอวิเลน่าเองก็หัวเราะเหมือนกัน “มันช่างน่าขันสิ้นดี มันอาจจะแค่หมายถึง ‘ผู้นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง’ ก็ได้ ข้าคิดว่าพวกนั้นตกใจโอเวอร์เกินไปนะ แต่ว่าความเปลี่ยนแปลงนั่นแหละที่เป็นสิ่งที่ชนเผ่าโบราณอย่างมังกรกลัวมากที่สุด”
ลิงค์พยักหน้าและพูดต่อ“จริงที่สุดเลยหล่ะ หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ส่วนที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นตอนที่ฉันช่วยราชินีมังกรแดงจัดการผู้ปกครองแห่งความว่างเปล่าที่บุกรุกเข้ามาในมิติของเรา ราชินีมังกรแดงคิดว่าฉันจะกลายเป็นคนที่รวบรวมมังกรให้เป็นปึกแผ่นได้ ดังนั้นเธอก็เลยแต่งตั้งให้ฉันเป็นดยุคมังกร แต่ก็แน่นอนว่าเธอคิดผิด ในท้ายที่สุดแล้ว พวกเราก็แยกทางกันเพราะมีจุดที่ความคิดเห็นไม่ตรงกันมากเกินไป ทุกคนคงจะรู้เรื่องกันอยู่แล้วสินะ ฉันต้องการจะจัดตั้งกองทัพนักรบมังกรขึ้นมาในเผ่ามนุษย์ แต่เธอกลับคิดว่ามันเป็นการดูหมิ่นสายเลือดราชวงค์มังกร แถมเธอยังคิดด้วยว่าสภาพที่พวกเธอยึดถือมานานนั้นเป็นเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดที่ควรจะมุ่งหน้าต่อไป และการกระทำของฉันจะนำพาความล่มสลายมาสู่เผ่ามนุษย์ พวกเราจบกันแบบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ร่างมังกรของฉันก็เลยถูกผนึกเอาไว้ด้วยพลังของเธอ” Aileen-novel
ดูเหมือนว่าเซลีนจะรู้สึกโกรธมากกับเรื่องนี้เธอกัดริมฝีปากของเธอ “เหอะ ฉันคิดว่าพลังมังกรไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรขนาดนั้นนะ ทำไมเธอถึงเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้?”
ลิงค์พยักหน้า“55 ก็จริงนะ เมล็ดแสงอรุณของเราอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับพลังมังกร แต่ในแง่ของพลังต่อสู้นั้น มันดีกว่าพลังมังกรซะอีก ซึ่งแค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว แต่ถึงยังไง หนทางข้างหน้าของพวกเราก็ไม่แน่นอนมันก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ที่ราชินีมังกรแดงจะรู้สึกกังวล เพราะการก้าวผิดเพียงครั้งเดียวอาจจะพาเผ่ามนุษย์ดำดิ่งลงไปสู่ก้นบึ้งแห่งความโศกเศร้าแทนที่จะเป็นเส้นทางแห่งความรุ่งโรจน์ก็เป็นได้”
คำพูดสุดท้ายของเขานั้นทำให้รู้สึกถึงลางไม่ดีจนสามคนที่เหลือหยุดสั่นไม่ได้ในตอนที่ได้ยิน
เส้นทางที่เฟิร์ดเลือกเดินนั้นเต็มไปด้วยอันตรายเสมือนกับการปีนหน้าผาที่สูงชัน
เอเลียร์ดหัวเราะขึ้นมาอย่างกระทันหัน“ถ้าพวกเราล้มเหลว พวกเราก็จะฉุดไฮเอลฟ์ลงหลุมไปกับพวกเราด้วย และจากนั้นในอีก 100 ปีข้างหน้า เผ่าของพวกเราก็จะแข็งแกร่งพอที่จะปีนกลับขึ้นไปได้อีกครั้ง ในขณะที่พวกไฮเอลฟ์จะถูกทิ้งเอาไว้ในโคลนตม ”
มันเป็นความจริงที่เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นมีศักยภาพซ่อนเร้นมากกว่าไฮเอลฟ์ในเรื่องของการเติบโต ลิงค์หัวเราะกับเรื่องนี้และพูด“เลิกคุยเรื่องนี้กันเถอะ มาคุยเรื่องเจ้าชายไร้กายกันได้แล้ว เอวิเลน่า เธอบอกว่าเขามีพลังเลเวล 12 และเชี่ยวชาญเวทย์มิติมากสินะ ลองนึกย้อนดูอีกสักรอบซิว่าเขามีลักษณะพิเศษอะไรอีกบ้าง”
เอวิเลน่าเอามือกุมขมับและพยายามใช้ความคิด ไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็ส่ายหัว “ข้าเคยเห็นเขาแค่ 2 ครั้งเอง เขาเป็นคนที่ดูลึกลับมาก และชอบซ่อนตัวอยู่ตามมุมหลืบตลอด”
“แล้วเขาชอบแต่งตัวยังไง?”เซลีนถาม
“การแต่งตัวหรอ?อืม…นั่นสินะ เขาชอบสวมผ้าคลุมยาวสีเทา และเขามักจะสวมฮู้ดสีเทาเอาไว้บนหัวตลอดด้วย เขามีดวงตาสีเงิน อ้อใช่ แล้วเขาก็สวมกำไลข้อมือด้วยนะ มันสลักรูนเวทมนตร์เอาไว้แต่ข้าไม่รู้จักรูนพวกนั้นเลย”
“หรอ?”ตอนนี้ลิงค์รู้สึกสงสัยขึ้นมาแล้ว เขาพูด “เธอยังพอจำลักษณะของรูนได้อยู่ไหม?” “จำได้สิ”เอวิเลน่าหยิบคทาของเธอออกมา ด้วยการวาดไม่กี่ครั้ง รูนเวทมนตร์ที่น่าสงสัยทั้ง 10 ก็ลอยอยู่บนอากาศ
เซลีนมองดูพวกมันและส่ายหัว“ฉันไม่เข้าใจรูนพวกนี้เลย”
เอเลียร์ดตรวจดูพวกรูนอย่างตั้งใจจากนั้นเขาก็ปิดตา และลองคิดเกี่ยวกับพวกมัน 10 วินาทีต่อมา เขาก็ส่ายหัว “ฉันก็เหมือนกัน”
ภายใต้คำแนะนำของลิงค์เอเลียร์ดได้เรียนรู้หลายๆอย่าง แม้ว่าจะไม่มากเท่ากับลิงค์ แต่เขาก็มีความรู้เกี่ยวกับรูนมังกร รูนกาลเวลา รูนมิติและเวทมนตร์สาขาอื่นๆในระดับนึง อย่างไรก็ตาม, ในตอนที่เขาเรียนอยู่นั้น เขาไม่เคยเห็นรูนแบบนี้เลย
ทั้งสามคนมองมาที่ลิงค์
ลิงค์มองดูรูนด้วยความสับสนอันที่จริง เขากำลังอ่านคำแปลจากระบบเกมอยู่
รูนที่ลอยอยู่นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเวทมนตร์เลยมันเป็นแค่ประโยคที่เขียนด้วยภาษาของพวกไร้กาย ซึ่งรูนพวกนี้แปลออกมาได้ว่า “จุด 1852 ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ลับ ฮาโรมที่ 3”
ในตอนที่คำแปลปรากฏขึ้นระบบเกมก็ส่งภารกิจใหม่มาให้เขา
เปิดภารกิจ:ไล่ล่าผู้บุกรุก
รายละเอียด:สืบค้นสหพันธ์การค้าเสรีทางใต้ และหาตำแหน่งที่แน่นอนของฮาโรมที่3
รางวัลภารกิจ1: แต้มโอมนิ 500 แต้ม
รางวัลภารกิจ2: หินดวงจันทร์
ลิงค์มองว่ารางวัล500 แต้มโอมนินั้นดูเฉยๆ แต่ในตอนที่เขาเห็นว่ามีหินดวงจันทร์เป็นของรางวัลด้วยเขาก็รับภารกิจในทันที ยังไงก็ตาม คิ้วของเขาก็ขมวดในตอนที่เขาเห็นชื่อฮาโรมที่ 3
เขารู้จักคนๆนี้จากในเกมพลังของเขาแข็งแกร่งมาก แต่ว่าชายคนนี้เป็นคนขี้ขลาดเหมือนกับหนู เขาชอบหนีออกจากอันตรายและไม่เคยอยู่ที่ใดที่หนึ่งนานเกินไป และความชื่นชอบในการปลอมตัวของเขาก็ทำให้เขาไหลลื่นเหมือนกับปลาไหล แม้ว่าลิงค์จะรู้ว่าฮาโรมอยู่ในอาณาจักรกอลเล่ แต่การจับฮาโรมนั้นก็ยังถือว่าเป็นภารกิจที่ยากอยู่ดี