Advent of the Archmage - 544: แอเรียล นิวมูน
ชายคนนั้นไม่ใช่ฮาโรมและเรื่องก็ยิ่งซับซ้อนกว่าเดิมเพราะมีไฮเอลฟ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ตัวตนของผู้ชายไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจอย่างที่เอวิเลน่าได้พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ฮาโรมไม่ใช่แค่ไร้กายระดับสูงธรรมดา อย่างไรก็ตาม, การที่ไร้กายกับไฮเอลฟ์ที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาดูเหมือนกำลังร่วมมือกันอยู่นั้นเป็นอีกเรื่องนึง และไฮเอลฟ์ก็ปกปิดตัวตนของเธออย่างดีเลยด้วย คงต้องวิเคราะห์เพิ่มเติมแล้ว
หลังจากที่คิดอยู่ซักพักลิงค์ก็พูดกับเอวิเลน่าเบาๆ “จับตาดูพวกนั้นให้ดี และเตรียมพร้อมลงมือทุกเมื่อ”
ด้วยความที่เอวิเลน่ากับลิงค์เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานในกลุ่มพวกเขาสี่คนทั้งคู่จึงทำหน้าที่เป็นแนวหน้า ส่วนเอเลียร์ดกับเซลีนนั้นทำหน้าที่เป็นฝ่ายสนับสนุน และให้ความช่วยเหลือพวกเขาในตอนที่พวกเขาคิดว่ามันเหมาะสม
เป้าหมายของพวกเขาไม่รู้ตัวว่าพวกเขากำลังซ่อนตัวอยู่ในลานพวกเขาคุยกันไปในระหว่างที่เดินอยู่ข้างกัน
“เอนวอยเจ้ามั่นใจนะว่าวิธีการของเจ้ามันจะได้ผลมากกว่า?” นักรบไร้กายถาม เขาถือขวดคริสตัลอยู่ ข้างในนั้นมีของเหลวสีม่วงอ่อน
“แน่นอนอยู่แล้วอาการของเจ้าในตอนนี้ไม่ได้ผิดปกติอะไร มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดความไม่เข้ากันของวิญญาณเจ้ากับร่างโฮสใหม่ของเจ้า สารสกัดจากมดดำสามารถบรรเทาอาการของเจ้าได้ แต่ว่ามันก็แค่วิธีการชั่วคราวเท่านั้น ยาแก้พิษที่ทำขึ้นมาจากดอกบัวม่วงน่าจะสามารถรักษาอาการของเจ้าได้อย่างสมบูรณ์” ไฮเอลฟ์หญิงอธิบาย เสียงของเธอแหบแห่งนั้นเหมือนกับชายวัยกลางคนที่คอมีบาดแผลสาหัสเลย เห็นได้ชัดว่าเธอหรือเขาคนนั้นกำลังใช้เสียงปลอมอยู่
ดูเหมือนว่านักรบไร้กายจะยังไม่แน่ใจเขาหมุนขวดที่อยู่ในมือไปรอบๆ หลังจากที่ตรวจสอบเนื้อของมันจากทุกมุมที่เป็นไปได้แล้ว ในที่สุดเขาก็พูดออกมา “การตัดสินใจไม่ใช่หน้าที่ของข้า ทางที่ดีพวกเรารอให้หัวหน้ากลับมาก่อนดีกว่า แต่ว่า ข้าจะทำตามคำขอบางอย่างของเจ้าเพื่อแลกเปลี่ยนกับยารักษาขวดนี้”
“โอเคแล้วหัวหน้าของเจ้าจะกลับมาเมื่อไหร่หล่ะ?” ไฮเอลฟ์ถาม
“ที่ข้าแน่ใจคือไม่ใช่วันนี้อย่างเร็วที่สุดเขาน่าจะกลับมาวันพรุ่งนี้ตอนเที่ยงๆ และข้าขอพูดตรงๆนะ คำขอของเจ้าค่อนข้างหนักเกินไปสำหรับเขา ข้าอาจจะยินดีช่วยเจ้าถ้ามันเป็นของสำหรับข้า แต่ว่าหัวหน้าของข้าอาจจะไม่ใจดีรับคำขอของเจ้าก็ได้นะ เขาอาจจะไล่เจ้าออกไปโดยไม่ลังเลเลยก็ได้ และถ้าเกิดว่าเป็นเช่นนั้น เจ้าก็อาจจะไม่ได้รับอะไรจากเขาเลย ”
ในขณะที่พูด,ไร้กายก็เก็บของเหลวสีม่วงและเดินไปที่หม้อกลางลานบ้าน เขาคุกเข่าลงและเติมฟืนเข้าไปข้างใต้หม้อ จากนั้นก็เริ่มคนยาข้างในด้วยแท่งไม้ที่ดูน่ากลัว ในขณะที่คน, ไร้กายก็โรยซากมดลงไปในสวมผสม, ปล่อยให้ไฮเอลฟ์หญิงยืนอยู่ตรงมุมๆนึงของลาน
ไฮเอลฟ์มองภาพนี้,ในขณะที่ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง สิบวินาทีต่อมา, เธอก็พูดขึ้น “แล้วเจ้าจะให้คริสตัลคงสภาพกับข้ากี่ชิ้น”
“หึหึ”ไร้กายหัวเราะคิกคัก เขาปัดเศษดินออกจากมือแล้วพูด “ถ้าเจ้ามอบสูตรยาดอกบัวม่วงนี้กับวิธีเตรียมยาให้ข้า, ข้าก็จะให้เจ้าเดือนละ 300 ชิ้น ซึ่งนั่นก็จะอยู่ที่ประมาณ 22 ปอนด์”
“22ปอนด์หรอ…น้อยไปหน่อยนะ” ไฮเอลฟ์ไม่พอใจกับข้อเสนอนี้
ไร้กายส่ายหัว“นี่ข้าให้เจ้ามากที่สุดเท่าที่ให้ได้แล้ว ถ้าให้เจ้ามากกว่านี้, ธุรกิจของเราอาจจะถูกเปิดเผยได้, และแน่นอนว่าข้าจะโดนเจ้านายลงโทษสถานหนัก แต่การโดนลงโทษของข้าก็ทำให้เจ้าได้รับผลกระทบเหมือนกันนะ, เพราะเจ้าจะไม่ได้คริสตัลจากข้าเลยซักชิ้น”
ไฮเอลฟ์เงียบไปพักนึง,แล้วในที่สุดเธอก็พยักหน้า “ก็ได้, ข้ารับข้อเสนอนี้ คริสตัลคงสภาพ 300 ชิ้นต่อเดือนนะ ถ้างั้นมาต่อเรื่องที่สองของเรากันเถอะ พวกเรารู้มาว่าพวกเจ้าไร้กายเพิ่งปะทะกับเฟิร์ดเมื่อไม่นานนี้ และตั้งแต่ตอนนั้นมา, จำนวนผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานที่อยู่ในเฟิร์ดก็เพิ่มขึ้น ข้าอยากรู้เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”
ในตอนที่เธอพูดถึงเรื่องนี้,สีหน้าของไร้กายก็เปลี่ยนไปในทันที เขาขมวดคิ้วด้วยความโกรธ คลื่นพลังแผ่ออกมาจากตัวเขา, ทำให้เกิดระลอกคลื่นอ่อนๆในอากาศรอบตัวเขา
ท่าทีของไร้กายได้เปลี่ยนไปในทันทีจากพ่อค้าหยาบคายไปเป็นสัตว์ป่าดุร้าย
เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปหาไฮเอลฟ์อย่างช้าๆเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังในขณะที่พูด “เลิกยุ่งกับเรื่องนี้ซะในขณะที่เจ้ายังทำได้อยู่, ไม่อย่างนั้น ก็เชิญรอดูได้เลย พวกเราจะล้างแค้นเฟิร์ด พวกเราจะทำลายที่นั่นให้ไม่เหลือซาก!”
ไฮเอลฟ์หญิงกลับมาเงียบอีกครั้งดูเหมือนว่าเธอจะไม่สะทกสะท้านกับคำขู่ของนักรบไร้กายเลย, แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรอีก ครู่ต่อมา, เธอก็เอาหนังสือเวทมนตร์ที่มีปกสีม่วงออกมาหนึ่งเล่มแล้วส่งมันให้ไร้กาย “ถ้าเจ้าไม่อยากบอกข้าก็ไม่เป็นไร หนังสือเล่มนี้ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการเตรียมยาดอกบัวม่วงเอาไว้ รับไปซิ, แล้วก็อย่าลืมหล่ะ, คริสตัลคงสภาพ 22 ปอนด์ต่อเดือน ห้ามน้อยไปกว่านั้น, ไม่อย่างนั้นพวกเราจะยกเลิกการจัดส่งดอกบัวม่วง”
“โอเคดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นคนมีเหตุผลนะ” ไร้กายตอบอย่างหงุดหงิด เขายังรู้สึกโกรธอยู่
พอมาถึงจุดนี้,พวกเขาก็ทำข้อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ในตอนที่ไฮเอลฟ์กำลังจะกลับ, ลิงค์ที่ซ่อนตัวอยู่ในกอหญ้าก็ตะโกนสั่งเอวิเลน่า “ตอนนี้แหล่ะ!”
เขาพุ่งออกไปลงมือในเวลาเดียวกัน
ลิงค์ชี้ดาบราชามังกรพิโรธไปที่หม้อตรงกลางลานมีบอลมิติสีขาวลอยออกมาจากดาบ แล้วมันก็ระเบิดหม้อทิ้ง
มันคือเวอร์ชัพอักเกรดของเวทย์โซ่มิติ:ผนึกมิติ
มีเสียงหึ่มดังขึ้นหมอกสีขาวกระจายออกไปทุกทิศทาง และทันใดนั้นเอง, ไร้กายก็ถูกหมอกคลุมเอาไว้และกลายเป็นรูปปั้นมิติ ด้วยการถูกยับยั้งการเคลื่อนไหวทั้งหมด, ไร้กายก็กำลังจะล้มไปกับพื้นในตอนที่มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน
ในขณะที่หมอกกระจายไปหาไฮเอลฟ์,มีแสงสีเขียวเข้มแผ่ออกมาจากตัวเธอ
แสงนี้ปกคลุมร่างของเธอในทันที,และขวางหมอกสีขาวเอาไว้ อย่างไรก็ตาม, พอสังเกตดูดีๆลิงค์ก็ตระหนักได้ว่าบาเรียแสงนี้ไม่ได้ป้องกันหมอกอย่างสมบูรณ์, แต่มันกำลังลดความเร็วของหมอกมามากกว่า
ด้วยการใช้ประโยชน์จากจุดนี้,ร่างของไฮเอลฟ์ก็กลายเป็นหมอก, และเธอก็สามารถหนีออกมาจากหมอกสีขาวได้ในชั่วพริบตา ในตอนที่เธอพ้นเขตอันตรายแล้ว, แสงสีเขียวเข้มที่อยู่รอบตัวเธอก็หายไปในทันที
ในตอนที่แสงหายไปแล้ว,ใบไม้สีเขียวเข้มก็ปรากฎขึ้นมา, พวกมันกำลังหมุนอยู่รอบตัวไฮเอลฟ์ด้วยความเร็วสูงเหมือนกับพายุไซโคลน จากนัน้ใบไม้พวกนี้ก็กระจายออกไปทุกทิศทาง, และโจมตีทุกอย่างที่ขวางหน้า, รวมทั้งไร้กายที่ถูกผนึกด้วย
ไฮเอลฟ์กำลังกวาดล้างทุกอย่างด้วยไซโคลนใบไม้อันน่าหวาดกลัว
ฟู่วววว…ใบไม้ตัดผ่านร่างของไร้กาย, และฉีกมันเป็นชิ้นๆ ตอนนี้ไม่มีอะไรที่ปลอดภัยจากความพิโรธของไฮเอลฟ์หญิงคนนี้ แม้กระทั่งข้อตกลงของเธอกับไร้กายก็ยังไม่พอที่จะรับรองความปลอดภัยของไร้กาย
หลังจากผ่านไปซักพัก,ไซโคลนก็สลายหมอกมิติสีขาวของลิงค์ได้และตอนนี้ก็กำลังมุ่งหน้ามาหาลิงค์กับพรรคพวก มันกำลังหมุนด้วยพลังทำลายล้างรุนแรงที่จะเปลี่ยนทุกอย่างที่ขวางหน้าให้กลายเป็นฝุ่น
ลิงค์จ้องไฮเอลฟ์หญิงคนนี้ตาไม่กะพริบดูเหมือนว่าเธอเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานที่มีอารมณ์รุนแรง ก่อนหน้านี้เธออาจจะสงบเสงี่ยม, แต่พอถูกยั่วยุ, ความพิโรธของเธอในตอนนี้ก็เต็มไปด้วยแรงคุกคามที่จะกลืนกินโลกทั้งใบเหมือนกับกระแสแห่งความบ้าคลั่ง
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ามันจะบ้าคลั่ง,แต่พลังของไซโคลนใบไม้ก็มีเลเวลแค่ 10 เท่านั้น ที่มันสามารถสลายหมอกได้ก็แค่เพราะลิงค์ไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ในการปะทะกับเธอ
ลิงค์ไม่ได้รู้สึกถูกคุกคามจากการโจมตีแบบนี้เลย
ด้วยการควบคุมพลังของเขา,วงรูนมิติก็ปรากฎขึ้นรอบไซโคลนใบไม้ จากนั้นรูนก็ก่อตัวเป็นบาเรียมิติหนาล้อมมันเอาไว้ และด้วยเสียงดังก้อง, ไซโคลนก็ถูกผนึกอยู่ข้างในบาเรียนี้
ฉึก,ฉึก, ฉึก! ไซโคลนใบไม้สีเขียวเข้มปะทะกับรูนบาเรียอย่างต่อเนื่อง และในเวลาต่อมา, ไซโคลนก็สลายกลายเป็นหมอกสีเขียวเข้ม
ใบไม้สีเขียวเข้มค่อยๆลดจำนวนลงผ่านการปะทะกับบาเรียซ้ำไปซ้ำมาและหลังจากนั้นไม่นาน, ใบไม้ก็สลายกลับไปเป็นพลังธรรมชาติบริสุทธิ์ หมอกสีเขียวเข้มที่อยู่ข้างในบาเรียนั้นหนากมากจนไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน
เหตุการณ์นี้คงอยู่เป็นเวลาครึ่งวินาทีและทันใดนั้นเอง, ลิงค์ก็สัมผัสได้ถึงช่องว่างข้างในวังวนสีเขียวเข้ม, มันเหมือนกับว่ามีบางอย่างกำลังจะหายไป
ความรู้สึกนี้คล้ายกับการก้าวพลาดไปหนึ่งก้าวในขณะที่กำลังเดินอยู่มันเหมือนกับว่าพื้นดินได้หายไปจากใต้เท้าของเขาและในทำนองเดียวกัน, บาเรียมิติของเขาก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ามันสูญเสียการสนับสนุนจากภายใน
มีความคิดนึงเข้ามาในหัวของเขาเธอหนีไปแล้ว!
หมอกสีเขียวข้างในบาเรียเริ่มบางลงในขณะที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของเขาสองวินาทีต่อมา, หมอกก็สลายไปจนหมด, เผยให้เห็นลานบ้านที่ถูกทำลายด้วยพลังธรรมชาติ ต้นหญ้ากับใบไม้เละไม่เหลือชิ้นดี ทั้งหมดที่เหลืออยู่ในลานบ้านก็คือหลุมลึกและโพรงข้างในดินที่ทรุดตัวลงมา
ลิงค์คลายบาเรียมิติและเซลีนกับคนอื่นๆก็ออกมาจากที่ซ่อนของพวกเขา พวกเขามองพื้นที่เบื้องหน้าที่ยังคงฟุ้งไปด้วยออร่าพลังธรรมชาติอย่างไม่เชื่อสายตา ไอลีนโนเวล
เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก,เร็วจนแม้กระทั่งเอวิเลน่าก็ยังมาเข้าร่วมการต่อสู้ไม่ทัน ในเวลาแค่ชั่วพริบตา, เรื่องทั้งหมดก็จบลงแล้ว
“เอวี่,รู้จักผู้หญิงคนนั้นไหม?” เอเลียร์ดมองเอวิเลน่า ในกลุ่มพวกเขาไม่มีใครคิดเลยว่าไฮเอลฟ์หญิงคนนี้จะมีพลังที่รุนแรงขนาดนี้, ไม่แม้กระทั่งลิงค์ แถมในท้ายที่สุด, เธอยังหนีจากพวกเขาไปได้อีก
เอวิเลน่ายังสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่พอได้ยินคำถามของเอเลียร์ด, ร่างของเธอก็สั่นเล็กน้อย เธอขมวดคิ้ว “รู้จักสิ”
เธอมองลิงค์แล้วพูดต่อ“จำที่ข้าบอกได้ไหมว่าตอนนี้ไฮเอลฟ์มีผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานคนใหม่เข้ามาห้าคน?”
“จำได้,รวมเธอด้วยก็เป็นห้าใช่ไหมหล่ะ พวกเราได้เจอกับอีกสามคนที่ชื่ออีโลแวน, ซอนย่า, แล้วก็มิโรสมาแล้ว”
เอวิเลน่าถอนหายใจ“เธอคนนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานคนใหม่คนสุดท้ายที่พวกเจ้ายังไม่ได้เจอ เธอชื่อ แอเรียล นิวมูน เธอเป็นคนแรกที่ไปถึงเลเวล 10 เธอเด็กกว่าข้าสามปี, แต่เธอสามารถไปถึงระดับตำนานได้ก่อนข้าครึ่งเดือน อีโลแวนกับคนอื่นๆก็เป็นไฮเอลฟ์อัจฉริยะเหมือนกัน, แต่ว่าข้าไม่ได้กังวลเรื่องของเจ้าพวกนั้น, เพราะข้ารู้ว่าขีดจำกัดของพวกนั้นอยู่ที่ไหน แต่ว่านะ, แอเรียลนั้นไม่เหมือนกัน พูดตามตรง, ข้าคิดว่าข้าคงไม่สามารถเอาชนะเธอได้ด้วยซ้ำ”
แอเรียลหรอ?
ลิงค์ขมวดคิ้วด้วยความกังวลกับเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด
ไฮเอลฟ์ที่ชื่อแอเรียลนั้นเคยปรากฎตัวขึ้นช่วงท้ายเกมส์เธอเองก็เป็นเจ้าหญิงไฮเอลฟ์เหมือนกัน สายเลือดของเธอบริสุทธิ์เหมือนกับมิลด้า ความแตกต่างเดียวก็คือเธอเด็กว่ามิลด้าห้าปี
ภายในเกมส์,ในตอนที่เธอปรากฎตัวขึ้นครั้งแรก, แอเรียลเป็นแค่หัวหน้าค่ายไฮเอลฟ์แห่งหนึ่ง และหลังจากที่ได้รับการเลื่อนขั้นมาเรื่อยๆในระยะเวลาสามปี, ในที่สุดเธอก็ได้กลายเป็นนายพลของกองทัพไฮเอลฟ์, เป็นรองแค่มิลด้าเท่านั้น
แอเรียลนั้นอยู่ในภารกิจหลักในช่วงท้ายเกมส์เธอมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นหลายต่อหลายครั้งในระหว่างภารกิจของเธอ แล้วเธอก็ปรากฎในฉากคัทซีนต่อสู้ของเกมส์บ่อยด้วย
เธอจะเข้าสู่สนามรบด้วยความเยือกเย็นและออกมาพร้อมกับชัยชนะโดยที่ไม่มีคราบเลือดหรือเศษดินติดตัวเธอเลยในทุกๆครั้งแล้วเธอก็ไม่ได้ถูกตั้งโปรแกรมให้พูดประโยคอย่าง “ข้าเหนื่อยแล้ว, ขอพักหน่อยนะ” มันเหมือนกับว่าเธอถูกขับเคลื่อนด้วยแหล่งพลังงานที่ไม่มีวันหมด
ในอีกด้านนึง,แม้ว่าแม่ทัพมิลด้าของกองทัพนักเวทย์ไฮเอลฟ์จะมีรายการความสำเร็จที่ยาวเป็นหางว่าง, แต่เธอก็มักจะจบการต่อสู้ในสภาพโทรมตลอด
มีผู้เล่นบางส่วนที่มีเวลาว่างได้ทำการเปรียบเทียบการต่อสู้ของนักเวทย์ที่มีชื่อเสียงทุกคน,ด้วยการคำนวนพลังและความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาตามลำดับ
และในท้ายที่สุดนั้นพวกเขาก็ได้ข้อสรุปว่าเอเลียร์ด,ครึ่งเอลฟ์, กับแอเรียลอยู่อันดับหนึ่งในแง่ของความสามารถในการต่อสู้อย่างไรก็ตาม, เอเลียร์ดเป็นนักเวทย์ที่โด่งดัง, ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาตกเป็นที่หมายปองของศัตรู และผลลัพธ์นี้ก็ทำให้ความสำเร็จของเขาน่าประทับใจกว่า และในส่วนของมิลด้านั้น, ความสามารถในการต่อสู้ของเธอมีแค่ครึ่งเดียวของแอเรียลเท่านั้น
สรุปง่ายๆก็คือ,เจ้าหญิงไฮเอลฟ์คนนี้เป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะทางด้านศิลปะการต่อสู้!
แอเรียลสามารถทำให้เอวิเลน่าสูญเสียความเยือกเย็นได้ผ่านการปฏิสัมพันธ์ในแต่ละวันในตอนที่อยู่เกาะรุ่งอรุณ
ลิงค์รู้สึกปวดหัวตุ้บๆแล้วเขาก็ถาม “ตอนนี้เธอน่าจะกลับไปที่เกาะรุ่งอรุณแล้วนะ เอวิเลน่า, เธอคิดว่าแอเรียลจะยอมยกเลิกการต่อรองกับพวกไร้กายรึเปล่า?”
เอวิเลน่าส่ายหัว“น่าจะไม่ยอมง่ายๆหรอก เธอเป็นคนที่จะไม่ปล่อยวางเรื่องต่างๆไปจนกว่าเธอจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ และเธอก็ได้ในสิ่งที่ต้องการมาโดยตลอด, เหมือนกับมีเทพธิดาแห่งโชคลาภคอยเฝ้าดูเธอตลอดเวลา”
ลิงค์ยิ่งรู้สึกปวดหัวหนักกว่าเดิมพวกเขายังไม่ทันได้เข้าใกล้เจ้าชายไร้กายเลย, แต่ตอนนี้, พวกเขาต้องมาจัดการกับตัวปัญหาอีก
ด้วยการตบหน้าผากของตัวเอง,ในที่สุดเขาก็ใจเย็นลง “ฉันคิดว่ามานั่งเสียใจกับเรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไร ฮาโรม, เจ้าชายไร้กาย, จะกลับมาพรุ่งนี้เที่ยง พวกเราแค่ต้องรอเขาอยู่ที่นี่ก็พอแล้ว”