Advent of the Archmage - 569: มีสถานที่มหัศจรรย์แบบนี้อยู่ในโลกด้วยหรอเนี่ย
Chapter
เอวิเลน่าเริ่มวางแผนดูแลน้องๆทั้งสองคนของเธอหลังจากที่ได้พูดคุยกับอีโลแวนและมิโรส
ตอนนี้เธอเป็นนักเวทย์คนสำคัญในหอคอยเวทมนตร์เฟิร์ดอำนาจของเธอเป็นรองแค่ลิงค์เท่านั้น, แล้วเธอก็มีความช่วยเหลือของวิญญาณหอคอยที่แข็งแกร่งลิลลี่ด้วย เธอสามารถจัดการเรื่องทั้งหมดนี้ด้วยตัวเองได้
หลังจากที่จัดการงานอันวุ่นวาย,เธอก็ส่งแหวนโลหะหน้าตาธรรมดาให้เอลฟ์ทั้งสองคน
“สวมซะสิ”
“มันคืออะไรหรอ?”อีโลแวนรับแหวนมาศึกษาดูอย่างละเอียด ไม่ว่าเขาจะดูยังไง, แหวนนี้ก็ดูไม่มีอะไรพิเศษเลย มันไม่มีรูนสลักอยู่ด้วย มันก็แค่แหวนโลหะธรรมดาๆ แต่ว่าอุปกรณ์เวทมนตร์ของเฟิร์ดนั้นค่อนข้างมีชื่อเสียงพวกมันเป็นที่รู้จักในเรื่องรูปลักษณ์ที่ละเอียดอ่อนและพลังที่เสถียร แล้วทำไมพวกเขาถึงได้รับแหวนเวทมนตร์ธรรมดาๆแบบนี้หล่ะ?
มิโรสไม่อยากจะเชื่อเขาหมุนแหวนไปรอบๆ, พยายามที่จะหาความพิเศษของแหวน
เอวิเลน่ายิ้ม“ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบขนาดนั้นหรอกหน่า นี่ก็แค่แหวนธรรมดา มันเป็นที่รู้จักกันในชื่อแหวนดำเฟิร์ด, มันเอาไว้ใช้บ่งบอกสถานะของพวกเจ้าในหอคอยเวทมนตร์แห่งนี้ ข้อดีเพียงอย่างเดียวของมันก็คือว่ามันมีสถานะอยู่ที่อำนาจทั่วไปเลเวล 10 ซึ่งมันจะทำให้พวกเจ้าใช้ส่วนของพลังเวทมนตร์เลเวล 10 ที่อยู่ในหอคอยแห่งนี้ได้”
“อำนาจทั่วไป?พลังเวทมนตร์เลเวล 10? นี่เจ้าพูดเรื่องอะไรกันเนี่ย?” มิโรสถาม ในขณะที่พูด, สายตาของเขาก็เหลือบไปที่มือของเอวิเลน่า
เอวิเลน่าเองก็สวมแหวนอยู่เหมือนกัน,แต่มันทำมาจากทอเรียมและมีอัญมณีสีแดงสดใสฝังอยู่ แล้วแสงสีแดงเพลิงก็ส่องสว่างไปทั่วทั้งแหวน มันงดงามมาก
เมื่อเปรียบเทียบกับของเธอ,แหวนสีดำของพวกเขาก็ดูเหมือนกับเศษขยะไปเลย
ในขณะที่สัมผัสแหวนของตัวเอง,เอวิเลน่าก็พูดอย่างภาคภูมิใจ “แหวนของข้าก็เป็นตัวบ่งบอกสถานะเหมือนกัน แต่ของข้าเรียกว่า, ‘สัญลักษณ์เพลิงของจอมเวทย์’ มันมีอำนาจสมบูรณ์เลเวล 10 มันสามารถเปิดใช้เวทย์ป้องกันเลเวล 11 ได้นิดหน่อย, อย่างเช่นเวทย์ประตูมิติที่วาร์ปได้ในระยะอย่างน้อยห้าไมล์, แล้วก็ลำแสงทำลายล้างเลเวล 11 ภายในเฟิร์ด, มีแค่แหวนของลอร์ดเท่านั้นที่แข็งแกร่งกว่าของข้า”
มิโรสรู้สึกอิจฉาขึ้นมา“อำนาจสมบูรณ์เลเวล 10 นี่มันมีประโยชน์อะไรกัน?”
“ประโยชน์หรอ?มีเพียบเลยหล่ะ ยกตัวอย่างเช่น, ก่อนที่เจ้าจะเก็บแต้มเวทมนตร์ได้มากพอที่จะอัพเกรดแหวนของเจ้าเป็นระดับจอมเวทย์, ข้าก็จะมีหน้าที่ดูแลพลังของเจ้า…”
อีโลแวนสกิดใจกับคำพูดนึง“เดี๋ยวนะ, เจ้าบอกว่าสามารถอัพเกรดแหวนได้ด้วยหรอ? แล้วต้องทำยังไงบ้าง?”
และโดยที่ไม่ได้คาดคิด,เอวิเลน่าก็ยืดแขนออกแล้วพูดอย่างเอื่อยเฉื่อย “ตอนนี้ข้าเหนื่อยข้าขี้เกียจอธิบายแล้ว ถ้าเจ้าอยากจะรู้, ก็ไปถามวิญญาณหอคอย, ลิลลี่เอาละกันนะ”
ในตอนที่พูดจบ,ประตูก็เปิดออก จากนั้นเธอก็หยิบคริสตัลไร้กายขึ้นมาวางบนโต๊ะและเริ่มทำอุปกรณ์เวทมนตร์อีกครั้ง
เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังบอกให้พวกเขาออกไป
มิโรสรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา“เอวิเลน่า, นี่เจ้าทำอะไรของเจ้ากัน? พวกข้า—”
สีหน้าของเอวิเลน่าเปลี่ยนไป“ระวังคำพูดหน่อย, นักเวทย์” เธอพูดอย่างเย็นชา “ห้องนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของข้า แม้กระทั่งลอร์ดก็ยังต้องเคาะประตูและรอรับการอนุญาตจากข้าก่อนถึงจะเข้ามาได้ เพราะฉะนั้นตอนนี้ออกไปซะ, แล้วกลับไปที่ห้องของเจ้า!”
มิโรสรู้สึกไม่พอใจกับทัศนคติของเธอแต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร, เขาก็ได้ยินเสียงเท้า พอหันไปดู, เขาก็เห็นอีโลแวนที่กำลังรีบเดินไปที่ประตูราวกับว่าเขามีเรื่องเร่งด่วนต้องไปทำ
จากนั้นเขาก็นึกถึงคำพูดของเอวิเลน่าเกี่ยวกับเรื่องการอัพเกรดแหวนและแต้มเวทมนตร์ขึ้นมา…เดี๋ยวนะ,ที่ตอนนี้เอวิเลน่าทำตัวเย่อหยิ่งขนาดนี้ก็เพราะเธอมีสัญลักษณ์เพลิงของจอมเวทย์ หรือว่าเขาเองก็สามารถประสบความสำเร็จถึงขั้นนั้นได้ด้วยการทำตามวิธีการของเธอ?
เขาสามารถกลายเป็นบุคคลสำคัญของเฟิร์ด—คนที่อยู่ระดับแนวหน้าจริงๆได้ใช่ไหม?
พอคิดถึงเรื่องนี้,หัวใจของมิโรสก็เริ่มสั่นระรัว อีโลแวนออกไปจากห้องแล้วและกำลังจะหายไปจากทัศนวิสัยของเขา ด้วยความใจร้อน, มิโรสก็ไม่อยากจะเถียงกับเอวิเลน่าอีก เขาตามอีโลแวนออกไปจากห้อง
พอเห็นทั้งสองคนหายไปจากห้องแล้ว,เอวิเลน่าก็ส่ายหัว ตอนนี้มีนักเวทย์ถูกครอบงำเพิ่มอีกสองคนแล้วสินะ
เธอปิดประตูแล้วกลับมาจดจ่ออยู่กับการทำอุปกรณ์ไร้กายอีกครั้ง
ในเมื่อแอเรียลตายแล้ว,เกาะรุ่งอรุณก็จะต้องได้รับข่าวนี้อย่างแน่นอน พวกเขาจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ เฟิร์ดต้องรวบรวมพลังให้มากกว่านี้!
ส่วนเรื่องที่พวกเขาจะชนะหรือไม่นั้น,เอวิเลน่ามีความมั่นใจอย่างเต็มที่ ถึงเส้นทางจะยากลำบาก, แต่เฟิร์ดจะต้องเป็นผู้ชนะในตอนสุดท้าย แม้กระทั่งแอเรียล, ที่เธอคิดว่าไม่มีวันล้มเหลว, ก็ยังตายด้วยเงื้อมมือลิงค์ แล้วจะมีใครในเกาะรุ่งอรุณอีกหล่ะที่สามารถต่อกรกับเขาได้? ในอีกด้านนึง,อีโลแวนได้กลับมาถึงห้องแล้ว
ห้องนี้อยู่ที่ชั้นสี่ของหอคอยเวทมนตร์มันมีพื้นที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ อยู่ที่ประมาณ 120 ลูกบาศก์ฟุตและมีของใช้จำเป็นติดตั้งเอาไว้ในห้องทั้งหมดแล้ว
จากสิ่งที่เอวิเลน่าพูด,ตราบใดที่เขาไม่ไปรบกวนความปลอดภัยของเฟิร์ด, ทุกอย่างในห้องนี้ก็จะเป็นของเขา แม้กระทั่งลอร์ดก็ไม่มีสิทธิ์บังคับค้นห้องเขา
เอวิเลน่าไม่น่าจะโกหกเขาซึ่งการกระทำของลอร์ดเฟิร์ดในตอนที่เข้าไปในห้องของเอวิเลน่าเมื่อก่อนหน้านี้ได้พิสูจน์คำพูดของเธอ
พอคิดถึงเรื่องนี้,อีโลแวนก็โล่งใจขึ้นเล็กน้อย ในฐานะไฮเอลฟ์ที่จู่ๆได้กลายมาเป็นสมาชิกของศัตรูและเข้ามาในหอคอยเวทมนตร์ของพวกเขา, มันเป็นเรื่องเข้าใจได้ที่เขาจะรู้สึกกังวล และตอนนี้, เขาก็มีพื้นที่ส่วนตัวที่เป็นของตัวเองแล้ว มันไม่ใหญ่มาก, แต่มันก็ช่วยทำให้เข้าผ่อนคลายได้อย่างมาก หลังจากที่ปิดประตู,อีโลแวนก็สงบจิตใจของตัวเอง ตามที่เอวิเลน่าบอก, เขาเห็นประตูวาร์ปสำหรับใช้แหวนประทับอยู่ในห้อง มันอยู่บนกำแพง, บนจี้ของรูปวาดผู้หญิงน่ารักคนนึง
เขาเอาแหวนของเขากดอัญมนีนั้นแล้วถาม“ลิลลี่, อยู่ไหม?”
มีร่างคนลอยออกมาจากกำแพงแล้วขยายเป็นภาพสามมิติเสมือนจริงเธอมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนของเพศแม่ “ข้าอยู่ที่นี่ค่ะ, นายท่าน”
อีโลแวนตกตะลึงแล้วเดินวนรอบภาพสามมิตินี้เขาพบว่า, ถ้าเขาไม่ได้เห็นวิธีที่มันโผล่ออกมา, เขาคงจะบอกไม่ได้เลยว่านี่ไม่ใช่คนจริงๆ
ช่างเป็นภาพลวงตาที่ละเอียดอ่อนจริงๆ,เขาชื่นชมอยู่ในใจ ผู้หญิงที่อ่อนโยนคนนี้ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย “ข้าอยากรู้เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับแต้มเวทมนตร์และการอัพเกรดแหวน” เขาพูด
“เข้าใจแล้วค่ะกรุณาตั้งใจฟังดีๆนะคะ…” หลังจากที่ปิดประตู,อีโลแวนก็สงบจิตใจของตัวเอง ตามที่เอวิเลน่าบอก, เขาเห็นประตูวาร์ปสำหรับใช้แหวนประทับอยู่ในห้อง มันอยู่บนกำแพง, บนจี้ของรูปวาดผู้หญิงน่ารักคนนึง
เขาเอาแหวนของเขากดอัญมนีนั้นแล้วถาม“ลิลลี่, อยู่ไหม?”
มีร่างคนลอยออกมาจากกำแพงแล้วขยายเป็นภาพสามมิติเสมือนจริงเธอมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนของเพศแม่ “ข้าอยู่ที่นี่ค่ะ, นายท่าน”
อีโลแวนตกตะลึงแล้วเดินวนรอบภาพสามมิตินี้เขาพบว่า, ถ้าเขาไม่ได้เห็นวิธีที่มันโผล่ออกมา, เขาคงจะบอกไม่ได้เลยว่านี่ไม่ใช่คนจริงๆ
ช่างเป็นภาพลวงตาที่ละเอียดอ่อนจริงๆ,เขาชื่นชมอยู่ในใจ ผู้หญิงที่อ่อนโยนคนนี้ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย “ข้าอยากรู้เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับแต้มเวทมนตร์และการอัพเกรดแหวน” เขาพูด
“เข้าใจแล้วค่ะกรุณาตั้งใจฟังดีๆนะคะ…” หลังจากที่ปิดประตู,อีโลแวนก็สงบจิตใจของตัวเอง ตามที่เอวิเลน่าบอก, เขาเห็นประตูวาร์ปสำหรับใช้แหวนประทับอยู่ในห้อง มันอยู่บนกำแพง, บนจี้ของรูปวาดผู้หญิงน่ารักคนนึง
เขาเอาแหวนของเขากดอัญมนีนั้นแล้วถาม“ลิลลี่, อยู่ไหม?”
มีร่างคนลอยออกมาจากกำแพงแล้วขยายเป็นภาพสามมิติเสมือนจริงเธอมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนของเพศแม่ “ข้าอยู่ที่นี่ค่ะ, นายท่าน”
อีโลแวนตกตะลึงแล้วเดินวนรอบภาพสามมิตินี้เขาพบว่า, ถ้าเขาไม่ได้เห็นวิธีที่มันโผล่ออกมา, เขาคงจะบอกไม่ได้เลยว่านี่ไม่ใช่คนจริงๆไอรีนโนเวล
ช่างเป็นภาพลวงตาที่ละเอียดอ่อนจริงๆ,เขาชื่นชมอยู่ในใจ ผู้หญิงที่อ่อนโยนคนนี้ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย “ข้าอยากรู้เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับแต้มเวทมนตร์และการอัพเกรดแหวน” เขาพูด
“เข้าใจแล้วค่ะกรุณาตั้งใจฟังดีๆนะคะ…” ลิลลี่เริ่มบรรยายกฏสำหรับการอัพเกรดในหอคอยเวทมนตร์แห่งนี้เธออธิบายได้ละเอียดมาก แต่ก็แน่นอนว่า, ด้วยความที่พวกมันเป็นกฏง่ายๆ, มันจึงฟังดูน่าเบื่อ
อย่างไรก็ตาม,อีโลแวนนั่งฟังอย่างจริงจัง, เขาไม่ปล่อยให้พลาดคำพูดไปสักคำเลย
เขาเป็นสามัญชนที่ไม่มีพื้นเพใหญ่โตในเกาะรุ่งอรุณเขาผ่านมาถึงระดับนี้ได้ด้วยพรสวรรค์ล้วนๆ ตลอดทางมานี้, เขาได้สัมผัสทั้งความดีและความเลวร้ายของสิ่งมีชีวิตมาหมดแล้ว เขาไม่สามารถอธิบายความรู้สึกนี้กับคนอื่นได้เลย
ในตอนแรก,เขาคิดว่าทั่วทั้งฟิรุแมนเป็นแบบนี้เหมือนกันหมด, เขาคิดว่าเกาะรุ่งอรุณเป็นสวรรค์อันสงบสุข แม้ว่าจะมีส่วนที่ไม่ดีอยู่บ้าง, แต่มันก็ดีกว่าแผ่นดินใหญ่ที่แสนวุ่นวายเป็นร้อยเท่า แต่ตอนนี้, เขาก็ตระหนักขึ้นมาได้อย่างกระทันหันว่ามีสถานที่ที่มหัศจรรย์อย่างเฟิร์ดอยู่ ลอร์ดที่นี่ยอมยกอำนาจของตัวเองให้วิญญาณหอคอยจริงๆและเขาก็ยอมสร้างกฎเพื่อยับยั้งตัวเองจริงๆ นี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำความเข้าใจได้, แต่มันก็ทำให้อีโลแวนรู้สึกได้ถึงแรงปราถนาที่ลุกโชนอยู่ในใจ
ในขณะที่ลิลลี่อธิบายอย่างไม่หยุดหย่อน,แรงปราถนาก็ยิ่งร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม, ลิลลี่ก็พูดจบ, และอีโลแวนก็เริ่มทำการสงบจิตใจของตัวเอง
“สรุปก็คือข้าสามารถอัพเกรดแหวนโลหะเป็นสัญลักษณ์จอมเวทย์,แล้วเข้าสู่ชนชั้นแนวหน้าของเฟิร์ด, จากนั้นก็กลายเป็นนักเวทย์คนสำคัญได้สินะ?” เขาถามอย่างนุ่มนวล
ลิลลี่พยักหน้า“ใช่ค่ะ สิ่งที่ท่านต้องการก็มีแค่แต้มเวทมนตร์ที่มากพอ”
“ถ้างั้นช่วยส่งภารกิจมาให้ข้าหน่อย!”อีโลแวนพูดในทันที เขาทนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว
เขารู้ว่าเฟิร์ดมั่งคั่งและมีวัตถุดิบเวทมนตร์อันล้ำค่าอยู่เป็นจำนวนมากเขารู้ว่าการเสริมพลังของเฟิร์ดนั้นก้าวหน้ามากๆ ชื่อเสียงของโรงงานอักขระทองคำนั้นได้ก้าวข้ามเกาะรุ่งอรุณไปแล้ว แล้วเขาก็ได้ยินมาด้วยว่าการปรุงยาของเฟิร์ดนั้นได้ประสบความสำเร็จที่ไม่เหมือนใคร ช่วงนี้, พวกเขาค่อยๆทยอยสร้างยาที่มีประโยชน์ออกมา ดูเหมือนว่าพวกเขาใกล้จะไล่ตามเกาะรุ่งอรุณทันแล้ว
สรุปง่ายๆก็คือ,เฟิร์ดไม่ได้อ่อนแอกว่าเกาะรุ่งอรุณขนาดนั้น ถ้าเขาสามารถกลายเป็นนักเวทย์คนสำคัญในสวรรค์แห่งเวทมนตร์เช่นนี้ได้, เขาก็จะได้รับประโยชน์มากกว่าการดิ้นรนอยู่ในเกาะรุ่งอรุณ!
ในเมื่อมันเป็นแบบนี้,เขาจะคิดเรื่องเกาะรุ่งอรุณอีกทำไม?
และในเมื่อมันเป็นแบบนี้,ทำไมเขาจะทำงานเพื่อความก้าวหน้าของตัวเองไม่ได้หล่ะ?
“ขอบใจนะลิลลี่”อีโลแวนพูด “ช่วยแสดงภารกิจที่เปิดให้สำหรับเลเวลของข้าหน่อย” ตอนนี้,ความไม่เต็มใจของเขาหายไปหมดแล้ว เขายินดีที่จะอยู่ที่เฟิร์ดอย่างเต็มที่
ในอีกห้องนึง,มิโรสเองก็มีความรู้สึกคล้ายๆกัน เพราะสายเลือดของเขา, เขาจึงเห็นความแตกต่างของมันมากกว่าอีโลแวน ตอนนี้, ไม่มีเรื่องการเหยียดเข้ามาเกี่ยวแล้ว เขาพบแรงจูงใจที่จะผลักดันตัวเองให้ก้าวหน้าในทันที
ในตอนนี้,ลิงค์กับเอเลียร์ดอยู่ในหอคอยหลัก พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับรูปปั้นมิติของคาทูช่า
“ไม่ไหว,นี่มันยากเกินไป วิญญาณของเธอแข็งแกร่งมาก—แข็งแกร่งกว่าพวกเราส่วนใหญ่ซะอีก พวกเราไม่สามารถลบความทรงจำของเธอโดยไม่ให้เกิดความเสียหายได้, ข้าว่าทำการเพิ่มคำสั่งโดยใช้การสะกดจิตอย่างเดียวเถอะ” เอเลนอร์ส่ายหัว เธอไม่สามารถทำมันได้
ลิงค์อยากจะลบความทรงจำของคาทูช่าและเพิ่มคำสั่งสำหรับหุ่นเชิดเวทมนตร์เข้าไปด้วยวิธีนี้, เธอก็จะกลายเป็นหุ่นเชิดต่อสู้ของเฟิร์ด
คาทูช่าเป็นนักรบอัจฉริยะและมีหอกแห่งชัยชนะเธอเป็นอาวุธพิฆาต ถ้าเฟิร์ดสามารถใช้เธอได้, เฟิร์ดก็จะมีไพ่ตายเพิ่มขึ้นอีก
“ถ้างั้นพวกเราจะมาลองหาทางกันดู”ลิงค์พูด ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหน, พวกเขาก็จะต้องคิดหาวิธีให้ได้