Advent of the Archmage - 576: ช่วยเหลือนากา 3
Chapter
หอคอยเวทมนตร์หลักห้องทดลองเวทมนตร์ใต้ดินชั้น 4
รูนเวทมนตร์สีม่วงปะทุอยู่ในอากาศเหมือนกับสายฟ้ารูนถูกจัดเป็นวงกลม เหมือนกับทหารที่กำลังตั้งทัพ และพวกมันก็พุ่งเข้าหาแสงสีแดงเข้มที่อยู่ตรงกลาง
มีคริสตัลขนาดเท่ากับสมองมนุษย์สามชิ้นถูกวางเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมรอบๆแสงสีแดงเข้มพวกมันเป็นแหล่งพลังงานของรูนเวทมนตร์สีม่วง
ถัดออกไปจากคริสตัลมีนักเวทย์2 คนยืนอยู่ พวกเขาคือเอเลนอร์กับแวนซ์ ทั้งสองคนยืนมองการไหลเวียนของพลังงานในคริสตัลอย่างตั้งใจ ถ้าเกิดว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น พวกเขาก็จะเข้าไปปรับปรุงแก้ไขมันในทันที
“เป็นยังไงบ้าง?”ลิงค์ถาม เขามาตรวจดูอาการของคาทูช่า “กระบวนการทุกอย่างเป็นระเบียบดีแต่ว่าไม่นานมานี้มีเหตุการณ์แปลกๆบางอย่างเกิดขึ้น” แวนซ์พูดด้วยสีหน้าสับสน
“ไหนว่ามาซิ”
แวนซ์ชี้ไปยังพลังงานสีขาวที่ไหลออกมาจากหอคอยเวทมนตร์“มันพึ่งเกิดขึ้นเมื่อคืน ปกติการไหลของพลังงานมักจะเสถียรดี พวกเราไม่เคยเจอปัญหาตรงจุดนี้เลย แต่ว่า ตั้งแต่ตอนตีหนึ่งก็มีระเบิดมานาเล็กๆเกิดขึ้นต่อเนื่องกัน 3 ครั้ง มันเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างเข้ามาขัดขวางการไหลเวียนของพลังงาน และสิ่งที่แปลกก็คือเอเลนอร์กับข้าตรวจสอบการไหลเวียนของมานารอบๆดูแล้ว แต่ว่าไม่มีร่องรอยที่บ่งบอกว่ามีใครบางคนมายุ่งกับมันเลย” ลิงค์ตะลึง อย่างแรกที่เขาคิดขึ้นมาก็คือนี่จะต้องเป็นฝีมือของไบรอันแน่ๆ!
กระแสพลังงานนี้ถูกใช้ในการทะลวงการป้องกันของคาทูช่าซึ่งมาจากแกนมานาของหอคอยเวทมนตร์และลิงค์ก็เป็นคนดูแลการก่อสร้างและจัดระบบมันด้วยตัวเอง ทุกๆวันจันทร์ เขาจะมาดูเพื่อตรวจสอบว่าแกนมานายังทำงานปกติดีหรือเปล่า การตรวจสอบครั้งล่าสุดของเขาก็คือเมื่อ 2 วันก่อน ซึ่งในตอนนั้นมันก็ยังทำงานปกติดีอยู่ นอกจากนี้ ลิงค์ยังสัมผัสได้ถึงพลังงานแปลกๆที่เข้ามาขัดขวางการไหลเวียนของพลังงานจากหอคอยเวทมนตร์ในระยะ 100 ไมล์ด้วย ยังไงก็ตาม ในตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรโดดเด่นเลย
“ฉันจะไปตรวจสอบระบบมานาที่หอคอยหลักนะ”
ตอนนี้เขารู้สึกกังวลเล็กน้อยไบรอันท์มาอยู่ที่เทือกเขามอดไหม้ได้สองสามวันแล้ว เซลีนได้รายงานว่าพฤติกรรมของเขานั้นดูแปลกๆ บางทีเขาอาจจะหาวิธีเข้ามาในห้องทดลองได้แล้วก็ได้
ลิงค์เริ่มทำการตรวจสอบระบบมานาของหอคอยหลักเริ่มจากห้องทดลอง จากนั้นก็ท่อเชื่อม ตลอดไปจนถึงแกนมานา แต่เขาก็ยังไม่พบอะไรผิดปกติ
ทุกอย่างดูเรียบร้อยดีไม่มีร่องรอยการบุกรุกจากภายนอกเลย ถ้างั้นนี่ก็แสดงว่าความผิดปกตินี้ไม่ได้เกิดจากฝีมือของสิ่งมีชีวิต
ตอนนี้ลิงค์สับสนแปลกจัง หรือว่าไบรอันท์อาจจะใช้เทคนิคที่แม้แต่ฉันก็ไม่รู้จัก? ไม่สิ, ถ้าเขามีเทคนิคแบบนั้นจริง เขาจะมาอยู่ที่นี่เพื่ออะไรหล่ะ?
เขายังคงพยายามคิดอยู่ว่าไบรอันท์ทำได้ยังไงแล้วลิงค์ก็ตัดสินใจว่าเขาต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม เขาเริ่มตรวจสอบการไหลเวียนของพลังงานในหอคอยเวทมนตร์ แถมเขายังเอาคริสตัลความทรงจำออกมาเผื่อไว้ในกรณีที่เกิดการระเบิดของพลังงานในครั้งต่อไปด้วย
หนึ่งชั่วโมงต่อมาเขาพึ่งเริ่มได้ดูข้อมูลตัวเลข,แล้วระเบิดมานาก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
ในครั้งนี้ลิงค์เห็นความผิดปกติในกระแสมานากับตาของตัวเอง มีการสั่นสะเทือนที่ผิดปกติเกิดขึ้นภายในนั้น และส่งผลต่อทุกส่วน ซึ่งความรู้สึกที่ลิงค์มีในตอนนี้เหมือนกับมียักษ์เข้ามาเขย่าหอคอยเวทมนตร์และพยายามจะทำให้มันล้มเลย
ในตอนที่เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นด้วยความที่กระแสมานานั้นไหลเวียนอย่างต่อเนื่อง ความวุ่นวายเล็กๆจึงเริ่มก่อตัวขึ้นภายในนั้น มันอาจจะไม่มีผลกับเวทย์ระดับต่ำซักเท่าไหร่ แต่ว่ามันส่งผลอย่างรุนแรงกับเวทย์ลึกลับระดับตำนานที่ใช้สะกดคาทูช่าเอาไว้ การรบกวนเล็กๆนี้สามารถทำให้เวทมนตร์ไร้ผลได้ด้วยซ้ำ!
ลิงค์พยายามจะยับยั้งการรบกวนที่เกิดขึ้นภายในคลื่นมานาในทันทีเขาสังเกตเห็นว่าแวนซ์กับเอเลนอร์เองก็พยายามจะทำแบบนั้นเหมือนกัน
4วินาทีต่อมา ความผิดปกติก็หายไป ทุกอย่างกลับไปเป็นปกติ
ลิงค์ดูคริสตัลความทรงจำคุณภาพสูงที่เขาวางเอาไว้ข้างๆมันได้บันทึกทุกอย่างที่ได้เกิดขึ้นเอาไว้
จากนั้นลิงค์ก็ดูการรบกวนที่เกิดขึ้นในคริสตัลความทรงจำอีกหลายครั้งโดยในแต่ละครั้งนั้น เขาจะมองไปที่ตัวเลขที่เขาจดและทำการคำนวณมันทุกวิถีทาง เขาเสร็จสิ้นกระบวนการประเมินผลทั้งหมดหลังจากดูคริสตัลความทรงจำไปอย่างน้อย 12 ครั้ง ยังไงก็ตาม ความกังวลของเขาก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆในตอนที่เขามองดูความรุนแรงของกราฟเส้นโค้งของการสั่นสะเทือนที่เขาจดเอาไว้ในสมุด
เบาะแสทั้งหมดได้บ่งชี่ว่าในการจะสร้างแรงสั่นสะเทือนในระบบมานาของหอคอยเวทมนตร์ได้ระดับนี้การรบกวนจำเป็นต้องมีอัตราส่วนในระดับโลก
พูดอีกนัยนึงก็คือ,การรบกวนนั้นจำเป็นต้องกินพื้นที่ทั่งภพ
นี่พวกเรากำลังเผชิญกับพลังแบบไหนอยู่เนี่ยทำไมมันถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้? หรือว่านี่จะเป็นการปรากฎตัวของอุปกรณ์ระดับพระเจ้าชิ้นใหม่? ลิงค์ขมวดคิ้ว
ในตอนที่อสรพิษทมิฬปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกในโลกมนุษย์พลังของลิงค์ยังอยู่แค่เลเวล6 ตอนนั้นเขายังอ่อนแอมากและไม่สามารถสัมผัสถึงความผิดปกติในภพได้เลยและไม่เคยพบเจอกับอะไรแบบนี้มาก่อนในอดีตด้วย
แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเพิกเฉยต่อระลอกคลื่นที่ถูกส่งมาในตอนที่อสรพิษทมิฬปรากฏตัวขึ้น
หลังจากที่คิดอยู่ซักพักลิงค์ก็โทรจิตไปหาวิญญาณหอคอยลิลลี่ และพริบตาต่อมา ลิลลี่ก็ส่งต่อข้อความไปให้ เอวิเลน่า อีโลแวนแล้วก็มิโรส
ในตอนที่อสรพิษทมิฬปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกเกาะรุ่งอรุณจะต้องเก็บบันทึกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั่วภพเอาไว้แน่ๆ
5นาทีต่อมา ไฮเอลฟ์ระดับตำนานทั้ง 3 คนก็มาที่ห้องโถงหลักของหอคอยเวทมนตร์ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในหัวหน้านักเวทย์ของเฟิร์ด เอวิเลน่าจึงเดินนำหน้า และตามหลังมาด้วยอีโลแวนกับมิโรส “ลอร์ดมีเรื่องอะไรหรอคะ?” เอวิเลน่าถาม ไฮเอลฟ์ทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังเธอก็มองมาด้วยสายตาสงสัยเช่นกัน
ลิงค์กำลังจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นแต่เขาก็เงียบไปอย่างกระทันหันหลังจากนั้นเขาก็ยกนิ้วขึ้นมาและกระซิบ “ลองสัมผัสการไหลเวียนของมานาในหอคอยดูสิ”
เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอีกครั้งและครั้งนี้ก็รุนแรงกว่าครั้งก่อน แถมความผันผวนยังส่งผลกับความสว่างของไฟเวทมนตร์ที่อยู่บนหัวพวกเขาด้วย
แน่นอนว่าคนธรรมดาไม่อาจสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ แต่ว่าสำหรับบุคคลระดับตำนาน การเปลี่ยนแปลงนี้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ในตอนที่เขาสัมผัสมานาก็ยิ่งปั่นป่วนมากขึ้นลิงค์พยายามจะควบคุมมันกลับมาให้ได้ในทันทีและมันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม หลังจากนั้นเขาก็มองทุกคนแล้วถาม “พวกนายเองก็สัมผัสได้เหมือนกันใช่ไหม?” ไฮเอลฟ์ทั้งสามคนพยักหน้า
เอวิเลน่าพูด“การรบกวนระดับนี้ไม่ปกติแน่ๆ แม้กระทั่งบ่อธาตุของข้าก็ได้รับผลกระทบจากมันเหมือนกัน ข้ากำลังจะมารายงานเจ้าอยู่พอดี มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ามีใครบางคนกำลังถล่มเมืองด้วยเวทมนตร์โจมตีระดับตำนานเลเวล 10 จากมหาสมุทรที่อยู่ไกลออกไปหลาย 100 ไมล์เลย”
ลิงค์พยักหน้าเขามองไปที่อีโลแวนกับมิโรส “พวกนายสองคนคิดว่าไง?”
อีโลแวนพูด“ข้าเองก็คิดเหมือนกับเอวิเลน่า แต่ถ้าให้ตัดสินจากทิศทางการรบกวนแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะมาจากเกาะอรุงอรุณนะ”
มิโรสกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่เขาก็เงียบลง
“ถ้านายมีอะไรจะพูดก็รีบพูดออกมาเลยนี่ก็ถือว่าเป็นภารกิจรูปแบบหนึ่งเหมือนกัน ถ้านายสามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้ นายก็จะได้รับรางวัลเป็นแต้มเวทมนตร์” ลิงค์พูด มิโรสสะดุ้งและจากนั้นเขาก็พูด“ในตอนที่อสรพิษทมิฬปรากฏขึ้น ข้าเคยไปประจำการอยู่ที่หอสังเกตการณ์แห่งหนึ่งของเกาะรุ่งอรุณ จากหอสังเกตุการณ์ พวกเราจะสังเกตดูการรบกวนของพลังงานในฟิรุแมนด้วยตาข่ายเวทมนตร์ที่ทำขึ้นมาจากพลังธรรมชาติ ความรุนแรงที่พวกเราสัมผัสได้เมื่อสักครู่นั้นรุนแรงยิ่งกว่าการรบกวนที่เกิดขึ้นจากอสรพิษทมิฬซะอีก”
“งั้นหรอ?”ลิงค์ตกใจในตอนที่ได้ยินเรื่องนี้ จากนั้นเขาก็ถาม “ฉันเองก็สัมผัสได้ว่าพลังงานที่เข้ามารบกวนนั้นมาจากทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเกาะรุ่งอรุณ แล้วนายคิดว่ายังไงหล่ะ?”
“ข้าเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ไอลีนโนเวล
“แล้วพวกนายสองคนหล่ะ?มีอะไรจะเสริมอีกมั้ย?” ลิงค์มองไปที่อีโลแวนกับเอวิเลน่า
อีโลแวนคิดอยู่พักนึงจากนั้นเขาก็พูด “ถ้าสิ่งที่มิโรสพูดเป็นความจริง มันก็มีความเป็นไปได้ว่าเกาะรุ่งอรุณกำลังเปิดใช้พลังของต้นไม้โลกในระหว่างที่พวกเรากำลังพูดคุยกันอยู่นี้ เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นแค่ 2 ครั้งเท่านั้นในอดีตที่ผ่านมา ครั้งแรกก็เมื่อ 2,300 ปีก่อนตอนที่ราชันย์มังกรภัยพิบัติ อิร่าบุกมาที่เกาะรุ่งอรุณ ไฮเอลฟ์ได้ใช้พลังของต้นไม้โลกเพื่อขังราชันย์มังกรเอาไว้ในกรงขังนิรันด์ที่ไม่สามารถทำลายได้ ส่วนครั้งที่สองก็คือเมื่อ 800 ปีก่อน ในตอนที่เทพสังหาร ดาลาสพยายามจะจุติลงมาที่ภพฟิรุแมน แม้ว่าเขาจะถูกขัดขวางเอาไว้ได้ แต่เขาก็ยังคงทิ้งรอยแตกขนาดใหญ่เอาไว้ในภพ ไฮเอลฟ์ได้ใช้รากของต้นไม้โลกในการอุดรอยแตกนั่น ซึ่งการที่ไฮเอลฟ์ใช้พลังของต้นไม้โลกทั้ง 2 ครั้งนั้นได้ทิ้งการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวรเอาไว้ในภพด้วย แม้กระทั่งตอนนี้ ผลจากพลังของต้นไม้นั่นก็ยังคงอยู่ ถ้าเกิดว่าเกาะรุ่งอรุณกำลังใช้พลังของต้นไม้โลกอยู่ในตอนนี้ มันก็มีโอกาสสูงมากที่เป้าหมายของไฮเอลฟ์ในครั้งนี้จะเป็นเฟิร์ด ลอร์ด พวกเราต้องรีบทำการเตรียมพร้อมเดี๋ยวนี้เลยนะ!” ลิงค์ตกตะลึงเขารู้มานานแล้วว่าต้นไม้โลกนั้นมีพลังอันยิ่งใหญ่ แต่ตอนนี้ เขาเข้าใจแล้วว่ามันยิ่งใหญ่มากจนถึงขนาดที่จัดการศัตรูอย่างราชันย์มังกรอิร่าและเทพสังหารดาลาสได้ ซึ่งทั้งสองคนนี้ต่างก็เป็นสิ่งมีชีวิตน่ากลัวที่ใกล้เคียงกับพระเจ้ามากกว่าสิ่งใดในภพ
ตอนนี้ลิงค์เห็นภาพของพลังชัดเจนแล้ว
ต้นไม้โลกนั้นเป็นพลังที่อยู่ในกฎของภพฟิรุแมนภายนอกเกาะรุ่งอรุณ ลิงค์อาจจะไร้เทียมทาน แต่ถ้าเกิดว่าเขากล้าเข้าไปในระยะยิงของเกาะ ร่างกายและวิญญาณของเขาก็คงจะโดนแผดเผาจนระเหยไป ณ จุดนั้นเลยก็ได้
จากนั้นลิงค์ก็ถาม“ไม่มีวิธีที่จัดการกับต้นไม้โลกได้เลยหรอ?”
“บางทีมันก็อาจจะมีครับ”มิโรสตอบ
ลิงค์เลิกคิ้วขึ้นแล้วถาม“ไหนลองว่ามาซิ”
“พลังของต้นไม้โลกนั้นอาจจะเป็นพลังกฎของภพแต่ว่ามันก็ทรงพลังเกินกว่าที่สิ่งมีชีวิตจะควบคุมได้ แม้กระทั่งราชินีไฮเอลฟ์เองก็ไม่สามารถคุมมันได้ด้วยตัวคนเดียว ในช่วงหนึ่งพันปีมานี้ ต้นไม้โลกถูกใช้งานโดยมีชุดกฎของมันอยู่ หนึ่งในกฎที่ว่านั้นก็คือห้ามใช้มันในการโจมตีคนที่มีพลังธรรมชาติ แม้ว่าพลังธรรมชาตินั้นจะโจมตีต้นไม้โลกก็ตาม ซึ่งมันก็ทำได้แค่ป้องกันตัวและขับไล่ผู้โจมตีให้ออกไปข้างนอกเกาะรุ่งอรุณเท่านั้น”
อีโลแวนพูดเสริม“กฎที่ใช้ควบคุมต้นไม้โลกนั้นไม่ได้ซับซ้อนเลย นอกจากการไม่โจมตีพวกเดียวกันเองแล้ว กฎของต้นไม้โลกยังรวมถึงการปกป้องใครก็ตามที่มีสายเลือดราชวงค์ไฮเอลฟ์ด้วย ภายใต้เงาของมัน สมาชิกราชวงค์จะไม่มีทางบาดเจ็บจากการโจมตีภายนอกและยังป้องกันไม่ให้ทำร้ายกันเองได้อีกด้วย”
พอได้ยินแบบนี้ลิงค์ก็มองไปที่เอวิเลน่าเธอเป็นเจ้าหญิงไฮเอลฟ์ แม้ว่าสายเลือดของเธอจะไม่บริสุทธิ์ แต่สายเลือดราชวงศ์ก็ยังคงไหลอยู่ในตัวเธอ
เอวิเลน่ายักไหล่“โดยปกติแล้วก็เป็นแบบนั้นแหล่ะ แต่ข้าขอแก้สิ่งที่อีโลแวนพูดให้ถูกกว่านี้หน่อยแล้วกันนะ ในความเป็นจริง สมาชิกราชวงค์สามารถโจมตีกันเองได้ โดยการที่จะทำแบบนั้น ไฮเอลฟ์ผู้อาวุโสจะต้องปรึกษากันก่อนที่จะเปิดใช้งานผนึกเวทย์ลงทัณฑ์ หลังจากที่ได้รับการอนุญาตจากต้นไม้โลกแล้ว ผู้อาวุโสก็จะทำการยึดเอาพลังธรรมชาติทั้งหมดจากสมาชิกราชวงค์คนนั้นเพื่อทำการลงทัณฑ์เขาหรือเธอคนนั้น”
ลิงค์เงียบลงและคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ครึ่งนาทีต่อมาเขาก็พูด “เอวิเลน่า ฉันอยากจะศึกษาพลังขีดจำกัดสายเลือดของเธอซักหน่อย”
ประเพณีของไฮเอลฟ์นั้นเป็นปริศนาในใจเขามาโดยตลอดเขาตั้งใจจะไปที่เกาะรุ่งอรุณในซักวันหนึ่งก็เพื่อเรียนรู้เรื่องนี้นี่แหล่ะ
“ถือเป็นเกียรติมาก”เอวิเลน่าคำนับลิงค์แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอก็ถูกขัดด้วยระเบิดที่จู่ๆก็ปะทุขึ้นมา
ระเบิดนั้นมาจากทางเหนือมันรุนแรงมากจนพวกเขาสามารถรู้สึกได้ถึงความรุนแรงจากการสั่นสะเทือนภายในหอคอยเวทมนตร์
พวกเขาทั้งสี่ตกใจและรีบวิ่งไปที่หน้าต่างในทันทีพวกเขาเห็นลูกบอลแสงที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างกว่า 20 ฟุตพุ่งขึ้นมาจากด้านหลังเนินเขา
เอวิเลน่าตะโกนออกมาด้วยความตกใจ“พระเจ้า นั่นมันเวทย์ตะวันสาดแสงเลเวล 9 นี่!”
ตะวันสาดแสงนั้นเป็นหนึ่งในเวทย์ไฟที่รุนแรงที่สุดในภพมนุษย์ถ้าเกิดว่าลูกบอลแสงนี้ระเบิดที่ใจกลางเมือง ทุกสิ่งที่อยู่ในนั้นก็จะถูกลบออกไปจากแผนที่
เรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้วิญญาณหอคอยลิลลี่นั้นจะคอยดูพลังงานผิดปกติที่อยู่ในเมืองตลอดเวลา ถ้าเกิดว่าเวทย์นี้พุ่งออกไปนอกเมืองระเบิดก็จะแผดเผาทุกอย่างให้อยู่ในทะเลเพลิงนิรันด์ และก็จะมีผู้เสียชีวิตมากกว่าหนึ่งพันคน!